| ที่มา | มติชนรายวัน |
|---|---|
| ผู้เขียน | อรพรรณ จันทรวงศ์ไพศาล |
| เผยแพร่ |
“ภูเก็ต” เมืองท่องเที่ยวยอดฮิต ที่มีเป้าหมายจะเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวทางทะเลระดับโลก
นอกจากหาดทรายสวย ทะเลน้ำใส เเล้วยุทธศาสตร์ของจังหวัดยังต้องการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี มีเอกลักษณ์วัฒนธรรม และมีการพัฒนาที่ยั่งยืน ให้กับชาวภูเก็ต
จึงไม่ใช่เรื่องเเปลกที่ภูเก็ตจะเป็นจังหวัดแรกที่มีการจัดระเบียบชายหาดอย่างจริงจัง ตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เรียกว่า “ภูเก็ตโมเดล”
นับจากเดือนกรกฎาคม 2557 เริ่มมีการรื้อสิ่งปลูกสร้าง ร่ม เตียง ออกจากชายหาด เพื่อคืนพื้นที่ให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว กลายเป็นผลงานชิ้นใหญ่ที่ได้รับการชื่นชมจากทั่วโลก
มีโอกาสบินตรงไปกับสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส เยือนเมืองภูเก็ตโฉมใหม่ ร่วมพูดคุยกับ อโนมา วงษ์ใหญ่ ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานภูเก็ต ฉายภาพความเปลี่ยนแปลงตลอด 2 ปีที่ผ่านมา
อโนมา เล่าว่า เรื่องการจัดระเบียบต่างๆ เรามีมานานแล้ว โดยทางจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึง ททท.มีการดำเนินการจัดระเบียบชายหาด จัดระเบียบรถบริการสาธารณะต่างๆ ให้อยู่ในความเป็นระเบียบเรียบร้อย สร้างความพึงพอใจให้กับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาให้มากที่สุด
“ในช่วงเริ่มแรก ถือเป็นช่วงทดลอง ต้องยอมรับว่าการจะทำอะไรต้องมีคนทั้งกลุ่มที่พอใจและกลุ่มที่ไม่พอใจ แต่ทางจังหวัดให้นโยบายว่า ให้ถือประโยชน์และความพึงพอใจส่วนใหญ่ ดังนั้นเลยมีการทำแบบสอบถามและประเมินผลจากสำนักงานการศึกษา ผลที่ออกมาคือเสียงส่วนใหญ่รู้สึกพึงพอใจกับการจัดระเบียบของจังหวัด ก็เป็นที่น่าพอใจมาก”
อโนมาอธิบายถึงรูปแบบการจัดระเบียบชายหาดว่า จะมีการแบ่งออกเป็นโซนนิ่ง และมีการบังคับใช้กฎที่เข้มงวดขึ้น เช่น ออกเป็นหาดเพื่อการท่องเที่ยว หาดเพื่อธรรมชาติ หาดเพื่อรักษาทรัพยากรธรรมชาติ หาดเพื่อเทิดพระเกียรติ อย่างหาดสุรินทร์ที่จะเป็นหาดเฉลิมพระเกียรติ ก็พยายามจะไม่ให้มีอะไรเลย นอกจากเรื่องของการเฉลิมพระเกียรติ มีอุทยานเกี่ยวกับในหลวง ที่ขณะนี้กำลังก่อสร้างอยู่
นับเป็นแนวทางการยกระดับ “ภูเก็ต” ให้เป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ
‘จีน’ พระเอกท่องเที่ยว
เเละตลาดอาเซียนที่น่าจับตา
“นักท่องเที่ยว” เป็นอีกประเด็นที่มีความสำคัญและโดดเด่นไม่แพ้เรื่องการจัดระเบียบ
ที่ผ่านมา จ.ภูเก็ตเป็นจังหวัดที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามากเป็นอันดับต้นๆ ของเมืองท่องเที่ยวในประเทศไทย
อโนมาบอกด้วยความภูมิใจว่า ภูเก็ตเป็นเมืองที่เหมาะกับการท่องเที่ยว เรามีความหลากหลาย ขณะเดียวกันก็มีวัฒนธรรมมีอาหารการกินที่มีเอกลักษณ์ ที่ควรจะรักษาให้ยาวนาน
“ปีที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวภูเก็ตประมาณ 3 ล้านคน อันดับ 1 เป็นนักท่องเที่ยวจากประเทศจีน รองลงมาเป็นนักท่องเที่ยวจากรัสเซียและออสเตรเลียตามลำดับ อีกกลุ่มที่น่าสนใจ คือกลุ่มอาเซียน มองว่าจะมีการเติบโตมากขึ้น มีการเดินทางเข้ามาใน จ.ภูเก็ตเพิ่มขึ้น เร็วๆ นี้จะมีเที่ยวบินใหม่บินตรงจากเวียดนามมาภูเก็ตด้วย” อโนมาทิ้งท้าย
สอดคล้องกับ นพ.จิระชัย อมรไพโรจน์ ผู้บริหารโรงแรมเดอะรอยัล พาราไดส์ โฮเท็ล แอนด์ สปา ที่มองว่าแม้เศรษฐกิจจะไม่ดี แต่ไทยยังโชคดีที่มีประเทศจีนมาช่วย
“นักท่องเที่ยวในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาก็ถือว่ายังไม่ดีเท่าไหร่ เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจโลกมีปัญหา รวมถึงเรื่องความไม่สงบในหลายประเทศ ทำให้การท่องเที่ยวชะงัก”
“แต่ประเทศไทยถือว่าโชคดีที่มีประเทศจีนเป็นพระเอกเข้ามาช่วย ด้วยจำนวนประชากรของเขาค่อนข้างเยอะ แล้วประเทศไทยและจีนค่อนข้างมีความสัมพันธ์ที่ดี เดินทางไปมาหากันค่อนข้างสะดวก ปีที่แล้วมีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาประเทศไทยประมาณ 7 ล้านคน คาดกันว่าน่าจะถึง 10 ล้านคนในปีนี้”
กับความคิดเห็นที่รู้สึกไม่ค่อยอยากให้รับนักเที่ยวจีนเข้ามาของคนไทยบางกลุ่ม นพ.จิระชัยกลับอยากให้มองอีกแบบ เพราะถึงแม้จีนจะใช้จ่ายในโรงแรมหรือบริการต่างๆ ไม่มาก แต่นิสัยของคนจีนชอบการซื้อของ รวมแล้วแต่ละคนที่เข้ามานำเงินมาในประเทศประมาณ 5,000 บาทต่อวัน
“ผมมองว่าจีนเป็นพระเอก ยิ่งตอนนี้เศรษฐกิจทางยุโรปอเมริกากำลังชะลอตัว นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้เลยน้อยลงมาก คนที่มองว่ารับนักท่องเที่ยวจีนมาไม่คุ้ม ผมว่าเขาคิดจากอดีต แต่โลกมันเปลี่ยน เขาต้องคิดใหม่ เศรษฐกิจโลกตอนนี้มันชิดมาทางเอเชียแปซิฟิก คนที่มีกำลังซื้อมาอยู่แถบเอเชีย แล้วถ้าคุณไม่อยากจะรับนักท่องเที่ยวจีน แล้วคุณจะรับใคร”
นี่เป็นสาเหตุให้ นพ.จิระชัยสนใจประเทศจีนเป็นตลาดหลัก เเละมีความร่วมมือกับเว็บไซต์ยักษ์ใหญ่ของจีน
นพ.จิระชัยบอกอีกว่า นอกจากประเทศจีน ตลาดที่รองลงมาที่น่าจับตา คือตลาดกลุ่มประเทศอาเซียน ซึ่งเป็นอีกตลาดที่สำคัญมาก เพราะเป็นกลุ่มที่อยู่ใกล้ประเทศไทย ไปมาสะดวก
“ผมมองว่าเศรษฐกิจในอาเซียนน่าจะดีขึ้นเรื่อยๆ คนที่มีฐานะการเงินที่ดีขึ้นก็จะมาท่องเที่ยว เพราะฉะนั้นโอกาสที่นักท่องเที่ยวจากกลุ่มประเทศอาเซียนจะมาในประเทศไทยก็มีมาก เราก็ต้องไม่มองข้าม อย่างประเทศลาว น่าสนใจมากครับ เพราะเขามาประเทศไทยง่าย และประเทศเขาไม่มีทะเล”
“เรื่องกำลังซื้อคิดว่าคนกลุ่มแรกที่เข้ามาจะเป็นกลุ่มที่มีเงิน แต่อีกสักพักพอโรงงานหรือนิคมอุตสาหกรรมในประเทศลาวเพิ่มขึ้นจะทำให้เขามีรายได้เพิ่มขึ้น จีดีพีเพิ่มขึ้นอีกมาก เขาก็น่าจะอยากมาเที่ยวทะเล ที่ภูเก็ตก็เป็นตัวเลือกที่ดี เพราะเดินทางง่าย ข้ามสะพานมิตรภาพมาขึ้นเครื่องบินที่ จ.อุดรธานีบินตรงมาภูเก็ตได้เลย” นพ.จิระชัยอธิบาย
สะท้อนธุรกิจ ‘โรงเเรม’
เเละการเที่ยวเกาะของ ‘ทัวร์จีน’
ในส่วนของภาพรวมการท่องเที่ยวเเละธุรกิจโรงเเรมตอนนี้ นพ.จิระชัยให้ความเห็นอย่างน่าสนใจว่า การเติบโตของการท่องเที่ยวใน จ.ภูเก็ตถือว่าโตเร็วมาก โดยส่วนของธุรกิจโรงแรมตอนนี้มีไม่ต่ำกว่า 80,000 ห้อง คาดว่าในอีก 1-2 ปีข้างหน้าจะมีจำนวนห้องพักเพิ่มขึ้นอีก รวมแล้วภูเก็ตจะมีห้องพักรวมเกือบแสนห้อง
“แต่โดยรวมผมว่าภูเก็ตยังมีโอกาสเติบโตมากขึ้นอีก ดูจากนักลงทุนที่เขากล้ามาลงทุน ก็ต้องศึกษามาแล้ว แต่เราในฐานะผู้ประกอบการเราก็เป็นห่วงเหมือนกันว่ามันจะมากเกินไปหรือเปล่า เพราะการท่องเที่ยวมันเป็นธุรกิจที่ขึ้นลงค่อนข้างเยอะ ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง ทั้งเศรษฐกิจ ความสงบสุขของโลก ยังมีอุปสรรคจากเชื้อโรค พอมีเรื่องโรคติดต่อสารพัดเกิดขึ้นคนก็ไม่กล้าเดินทาง”
“ผมคิดว่าห้องพักแสนห้องถือว่าเยอะแล้ว เพราะภูเก็ตเป็นเกาะเล็กๆ เรื่องสาธารณูปโภคอาจจะไม่เพียงพอ ขนาดตอนนี้พอเข้าหน้าแล้งก็ต้องซื้อน้ำราคาแพงมาก ส่วนไฟฟ้าถ้าฝนตกหนักหรือลมแรงก็มักจะดับ ประเด็นนี้ผมอยากให้รัฐบาลเข้ามาดูแลอย่างใกล้ชิด ภูเก็ตเป็นจังหวัดสร้างรายได้ให้ประเทศมหาศาล เราก็ต้องลงทุนด้านสาธารณูปโภค สร้างความสะดวกให้นักท่องเที่ยว เขาจะได้มาอีก”
ขณะที่ วีรพงษ์ วงศ์แก้วมูล ไกด์ประจำเกาะเฮ บริษัท นิกรมารีน จำกัด มองว่าการท่องเที่ยวของภูเก็ตขณะนี้ถือว่าดี เเม้จะไม่ใช่หน้าท่องเที่ยว ก็ยังมีนักท่องเที่ยวเข้ามาจำนวนมาก โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีน
“ส่วนใหญ่จะมีนักท่องเที่ยวมาเป็นกรุ๊ปทัวร์ มาเพื่อเล่นกิจกรรมทางน้ำ มาเล่นกีฬา เช่น ดำน้ำลึก ดำน้ำตื้น เล่นเจ็ตสกี บานาน่าโบ๊ต เรือลากร่ม หรือดำน้ำชมปะการัง”
หลายเเห่งมักพบปัญหาโจรกรรมจากทัวร์จีน เเต่ที่เกาะเฮเเห่งนี้พบน้อยมาก เนื่องจากที่นี่ค่อนข้างมีกฎที่เข้มงวดเเละชัดเจน
“เรามีคนที่สามารถสื่อสารภาษาจีน มีป้ายอธิบายประกอบเป็นภาษาจีน ที่ผ่านมาก็ยังไม่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้น เพราะทันทีที่ขึ้นมาบนเกาะ ไกด์ของเราจะให้ทุกคนมารวมตัวกันก่อน แล้วจะให้ข้อมูลเบื้องต้น เช่น ที่นี่มีอะไรบ้าง เล่นอะไรได้บ้าง จุดเล่นน้ำตรงไหน ข้อควรระวัง สัตว์น้ำที่อันตราย สิ่งห้ามปฏิบัติ เช่น เรื่องการห้ามให้อาหารปลา หรือจับปะการังเเละสัตว์น้ำ ที่เกาะไม่เคยมีเหตุการณ์เเบบนี้เพราะนอกจากป้ายเตือนหลายจุดแล้ว ไกด์ได้แจ้งไว้แล้วว่ามีค่าปรับนะ คนจีนเขาจะกลัวเสียเงินเยอะ เขาก็จะไม่ทำ” วีรพงษ์อธิบาย
เป็นมุมมองสะท้อนภาคการท่องเที่ยวด้านต่างๆ ของ “ภูเก็ต” เมืองสวรรค์ชายฝั่งอันดามัน
