ที่มา | คอลัมน์ สยามประเทศไทย มติชนรายวัน |
---|---|
ผู้เขียน | สุจิตต์ วงษ์เทศ |
เผยแพร่ |
ตีตรวนนักศึกษาขึ้นศาลทหาร เพราะความคิดต่างทางการเมือง
แต่มีทางการอำนาจนิยมพยายามอธิบายแก้ต่างว่าไม่ได้ตีตรวน นั่นเป็นกุญแจเท้า
“กุญแจเท้า ไม่ใช่โซ่ตรวน” ต้องหวนคิดถึงศรีธนญชัย ผู้ได้รับยกย่องเป็นจอมกะล่อน
ศรีธนญชัย มีในเว็บไซต์ของกระทรวงวัฒนธรรม จะยกมาโดยสรุป ดังนี้
ภาคกลางและภาคใต้รู้จักกันในชื่อ “ศรีธนญชัย” ส่วนภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือรู้จักกันในชื่อ “เชียงเมี่ยง”
เป็นเรื่องราวชีวิตของชายผู้หนึ่งซึ่งใช้ปฏิภาณไหวพริบเอาตัวรอดหรือแก้ไขปัญหาต่างๆ ให้ผ่านพ้นไปได้โดยลำดับ ตั้งแต่วัยเด็กจนสิ้นอายุขัย
วรรณกรรมเรื่องนี้แสดงให้เห็นภูมิปัญญาและพลังทางปัญญาในการสร้างสรรค์ อันกอปรด้วยศิลปะของการถ่ายทอดเรื่องราวที่ทำให้เกิดอารมณ์ขัน โดยแสดงความเจ้าปัญญาของตัวเอกในลักษณะที่คาดไม่ถึง หรือพลิกความคาดหมายได้อย่างออกรส
และแสดงพลังทางภาษาด้วยการนำเอาถ้อยคำสำนวนมาเล่นคำเล่นความหมายได้ตามความต้องการ
ซึ่งนอกจากจะใช้ความเถรตรงแล้ว ยังใช้กลวิธีอื่นๆ อีก เช่น การใช้กลอุบายการใช้จิตวิทยา และการหาเหตุผลโดยการเชื่อมโยงสิ่งต่างๆ ที่ปกติไม่ค่อยมีใครนำมาสัมพันธ์กัน
[เว็บไซต์มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม สำนักมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม]
ในไทยมีนิทาน “สองศรี” รู้กันทั่วไปว่าหมายถึงศรีปราชญ์ กับศรีธนญชัย
ศรีปราชญ์ เป็นนิทานแสดงลักษณะของคนตรงไปตรงมา ผู้รักความเสมอภาค “อย่าว่าเราเจ้าข้า อยู่พื้นดินเดียว”
ศรีธนญชัย เป็นนิทานแสดงลักษณะของคนฉลาดแกมโกง หรือกะล่อน
สังคมที่ยกย่องแล้วทำตามศรีธนญชัย มีอันตรายอย่างยิ่ง