เริงโลกด้วยจิตรื่น โดย จันทร์รอน : จิตสำนึกที่แตกต่าง

เคยอ่านนิทาน หรือเรื่องแต่งเล่นเรื่องนี้ไหม

สามีอายุ 60 ภรรยาอายุ 50

วันหนึ่งมีเทพผู้วิเศษเกิดปัญหาร้ายแรง ดูท่าจะเอาชีวิตไม่รอด แล้วชายผู้เป็นสามีข้างต้นช่วยเหลือไว้ได้อย่างหวุดหวิด

เหมือนกับที่หนูเคยช่วยราชสีห์ในนิทานอีสป

Advertisement

เทพผู้วิเศษจึงให้ชายคนนั้นอธิษฐานขอได้หนึ่งอย่าง อะไรก็ได้ เทพจะเนรมิตให้

ชายผู้เป็นสามีนึกอยู่สักพัก ว่าอะไรที่จะทำให้ตัวเองมีความสุข แล้วในที่สุดก็สรุปว่า “มีเมียเด็กน่าจะเป็นความสุขที่สุดของผู้ชาย”

เปล่า! เขาไม่ได้ขอให้เทพผู้วิเศษเนรมิตเด็กสาวให้ เพื่อเป็นเมียอีกคน

Advertisement

เขารักเมียที่อายุ 50 มากกว่าที่จะไปขอมีเมียใหม่ หรือมีเมียเพิ่ม

“ขอให้ภรรยาข้า อายุน้อยกว่าข้า 30 ปี” คือคำที่เขาเอ๋ยขอให้เทพผู้วิเศษช่วยเนรมิต

นึกกระหยิ่มในใจว่า เมื่อเมียอายุ 50 ของเขากลับไปเป็นสาวน้อยวัย 20 ปี โลกนี้จะรื่นรมย์สักเพียงไหนสำหรับเขา

เทพผู้วิเศษเนรมิตตามคำของเขาทันที

แต่ผลที่ออกมาทำให้เขาตาเหลือก

มนต์วิเศษที่เทพเนรมิตไม่ได้เกิดกับภรรยาเขา

แต่มันเกิดกับเขา

สามีกลายเป็นชายอายุ 80 ปี นับแล้วเมียอายุ 50 ปีอ่อนวัยกว่าเขา 30 ปี เป๊ะ ตามคำขอ

เรื่องราวต่อไป คนแต่งไม่ได้แต่งต่อ

แต่จบเรื่องด้วยเสียงหัวเราะ

แบบเรื่องขำขัน

เรื่องแบบนี้ใครก็ขำ เมื่อเป็นคนฟัง

แต่ลองนึกดูถ้าเราเป็นชายคนนั้น จะหัวเราะออกหรือไม่ หรือว่าจะตาเหลือกยิ่งกว่าชายผู้กลายเป็นสามีชราคนนั้น

เรื่องนี้ ไม่มีตอนจบแบบ “นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า” เหมือนเรื่องแต่งของอีสป

แต่จะว่าไปแล้ว หากมีบท “สอนให้รู้ว่า” แบบนั้นเสียหน่อย จะเปลี่ยนเรื่องชวนหัวนี้ให้เป็นเรื่องสะท้อนคติธรรมที่ลึกซึ้งไม่น้อย

ยุคสมัยที่ความคิด จิตสำนึกของมนุษย์เราพัฒนามาสู่ “วัตถุนิยมเต็มรูป”

จากจิตสำนึกที่สัมพันธ์เชื่อมต่อเป็นหนึ่งเดียวกับ “จิตเดิมแท้” ที่ใสสะอาดอยู่ภายใน

แปรเปลี่ยนเป็นจิตสำนึกมาอยู่กับ “ความคิดและจินตนาการ” ที่ปรุงแต่งขึ้นตามความพอใจ ไม่พอใจ ตามความอยาก และความปรารถนาที่จะเป็นอย่างหนึ่งอย่างใดของตัวเอง

ถึงวันนี้จิตสำนึกมนุษย์เรามาถึงยุคที่หมกมุ่น พัวพันผูกโยง และยึดเอาสิ่งที่ประดิษฐ์คิดสร้างขึ้นมาอย่างเต็มที่

ใฝ่นิยม อยากได้ในวัตถุ

เมื่อต้องตัดสินใจเลือก เมื่อนั้นจะนึกถึง และมองเห็นแต่สิ่งของที่ประดิษฐ์สร้างขึ้นมา

ลืมเลือนสำนึกแบบเดิมๆ ไปหมดสิ้น

สำนึกที่อยากให้จิตใจหรือกระทั่งร่างกายตัวเองดีงาม สมบูรณ์ จะถูกแทนที่ด้วยความอยากได้ในสิ่งของที่คิดว่าจะมาปรนเปรอความรู้สึกที่อยากได้ใคร่มี

“เมียสาว” แม้จะเป็นคน แต่หากมองให้ลึกลงไปที่ความต้องการ จะเห็นว่าไม่ต่างนักกับสิ่งของ หรือวัตถุ

สิ่งที่ชายคนนั้นปรารถนาแม้จะเป็นความสาว ความสดใสของภรรยา แต่ลึกลงไปไม่ใช่เพื่อภรรยา แต่เพื่อตัวเขาเองที่จะได้เสพความเป็นสาวน้อยที่สดใสนั้นต่างหาก

เป็นความปรารถนาจะหาเครื่องปรนเปรอความรู้สึกที่ชื่นชอบ อันเป็นสำนึกแบบ “วัตถุนิยม”

อย่างไรก็ตาม หากศึกษา “ความปกติของสรรพสิ่ง” จะพบว่ามี “ธรรมชาติ” อยู่ที่การเชื่อมร้อย สัมพันธ์กับ “จิตเดิมแท้”

อันหมายถึงการย้อนคืนสู่ “ธรรมชาติของชีวิต”

“จิตของเทพผู้วิเศษ” ย่อมโยงใยอยู่กับ “สำนึกที่จะจัดการตัวเองมากกว่าจัดการวัตถุ หรือสิ่งอื่น”

ด้วยเหตุนี้เองเมื่อชายอายุ 60 ขอให้ภรรยาอายุน้อยกว่าเขา 30 ปี

เทพผู้วิเศษจึงดลให้เขาอายุ 80 ปี โดยที่ภรรยายังอายุ 50 ปีเหมือนเดิม

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า “จะอธิษฐานขออะไร ให้รู้จักความคิดและจิตสำนึกของคนที่จะให้เอาไว้”

อย่าคิดว่าจะเป็นอย่างเดียวกับเรา

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image