ผู้เขียน | สุจิตต์ วงษ์เทศ |
---|
บรรพชนคนไทย
3,000 ปี สีบัวทอง
อ.แสวงหา จ.อ่างทอง
รายงานโดย สุจิตต์ วงษ์เทศ
หลายพันปีมาแล้ว คนลุ่มน้ำเจ้าพระยาบริเวณอ่างทองล้วน “ไม่ไทย” เพราะเป็นประชากรของดินแดนดั้งเดิมที่ยังไม่เรียกประเทศไทยและคนไม่พูดภาษาไทย แต่พูดภาษาหลากหลายซึ่งเป็นภาษาร่วมอุษาคเนย์ ถึงกระนั้นก็ล้วนเป็นบรรพชนคนไทย เพราะต่อไปข้างหน้าทั้งดินแดนและผู้คนสืบเผ่าพันธุ์เป็นส่วนหนึ่งของคนไทยและประเทศไทย
ต่อมาเมื่อหลายร้อยปีที่แล้ว คนลุ่มน้ำเจ้าพระยารวมถึงสองฝั่งคลองสีบัวทองที่อ่างทอง ล้วนเป็นประชากรของรัฐอยุธยาพากันพูดภาษาไทย (ซึ่งเป็นภาษากลางทางการค้าของดินแดนภายใน) แล้วกลายตนเป็น “คนไทย”
หลักฐานพบล่าสุดจำนวนมาก “ไม่เหมือนเดิม” จากชุมชนดึกดำบรรพ์ 3,000 ปี สีบัวทอง อ่างทอง มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อประวัติศาสตร์โบราณคดีในไทยที่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลง
ประวัติศาสตร์โบราณคดี “แห่งชาติ” ของไทย แบ่งยุคสมัยตายตัวตามลักษณะประวัติศาสตร์ศิลปะซึ่งไม่ปกติ เพราะมี “อคติ” เจือปนหลายด้าน ดังนั้นต้อง “รื้อ” แล้ว “สร้าง” อย่างปกติสากลโลก ที่ความเป็นมาหรือพัฒนาการของบ้านเมืองเปลี่ยนแปลงตามลักษณะเศรษฐกิจและการเมืองทั้งภายในและภายนอกที่ปฏิเสธมิได้
ชุมชนดึกดำบรรพ์บนที่ราบลุ่มน้ำเจ้าพระยา
แหล่งโบราณคดีขนาดใหญ่สมัยก่อนประวัติศาสตร์อายุราว 3,000 ปีมาแล้ว บนพื้นที่ ต.สีบัวทอง อ.แสวงหา จ.อ่างทอง เพิ่งพบจากการสำรวจตรวจสอบร่วมกันของคณะอาจารย์หลายสถาบัน เป็นหลักฐานสำคัญครั้งใหญ่ยืนยันว่ามีชุมชนคนเริ่มแรกตั้งหลักแหล่งบริเวณที่ราบลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ภาคกลางตอนล่าง (มติชน ฉบับวันจันทร์ที่ 13 กรกฎาคม 2563 หน้า 1)
ก่อนหน้านี้นักโบราณคดี “ทางการ” ของไทย เชื่อถือตามความรู้เก่าว่าทะเลอ่าวไทยมีชายฝั่งเว้าลึกเข้าไปถึงนครปฐม, สุพรรณบุรี, สิงห์บุรี, ลพบุรี, นครนายก, ปราจีนบุรี และชลบุรี ดังนั้นบรรดามนุษย์สมัยก่อนประวัติศาสตร์ตั้งหลักแหล่งในป่าดงพงพีที่ดอนหุบเขาและเถื่อนถ้ำแถบสุพรรณบุรี, กาญจนบุรี, อุทัยธานี จึงพบเครื่องมือหินและอื่นๆ มากมายบริเวณลุ่มน้ำแควใหญ่-แควน้อยกับแม่กลอง ส่งผลให้ อ่างทอง, ปทุมธานี, นนทบุรี, กรุงเทพฯ เป็นท้องทะเลอ่าวไทยโบราณหลายพันปี ไม่มีมนุษย์ตั้งหลักแหล่งอยู่อาศัยเป็นชุมชน
การค้นพบแหล่งโบราณคดีขนาดใหญ่ มีชุมชนและหลุมฝังศพมนุษย์พร้อมเครื่องมือเครื่องใช้หลายอย่างสมัยก่อนประวัติศาสตร์อายุหลายพันปีที่อ่างทอง จึงเป็นหลักฐานสำคัญมากที่ให้ข้อมูลความรู้ใหม่แก่นักโบราณคดี “ทางการ” ตาสว่าง ว่าแนวชายฝั่งทะเลอ่าวไทยสมัยเมื่อ 3,000 ปีมาแล้ว อยู่บริเวณนนทบุรี [นายตรงใจ หุตางกูร นักวิชาการกลุ่มงานวิจัยและพัฒนา ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) บอกผู้สื่อข่าว มติชน ฉบับวันพฤหัสบดีที่ 16 กรกฎาคม 2563 หน้า 1]
ชุมชนสมัยก่อนประวัติศาสตร์หลายพันปีมาแล้ว พบทั่วไปบริเวณที่ราบลุ่มน้ำเจ้าพระยา ซึ่งเคยมีผู้รายงานนานหลายปีแล้วในนิตยสาร ศิลปวัฒนธรรม ได้แก่ ตามลำน้ำ อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา, และที่ราบลุ่มต่ำ อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา ฯลฯ
โดยสรุปประวัติศาสตร์แห่งชาติของไทยต้องทบทวนโดย “รื้อ” แล้ว “สร้าง” ด้วยข้อมูลชุดใหม่อย่างรู้เท่าทันการเมือง
ชุมชน 3,000 ปี สีบัวทอง อ่างทอง
ชุมชนสมัยก่อนประวัติศาสตร์บริเวณสองฝั่งคลองสีบัวทอง อ.แสวงหา จ.อ่างทอง และพื้นที่โดยรอบระหว่างแม่น้ำท่าจีนกับแม่น้ำน้อย เคยพบก่อนเมื่อ 55 ปีที่แล้ว จากการเดินสำรวจเบื้องต้นบนผิวดิน พ.ศ.2508 โดย อ.ศรีศักร วัลลิโภดม (เมื่อครั้งเป็นอาจารย์ประจำคณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร) และหลังจากนั้นมีการสำรวจซ้ำสม่ำเสมอหลายครั้งหลายหน
ข้อมูลที่สำรวจพบทั้งหมด อ.ศรีศักร วัลลิโภดม ทยอยเขียนบทความวิชาการแบ่งปันและเผยแพร่ทั้งในวารสารวิชาการของสถาบันการศึกษาและโดยเฉพาะวารสาร เมืองโบราณ ต่อมารวบรวมพิมพ์เป็นเล่มชื่อ ค้นหาอดีตของเมืองโบราณ (สำนักพิมพ์เมืองโบราณ พ.ศ.2538) ล่าสุดสรุปภาพรวมไว้ในหนังสือ สร้างบ้านแปงเมือง (สำนักพิมพ์มติชน พ.ศ.2560 หน้า 182-185)
หม้อสามขา
ชิ้นส่วนหม้อสามขา เป็นโบราณวัตถุสำคัญพบในชุมชน 3,000 ปี อ.แสวงหา จ.อ่างทอง (นายจารึก วิไลแก้ว ผอ.สำนัก ศิลปากรที่ 3 พระนครศรีอยุธยา บอกผู้สื่อข่าวมติชน ฉบับวันพุธที่ 15 กรกฎาคม 2563 หน้า 8)
หม้อสามขา เป็นภาชนะดินเผามี 3 ขา อายุราว 3,000 ปีมาแล้ว วัฒนธรรมลุ่มน้ำ ฮวงโห ในจีน เป็นที่รู้ทั่วโลก ต่อมาพบในหลุมฝังศพกระจายมากทางทิวเขาตะวันตกพรมแดนไทย-พม่า ตั้งแต่เขตสุพรรณบุรี, กาญจนบุรี, ราชบุรี, เพชรบุรี, ประจวบคีรีขันธ์, ชุมพร ถึงมาเลเซีย
ชิ้นส่วนหม้อสามขา พบที่สีบัวทอง อ.แสวงหา จ.อ่างทอง มีอายุร่วมสมัยกับที่เคยพบที่เมืองอู่ทอง อ.อู่ทอง และหนองราชวัตร อ.หนองหญ้าไซ จ.สุพรรณบุรี เป็นพยานหนักแน่นว่ามีการติดต่อใกล้ชิดกันหลายพันปีมาแล้ว
แต่ที่สำคัญคือมีการติดต่อถึงจีนตามเส้นทางการค้าดินแดนภายใน เข้าไปทางใต้ของจีน บริเวณ “ที่สูงแห่งเอเชีย” (Zomia) หลักแหล่งกว้างใหญ่ของคนพูดตระกูลภาษาไท-ไต (แต่ไม่ใช่ “คนไทย”) จากคำอธิบายของ นิธิ เอียวศรีวงศ์ (ในหนังสือ ความไม่ไทย ของคนไทย สำนักพิมพ์มติชน พ.ศ.2559)
จากบ้านเป็นเมืองและรัฐ
แหล่งโบราณคดี 3,000 ปี บริเวณสีบัวทอง อ.แสวงหา จ.อ่างทอง คืออะไร? สำคัญอย่างไร? หมายถึงอะไร? มีข้อมูลพอจะบอกเล่าไว้เป็นเบื้องต้นอย่างกว้างๆ ดังนี้
1.พื้นที่พิธีกรรม “เฮี้ยน” หรือศักดิ์สิทธิ์กลางชุมชนใหญ่ แหล่งฝังศพคนชั้นนำหัวหน้าเผ่าพันธุ์ จึงพบโครงกระดูกมนุษย์และเครื่องมือเครื่องใช้ฝังรวมกับศพ (เหมือนบ้านเชียง อุดรธานี)
พื้นที่พิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์กลางชุมชนอย่างนี้ เป็นต้นแบบสมัยกรุงศรีอยุธยามี ท้องพระเมรุ หรือท้องสนามหลวง และเป็น
ต้นตอที่บริเวณลุ่มน้ำโขงเรียก “ป่าเฮ่ว” ส่วนลุ่มน้ำเจ้าพระยาเรียก “ป่าช้า” (คำว่า ช้า หมายถึง ซากศพ)
2.ชุมชนนับถือศาสนาผีมีความเชื่อเรื่อง “ขวัญ” คนตายขวัญไม่ตาย เพียงขวัญหายจากร่าง ต้องฝังร่างไว้รอขวัญคืนร่าง (คนจะได้ฟื้น) ขวัญไม่ตายแต่จับต้องไม่ได้มองไม่เห็น โดยมีวิถีเหมือนไม่ตายในต่างมิติ
สมัยนั้นยังไม่ติดต่ออินเดียจึงไม่รู้จักวิญญาณทางศาสนาพุทธและพราหมณ์ ไม่เชื่อการเวียนว่ายตายเกิด และยังไม่
รู้จักพิธีเผาศพ (ตามแบบอินเดีย)
3.คนในชุมชนเป็นใคร? มาจากไหน? พูดภาษาอะไร? หลักฐานที่พบขณะนี้บอกไม่ได้ แต่รู้ได้แน่ว่า “เชื้อชาติ” ไม่มีจริงในโลก
ดังนั้นคนดึกดำบรรพ์ 3,000 ปี สีบัวทอง เป็น “บรรพชนร่วม” ของคนอุษาคเนย์และคนไทย เพราะไทยอยู่ในอุษาคเนย์ มีประวัติศาสตร์ความเป็นมาร่วมกันทั้งของดินแดนและผู้คนตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์หลายพันปีมาแล้วสืบเนื่องจนปัจจุบัน ประกอบด้วยคนนานาชาติพันธุ์ “ร้อยพ่อพันแม่”
บรรพชนคนไทยจากสีบัวทอง
คนดึกดำบรรพ์ 3,000 ปี สีบัวทอง มีลูกหลานเหลนโหลนสืบพงศ์เผ่าเหล่ากอหน่อเนื้อเชื้อสายเป็นวงศ์วานว่านเครือของบ้านเมืองที่จะเติบโตต่อไปจากการค้าโลก
ต่อมาหลัง พ.ศ.1000 สมัยการค้าโลก (ไทยเรียกสมัยทวารวดี) รับศาสนาพุทธ, พราหมณ์ จากอินเดีย ผลักดันชุมชนบ้านเมืองมีคูน้ำคันดิน ปัจจุบันพบย่านนั้นที่บ้านคูเมือง อ.แสวงหา จ.อ่างทอง และพื้นที่โดยรอบอีกหลายแห่ง
บ้านเมืองคูน้ำคันดินสองฝั่งคลองสีบัวทองเป็นเครือข่ายอยู่ระหว่าง 2 รัฐใหญ่ ได้แก่ รัฐอู่ทอง (สุพรรณบุรี) ทางทิศตะวันตก กับรัฐละโว้ (ลพบุรี) ทางทิศตะวันออก แล้วมีการติดต่อใกล้ชิดสม่ำเสมอด้วยเส้นคมนาคมทางน้ำ ซึ่งมีลำน้ำน้อยใหญ่หลายสายเชื่อมถึงกันทั้งแม่น้ำ
ท่าจีน (ไปอู่ทอง) และแม่น้ำน้อย (ไปละโว้)
ต่อเนื่องถึงหลัง พ.ศ.1500 สมัยการค้าสำเภาจีนถึงอ่าวไทย (ไทยเรียกสมัยลพบุรี หรือสมัยขอม) บ้านเมืองมั่งคั่งจากการค้า ทำให้คนหลายเผ่าพันธุ์มีมากขึ้น
กระทั่งหลัง พ.ศ.1700 อำนาจของภาษาและวัฒนธรรมไทยกระจายจากลุ่มน้ำโขงครอบคลุมฟากตะวันตกแม่น้ำเจ้าพระยา มีศูนย์กลางใหญ่อยู่ที่สุพรรณภูมิ (สุพรรณบุรี) ต่อไปข้างหน้ามีอำนาจเหนือกรุงศรีอยุธยา ประชากรหลายเผ่าพันธุ์ “ร้อยพ่อพันแม่” พูดภาษาไทยเป็นภาษากลางทางการค้า แล้วกลายตนเป็นคนไทย
คลองสีบัวทอง
ชุมชนดึกดำบรรพ์ 3,000 ปี สีบัวทอง อยู่บนที่ราบลุ่มต่ำ มีแม่น้ำลำคลองห้วยหนองบึงน้อยใหญ่กระจายทั่วไป เชื่อมเส้นทางคมนาคมระหว่างแม่น้ำท่าจีนกับแม่น้ำน้อยถึงแม่น้ำเจ้าพระยา (ภาพคลองสีบัวทอง หน้าวัดสีบัวทอง ต.สีบัวทอง อ.แสวงหา จ.อ่างทอง)
ชุมชนดึกดำบรรพ์ 3,000 ปี สีบัวทอง ใช้แม่น้ำลำคลองเป็นเส้นทางคมนาคมไปมาหาสู่กับชุมชนอื่นโดยรอบทั้งใกล้และไกล ถึงลุ่มน้ำโขงและรอบอ่าวไทย เช่น บ้านเก่า (แควน้อย ลุ่มน้ำแม่กลอง กาญจนบุรี), อู่ทอง (ลำน้ำจรเข้สามพัน-ลุ่มน้ำท่าจีน สุพรรณบุรี), ละโว้ (ลุ่มน้ำป่าสัก-ลพบุรี จ.ลพบุรี)
ชุมชนไม่เหมือนเดิม หลังสร้างเขื่อนเจ้าพระยาและเขื่อนภูมิพล (หลัง พ.ศ.2500) การไหลหลากของแม่น้ำ 3 สายเปลี่ยนไป (แม่น้ำเจ้าพระยา, แม่น้ำน้อย, แม่น้ำท่าจีน) ขณะเดียวกันมีระบบชลประทานกว้างขวาง ส่งผลให้คลองสีบัวทองกับลำน้ำน้อยใหญ่เหมือนใยแมงมุมบริเวณที่ราบลุ่มร่วงโรย และบรรดาห้วยหนองที่เคยอุดมสมบูรณ์ก็ไม่เหมือนเดิม
ถนนรถยนต์เริ่มแทนที่การคมนาคมทางน้ำ ชุมชนลดความสำคัญลง บางแห่งร้างไปก็มี