ย่ำไปในดงเพลง : They Ain’t Heavy, They’re My Sons, My Daugthers, My Nephews.

ย่ำไปในดงเพลง : They Ain’t Heavy, They’re My Sons, My Daugthers, My Nephews.

ย่ำไปในดงเพลง : They Ain’t Heavy,
They’re My Sons,
My Daugthers, My Nephews.

สารภาพเอาไว้ก่อนเป็นเบื้องต้นเลยว่า ความจริงเคยเขียนถึงเพลงนี้ไปบ้างแล้วแบบแตะๆ เมื่อหลายเดือนก่อน

แต่เป็นการนำเสนอคู่กันกับเพลงของวงเดียวกัน

เพราะฉะนั้น จะบอกว่าวันนี้เป็นการฉายหนังซ้ำกันได้ หรือถ้ามีใจกรุณาหน่อยก็บอกว่านี่เป็นฉบับ “รีเมค” มีการเพิ่มเติมโน่นนี่เข้าไปให้ดูแปลกใหม่กว่าเดิมก็ได้

Advertisement

เพราะโดยสถานการณ์บ้านเมืองแล้ว คิดถึงเพลงอื่นนอกเหนือไปจาก He Ain’t Heavy, He’s My Brother ของ The Hollies ไม่ออก

ผู้อ่านท่านไหนคิดมุขอะไรได้ จะแจ้งมาเพิ่มเติมก็ยินดี
………….

ก่อนจะไปถึงว่าทำไมต้องเพลงนี้ มาว่ากันที่ประวัติของวงและเพลงก่อน
The Hollies นี่ถือว่าเป็นวงอมตะวงหนึ่งของวงการดนตรีอังกฤษเลยนะครับ
เพราะเป็นหนึ่งใน 2 วง ที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ยุค 1960 แล้วยังมีผลงาน ทั้งการอัดแผ่นและตระเวนขึ้นเวทีคอนเสิร์ตอยู่จนถึงปัจจุบัน

Advertisement

อีกหนึ่งวงนอกจาก The Hollies ก็คือ Rolling Stone ของพ่อนักร้องปากกว้าง Mick Jagger

The Hollies ก่อตั้งโดยสองนักดนตรีที่เป็นเพื่อนกันตั้งแต่เรียนประถม คือ Allan Clarke และ Graham Nash

ที่คนหลังนั้นไปก่อตั้งสุดยอดวงดนตรีร่วมกับสุดยอดนักร้องและนักดนตรีอีก 3 คน ในชื่อ Crosby, Stills, Nash & Young นั่นละครับ

เริ่มต้นตั้งวงนั้นเพราะได้รับแรงบันดาลใจจากวงดังที่เป็นสองพี่น้อง ซึ่งร้องเพลงประสานเสียงได้เนียนละมุน ประทับใจคนทั่วโลกอย่าง The Everly Brother

แต่ชื่อวงจริงๆ นั้น Nash บอกว่าได้รับอิทธิพลมาจากชื่อของนักร้องดัง Buddy Holly และกิ่งของต้น Holly ที่ฝรั่งชอบนำมาประดับในช่วงเทศกาลคริสต์มาส

Nash ซึ่งตอนนั้นเบื่อการตระเวนทัวร์คอนเสิร์ต โบกมือลาจากวงไปเมื่อปี 1968

1970 He Ain’t Heavy, He’s My Brother ถึงคลอดออกมา

………….

เพลงนี้เป็นผลงานประพันธ์ทำนองของ Bobby Scott เจ้าของเพลง A Taste of Honey และแต่งทำนองให้อีกหลายเพลงกับยอดนักร้อง Nat King Cole

ส่วนเนื้อร้องเป็นผลงานของ Bob Russell นักเขียนเนื้อเพลง-นักประพันธ์ ที่เป็นเพื่อนสนิทกับ Sydney Sheldon ยอดนักเขียนนวนิยายชื่อดัง

Russell ได้แรงบันดาลใจในการเขียนเพลงนี้มาจากบ้านเด็กกำพร้าในเมืองโอมาฮา รัฐเนบราสก้า สหรัฐอเมริกา ที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1917

และที่จริงข้อความดั้งเดิมก็ไม่ใช่ของบ้านเด็กกำพร้าที่ว่านี้

แต่มาจากการที่คุณพ่อฟลานาแกน บาทหลวงผู้ดูแลบ้านเด็กกำพร้าแห่งนี้ไปอ่านนิตยสาร The Messenger ที่ตีพิมพ์เมื่อปี 1941

แล้วเห็นบทความชิ้นหนึ่ง มีภาพประกอบบทความเป็นเด็กชายตัวใหญ่แบกเด็กชายตัวเล็กขึ้นหลัง

และมีบรรยายใต้ภาพว่า He Ain’t Heavy, He’s My Brother

เท่านั้นเอง คุณพ่อก็ “ปิ๊ง” ขึ้นมาทันที แล้วเอาประโยคข้างต้นมาเป็นคติพจน์ของบ้าน
และอยู่บนตราสัญลักษณ์ของบ้านเด็กกำพร้าแห่งนี้ด้วย

Russell ซึ่งได้อ่านเรื่องนี้เข้า เกิดประทับใจ และเขียนเนื้อเพลงขยายความประโยคหลักออกมาได้ประทับใจคนทั้งโลก

He Ain’t Heavy, He’s My Brother ขึ้นถึงอันดับที่ 3 บนชาร์ตฝั่งอังกฤษ
และอันดับ 7 บนบิลบอร์ด กับอันดับ 8 บนแคชบ็อกซ์ ที่ฝั่งสหรัฐ

แล้วก็ขึ้นหิ้งเป็น “เพลงอมตะ” ที่ยังมีคนฟัง คนเล่น คนร้อง คนซาบซึ้ง อยู่จนกระทั่งถึงปัจจุบัน
มีเกร็ดเล็กน้อยแถมให้ด้วยหน่อยหนึ่งว่า เสียงเปียโนที่ได้ยินจากเพลงออริจินัลจากห้องอัดนั้น

เป็นฝีมือบรรเลงของ Elton John ซึ่งตอนนั้นยังไม่มีชื่อเสียง ยังทำมาหากินด้วยการเป็นนักดนตรีรับจ้างในห้องบันทึกเสียง

เพลงนี้ Elton มารับจ้างเล่นให้ด้วยค่าตัวชั่วโมงละ 12 ปอนด์

หลัง He Ain’t Heavy, He’s My Brother แล้ว ต้องอีกหลายปีกว่า The Hollies จะมี “ซุปเปอร์ฮิต” เพลงใหม่ขึ้นมาอย่าง The Air That I Breathe

ผลงานประพันธ์ของ Albert Hammond ยอดนักร้องนักแต่งเพลงอีกคนหนึ่ง ที่เที่ยวแต่งเพลงให้คนอื่นดังไปทั่ว

แต่ตัวเองมีเพลงสุดฮิตอยู่เพลงเดียวอย่าง It Never Rains In Southern California

………….

ที่คิดถึงเพลงนี้ขึ้นมา เพราะตามการเคลื่อนไหวของน้องนุ่งลูกหลานที่ออกมาชุมนุมประท้วงให้มีการแก้ไขปัญหาที่คนรุ่นพ่อแม่ปู่ย่าตายายเป็นคนก่อขึ้น
แล้วก็ทั้งขำทั้งประทับใจ โดยเฉพาะในการชุมนุมหนล่าสุดเมื่อวันที่ 19 กันยายน

ที่ “หักปากกาเซียน” ทั้งหลาย ที่คาดการณ์อะไรกันไปล่วงหน้าแบบ “มโน” ว่าจะต้องเกิดความรุนแรงสารพัดรูปแบบ

ปรากฏว่า นอกจากไม่เกิดแล้วยังมีมุขแสบๆ คันๆ ฝากเอาไว้ให้สังคมช่วยกันคิดต่อด้วย
ไม่นับถือน้ำใจและสมองเด็ก จะให้คิดเป็นอื่นอย่างไรได้
ทีนี้มองเด็กแล้วกลับมามองตัวเอง ว่าถ้าถึงขนาดต้องให้รุ่นลูกรุ่นหลานออกมาเคลื่อนไหว
แล้วคนรุ่นก่อนหน้านี้ทำอะไรได้บ้าง?

คำตอบก็คือ เป็นกำลังใจ เป็นท่อน้ำเลี้ยง (แบบบ้านๆ) และช่วยกันประคับประคองเด็กๆ ให้เติบโตแข็งแรงต่อไป

เพราะเอาเข้าจริง เขาเหล่านั้นไม่ใช่ใคร
ล้วนแล้วแต่ลูกหลานว่านเครือของเราๆ ท่านๆ ทั้งหลายทั้งสิ้น
ถ้าคติบ้านเด็กกำพร้า คือ เด็กแบกเด็กด้วยกันแล้วบอกว่า He Ain’t Heavy, He’s My Brother
คติของสังคมไทยวันนี้ ก็น่าจะเป็นภาพผู้ใหญ่เข้าไปยืนข้างๆ น้องนุ่งลูกหลานทั้งหลายแล้วพูดว่า

Ther Ain’t heavy, They’re My Sons, My Daughters, My Nephews.

หรือมิใช่?

He Ain’t Heavy, He’s My Brother – The Hollies
https://www.youtube.com/watch?v=z_Jx9nqnxOM

โดย : เขบ็ดหัวโต

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image