คอลัมน์ ชิมชิล-ชิล : Bunker

“Bunker” บังเกอร์ ภาษาอังกฤษแปลว่า “หลุมหลบภัย” ก่อสร้างด้วยคอนกรีต ส่วนฝังใหญ่อยู่ใต้ดิน เพื่อให้ทนทานต่อระเบิดที่ทิ้งลงมาจากเครื่องบิน หรือ “โดรน Drone” ในยามศึกสงคราม

“อดอล์ฟ ฮิตเลอร์” ช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่สอง ไม่ออกไปไหน บัญชาการการรบจาก “Fhrerbunker” หลบระเบิดพันธมิตรที่ถล่มกรุงเบอร์ลิน จนในที่สุดฆ่าตัวตายในหลุมหลบภัย

เมื่อไปถึงร้าน “Bunker” ซอยสาทร 12 ก็เข้าใจทันทีว่าทำไมจึงชื่อนี้ เพราะถึงแม้จะไม่อยู่ใต้ดิน แต่เป็นอาคารคอนกรีตเปลือย ไม่ทาสี เข้าไปภายในเหมือนเข้าถ้ำ “หลบภัย” จากความร้อน ฝน และรถที่ติดแสนติดบนถนนสาทร-สีลมได้อย่างดี

ด้านในมี 3 ชั้น ไม่ได้ตกแต่งมาก ปล่อยปูนเปลือยตามยุคสมัย และเข้า Concept แต่นั่งสบายโปร่ง โต๊ะเก้าอี้ง่ายๆ เข้าบรรยากาศ ด้านบนมีระเบียงนั่งข้างนอกได้ ปลายปีหมดฝน

Advertisement

อากาศเย็นๆ น่าจะขายดี ด้านล่างเป็นบาร์ใหญ่ เป็นเรื่องเป็นราวประเภทเสิร์ฟ Cocktails ได้ครบสูตรแน่นอน

วันที่ผมไปช่วงหัวค่ำหน่อย แต่มีคนบอกว่าดึกๆ คึกคัก ขาเที่ยวมาจิบดื่มสังสรรค์กัน “ชิลๆ” เพราะแถบนี้มีหลายร้านที่ได้รับความนิยม ไม่ว่าจะเป็น “Kai” “Lady Brett” และ “Rocket” แต่ละร้านมีจุดเด่นที่ดึงลูกค้าได้ดี จากกลุ่มคนทำงานออฟฟิศ และผู้พักอาศัยในบริเวณ ที่เป็นทั้งลูกค้าไทยและต่างชาติ

ทั้งสามร้านเคยลองแล้ว ชอบคนละอย่าง ไก่บาร์บีคิวที่ Lady Brett อร่อย ส่วน Kai จะเป็นอาหารนิวซีแลนด์ เนื้อดีไวน์ดี ด้าน Rocket ออกแนว Coffee Bar เดี๋ยวนี้มีหลายสาขา ใครคิดไปเปิดร้านจะเจอคู่แข่งหนักๆ ทั้งนั้น Bunker มาใหม่จะไม่ให้ไปลองได้ยังไง

Advertisement

pra02200859p2

พนักงานในร้านบอกว่าสไตล์อาหารเป็น “Contemporary American” หรืออเมริกัน “ร่วมสมัย” โดยอาหารอเมริกันจะออก “สเต๊ก” บาร์บีคิวก้อนใหญ่ๆ ทำง่ายๆ ซอสเกรวี่ชุ่มฉ่ำ เฟรนช์ฟรายส์ มันทอดมันบด ผักเครื่องเคียงเต็มจาน ไม่ก็แฮมเบอร์เกอร์ ฮอตด็อก หรือ “ทันสมัย” ลักษณะ “Fast Food” จานด่วนไปเลย

ในความเข้าใจ (เอาเอง) “ร่วมสมัย” คงจะเพิ่มความ “ดัดจริต” ในการปรุงแต่ง จัดวาง นำเสนอ ที่สำคัญเพิ่ม “มูลค่า” ที่ทำ “ราคา” ให้สูงขึ้น ในฐานะลูกค้าพร้อมจ่าย หากรสชาติได้ “คุ้มค่าคุ้มราคา” ซึ่งก็ไม่เสมอไป!!

นอกจากจะเป็น “Contemporary” แล้ว ยังบอกด้วยว่า Casual Fine Dining หุหุ ไม่รู้เจ้าของวาง “Positioning” เองหรือเปล่า หรือไม่แน่ใจจะอยู่ตรงไหน ต้องการให้ “สบายๆ” หรือให้ “Fine Dine” คือตั้งโต๊ะวางคอร์สถูกหลัก หรืออยากได้ทั้งสองโลก Best of Both Worlds เพราะบรรยากาศเป็นกันเอง ไม่ใช่ร้าน 5 ดาวแน่นอน คงต้องไปที่อาหารละกันจึงจะตัดสินได้

เริ่มด้วย “Endive and Sunchoke Salad” สองชนิดผักที่หาในเมืองไทยไม่ค่อยได้ หอมกรอบ คลุกกับเศษขนมปังรายรอบ แอนโชวี่ และชีส Pecorino กินเรียกน้ำย่อยได้ดี “Wagyu Beef Tartare” เนื้อวากิวดิบ หัวไชเท้า และขนมปังเบเกิ้ลทอด เนื้อรสชาติกลมกล่อม “Roasted Baby Carrots” ผักแครอตเล็กย่าง กับครีม Yuzu พร้อมกับ Quinoa ก้อนชีส Ricotta กับใบกะเพรา สอบผ่านทั้งสามเมนู เป็น Appetizers หรือ “กับแกล้ม” ได้

pra02200859p3

จานหลักเป็น Gose Pork Roast หมูแช่เบียร์ย่าง มีผักกาดหอม ข้าวบาร์เลย์ ผัดรวมเข้ากันจนนิ่ม เป็นชั้นรองหมูไว้ หมูนุ่มหวานอร่อย แต่ชอบผัดผักมากกว่า ส่วน Bone-in Wagyu NY Strip เนื้อใช้ได้ปรุงได้ดี เสียว่าชิ้นเล็กไปหน่อย ไม่สมราคา แต่เครื่องเคียงที่เป็นมันบดนุ่มลิ้นมาก

ขนมสองเมนู “Bites for the Table” และ “Chocolate Almond Torte” อย่างแรกบอกว่าเป็นขนมหลายชนิดที่เชฟเลือกมาให้ลอง เฉยๆ ถ้าไปกันหลายๆ คน ทานคนละชิ้นสองชิ้นคงเหมาะ เมนูหลังพอผ่าน แต่ก็ไม่สะใจพอในส่วน Chocolate Mascarpone

ร้านน่าสนใจ เมนูตั้งใจพัฒนา พนักงานบริการดีเป็นกันเอง ลองแวะไปชิมกันนะครับ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image