หนุมาน : เทพแห่งสรรพวิทยา (45)

พระราม เเละ นางสีดา

พระรามกับนางสีดานั้นถือเป็นคู่พระคู่นางที่ได้รับความนิยมอย่างมากที่สุดตามสถานที่ประดิษฐานเทวรูป จึงนิยมทำรูปพระรามคู่กับนางสีดา แม้ภาพเขียนก็เช่นเดียวกัน และที่เห็นอยู่เสมอก็คือมีรูปหนุมาน จะนั่งเฝ้าอยู่ใกล้ๆ หรือยืนถือแซ่โบกไล่แมลงหรือถือพัดโบกลม เพราะหนุมานถือว่าเป็นผู้ที่จงรักภักดีที่ไม่มีใครมาเทียบ

กล่าวกันว่าผู้ที่เคารพนับถือพระรามและนางสีดานั้น เพียงแต่ออกพระนามก็ได้บุญ ฉะนั้นคนที่อยู่ว่างๆ จึงชอบออกพระนาม “สีตา-ราม” เหมือนอย่างฤๅษีนารทที่เดินร้อง “นาร้าย นารายณ์” หรือ “สีตาราม” ดังกล่าวมาแล้ว

มีผู้เล่าให้ฟังว่า คนอินเดียมีความเชื่อมั่นในการออกพระนามพระรามถึงขนาดว่า บรรดาพ่อค้าแม่ค้าเวลานับของขายก็ไม่วายจะนับว่า หนึ่งราม สองราม สามรามเรื่อยไป เขาว่าทำอย่างนี้ก็ได้บุญพ้นบาป

นอกจากนี้ยังกล่าวกันว่า เวลาผู้หญิงอินเดียตกใจจะร้องอุทานว่า “สีตาราม” แบบคนไทยร้องว่า “คุณพระช่วย” ถ้าเป็นตามคำเล่าก็แสดงว่าคนอินเดียมีความศรัทธาอย่างลึกซึ้งจริงๆ

มีเรื่องเกร็ดเรื่องหนึ่งเล่าถึงเหตุที่นางสีดาได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้ที่มีความอดทนอย่างเยี่ยมยอด เรื่องเกิดขึ้นเมื่อครั้งพระรามกับนางสีดาอาศัยอยู่ในป่าทัณทกะนั้น วันหนึ่งพระรามนอนหนุนตักนางสีดาแล้วหลับไป ขณะนั้นอีกาตัวหนึ่งอยากกินเนื้อสดบินผ่านมา มันเห็นนางสีดานั่งเปลือยอกอยู่จึงโฉบลงมาเอาจะงอยปากจิกถันนางสีดา เหตุการณ์เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ไม่คาดฝันว่าจะมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น ก็คิดดูเถิดว่านางจะตกใจขนาดไหน และเจ็บปวดอย่างสาหัสสักเพียงไร แต่ด้วยความมีสติเกรงว่าพระรามจะตื่น จึงสู้ทนนิ่งปล่อยให้อีกาจิกไม่ขยับเขยื้อนจนพระรามตื่นขึ้นมา จึงสิ้นเคราะห์ เรื่องเดิมเล่าไว้เพียงเท่านี้ จึงเล่าไว้ทีหนึ่งก่อนจะรอไว้นานก็เกรงจะลืม

Advertisement

อย่างไรก็ตามเท่าที่ทราบ นางสีดาได้รับการยกย่องให้เป็นปูชนีย์แห่งหญิงสาวชาวอินเดีย สาวชาวอินเดียสมัยก่อนบูชานางสีดาให้ช่วยคุ้มครอง ขอให้พวกเธอเป็นที่รักของสามีและพ้นจากความเป็นม่าย ซึ่งหมายความว่าถ้าสามีอายุยืนมากเท่าไรเธอก็จะมีอายุยืนตามไปด้วย (เว้นแต่เธอจะป่วยตามไปเสียก่อน) เพราะถ้าสามีตายก่อนเธอก็จะเป็นม่าย ซึ่งความเป็นม่ายในสมัยดึกดำบรรพ์ หญิงม่ายต้องเข้ากองไฟไปพร้อมกับการเผาศพสามี เป็นประเพณีที่โหดร้ายทารุณ หญิงม่ายต้องตายทั้งเป็นมีจำนวนมาก มีชื่อเรียกในอินเดียว่า พิธีสตี

ครั้นเมื่ออังกฤษเข้าปกครองอินเดีย เห็นว่าประเพณีดังกล่าวไม่ถูกต้อง เป็นความโหดร้ายป่าเถื่อน จึงให้ยกเลิกประเพณีเผาตัวตายตามสามีนั้นเสีย ต้องยกเป็นความดีของอังกฤษ ไม่เช่นนั้นแม่ม่ายเห็นจะตายก่อนอายุขัยกันอีกมาก

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image