คอลัมน์ เดินไปในเงาฝัน : คนสร้างงาน งานสร้างคน

ทุกครั้งที่มีโอกาสเดินทางไปในสถานที่ต่างๆ นอกจากจะได้เห็นบ้านเมือง ผู้คน และการใช้ชีวิตของสังคมเมืองของประเทศนั้นๆ

ผมยังมีโอกาสเรียนรู้วิธีการบริหารจัดการขององค์กรต่าง

เหมือนอย่างล่าสุดที่ผมมีโอกาสร่วมทริปกับบริษัทเอพี บริษัทอสังหาริมทรัพย์อันดับต้นๆ ของเมืองไทย เพื่อมาดูงาน พร้อมกับนิสิต นักศึกษา จากโครงการเอพี อะคาเดมี ที่บริษัท มิตซูบิชิ เอสเตท บริษัทลูกของมิตซูบิชิ กรุ๊ป

บริเวณเขตมารุโนะอุจิ

Advertisement

เนื่องจากบริษัทนี้ถือหุ้นอยู่ในบริษัทเอพีของไทยอยู่ 49%

ตลอดเวลาหลายวันที่น้องๆ นิสิต นักศึกษาของไทยเข้าไปร่วมศึกษา และดูงาน ผู้บริหารชาวญี่ป่นเขาให้เกียรติน้องๆ ของไทยเป็นอย่างมาก

เพราะเขารู้ว่าน้องๆ เหล่านี้ผ่านโครงการเอพี อะคาเดมีมาก่อน ทั้งยังเรียนมาทางด้านวิศวกรรม เขาจึงพยายามให้น้องๆ เหล่านี้นำองค์ความรู้ตั้งแต่ต้นทางของการก่อสร้างโครงการอสังหาฯไปจนถึงปลายทางคือการส่งมอบคอนโดฯ บ้านเดี่ยวให้กับลูกค้า

Advertisement

ไปจนถึงการบริการหลังการขาย

และการวางระบบคอลเซ็นเตอร์เพื่อช่วยเหลือลูกบ้านในกรณีฉุกเฉินต่างๆ ให้มากที่สุด

ซึ่งเราเองในฐานะสื่อมวลชนก็พลอยได้เรียนรู้ในขั้นตอนของรายละเอียดในความใส่ใจของเขาไปพร้อมๆ กันด้วย จนทำให้ตอกย้ำถึงความเป็นระเบียบวินัยของคนญี่ปุ่นมากยิ่งขึ้น

เพราะทุกอย่างที่ผ่านการคิดล้วนมาจากการฟังเสียงของลูกค้าทั้งสิ้น

เริ่มตั้งแต่การออกแบบ การวางฐานรากของโครงการ การคัดเลือกวัสดุภายใน และภายนอก การออกแบบตกแต่ง การขาย และการส่งมอบให้กับลูกค้า

จนทำให้คิดว่าหากน้องๆ เหล่านี้เติบโตเป็นวิศวกรในวันหนึ่ง และมีโอกาสนำสิ่งที่ได้จากการเรียนรู้ไปปรับใช้กับการทำงานในบ้านเรา ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของโครงการต่างๆ ที่เกิดขึ้น

จึงน่าจะมีคุณภาพ

เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของคนเมือง

ที่ตอบทุกโจทย์ของการอยู่อาศัย

ซึ่งผมเห็นแล้วให้อดรู้สึกชื่นชมกระบวนการทำงานของพวกเขาไม่ได้ ทั้งยังทำให้ทราบว่าผู้อยู่เบื้องหลังของโครงการต่างๆ ที่เกิดขึ้นบริเวณเขตมารุโนะอุจิ หรือย่านกินซ่าที่คนไทยรู้จักกันดี เพราะย่านนี้เป็นย่านไฮโซที่สุดของประเทศญี่ปุ่น

ที่ดินต่อตารางเมตรสูงมาก

คล้ายๆ กับสีลม ทองหล่อของบ้านเรา แต่ในบริเวณนี้เป็นเขตของอาณาจักรมิตซูบิชิ กรุ๊ป ที่ครอบคลุมพื้นที่กว่า 1.2 แสนตารางเมตร มีอาคารสำนักงานในบริเวณนี้ทั้งหมด 100 อาคาร

ทั้งหมด 4,000 บริษัท

และมีพนักงานออฟฟิศเดินหมุนเวียนอยู่บริเวณนี้ราว 2.4 แสนคนต่อวัน ทั้งที่อยู่ภายในอาคารสำนักงาน และใต้สำนักงานอาคารต่างๆ

เพราะบริเวณชั้นใต้ดินถูกออกแบบคล้ายๆ กับใยแมงมุมที่สามารถเดินเชื่อมต่อไปยังสถานีรถไฟฟ้า โดยมีแฟชั่น มอลล์ ร้านค้าแบรนด์เนมต่างๆ

รวมไปถึงร้านอาหาร และร้านอะไรต่างๆ อีกมากมาย ที่ล้วนทำให้อาณาจักรเหล่านี้กลายเป็นสิ่งมีชีวิต เพราะมีผู้คนทำกิจกรรมต่างๆ มากมาย

ทั้งกลางวัน และกลางคืน

สำคัญไปกว่านั้น แต่ละอาคารสำนักงาน ยังถูกออกแบบให้ผสมผสานไปกับอาคารเก่าแก่อย่างลงตัว ทั้งยังนำเรื่องของการออกแบบสีเขียวเข้ามาอยู่ในทุกๆ ส่วนของทุกอาคารอีกด้วย

“โคจิ เทระดะ”สถาปนิกผู้ออกแบบโครงการเล่าให้ฟังว่าการวางผังเมืองการออกแบบบริเวณเขตมารุโนะอุจิ เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก

เพราะสถานที่แห่งนี้เป็นเขตเมืองเก่า

โจทย์คือทำอย่างไรให้เมืองเก่ากับเมืองใหม่ผสมผสานกันอย่างลงตัว เราจึงต้องมาหารือกับภาครัฐ และชุมชนดั้งเดิม เพื่อสร้างเมืองให้เกิดความศิวิไลซ์

สิ่งสำคัญไปกว่านั้นจะต้องทำให้ผู้คนในชุมชนเห็นด้วยไปกับสิ่งที่เราจะเนรมิตขึ้นมาใหม่

ถามว่ายากไหม ?

ยากมาก?โคจิ เทระดะ ตอบ

แต่สิ่งที่ยากกว่าคือทำอย่างไรให้มีผู้คนหมุนเวียนกันตลอดทั้งกลางวัน และกลางคืน เราจึงออกแบบให้ชั้นใต้ดินของทุกอาคารต้องมีสภาพแวดล้อมที่ดี

มีชีวิต

ด้วยการออกแบบให้มีร้านค้าต่างๆ มากมายอาศัยอยู่ภายในอาคาร เพื่อให้ผู้คนมาจับจ่ายใช้สอย รวมถึงนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกด้วย

ที่อยากจะมาเที่ยวย่านกินซ่า เพราะที่นี่จะมีสินค้าแบรนด์เนมระดับโลกหลายร้านมารวมตัวกันอยู่ที่นี่ สำคัญไปกว่านั้น เราจะออกแบบอย่างไรเพื่อให้ชุมชนดั้งเดิมของเขาได้ประโยชน์ร่วมกัน

สิ่งเหล่านี้คือโจทย์แรกๆ ที่เราคิด

ซึ่งผมฟังแล้วก็ให้เข้าใจทันทีว่าเพราะเขาใส่ใจความรู้สึกของผู้คนก่อน จึงค่อยนำมาประยุกต์ใช้ในการดำเนินธุรกิจ

แต่ลึกลงไปกว่านั้น ผมทราบจากการฟังบรรยายสรุปในเวลาต่อมาว่ามิตซูบิชิ กรุ๊ปให้ความสำคัญกับเรื่องการบริหารจัดการทรัพยากรมนุษย์อย่างมาก

ทุกอย่างจะต้องครบคุณภาพทั้งสิ้น

เพราะเขาเชื่อว่า “คน” ทำให้องค์กรประสบความสำเร็จ ดังนั้น คนของเขาไม่ว่าจะอยู่ในธุรกิจรถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า กล้องถ่ายรูปอย่างนิคอน เบียร์อย่างคิริน

โรงแรม

คอนโดมิเนียม

หรือแม้แต่การเข้าไปถือหุ้นในธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ของไทย โดยใช้บริษัทลูก (MUFG) เข้าไปถือหุ้น และบริษัทเอพี

เขาต่างสร้าง “คน” ของเขาในทุกส่วนย่อยของการดำเนินธุรกิจอย่างมีคุณภาพทั้งสิ้น

สิ่งต่างๆ เหล่านี้เองจึงทำให้มิตซูบิชิ กรุ๊ปเติบโตอย่างเงียบๆ ไม่หวือหวา โดยที่เราเองก็ไม่เคยรู้มาก่อนว่าอาณาจักรธุรกิจของกลุ่มบริษัทนี้จะสยายปีกไปที่ไหนอีกบ้าง

น่าสนใจทีเดียว ?

 


 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image