แท็งก์ความคิด : สวมหัวใจนักกีฬา

แท็งก์ความคิด : สวมหัวใจนักกีฬา

แท็งก์ความคิด : สวมหัวใจนักกีฬา

“เทนนิส-พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ” นักกีฬาเทควันโด้ทีมชาติไทยที่คว้าเหรียญทองโอลิมปิกที่โตเกียว ประเทศญี่ปุ่นมาหมาดๆ ทำให้ตระหนักถึงความสำคัญของเวลา

การแข่งขันนัดชิงชนะเลิศระหว่าง น้องเทนนิส กับ อาเดรียน่า เซเรโซ่ อิเกลเซียส จากสเปน ทำให้แฟนๆ ใจหายใจคว่ำ

ทั้งคู่จดจ้อง ยกเท้าหวด แต้มสูสี

Advertisement

ยกสุดท้ายช่วงใกล้หมดเวลา คะแนนของ อาเดรียน่า นำน้องเทนนิสอยู่ 1 แต้ม

แต่แค่ช่วง 7 วินาทีสุดท้าย น้องเทนนิสก็พลิกเอาชนะ อาเดรียน่าไป 1 คะแนน

7 วินาทีนี้ทำให้คนหนึ่งได้เหรียญทอง อีกคนหนึ่งได้เหรียญเงิน

Advertisement

น้องเทนนิสให้สัมภาษณ์หลังรับเหรียญรางวัลว่า ช่วงท้ายเกมไม่รู้ว่าเวลาเหลือเท่าไหร่ แต่อยากทำให้เต็มที่ เพราะแต้มตามอยู่

คาถาของน้องเทนนิสคือ เวลายังเหลืออยู่ ทำให้เต็มที่

ถ้าเต็มที่แล้วหมดเวลา แพ้ก็แพ้ ไม่เป็นไร

เข้าใจว่านี่นักกีฬาทุกคนได้รับการฝึกฝนให้เป็นเช่นนี้

และแล้วเวลาที่เหลือก็พลิกชีวิตน้องเทนนิส ทำให้ได้บันทึกในประวัติศาสตร์นักกีฬาโอลิมปิก

ชัยชนะของน้องเทนนิส จะมองเพียงเวลาปัจจุบันอย่างเดียวคงไม่ได้

หลายคนบอกว่า เป็นนักกีฬานี่ดีนะ ชนะได้เหรียญทองแล้วกวาดเงินรางวัลนับสิบล้าน

แต่หากมองย้อนกลับไปก่อนที่จะได้รับเหรียญรางวัล น้องเทนนิสได้ใช้เวลาฝึกปรือฝีมือมานาน

ตามประวัติน้องเทนนิสชอบการเล่นกีฬาทุกชนิด

ตอนอายุ 7 ปี น้องเทนนิสมีโอกาสสัมผัสกีฬาเทควันโดตามพี่ชายเล่น

พออายุ 9 ขวบ ได้ลงแข่งเทควันโดที่จังหวัดภูเก็ต แต่แพ้ และยังโดนเพื่อนล้อ

ว่ากันว่าความพ่ายแพ้ในครั้งนั้นกลายเป็นแรงผลักดันให้น้องเทนนิสเอาจริงเอาจัง

น้องเทนนิสซ้อมทุกวัน ลงแข่งแทบทุกรายการ

เรียกได้ว่าตั้งแต่อายุ 9 ขวบ จนถึงปัจจุบันอายุ 23 ปี น้องเทนนิสใช้เวลาอยู่กับเทควันโด ตลอด

ไต่เต้าจากไร้เหรียญเป็นได้เหรียญ

คว้าชัยตั้งแต่ระดับจังหวัด ระดับชาติ อาเซียน เอเชีย แล้วก็ระดับโลก

การใช้ชีวิตอยู่กับเทควันโดส่งผลให้น้องเทนนิสมีวันนี้

การใช้เวลาทุกวินาทีให้ดีที่สุดทำให้เธอได้สิ่งที่ดีที่สุด

เวลาดังกล่าวไม่ได้เป็นของใครคนใดคนหนึ่ง

ทุกคนต่างมีเวลาเป็นของตัวเอง

1 วัน มี 24 ชั่วโมง 1 ชั่วโมง มี 60 นาที 1 นาที มี 60 วินาที

คนที่ประสบความสำเร็จก็มีเวลาเท่านี้ คนที่ไม่ประสบความสำเร็จก็มีเวลาเท่านี้

แม้บางคนอาจจะต้องแบ่งทอนเวลาไปกับความอยู่รอดมากกว่าบางคน

แต่หากบริหารเวลาได้ดีกว่า โอกาสประสบความสำเร็จก็ยังมี

ในทางธรรม พระพุทธองค์เคยถามพระสาวกว่านึกถึงความตายบ่อยไหม

สาวกตอบว่านึกถึงวันละหลายครั้ง แต่สำหรับพระพุทธองค์แล้ว ระลึกถึงความตายทุกลมหายใจ

เฉกเช่นกับการแสวงหาทางสงบ

บางคนใช้เวลานั่งสมาธิเพื่อหาความสงบ แต่พอลุกขึ้น ความสงบก็หายไป

ขณะที่บางคนหลังจากนั่งสมาธิแล้ว ยังดำรงสติ ยืน เดิน นั่ง นอน รู้ตัวตลอด ความสงบก็บังเกิดนานกว่า

ตอกย้ำว่า คนที่ปฏิบัติมาก ย่อมมีโอกาสมาก

การใช้เวลาให้คุ้มค่าจึงมีความสำคัญ

เช่นเดียวกับดำรงชีวิต ยิ่งในขณะนี้ สถานการณ์โควิด-19 ระบาดไม่หยุดทำให้หลายคนต้องหยุดนิ่ง

บางคนทำงานอยู่ที่บ้าน บางคนไม่มีงานทำ

แต่เวลาของทุกคนยังเดินอยู่ตลอดเวลา

ทุกคนยังมีอยู่เท่ากัน

1 วัน มี 24 ชั่วโมง 1 ชั่วโมง มี 60 นาที 1 นาที มี 60 วินาที

เวลาที่เท่ากัน จะใช้ให้คุ้มค่าที่สุดได้อย่างไร เรื่องนี้แต่ละคนต้องแสวงหากันเอง

แต่อย่าลืมว่า ทุกคนมีเวลา
ทุกคนมีโอกาสใช้เวลาให้คุ้มค่า

ทำทุกอย่างให้เต็มกำลัง ส่วนผลลัพธ์จะออกมาอย่างไรต้องยอมรับ

บางทีผลลัพธ์ก็เป็นไปตามหวัง บางครั้งผลลัพธ์ไม่ได้ดังใจ

ไม่ว่าผลจะออกมาเช่นไรต้องยอมรับเหมือนนักกีฬา

ชนะก็ยินดี พ่ายแพ้ก็เสียใจ แต่ไม่ท้อถอยเลิกรา

เพราะหนทางข้างหน้ายังมี เวลาข้างหน้ายังรออยู่

นี่คือหัวใจนักกีฬา เป็นหัวใจของนักสู้

สัปดาห์นี้ดูโอลิมปิกแล้วแช่มชื่น เพราะคนไทยได้เหรียญทอง

แม้นักกีฬาอีกหลายคนจะไม่ได้เหรียญ แต่ได้เห็นลีลาการเล่นที่ทำเต็มกำลัง

เล่นกีฬาเต็มที่ทำให้คนดูมีความสุข

ความสุขที่ได้เห็นหัวใจนักสู้ของนักกีฬาแต่ละคน

ในสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 อยากเห็นทุกคนสวมหัวใจนักกีฬา

ใช้เวลาที่มีอยู่ให้คุ้มค่า ต่อสู้กับความยากลำบากอย่างเต็มที่

ทำทุกอย่างให้เต็มที่ในเวลาที่มีอยู่

ผลลัพธ์ที่ออกมาจะเป็นอย่างไรก็ยอมรับ

แต่อย่าท้อถอย

ห้วงเวลานี้้ต้องสวมหัวใจนักกีฬา

ชนะก็ดีใจ แพ้ก็เสียใจ แต่ไม่ท้อแท้ถอดใจ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image