คอลัมน์ โลกสองวัย : ต่อเรื่องสินค้าอีกวัน

ว่าถึงสินค้าไทยที่คนไทยอาจไม่เคยรู้จักแต่ควรรู้ไปแล้วหลายอย่าง โดยเฉพาะสินค้าบริโภค ในรายการยาสีฟันวิเศษนิยม วันนี้มียาสีฟันยี่ห้อฝาแฝดคือ ทิพย์นิยม ใครเคยใช้บ้างครับ

คุณย่าผินเป็นผู้ใจบุญ มีศรัทธาในบวรพุทธศาสนา บริจาคเงินให้กับมูลนิธิอภิธรรมมหาธาตุเมื่อกว่า 50 ปีก่อน เป็นเงินมากถึง 4 ล้านบาท ไม่น้อยใช่ไหมครับ น้องหนู

สินค้าไทยที่มีอายุกว่า 100 ปีอีกประเภทหนึ่ง เป็นสินค้าอุปโภค คือปูนตราช้าง ของบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด วันนี้เปลี่ยนชื่อเป็น SCG เครือซิเมนต์ไทย มีอายุ 103 ปี กำเนิดจากพระราชประสงค์พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ให้ก่อตั้งบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด เมื่อ พ.ศ.2456 ด้วยพระราชประสงค์จะให้ประเทศไทยลดการพึ่งพาการนำเข้าปูนซีเมนต์จากต่างประเทศ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ใช้ “ช้างเผือก” เป็นตราสัญลักษณ์ ตราช้างจึงถือกำเนิดมาตั้งแต่นั้น

น้องหนูเคยเห็นไม้ขีดไฟตราพญานาคไหม ผลิตเมื่อ พ.ศ.2453 เป็นไม้ขีดไฟยุคแรก ผลิตโดยบริษัท ไม้ขีดไฟ จำกัด ช่วงหนึ่งเจ้าของขายกิจการให้ชาวต่างชาติ แต่วันนี้คนไทยซื้อกิจการกลับมาอีกครั้ง เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น บริษัท จีไอเอฟ ไทยแมช จำกัด แม้วันนี้คนไทยไม่นิยมใช้ไม้ขีดไฟกัน แต่ไม้ขีดไฟตราพญานาคยังไม่ตกยุค ยังเป็นไม้ขีดไฟที่วางบนชั้นในห้างได้ไม่น้อยหน้าไฟแช็ก

Advertisement

สินค้าบริโภคประเภทเครื่องดองของเมาอีกอย่างหนึ่ง คือ “เบียร์สิงห์” เป็นเบียร์ยี่ห้อแรกของไทย ของบริษัท บุญรอด บริวเวอรี่ จำกัด ผู้ก่อตั้งคือ พระยาภิรมย์ภักดี (บุญรอด เศรษฐบุตร) เหตุเพราะพระยาภิรมย์ภักดีได้ชิมเบียร์เยอรมันแล้วถูกใจ จึงคิดว่าน่าจะผลิตขายในเมืองไทย จึงตั้งโรงเบียร์ขึ้นเมื่อ พ.ศ.2473 ที่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา บางกระบือ

เบียร์สิงห์ออกจำหน่ายครั้งแรกเมื่อ พ.ศ.2477 บรรดานักดื่มทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศชมว่ากลมกล่อม เป็นที่ถูกใจถูกคอ ยังเป็นเบียร์ชั้นนำมาถึงทุกวันนี้

สินค้าอุปโภคอีกชนิดหนึ่ง น้องหนูน่าจะรู้จักดี แม้วันนี้จะมีสินค้าชนิดเดียวกันออกมาแข่ง คือ “พู่กัน” ที่เรียกชื่อจนคิดว่าเป็นชื่อพู่กันไปแล้ว คือ “พู่กันสง่ามะยุระ” กำเนิดเมื่อ พ.ศ.2479 ผู้ผลิตคือ นายสง่า มะยุระ จิตรกรชาวอำเภอศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี

Advertisement

สง่า มะยุระ เขียนภาพเป็นอาชีพ ต่อมาเรียนทำพู่กันจากครูอาจารย์ จึงคิดทำพู่กันจำหน่าย เริ่มจากแบบที่เรียนมา คือนำขนหูวัวมาใส่หลอด จากนั้นจึงไปซื้อพู่กันที่นำเข้าจากเมืองนอกมาดูเป็นตัวอย่าง และพัฒนาดัดแปลงเป็นพู่กันขายเอง

เมื่อกิจการขายพู่กันดีขึ้น จึงเปิดโรงงานทำพู่กันเป็นโรงงานแห่งแรกของไทย ถึงวันนี้ น้องหนูนักเรียนที่เรียนวาดเขียนยังต้องใช้พู่กันสง่ามะยุระ

สินค้าอีก 2-3 อย่างที่คนไทยรุ่นเดียวกับข้าพเจ้า (ผู้เขียน) และรุ่นนี้รู้จัก คือแป้งเย็นตรางู อายุ 68 ปี ของห้างขายยาอังกฤษตรางู แต่ไม่ได้กำเนิดที่อังกฤษ ก่อตั้งโดยหมอฝรั่งเมื่อ พ.ศ.2435 ต่อมาเมื่อ พ.ศ.2471 นายล้วน หรือหมอล้วน ว่องวานิช ซื้อกิจการห้างขายยามาบริหาร ถึง พ.ศ.2490 จึงคิดสูตรแป้งเย็นขึ้น เพื่อใช้รักษาอาการผดผื่นคันให้คนไข้ แป้งเย็นตรางูจึงถือกำเนิดมาตั้งแต่นั้น และเป็นแป้งเย็นยี่ห้อแรกของโลก น้องหนูคงเคยใช้ มีทั้งขนาดกระป๋องใหญ่ กระป๋องกลาง และกระป๋องเล็ก เมื่อก่อนกระป๋องผลิตจากสังกะสี ต่อมาจึงเปลี่ยนเป็นพลาสติก

สินค้าอีกประเภทหนึ่งที่คนไทยใช้ติดตัวติดกาย เป็นสินค้าอุปโภคยอดนิยม โดยเฉพาะผู้ชายไทย คือ เสื้อยืดตราห่านคู่ ของบริษัท โรงงานไทยแลนด์นิตติ้ง จำกัด มีมาตั้งแต่ พ.ศ.2496 ด้วยความเรียบง่าย ไม่มีลายสี เป็นพื้นขาว เนื้อผ้านิ่มบางเบาเวลาสวมใส่ และราคาย่อมเยา เสื้อยืดตราห่านคู่มีทั้งแขนสั้น เสื้อกล้าม 2-3 สี และกางเกงในของผู้ชาย วันนี้ยังใช้ติดตัวโดยเฉพาะเสื้อกล้ามและเสื้อคอกลม

สินค้าที่มีผู้ไลน์มาบอกนี้พอจะเตือนให้รำลึกถึงความหลังได้ไม่น้อยใช่ไหมครับ คุณพี่

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image