(โลกใหม่) หุ่นยนต์การแพทย์ ผ่าตัด ปลูกถ่าย ฟื้นฟู เปลี่ยนผ่านสู่อนาคต

ISTANBUL, TURKEY - January 11, 2016: Da Vinci Surgery. Minimally Invasive Robotic Surgery with the da Vinci Surgical System. Medical robot. Robotic Surgery. Medical operation involving robot.

ท่ามกลางบรรยากาศของการให้ความสำคัญในด้านสุขภาพที่มากขึ้นทุกทีหลังโรคระบาดแห่งศตวรรษจากไวรัสโควิด-19 พร้อมๆ กับความล้ำหน้าของเทคโนโลยีที่ก้าวกระโดด ล่าสุด มีการจัดสัมมนา หุ่นยนต์การแพทย์ Reinventing University : Mahidol Medical Robotics Program โดยคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับอิมพีเรียล คอลเลจ ลอนดอน และสมาคม IEEE Robotics Automation Society Thailand Chapter เพื่อถอดบทเรียนและแนวโน้มของหุ่นยนต์การแพทย์ พัฒนาความเป็นเลิศให้สอดคล้องกับทิศทางการผลิตกำลังคนสมรรถนะสูงเฉพาะทางตามความต้องการของประเทศ รองรับการลงทุนในอุตสาหกรรมยุทธศาสตร์ของไทย โดยมีศาสตราจารย์ นายแพทย์บรรจง มไหสวริยะ อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล และ รศ.ดร.นภเรณู สัจจรักษ์ ธีระฐิติ รองอธิการบดีฝ่ายวิเทศสัมพันธ์และสื่อสารองค์กร มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกล่าวเปิดงานผ่านระบบประชุมออนไลน์

ระบบหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัดดาวินชี่

รศ.ดร.จักรกฤษณ์ ศุทธากรณ์ คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เผยว่า งานครั้งนี้เป็นความร่วมมือของมหาวิทยาลัยมหิดล ที่กำลังมุ่งเป็นมหาวิทยาลัยระดับโลก และอิมพีเรียล คอลเลจ ลอนดอน ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลกที่มีชื่อเสียงด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและหุ่นยนต์การแพทย์ความโดดเด่นของมหิดลคือเป็นมหาวิทยาลัยเดียวในโลกที่มีโรงเรียนแพทย์ถึง 3 แห่ง ตลอดระยะเวลา 20 ปี ที่คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดศูนย์เครือข่ายวิจัย BART LAB สร้างบุคลากรและวิจัยพัฒนาวิทยาการหุ่นยนต์การแพทย์ต่อเนื่องมา เพื่อพัฒนาศักยภาพของบุคลากรและขีดความสามารถของประเทศไทย ทั้งนวัตกรสร้างหุ่นยนต์ เครื่องมือฝึกผ่าตัดสำหรับแพทย์ การร่วมวิจัยพัฒนานวัตกรรมโดยวิศวกรและบุคลากรแพทย์ที่ตอบสนองการใช้งานได้จริงและทำงานร่วมกับแพทย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การพัฒนาความก้าวหน้าของหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัด หุ่นยนต์ฟื้นฟูสุขภาพ หุ่นยนต์แพทย์อัจฉริยะตลอดจนอุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ของไทย วิศวกรรมชีวการแพทย์ยุคใหม่ต้องไม่หยุดนิ่งที่จะเปลี่ยนผ่านสู่อนาคตไปกับ Deep Tech นำเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่าง Metaverse มาใช้ประโยชน์ด้านสุขภาพและการแพทย์

‘โลกเสมือน’แนวโน้มของพรุ่งนี้ ที่‘แม่นยำ’กว่าเก่า

ศ.เฟอร์ดินานโด โรดริเกซ เบนา

ศาสตราจารย์ เฟอร์ดินานโด โรดริเกซ เบนา ผู้อำนวยการศูนย์หุ่นยนต์การแพทย์แฮมลีน (Hamlyn) และหัวหน้าห้องปฏิบัติการเมคคาทรอนิกส์ในการแพทย์มหาวิทยาลัย อิมพีเรียล คอลเลจ ลอนดอน สหราชอาณาจักร ถอดบทเรียนและแนวโน้มของหุ่นยนต์การแพทย์ ว่า เรากำลังก้าวสู่โลกใหม่ของหุ่นยนต์ทางการแพทย์ ซึ่งแบ่งเป็น 3 ประเภทหลัก 1.หุ่นยนต์ผ่าตัด 2.หุ่นยนต์ฟื้นฟูสมรรถภาพ และ 3.หุ่นยนต์บริการทางการแพทย์ ทั้งนี้ การดำเนินงานของศูนย์หุ่นยนต์การแพทย์ Hamlyn เป็นศูนย์กลางการวิจัยแบบบูรณาการ การสอนข้ามคณะ และการวิเคราะห์แปลผลการทดสอบทางคลินิก

Advertisement

แนวโน้มการพัฒนาหุ่นยนต์ในการผ่าตัด ในคอนเซ็ปต์ Hands-On Robotics ก้าวผ่านอุปสรรคความท้าทายสู่การใช้งานที่ง่ายมีประสิทธิภาพสูงในระบบผ่าตัด เช่น การผ่าตัดหัวเข่าด้วยหุ่นยนต์ ช่วยเพิ่มความแม่นยำของการผ่าตัด โดยผสานระบบผ่าตัดได้อย่างราบรื่นด้วยระบบอัตโนมัติอย่างไร้รอยต่อ และการใช้อุปกรณ์อัจฉริยะ นอกจากนี้ Augmented Reality (AR) เทคโนโลยีโลกเสมือนในการผ่าตัดจะมีบทบาทสำคัญในการแพทย์ ซึ่งมีระบบคอมพิวเตอร์สนับสนุนและเชื่อมต่อโดยแพทย์ใช้ AR Headsets เข้าไปยังขั้นตอนการทำงานของหุ่นยนต์ผ่าตัดโดย Headset จะสื่อสารโดยตรงกับหุ่นยนต์ผ่าตัด การปรับ Calibrated ระบบประสานงานของหุ่นยนต์ รวมทั้งระบบสามารถทำภาพโฮโลแกรม 3 มิติ ของสรีระเป้าหมายที่จะผ่าตัดได้โดยตรงด้วย

สำหรับหุ่นยนต์ผ่าตัด ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยแพทย์ในการผ่าตัด ขณะที่มีการพัฒนาเทคโนโลยีระดับสูงมากขึ้น อาทิ Machine Learning สามารถจับภาพอวัยวะมนุษย์ได้แม่นยำ ส่วนอุปกรณ์อัจฉริยะจะมีขนาดเล็กลงและมีประสิทธิภาพมากขึ้นสำหรับมัลติสเกล Self Steering Cochlear Implants ทำให้สามารถวิเคราะห์การออกแบบ งานประดิษฐ์ (Fabrication) และกลไกควบคุมจุดผ่าตัด ระบบเชื่อมต่อหุ่นยนต์และ AR สนับสนุน ตลอดจนหุ่นยนต์ Endovascular Robotics หรือ CathBot สำหรับผ่าตัดหลอดเลือด และการบังคับทิศทางด้วยเข็ม Biomimetic Needle Steering เป็นต้น

เปิดมุมมองถอดบทเรียนและแนวโน้มหุ่นยนต์การแพทย์

“ในอนาคตการพัฒนาพลังของซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์จะยิ่งมีศักยภาพพุ่งสูง เทคโนโลยีที่น่าตื่นตาตื่นใจจะมาถึงด้วยคุณสมบัติที่ชาญฉลาดมากยิ่งขึ้น ราคาถูกลงและมีขนาดเล็กลงเทคโนโลยีใหม่ที่ช่วยเสริมสร้างพลานุภาพของคอมพิวเตอร์ อย่างคลาวด์คอมพิวติ้ง เอไอ เทคโนโลยี AR ที่จะเสริมสร้างการมองเห็นและเข้าไปได้ แต่ก็ต้องการทักษะความเชี่ยวชาญระดับสูงภายใต้มาตรฐานและแนวทางปฏิบัติอันเข้มงวด” ผู้อำนวยการศูนย์หุ่นยนต์การแพทย์แฮมลีนกล่าว

Advertisement

เปิดปมปัญหา ไทยซื้อ ไทยใช้ ยังไม่มีเทคโนโลยีของตัวเอง

ด้าน รศ.ดร.นายแพทย์สิทธิพร ศรีนวลนัด Chief of Urology คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล กล่าวถึงเทคโนโลยีหุ่นยนต์ผ่าตัดในประเทศไทยซึ่งเข้ามาในปี 2550 ใช้รักษาโรคต่างๆ เช่น ผ่าตัดมะเร็ง ภาวะอุดตันโดยเฉพาะอย่างยิ่งมะเร็งต่อมลูกหมากซึ่งได้ผ่าตัดแล้วรวม 2,300 ราย นับว่ามากที่สุดในภูมิภาคอาเซียน หุ่นยนต์ของศิริราชพยาบาล มี 9 ประเภท หนึ่งในนั้นเป็นระบบหุ่นยนต์ดาวินชี่ ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ตัวเลขทั่วโลกมีระบบดาวินชี่ ณ 31 มี.ค.2564 จำนวนรวม 5,989 ยูนิต แบ่งเป็นสหรัฐ 3,640 ยูนิต ยุโรป 1,093 ยูนิต เอเชีย 961 ยูนิต และภูมิภาคอื่นๆ 295 ยูนิตในช่วง 10 ปี การผ่าตัดกระดูกสันหลังด้วยระบบหุ่นยนต์ในประเทศไทยมีราว 1,000 เคส โดย รพ.ศิริราชพยาบาลมากเป็นอันดับหนึ่ง และ รพ.รามาธิบดี เป็นอันดับสอง อาจกล่าวได้ว่าความก้าวหน้าและความสำเร็จของการพัฒนาการผ่าตัดด้วยหุ่นยนต์มาจาก 3 ปัจจัย คือ 1.การศึกษาวิจัยและพัฒนา 2.การเรียนการสอน ผลิตบุคลากร 3.การบริการทางการแพทย์

“ปัญหาคือประเทศไทยเป็นผู้ซื้อและผู้ใช้เทคโนโลยี เราไม่มีเทคโนโลยีที่เป็นของเราเอง ทั้งนี้แนวโน้มในอนาคตจะเป็นระบบผ่าตัดครบทุกขั้นตอนที่ควบคุมและจบในกระบวนการเดียวกันอย่างอัตโนมัติ ซึ่งหลายเทคโนโลยี เช่น IoT, AR ช่วยให้เกิดประสบการณ์เรียนรู้เพื่อปฏิบัติการได้อย่างถูกต้อง แม่นยำ อนาคตเราต้องเชื่อมต่อระบบสื่อสารไร้สายกับ AR ผสานกับอีกหลายศาสตร์ ซึ่งหลายประเทศได้ดำเนินการกันแล้วโดยรัฐบาลสนับสนุนเงินทุน เช่น เกาหลี ญี่ปุ่น สิงคโปร์ จีน” รศ.ดร.นายแพทย์สิทธิพรสะท้อนปัญหา

แพทย์รามาฯ พัฒนาหุ่นยนต์

ผ่ามะเร็งต่อมใต้สมองครั้งแรกของอาเซียน

แพทย์สวม AR HeadSet เห็นภาพโฮโลแกรม 3 มิติของสมองเพื่ออำนวยการผ่าตัด

รศ.นาวาโท ดร.สรยุทธ ชำนาญเวช คณะแพทยศาสตร์รามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวถึงการพัฒนาหุ่นยนต์ผ่าตัดกระดูกสันหลัง โครงการ The Assistive Cobot for Spinal Surgery (ACoSS) ในขั้นตอนการผ่าตัด โดยสแกนพื้นผิวที่จะผ่าตัด ทำแผนที่ผ่าตัด เฟสที่ 1 เป็นการทดสอบผ่าตัดกระดูก และเฟสที่ 2 เป็นการทดสอบผ่าตัดกับครูใหญ่ นอกจากนี้ยังพัฒนาหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัดมะเร็งต่อมใต้สมองผ่านช่องรูจมูก นับเป็นผู้บุกเบิกครั้งแรกของประเทศไทยและอาเซียน เมื่อมองไปในอนาคต เรากำลังศึกษาเทคโนโลยี AR/VR ที่จะพัฒนาการผ่าตัดในอนาคต รวมทั้งสาร Polymer ซึ่งจะมีบทบาทในการปลดปล่อยยาในปริมาณและเวลาได้แม่นยำตามที่กำหนด

ในด้านหุ่นยนต์ฟื้นฟูสมรรถภาพ อ.แพทย์หญิงพีรยา รุธิรพงษ์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี ภาควิชาเวชศาสตร์ฟื้นฟู กล่าวว่า ไทยกำลังก้าวสู่สังคมสูงวัยซึ่งจะมีปัญหาทางสุขภาพตามมามากขึ้น เราพัฒนาระบบหุ่นยนต์ Sensible Step ของไทย ซึ่งได้รับรางวัลชนะเลิศการออกแบบเชิงนวัตกรรมใช้สำหรับฝึกเดินในผู้ป่วยทางสมอง โดยออกแบบให้เป็นเกม สามารถฟื้นฟูได้ดีกว่าแบบเดิม ทั้งยังใช้ประโยชน์ในการฝึกใช้แขนสำหรับผู้ป่วยโรคสโตรกหรือหลอดเลือดสมองได้ผลดียิ่ง นอกจากนี้ยังพัฒนา ระบบหุ่นยนต์อุปกรณ์สวมเดินสำหรับผู้ป่วยโรคพาร์กินสัน ช่วยให้สามารถเดินได้ทันทีโดยไม่ต้องเรียนรู้มาก่อน

การรักษาฟื้นฟูสมรรถภาพได้เร็วจะช่วยให้ผู้ป่วยห่างไกลจากความพิการ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image