คอลัมน์แท็งก์ความคิด : กาย ใจ จิต

ผู้เขียน	นฤตย์ เสกธีระ

คอลัมน์แท็งก์ความคิด : กาย ใจ จิต

ปลายปีเปิดคลิปฟังพระธรรมเป็นสิริมงคล
ได้ฟังธรรมเทศนาจาก พระอาจารย์ชานนท์ ชยนนฺโท วัดป่าเจริญธรรม จ.ชลบุรี แล้วมีแนวทาง

เป็นแนวทางที่พระพุทธองค์ทรงสั่งสอน แล้วพระสงฆ์สาวกนำมาสอนสั่งต่อ

เป็นหนทางที่มีเป้าหมายคือการพ้นทุกข์

ฟังแล้วสนุก ใครว่าพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าไม่สนุก อย่าไปเชื่อ

เพราะพระธรรมบอกเล่าให้ทุกคนมองเห็นความจริง

อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา คือ ความจริง

พระอาจารย์ชานนท์แนะนำให้รู้จัก กาย ใจ และจิต

“กาย” มี ธาตุดิน 20 ได้แก่ ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง เนื้อ เอ็น กระดูก เยื่อในกระดูก ม้าม หัวใจ ตับ พังผืด ไต ปอด ลำไส้ใหญ่ ไส้น้อย อาหารใหม่ อาหารเก่า เนื้อในสมอง

ธาตุน้ำ 12 ประกอบด้วย น้ำดี เสลด น้ำเหลือง เลือด เหงื่อ มันข้น น้ำตา มันเหลว น้ำลาย น้ำมูก ไขข้อ มูตร

รวมเป็น 32 ประการ

และผสมกับธาตุลม และธาตุไฟ ก่อเกิดเป็นรูปเป็นร่างที่นั่งนอนยืนเดินกันอยู่นี่แหละ

ส่วน “ใจ” เกี่ยวโยงกับความรู้สึกทุกข์สุข ความทรงจำ ความคิดปรุงแต่ง

ขณะที่ “จิต” เป็นพลังงาน มีวิญญาณคอยรับรู้อารมณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น

เมื่อจิตตั้งมั่น รู้สึก “กาย” เป็น “กาย” รู้สึก “ใจ” เป็น “ใจ” ไม่ได้เป็นตัวเรา

เมื่อนั่งยืนเดินนอน รู้สึกว่า นั่งยืนเดินนอน

กายที่กำลังทำเช่นนั้นไม่ใช่ตัวเราของเรา

แม้จิตจะบังคับกายได้ แต่เมื่อเวลามาถึง กายแก่ชราและต้องตายจาก โดยไม่มีสิ่งใดมาบังคับหยุดยั้งได้

ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ แม้มีจิตกล้าแข็งแค่ไหนก็บังคับไม่ได้

เป็นไปตามกฎไตรลักษณ์ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา

ฟังไปฟังมา มองหาตัวเราไม่เจอ พระอาจารย์บอกว่า ไม่เจอเพราะตัวเราไม่มี

เมื่อจิตมองเห็นกาย และรู้ว่ากายไม่ใช่ตัวเรา

เมื่อจิตมองเห็นใจ และรู้ว่าใจไม่ใช่ตัวเรา

ทุกอย่างล้วนเป็นธรรมชาติ

ทุกข์เมื่อเกิดขึ้น ทุกข์ดำรงอยู่ แล้วก็ดับไป

สุขก็เช่นกัน เกิดขึ้น ดำรงอยู่ แล้วดับไป

ความโลภ โกรธ หลง และอารมณ์อื่นๆ ล้วนเป็นแบบเดียวกัน

เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป

พระท่านว่า หากเราเห็นว่าอะไรๆ ไม่ใช่ตัวเรา โอกาสที่จะปล่อยวางจากการยึดติดย่อมมีมาก

ใครปลดล็อกจากการยึดติดได้ ถือว่ามาถูกทางแล้ว

การฟังธรรมเทศนาเช่นนี้มีความสุข ฟังแล้วสนุก และได้ประโยชน์

หลายคนที่ลงมือปฏิบัติตามคำสอนพระพุทธองค์แล้วเริ่มเห็นผล

เป็นประโยชน์ต่อกาย และใจ

แนวทางการปฏิบัติเช่นนี้เปิดเผยต่อสาธารณะ ไม่สงวนลิขสิทธิ์

ใครใคร่ปฏิบัติก็ปฏิบัติ

ใครทำมาก ใครทำถูก จะได้รับผลตามที่ปฏิบัติ

ทำมาก แต่ไม่ถูก ความคืบหน้าอาจไม่ปรากฏให้เห็น

ขณะที่ทำถูก แต่ทำไม่มาก เส้นทางสู่ความสำเร็จก็อยู่ห่างไกล

ดังนั้น ทำมาก และทำถูกต้อง คือ หนทางที่ควรเป็น

ปัจจุบันนี้ เทคโนโลยีทันสมัย หลายคนเกรงกลัวภัยจากออนไลน์

แต่พระสงฆ์ท่านทันสมัย ใช้ออนไลน์เผยแผ่พระธรรม

หลายรูปนำวิชามาเผยแผ่ สร้างคุณูปการแก่พุทธศาสนิกชนถ้วนทั่ว

ใครได้เปิดฟัง ทำความเข้าใจ และหมั่นปฏิบัติ

หลักธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธองค์จะส่งเสริมชะตาชีวิต

กาย ใจ และจิต เสมือนกับเป็นสหาย

สามสหายนี้อยู่ร่วมกัน กายและจิตมาก่อนตามด้วยใจ

เมื่อถึงเวลาต้องจาก กายไปพร้อมกับใจ ส่วนจิตนั้นขึ้นอยู่กับการปฏิบัติ

พระเถระผู้บรรลุธรรม อาจไม่ต้องไปต่อแล้วเพราะบรรลุนิพพาน

ส่วนปัจเจกชนคนธรรมดา ต้องยอมรับการเวียนว่ายไปตามจิต

ช่วงส่งท้ายปีฟังพระธรรมเทศนา ช่วยขัดเกลาจิตใจ

ฟังข้อชี้แนะการดำเนินชีวิตท่ามกลางความสับสนของโลก

แม้โลกภายนอกจะสับสน แต่ขอให้โลกภายในสงบตั้งมั่น

เท่านี้จิตและใจก็มีพลัง

ฟังธรรมแล้วปฏิบัติไปตามขั้นตอน ก่อเกิดความสุขสนุกสนานเบิกบานใจ

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่บีบคั้นอาจทำให้กายอ่อนเพลีย แต่หากได้นำธรรมมาปฏิบัติ บ่มเพาะจิตใจให้เข้มแข็ง

พลังจากการบ่มเพาะจะช่วยผลักดันให้กาย ใจ และจิต ขับเคลื่อนชีวิตให้ไปต่อ

เดินไปข้างหน้าตามวิถีแห่งไตรลักษณ์

อยู่ในกฎ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา

ได้ฟังคำชี้แนะทางธรรมมาเช่นนี้ มองเห็นว่ามีประโยชน์ จึงอยากบอกต่อ

ในช่วงท้ายปี เผื่อว่าใครสนใจปฏิบัติงาน ไปพร้อมๆ กับปฏิบัติธรรม

ทุกๆ วัน ยืนเดินนั่งนอนอย่างมีสติ ทุกความคิด และความทรงจำ ให้รู้สึกตัวเข้าไว้

มอง กาย เป็น กาย ใจ เป็น ใจ ไม่ใช่ตัวเรา

ยิ่งมองเห็นกฎไตรลักษณ์ตามที่พระพุทธองค์ทรงสั่งสอน

คิดได้ ทำได้เช่นนี้ ถือเป็นสิริมงคล

เป็นของขวัญปีใหม่ที่ไม่ต้องรอให้ใครมอบให้

เพราะทุกปัจเจกสามารถมอบของขวัญอันมีค่านี้ให้แก่ตัวเองได้ทุกคน