จิตรกร เผด็จศึก ประธานหอการค้าฉะเชิงเทรา ‘เมืองสมาร์ทแล้ว อาชีพก็ต้องสมาร์ทด้วย’

ถือเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงจนฉุดไม่อยู่ สำหรับฉะเชิงเทรา จังหวัดเล็กๆ ในภาคตะวันออกที่ส่องประกายชวนให้จับตาในความเจริญรุดหน้าด้านการพัฒนาเมืองโดยได้รับการรับรองเป็น “เมืองอัจฉริยะ” หรือ Smart City อย่างเป็นทางการแล้วจากคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนและบริหารโครงการเมืองอัจฉริยะ ผลักดันการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการและการบริหาร เน้นการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน รวม 7 ด้าน หนึ่งในนั้นคือ Smart Mobility พัฒนาระบบรับชำระค่าโดยสารแบบไร้เงินสด เชื่อมต่อระบบออนไลน์ของผู้ให้บริการขนส่งสาธารณะ ยกระดับคุณภาพชีวิต

ในขณะเดียวกัน อีกด้านที่ย่อมต้องพัฒนาควบคู่ นั่นคือเศรษฐกิจการค้าอันจะนำมาซึ่งความกินดีอยู่ดี ดังเช่นมุมมองของ จิตรกร เผด็จศึก ประธานหอการค้าจังหวัดฉะเชิงเทราซึ่งเน้นย้ำว่า

“นอกจากเมืองจะสมาร์ทแล้ว การพัฒนาอาชีพก็ต้องสมาร์ทด้วย”

ภายใต้พันธกิจของการเป็นสถาบันภาคธุรกิจไทยที่เข้มแข็งและเป็นที่ยอมรับ หอการค้าจังหวัดฉะเชิงเทรา มีเครือข่ายอันทรงประสิทธิภาพ เพื่อร่วมสร้างเศรษฐกิจไทยให้มั่นคงและยั่งยืน

Advertisement

ตลอดระยะเวลาราว 1 ปี บนเก้าอี้ประธานของนักธุรกิจคนดังแห่งเมืองแปดริ้ว มีการประสานความร่วมมือ หารือ รับลูก กระทั่งผนึกกำลังผลักดันร่วมกับทั้งภาครัฐและเอกชน

มุ่งหวังให้ดินแดนแห่งลุ่มน้ำบางปะกงอันเป็นบ้านเกิดเมืองนอนมั่งคั่งและมั่นคง

เพิ่งรับรางวัลหอการค้ายอดเยี่ยม ประจำปี 2564 จากมือ สนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เมื่อวันปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา

Advertisement

“ต้องพัฒนาให้เป็นระบบ เช่น ที่อำเภอสนามชัยเขต ซึ่งมีการส่งเสริมการเลี้ยงวัว เริ่มทำโครงการเมืองวัวพันธุ์ดี และกำลังจะพัฒนาแกะพันธุ์ดีให้เป็นอาชีพใหม่ ส่วนการเกษตรเน้นข้าวหอมมะลิ ใช้วิธีช่วยเหลือตัวเอง ปลูกเอง ขายเอง หาพ่อค้าคนกลางที่มีความเป็นธรรม โดยกำลังดำเนินการต่างๆ ให้เกษตรกรมีรายได้มากขึ้นทั้งจังหวัด” ประธานหอการค้าเมืองแปดริ้วกล่าว

ในวัย 54 ปี จิตรกรผ่านชีวิตที่เจ้าตัวออกปากว่า

“ไม่ได้เป็นคนขายน้ำแข็ง แต่เส้นทางชีวิตผม ฟังแล้วจะหนาวนะ (หัวเราะ)”

เกิดในครอบครัวคนไทยเชื้อสายจีนแต้จิ๋ว

เป็นลูกคนที่ 6 ในพี่น้อง 8 คน ของตระกูลแซ่โง้ว

ฐานะทางบ้านยากจน พ่อแม่ต้องออกไปรับจ้างทำงานเพื่อหาเงินเพื่อเลี้ยงลูกให้เติบใหญ่

เรียนชั้นประถมที่โรงเรียนวัดดอนทอง ตำบลบางตีนเป็ด ก่อนออกไปเป็น “จับกัง” หิ้วปูนอยู่หลายปี หลังจากนั้นเริ่มทำงานต่อตัวถังรถบรรทุก พร้อมๆ กับหาทางร่ำเรียนหนังสือด้วยความใฝ่รู้

“ผมเรียนเยอะมาก ตั้งแต่ศึกษาผู้ใหญ่ การศึกษานอกโรงเรียน กศบป. (โครงการจัดการศึกษาสำหรับบุคคลประจำการ) เรียนรามคำแหง เรียนสุโขทัยธรรมาธิราช ระหว่างนั้น ก็ทำงานไปด้วย ผมขยัน อดออม จนสามารถต่อยอดไปได้เรื่อยๆ ตอนเริ่มทำงานได้วันละ 40 บาท ก็เก็บหมด”

ด้วยความอุตสาหะและสร้างทุกโอกาสของชีวิตจากอุปสรรคที่ผลักดัน จากผู้ใช้แรงงาน และผู้ประกอบการต่อตัวถังรถ จึงขยับขยายสู่ธุรกิจไฟแนนซ์ โลจิสติกส์ จนถึงอสังหาริมทรัพย์

“แรงบันดาลใจคือความจน”

เป็นคำตอบเรียบง่าย ทรงพลัง และไม่ยากเกินจินตนาการ อดีตเด็กยากจนในวันนั้น ไม่เพียงกลายเป็นเศรษฐีแปดริ้วในวันนี้ แต่ยังพ่วงตำแหน่งทางสังคมมากมาย ทั้งประธานและที่ปรึกษามูลนิธิต่างๆ, อุปนายกสมาคมชาวจังหวัดฉะเชิงเทรา, กรรมการส่งเสริมและพัฒนากิจการมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ รวมถึงประธานชมรมวิ่งแปดริ้ว เป็นต้น

ไม่เพียงเส้นทางชีวิตอันมีสีสัน ทว่า วิสัยทัศน์ในฐานะประธานหอการค้าฉะเชิงเทราก็ชวนฟังเพื่อมองไปข้างหน้าถึงวันพรุ่งนี้

•ขอเริ่มต้นที่ ‘สมาร์ทซิตี้’ ทางหอการค้าฉะเชิงเทรามีส่วนร่วมอย่างไรบ้าง?

ฉะเชิงเทราเป็นพื้นที่เกษตรมากถึง 70 เปอร์เซ็นต์ เราจึงส่งเสริมเกษตรกรให้ทันสมัยมากขึ้น เพราะถ้าเกษตรกรไม่ได้รับข้อมูลความรู้ที่ทันสมัยก็ไม่สามารถแข่งขันกับจังหวัดอื่นๆ รวมถึงต่างชาติได้ เราเลยพยายามทำการเกษตรให้เป็นเกษตรอัจฉริยะ ไม่ว่าจะเป็นการให้น้ำผัก การคัดสินค้าต่างๆ ให้ทันสมัย ทำเกษตรปลอดภัย เพราะส่วนใหญ่สินค้าเกษตรทั้งหลายมียาฆ่าแมลงเยอะ แต่ความโดดเด่นของจังหวัดฉะเชิงเทราคือสินค้าเกษตรที่มีความปลอดภัยสูงเนื่องจากเราให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ลงไปรับรองสินค้าเกษตรให้มีจีเอพี (Good Agricultural Practice ; GAP) ทั้งหมด

ในอนาคตที่เรากำลังทำ คือห้องบรรจุภัณฑ์ที่มีมาตรฐานในการส่งสินค้าให้ห้างต่างๆ นี่เป็นสิ่งสำคัญที่จังหวัดฉะเชิงเทรา และหอการค้าฉะเชิงเทราให้การสนับสนุนอยู่

•‘เมืองวัวสวย กระบือพันธุ์ดี’ ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการเด่นของทางจังหวัด หอการค้าฯจะช่วยผลักดันอย่างไรบ้าง?

เมืองวัวสวย ควายพันธุ์ดี เป็นโครงการที่หอการค้าฉะเชิงเทราเห็นว่าสามารถแก้ไขปัญหาเรื่องช้างอยู่กับคนได้ เนื่องจากช้างลงมาทำลายทรัพย์สินทางการเกษตร พันธกิจนี้จึงเป็นเรื่องที่ดี การส่งเสริมการเลี้ยงโคกระบือไม่ต้องไปซื้ออาหาร เนื่องจากในพื้นที่สนามชัยเขตและท่าตะเกียบมีหญ้าและพืชต่างๆ มากมายสามารถเป็นอาหารได้โดยไม่เพิ่มภาระให้เกษตรกร

ต่อไปเรากำลังทำเรื่องโคขุน เลี้ยงจากพื้นๆ แล้วก่อนขาย 3 เดือนจะเอาไปขุนให้โคสมบูรณ์มากขึ้น ตอนนี้มีผู้เชี่ยวชาญมาช่วยกันดูว่าจะทำอย่างไรให้เนื้อโคมีความนุ่มนวล และต่อไปในอนาคตสิ่งที่เราจะทำคือผลักดันให้กลุ่มเกษตรกรที่ทางหอการค้าฉะเชิงเทราให้การสนับสนุนอยู่ทำการแปรรูปสินค้าเพื่อให้มีราคาสูงขึ้น

•นอกจากการเกษตร จุดแข็งอื่นๆ ของฉะเชิงเทราที่มีแนวโน้มพัฒนาต่อเนื่องมีอะไรบ้าง?

อุตสาหกรรม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นอุตสาหกรรมสะอาด มีโรงงานแบตเตอรี่ใหญ่สุดในอาเซียนซึ่งเพิ่งเปิดตัวไปไม่นานมานี้

ในอนาคต การผลิตรถยนต์พลังงานสะอาด ก็ต้องอยู่ในจังหวัดฉะเชิงเทราเยอะขึ้น เรามีอุปกรณ์ ส่วนประกอบต่างๆ ที่อยู่ใกล้ ไม่ต้องไปขนย้ายไกล สรุปแล้ว จุดแข็งของเรามีทั้ง 2 อย่างคือเกษตรและอุตสาหกรรม

สิ่งสำคัญคือมีแม่น้ำบางปะกงซึ่งไม่เคยเหือดหาย มีทั้งน้ำจืด น้ำกร่อยและน้ำเค็ม ผลผลิตมีรสหอมหวาน เช่น มะม่วงน้ำดอกไม้ มะพร้าวของเรา น้ำหอมมาก อย่างของสวนลุงแดงซึ่งขึ้นชื่อ เป็นที่ต้องการของตลาด

•แนวทางการผนึกกำลังกับภาครัฐ ซึ่งล่าสุดผู้ว่าฉะเชิงเทราเพิ่งได้รางวัลสำเภาทองปี 64 สะท้อนการผสานความร่วมมืออย่างดี?

ท่านผู้ว่าฯไมตรี ไตรติลานันท์ เป็นคนฉะเชิงเทรา และเคยทำงานร่วมกันมาตั้งแต่ท่านเป็นปลัดอำเภอ ท่านบอกว่าอันไหนที่มีความทันสมัย มีประโยชน์กับประชาชนในจังหวัด และสามารถพัฒนาได้ ท่านสนับสนุนทุกเรื่อง เพื่อให้ชาวฉะเชิงเทรากินดีอยู่ดีขึ้น

นอกจากสมาร์ทซิตี้แล้ว สิ่งที่ท่านผู้ว่าฯกำลังทำเพิ่มอีกคือ เมืองแกะพันธุ์ดีเพิ่มจากเมืองวัวสวย ควายพันธุ์ดีซึ่งมีการประชุมร่วมกันกับทางปศุสัตว์เพื่อวางแผนดำเนินการแล้ว

•เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมามีการลงนามสัญญาความร่วมมือไทย-จีนเปิดตัวบริษัทโลจิสติกส์ร่วมทุน มองอนาคตหรือเล็งประเทศอื่นๆ ถัดจากนี้อย่างไร?

ปัจจุบัน การทำโลจิสติกส์ ไม่สามารถทำอยู่ได้เฉพาะตัวเอง การร่วมมือกับต่างชาติจะทำให้เรามีคอนเน็กชั่น และช่วยกันทำให้สินค้าของไทยส่งขายได้มากขึ้น โดยเฉพาะจีนซึ่งมีความสัมพันธ์กันมายาวนานอยู่แล้ว ต่อไปคือญี่ปุ่น ซึ่งเราจะทำความร่วมมือซึ่งกันและกันให้มีการพัฒนาด้านโลจิสติกส์ให้ทันสมัยมากขึ้น

•สิ่งที่กังวล หรือเป็นจุดอ่อนที่อยากกำจัด?

ประเด็นโรคติดต่อ ที่นี่เป็นเมืองสบายๆ สไตล์แปดริ้ว ฉะเชิงเทราอยู่ตรงกลาง เป็นชายแดน รอบๆ เรามีนิคมอุตสาหกรรมใหญ่ๆ เยอะ พอมีคนติดโควิดจากข้างนอกเดินทางเข้ามา จึงเป็นจุดอ่อน

•นักธุรกิจรุ่นใหญ่ของฉะเชิงเทราเข้มแข็งมาก มีรุ่นพี่ประสบความสำเร็จเยอะ แล้วรุ่นใหม่เป็นอย่างไร ได้ประสานหารือพูดคุยกันอย่างไรบ้าง?

ฉะเชิงเทราตอนนี้ โดยเฉพาะหอการค้าของเรา มี YEC (Young Entrepreneur Chamber of Commerce Chachaoengsao) คือนักธุรกิจรุ่นใหม่ของชาวฉะเชิงเทราซึ่งเป็นลูกหลานของชาวฉะเชิงเทราโดยกำเนิด พ่อแม่ดำเนินกิจการไว้ให้ รุ่นลูกก็มาต่อยอดธุรกิจ เช่น ฟาร์มไก่ไข่ซึ่งฉะเชิงเทราเลี้ยงไก่ไข่มากที่สุดในประเทศไทย ก็มีบ้านที่มีนักธุรกิจรุ่นใหม่มาต่อยอดกิจการของพ่อแม่ เพราะฉะนั้นต่อไปนักธุรกิจฉะเชิงเทราถือว่าเข้มแข็งมาก จังหวัดของเรามีผู้หลักผู้ใหญ่เยอะ เขาให้การสนับสนุนทุกเรื่องที่เห็นว่าเป็นประโยชน์

•ธุรกิจมาแรงน่าจับตาในฉะเชิงเทรา?

การท่องเที่ยวทางน้ำ ซึ่งเป็นสิ่งที่จะทำต่อไปในช่วงต้นปี 65 เพราะ 2 ฝั่งแม่น้ำบางปะกงยังเป็นธรรมชาติอยู่มาก สายน้ำใสสะอาด ล่องขึ้นไปได้ถึงปราจีนบุรี ส่วนปลายทางไปลงอ่าวไทยได้เลย ความพิเศษ คือ แหล่งประมง มีปลาพันธุ์ดี กุ้งพันธุ์ดี อร่อยมาก

การเชื่อมโยงการท่องเที่ยวระหว่างภาคตะวันออกในเส้นทางน้ำจะมีความพิเศษมากขึ้นในอนาคต

เรามีสมาคมท่องเที่ยวจังหวัดฉะเชิงเทราซึ่งได้รับการสนับสนุนจากหอการค้าอยู่แล้ว ตอนนี้เรากำลังดำเนินการประสานทั้งภาครัฐและเอกชน โดยเฉพราะท่านผู้ว่าฯไมตรีเป็นคนใส่ใจทุกเรื่อง ส่งเสริมทุกเรื่องที่ทำแล้วไม่เกิดมลภาวะ

ร่วมกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวทางน้ำ “มนต์เสน่ห์แห่งสายน้ำบางปะกง” Hobie Test Drive จุดเริ่มต้นท่าเทียบเรือริมเขื่อนวัดไชยภูมิฐาราม (วัดท่าอิฐ) ไปตามลำน้ำบางปะกง จัดโดยหอการค้าจังหวัดฉะเชิงเทรา และ Hobie Thailand

•ขอย้อนกลับไปในประเด็นเส้นทางชีวิต จากจับกัง เข้ายุทธจักรนักธุรกิจ จนต่อยอดมาถึง วันนี้ได้อย่างไร?

บางครั้งคนในฉะเชิงเทรายังไม่รู้เลยว่า ผมทำธุรกิจอะไรบ้าง จริงๆ แล้ว เริ่มเลยคือธุรกิจต่อตัวถังรถบรรทุก ทำไฟแนนซ์ อสังหาริมทรัพย์ และคลังสินค้า รวมถึงโลจิสติกส์ที่ทำอยู่ทุกวันนี้ เป็นงานที่ต่อเนื่องกันทุกด้าน เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจของจังหวัดฉะเชิงเทราด้วย

ผมขยัน ประหยัด อย่างน้อยๆ ถึงไม่ร่ำรวยระดับมหาเศรษฐี แต่ก็ไม่จน ถ้ารู้จักเก็บออม เป็นคนทำงานตลอด 365 วันไม่หยุด ขยันต้องมาเป็นที่ 1 แต่ขยันแล้วฟุ่มเฟือยก็ไม่ได้ ผมเก็บเงินเก่งมาก ใช้แค่พอควรตามความจำเป็น จึงสามารถต่อยอดมาเป็นนักธุรกิจในปัจจุบันได้

หลังจากธุรกิจต่อตัวถังรถยนต์แล้วได้เห็นความลำบากของลูกค้าที่อยากจะผ่อนตัวถัง เลยไปทำเรื่องไฟแนนซ์ให้เขา จึงเกิดธุรกิจไฟแนนซ์ จากนั้น ผมก็ขายรถเก่าที่นำเข้าจากต่างประเทศ พอลูกค้าผ่อนรถแล้วมีปัญหาเพราะโดนแย่งงาน เลยมาทำโลจิสติกส์ จากนั้นมีเพื่อนชวนไปทำคลังสินค้า ทำให้เลื่อนชั้นขึ้นไปเป็นผู้บริหาร แล้วมีเพื่อนที่บอกว่าตัวเองติดแบล๊กลิสต์ มาถามว่าจะทำอย่างไรให้เอาเงินไปลงทุนได้ ผมเลยหันไปทำอสังหาริมทรัพย์เพื่อให้เขาเดินต่อได้ ทุกอย่างธุรกิจมีที่มาที่ไปหมดเลย

การจะหนีความจนได้ ต้องขยันทำงาน ประหยัด รู้จักกินรู้จักใช้ นี่คือสิ่งสำคัญที่จะทำให้เรายืนหยัดอยู่ในสังคมนี้ได้ด้วยความมั่นคง

•เรียนมาเยอะ หลายสถาบัน ชีวิตประสบความสำเร็จ มีคำแนะนำสำหรับระบบการศึกษาไทยอย่างไร?

ผมเคยไปให้ความเห็นกับส่วนราชการว่า จริงๆ แล้วการที่จะมีนักศึกษาพันธุ์ใหม่หรือไม่ให้คนตกงาน จะต้องทำงานให้เยอะขึ้น เช่น หลักสูตรปริญญาตรี 4 ปี ควรให้เรียน 2 ปี ฝึกงาน 2 ปี ส่วน ปวช.หลักสูตร 3 ปี ควรเรียน 2 ปี ฝึกงาน 1 ปี จะไม่มีคนตกงานและแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงานด้วย

•ความมุ่งหวังในอุดมคติวันนี้ทั้งชีวิตส่วนตัว และเศรษฐกิจของฉะเชิงเทราบ้านเกิด?

ผมทำงานมาตั้งแต่เด็ก ถึงวันนี้เกือบ 40 ปีแล้ว ถ้าเป็นราชการถือว่าใกล้เกษียณ ก็พยายามใช้ประสบการณ์สอนคนรุ่นหลัง และปรับปรุงแก้ไขปัญหาสังคม ซึ่งทั้งการทำธุรกิจและทำเพื่อสังคมต้องมีสุขภาพดีเป็นพื้นฐาน การพักผ่อนต้องเพียงพอ ผมรักตัวเองมาก นอนวันละ 7-8 ชม. ไม่นอนดึก ตื่นตี 4 ตี 5 มาวิ่งออกกำลังกาย

ตอนนี้ลูกทั้ง 3 คนโตกันหมดแล้ว มาแทนได้ทั้งหมด ตัวเองเป็นพี่เลี้ยงคอยดูว่าอันไหนที่ยังไม่เข้าใจก็ส่งเสริม เพราะเราเองคงไม่ได้อยู่ค้ำฟ้า สักวันหนึ่งก็ต้องไป เพราะฉะนั้นต้องให้นักธุรกิจรุ่นใหม่มาต่อยอด

ส่วนธุรกิจของฉะเชิงเทราในปัจจุบัน เรื่องอุตสาหกรรมคิดว่าไม่น่าเป็นห่วง ภาคธุรกิจตื่นตัวและพัฒนาอยู่แล้ว สิ่งที่เป็นห่วงคือ การเกษตร ซึ่งควรมีการยกระดับทั้งเกษตรและธุรกิจรายย่อย หรือเอสเอ็มอีให้เขามีความกินดีอยู่ดี เช่น ร้านโชห่วยในฉะเชิงเทรา เราไม่อยากให้มันหมดไป ไม่อยากให้ธุรกิจอื่นหรือร้านค้าอื่นมาทำให้โชห่วยหดหายไป ตอนนี้เรากำลังยกระดับสินค้าและร้านค้าในฉะเชิงเทราให้มีมาตรฐานยิ่งขึ้นโดยติดต่อร้านและแบรนด์ดังให้เข้ามาช่วยเหลือ

•คำถามสุดท้าย นิยามของคนชื่อ จิตรกร ที่มาเป็นนักธุรกิจ?

(หัวเราะ) ชื่อฮัยยะตะ ซึ่งให้สำเนียงกลิ่นอายญี่ปุ่น เพราะตอนยังเล็ก หน้าตาเหมือนคนญี่ปุ่น พ่อแม่เลยตั้งชื่อให้อย่างนั้น แต่คิดว่าน่าจะเรียกยาก ลุงข้างบ้านเลยตั้งชื่อใหม่ให้ว่า จิตรกร เขาบอกว่าโตขึ้นจะได้มีความสุขสบาย ไม่ลำบาก

คำว่าจิตรกรในปัจจุบัน คือคนทำงานศิลปะ แต่จิตรกรในความคิดของผมคือ จะทำอย่างไรให้ธุรกิจในจังหวัดฉะเชิงเทราดีขึ้นได้ ทำอย่างไรจะช่วยเหลือนักธุรกิจที่มีปัญหาได้ เราก็พยายามทำทุกเรื่องให้ทุกอย่างดีขึ้น

นี่คือจิตรกรที่แท้จริง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image