สงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ส่งไม้ต่อธุรกิจกงสีหมื่นล้าน ขอลุย‘การเมือง’เต็มตัว

เมื่อธุรกิจกับการเมืองกลายเป็นคนละเรื่องเดียวกัน ที่ผ่านมาจึงได้เห็นนักธุรกิจเข้ามาโลดแล่นบน “ถนนสายการเมือง” มากหน้าหลายตา

เช่นเดียวกับ สงคราม กิจเลิศไพโรจน์ วัย 77 ที่ผันตัวจาก “นักธุรกิจ” สู่ “นักการเมือง”

“สงคราม” เป็นคนไทยเชื้อสายจีน มีพี่น้อง 5 คน เขาเป็นลูกคนที่ 4 เกิดที่วัดไผ่เงิน ย่านตรอกจันทน์ กรุงเทพมหานคร ก่อนจะย้ายไปปักหลักจังหวัดสมุทรปราการจนถึงปัจจุบัน

กว่า “สงคราม” จะกลายเป็นนักธุรกิจใหญ่ เจ้าของธุรกิจของเด็กเล่นและศูนย์การค้าอิมพีเรียลเวิลด์ในวันนี้ ชีวิตเขาไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เนื่องจากครอบครัวยากจน ทุกอย่างจึงต้องดิ้นรนและเริ่มต้นจาก “ศูนย์”

Advertisement

“ผมเรียนหนังสือและขายของไปด้วย ตั้งแต่อายุ 13 ปี ลงทุนครั้งแรก 130 บาท วันหวยออก ผมจะเดินขายเรียงเบอร์ จากถนนตกวิ่งไปถึงสี่พระยา สมัยนั้นขายใบละสลึง แล้วร่วมกับพี่น้องขายเครื่องประดับ ของเด็กเล่น แล้วค่อยๆ สร้างเนื้อสร้างตัวมาเรื่อยๆ”

หลังกิจการเติบโตได้ขยายสาขาไปที่ตลาดพาหุรัด มีพี่ชายคนโตบริหาร ส่วนเขาเป็นผู้ช่วย จากนั้นเริ่มประกอบธุรกิจค้าส่งพลาสติก ของเบ็ดเตล็ดในย่านประตูน้ำ บางลำพู ก่อนซื้อตึกแถวย่านสะพานควาย 4 คูหา ขายสินค้าเบ็ดเตล็ด นำเข้าและผลิตของเด็กเล่น จนกลายเป็นผู้จำหน่ายรายใหญ่ของประเทศ ส่งออกไปยังประเทศญี่ปุ่น ยุโรปและอเมริกา

จากนั้นตั้งโรงงานผลิตของเด็กเล่นขายในประเทศและส่งออก ภายใต้แบรนด์ “ดรีมทอย” และ “อิมพีเรียลไทยทอย” ควบคู่กับปลุกปั้นธุรกิจศูนย์การค้า “อิมพีเรียลเวิลด์” ห้างเก่าแก่อยู่คู่คนกรุงเทพฯและสมุทรปราการมานานกว่า 3 ทศวรรษ

Advertisement

เส้นทางการเมืองของ “สงคราม” มีสตอรี่ไม่ธรรมดา เคยเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีนายโภคิน พลกุลเป็นที่ปรึกษาให้กับ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ก่อนจะเล่นการเมืองและได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสมุทรปราการ สมัยรัฐบาลไทยรักไทย และเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในสมัยรัฐบาลสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ในปี 2551

ปัจจุบัน “สงคราม” เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ สังกัดพรรคเพื่อชาติ เมื่อปี 2561 ได้รับโปรโมตเป็นหัวหน้าพรรค แต่เพราะไม่สามารถพาพรรคคว้าเก้าอี้นั่งได้ตามเป้า เขาจึงถอนตัวจากตำแหน่ง เป็นเพียงที่ปรึกษาพรรคเพื่อชาติ

ด้านธุรกิจ “สงคราม” ยังคุมบังเหียนศูนย์การค้าและธุรกิจของเด็กเล่น พร้อมเปิดใจเตรียมขยับการลงทุนครั้งใหญ่ในโครงการมิกซ์ยูส และพลิกโฉมศูนย์การค้า “อิมพีเรียลเวิลด์” ทั้งลาดพร้าวและสำโรงให้ไฉไล รองรับรถไฟฟ้าสายสีเหลืองช่วงลาดพร้าว-สำโรง จะเปิดหวูดภายในปี 2565 เพื่อสร้างรากฐานธุรกิจกงสี มีมูลค่านับหมื่นล้าน ไว้ให้ลูกหลานที่จะมารับไม้ต่อธุรกิจ

⦁แผนของกลุ่มอิมพีเรียลเวิลด์จะลงทุนรอบใหม่?

ภายในกลางปี 2565 บริษัทมีแผนจะรีโนเวตอิมพีเรียลเวิลด์ลาดพร้าวใหม่ ใช้งบประมาณ 1,000 ล้านบาท จะปรับปรุงใหม่ทั้งหมด เริ่มจากภายในศูนย์การค้าก่อน เริ่มปิดปรับปรุงทีละชั้นและสร้างทางเดินลอยฟ้าเชื่อมกับสถานีรถไฟฟ้าด้วย ครั้งนี้เป็นการปรับปรุงใหญ่ในรอบ 30 ปี ที่ผ่านมามีปรับปรุงไปบ้างเล็กๆ น้อยๆ ใช้เวลาปรับปรุงประมาณปีเศษ จะแล้วเสร็จเปิดบริการโฉมใหม่ได้ในปี 2566 และบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ ที่เช่าพื้นที่เราก็จะรีโนเวตพื้นที่ใหม่ด้วยเช่นกัน

สำหรับอิมพีเรียลเวิลด์ลาดพร้าว เมื่อก่อนเราถือหุ้น 51% ตอนนี้เราถือเกือบ 100% ยังมีผู้ถือหุ้นเก่าถืออยู่บ้างเล็กน้อย ส่วนอิมพีเรียลเวิลด์สำโรง จะเป็นคนละบริษัทกับสาขาลาดพร้าว ที่สำโรงจะบริหารโดยครอบครัวผม ไม่เกี่ยวกับคนอื่น ทีมงานจะคนละชุดกัน แต่ผมก็ยังบริหารที่ลาดพร้าวอยู่

⦁ตึกสูงด้านหลังอิมพีเรียลเวิลด์ลาดพร้าว จะพัฒนาเป็นอะไร?

หลังปล่อยร้างมากว่า 20 ปี ตอนนี้มีนักธุรกิจจีนที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยและทำธุรกิจทัวร์ชื่อมิสเตอร์หวัง ขอเช่าตึกด้านหน้าทั้งตึก เป็นระยะเวลา 30 ปี ปรับปรุงเป็นโรงแรมสำหรับนักท่องเที่ยวจีนโดยเฉพาะ ใช้เงินลงทุน 300-400 ล้านบาท ปัจจุบันปรับปรุงแล้วกว่า 90% หลังเกิดการระบาดโควิด-19 ไม่มีนักท่องเที่ยวเข้ามา จึงชะลอการปรับปรุงไว้ก่อน แต่ถ้านักท่องเที่ยวกลับมาเมื่อไหร่ เขาพร้อมเปิดบริการ เพราะเหลือแค่ตกแต่งอุปกรณ์ เขามีธุรกิจโรงแรมหลายแห่ง จะรองรับนักท่องเที่ยวจีนโดยเฉพาะ

ตอนผมลงทุนจะสร้างเป็นอาคารสำนักงาน งานโครงสร้างเสร็จแล้ว มี 2 ตึก มีคนมาเช่าแล้ว คือ กลุ่มบริษัท มีเดียออฟมีเดียส์ จำกัด (มหาชน) มาเช่าตึกด้านหลัง เกิดวิกฤตเศรษฐกิจ จึงยกเลิก ส่วนตึกด้านหน้า ผมจะทำเป็นโรงแรม แต่ผู้เช่าจะทำเป็นอพาร์ตเมนต์ แต่เจอวิกฤตเมื่อปี 2540 เลยหยุด ผมเลยปล่อยทิ้งร้างไว้กว่า 20 ปี จนมิสเตอร์หวังมาขอเช่าตึกด้านหน้า ผมเห็นว่าให้เขาเช่าทำโรงแรมจะดีกว่า เพราะผมเองก็ไม่ถนัดทำโรงแรม เขาก็ขอเช่าตึกด้านหลังด้วย พอเจอวิกฤตเลยชะลอไว้ก่อน

สงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ส่งไม้ต่อธุรกิจกงสีหมื่นล้าน ขอลุย‘การเมือง’เต็มตัว

⦁อิมพีเรียลเวิลด์ที่สำโรงจะลงทุนอะไรเพิ่มบ้าง?

ในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ คงชะลอไว้ก่อน ที่สำโรงผมมีที่ดินทั้งหมด 68 ไร่ ยังมีที่ดินเปล่าเหลือพัฒนาอยู่ เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ผมซื้อที่ดินด้านหลังเพิ่มอีก 31 ไร่ วงเงิน 5,500 ล้านบาท เมื่อก่อนเราเช่า เขาไม่ยอมขาย ก่อนหมดสัญญาเขายกให้ลูกดูแล ลูกเขาจะไปอยู่เมืองนอก จึงนำมาขาย ผมเลยซื้อต่อ ราคาเพิ่มขึ้นกว่า 10 เท่า จากเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ผมซื้ออยู่ที่ตารางวาละ 45,000 บาท วันนี้ตารางวาละ 500,000 บาท ปัจจุบันที่สำโรงมีสกายวอล์กเชื่อมรถไฟฟ้าบีทีเอสด้วย ครั้งแรกสถานีอยู่หน้าห้างพอดี แต่พอมีสายสีเหลืองสร้างจากลาดพร้าวมาเชื่อม ทางการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) จึงย้ายสถานีไปใกล้กับสายสีเหลือง เพื่อให้การเดินทางสะดวกมากยิ่งขึ้น

⦁ที่ดินซื้อเพิ่มมีแผนจะพัฒนาเป็นโครงการอะไร?

บริเวณนี้เรามีตลาดสด มีห้างอยู่แล้ว ผมตั้งใจว่าจะรีโนเวตใหม่ ส่วนที่ดิน 31 ไร่ ผมจะสร้างคอนโดมิเนียม 3-4 อาคาร ทำเป็นโครงการมิกซ์ยูส มีครบห้าง ตลาด และที่อยู่อาศัย แต่พอลงทุนซื้อที่ดินไป 5,500 ล้านบาท และเจอวิกฤตเศรษฐกิจและโควิด-19 เลยชะลอไว้ก่อน รอประเมินสถานการณ์โดยรวมอีกครั้ง ยังไม่รู้ว่าจะเริ่มพัฒนาโครงการเมื่อไหร่

⦁มีธุรกิจใหม่อีกหรือไม่?

ยังไม่มี ส่วนใหญ่ธุรกิจครอบครัวผมโตมาจากของเด็กเล่น มีโรงงานผลิตส่งออกและขายในประเทศ ชื่อโรงงานอิมพีเรียลไทยทอย มีหลานๆ ดูแล มีหลายแบรนด์ ทั้งที่ผลิตตามสั่ง และมีแบรนด์ของเราเอง ทำธุรกิจนี้มา 30-40 ปีแล้ว โรงงานอยู่ที่ถนนกิ่งแก้ว เริ่มต้นตั้งแต่ซื้อที่ดินไร่ละ 225,000 บาท ตอนนี้ที่ดินราคาไร่ละ 30-40 ล้านบาท

⦁ตลาดธุรกิจของเด็กเล่นเป็นยังไงบ้าง?

ตลาดในประเทศช่วงนี้ไม่ดีเหมือนเมื่อก่อน พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป เพราะมีคอมพิวเตอร์เกมเข้ามา โดยเฉพาะการส่งออกตอนนี้ก็ไม่ดีเท่าไหร่ หลังมีประเทศจีนเป็นคู่แข่งสำคัญ แต่ตลาดยังพอไปได้ แต่ก็ไม่ดีมาก ตอนที่ธุรกิจดีๆ ผมต้องทำงาน 24 ชั่วโมง คนงานทำงาน 3 กะ คนเพิ่มจาก 5,000 คน เป็นกว่า 10,000 คน ตอนนี้เหลือคนงานไม่ถึง 1,000 คน และทำแค่กะเดียว เพราะส่งออกสู้จีนไม่ได้ ราคาเขาต่ำกว่าเราเยอะ เราได้ปรับลดสัดส่วนการส่งออกลงบ้างในช่วงที่ผ่านมา

เมื่อก่อนตุ๊กตาบาร์บี้ หุ่นยนต์ผลิตที่โรงงานผมทั้งนั้น ตอนนี้ไปทำที่จีนกันเยอะ เมื่อก่อนทามาก็อตจิก็ผลิตที่โรงงานผม ออเดอร์เยอะมาก จนผลิตไม่ทัน โรงงานต้องผลิต 24 ชั่วโมง ปัจจุบันพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป ของเล่นต้องเปลี่ยนไปด้วยตามยุคสมัย เราก็ต้องปรับตัว มีผลิตสินค้าใหม่ให้ทันสมัย

ส่วนธุรกิจศูนย์การค้า ตอนเริ่มแรกผมจะทำห้างเล็กๆพื้นที่ไม่เกิน 10,000 ตารางเมตร เพราะเมื่อก่อนห้างจะไปกระจุกอยู่แถวราชดำริกับราชประสงค์ ผมไปเมืองนอกมา เห็นศูนย์การค้าเขาอยู่ชานเมืองหมด ผมเลยคิดว่าเมืองไทยต้องทำได้ จึงใช้กลยุทธ์ป่าล้อมเมือง เพราะว่าที่อยู่อาศัยจะอยู่ตามชานเมืองหมด เมื่อ 50-60 ปีที่แล้วคนในเมืองเรียกว่าพวกเศรษฐีทำมาหาเก็บ คือ พวกเถ้าแก่ สำเพ็ง เยาวราช อยู่แต่ตึกแถว มีเงินเยอะ พอรุ่นลูกเริ่มซื้อบ้านจัดสรรมาอยู่ชานเมือง ทำให้ชานเมืองเป็นย่านมีกำลังซื้อ แล้วทำไมเราต้องเข้าเมือง นี่คือความคิดผม เลยเปิดห้างตามชานเมืองตอนนั้นมีโครงการ 10 ปี จะเปิด 20 สาขา ลงทุนสาขาละ 100 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 2,000 ล้านบาท และ 20 ปี จะเปิด 50 สาขา วงเงินลงทุน 5,000 ล้านบาท ครอบคลุมกรุงเทพฯและปริมณฑลถึงจังหวัดใหญ่ เป็นการเช่า ไม่ได้ซื้อที่ดิน หมดสัญญาก็เลิก อาคารเดิมมีอยู่แล้วก็ปรับปรุงใหม่ ตอนนั้นทำ 7 สาขา มีบางกะปิ งามวงศ์วาน นนทบุรี บางนา สำโรง 2 แห่ง และลาดพร้าว แต่ว่าพอผมเปิดแล้ว ขายดี คนอื่นก็มาเปิดแข่งและเปิดใหญ่ พอผมลงทุนที่สำโรงไป 5,000 ล้านบาท จึงขยายการลงทุนไม่ได้อีก จึงเหลือแค่ 2 สาขาที่ลาดพร้าวกับสำโรง

⦁ช่วงวิกฤตหรือที่ผ่านมามีใครมาเจรจาขอซื้อห้างบ้างหรือไม่?

ก็มีบ้างที่ลาดพร้าว แต่เราไม่มีนโยบายขายอยู่แล้ว ที่มาจะเป็นกองทุนหรือพร็อพเพอร์ตี้ฟันด์ เจรจาแล้วเงื่อนไขเราไม่เอาด้วย แต่ที่สำโรงตอนซื้อที่ดินเพิ่ม มีคนมาซื้อแข่ง ตอนแรกราคาขายอยู่ที่ 4,500 ล้านบาท พอมีคนแข่ง ผมเลยต้องควักเพิ่มอีก 1,000 ล้านบาท เป็น 5,500 ล้านบาท (หัวเราะ)

⦁มีซื้อที่ดินตุนไว้อีกหรือไม่?

ไม่มีแล้ว เมื่อปี 2540 ผมขายที่ดินกว่า 10 แปลงที่มีอยู่ใช้หนี้ไปหมดแล้ว เพราะผมกู้เงินจากต่างประเทศ ซึ่งดอกเบี้ยถูกกว่า ตอนนั้นผมมีทรัพย์สินอยู่กว่า 20,000 ล้านบาท แต่มีหนี้สินอยู่ 5,000 ล้านบาท ปรากฏว่าพอสร้างเสร็จ เงินบาทลอยตัวพอดี จาก 25 บาทกว่าๆ กลายเป็น 55-56 บาท สูงสุดเคยจ่าย 57 บาท ผมขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนอย่างเดียวเกือบ 4,000 ล้านบาท อธิบายง่ายๆ กู้มา 100 บาท กลายเป็น 200 บาท ดอกเบี้ย 50 บาท เพิ่มกว่าเท่าตัว

⦁ตอนนี้มีภาระหนี้อยู่เท่าไหร่?

ผมปลดหนี้เก่าหมดไปแล้ว ตอนนี้มีหนี้ที่กู้มาซื้อที่ดิน 5,500 ล้านบาท เป็นหนี้อยู่กว่า 2,000 ล้านบาท ผมมีเงินสด แต่ไม่อยากนำไปลงทุนมาก เลยเก็บไว้บางส่วน กู้บางส่วน ตอนนั้นถ้าเจ้าของที่ให้เราเช่าต่อ คาดว่าจะใช้เงินกว่า 1,000 ล้านบาท ยังมีเงินเหลือลงทุน เปลี่ยนโฉมสาขาสำโรงใหม่ ไม่ต้องใช้เงินกู้ แต่พอเจ้าของที่ขาย จึงต้องซื้อไว้ มีแผนจะลงทุนสร้างคอนโดขาย

⦁จะเติมสีสันให้อิมพีเรียลสำโรงอีกหรือไม่?

มีอยู่แล้ว ที่สำโรงนอกจากห้าง ด้านบนเรามีสวนน้ำ ชั้น 5 เป็นสวนสนุกขนาดใหญ่ และชั้น 7 ทั้งฟลอร์จะทำเป็นสปอร์ตติ้งหลายๆ อย่าง กำลังออกแบบจะทำสเก๊ตบอร์ด และมีไอซ์สเก๊ตขนาดใหญ่ เป็นไซซ์โอลิมปิกที่เรามีอยู่แล้ว ที่ผ่านมามีทีมชาติมาจัดการแข่งขัน และมีจัดการแข่งขันทุกปี หลังเกิดโควิดจึงไม่จัดแข่งมา 2 ปีแล้ว ตอนนี้สเก๊ตบอร์ดออกแบบใกล้เสร็จแล้ว คาดว่าจะเปิดบริการในเดือนเมษายน 2565 เราใช้เงินลงทุนไปไม่ถึง 100 ล้านบาท

⦁ผลกระทบจากโควิดต่อห้างสรรพสินค้า?

ได้รับผลกระทบมาก พูดตรงๆ เลย รายได้ค่าเช่าพื้นที่ ผมหายไปเดือนละกว่า 100 ล้านบาท ไม่รวมธุรกิจของเล่น แต่ก็มีรายได้จากการจัดอีเวนต์เข้ามาบ้าง แต่ไม่มาก ในช่วงโควิดเราก็ช่วยลูกค้า เมื่อลูกค้าอยู่ได้เราถึงอยู่ได้ ลูกค้าอยู่ไม่ได้เราก็อยู่ไม่ได้ เพราะใครจะมาขาย ห้างก็ร้าง อะไรช่วยได้ก็ช่วย

⦁ทราฟฟิกการเดินห้างเป็นอย่างไรบ้าง?

อิมพีเรียลเวิลด์สำโรงดีขึ้น หากเป็นช่วงปกติจะดีมาก ตอนนี้วันธรรมดาหายไป 30-40% เมื่อก่อนคนเดินวันละ 80,000-90,000 คน วันเสาร์-อาทิตย์วันละ 140,000-150,000 คน วันหยุดราชการ วันแรงงานเกือบ 200,000 คน แต่ช่วงนี้หายไปเยอะ ส่วนสาขาลาดพร้าวเราไม่ได้ปรับปรุงมานาน เลยทำให้ทราฟฟิกยังน้อย ถึงต้องรีโนเวตใหม่ในปีหน้า

เรารีโนเวตลาดพร้าวช้า เพราะติดพื้นที่เช่ายังไม่หมดสัญญา ทำให้การรีโนเวตลำบาก ประกอบกับตอนนี้ที่ลาดพร้าวคนไม่ค่อยมี เพราะเมื่อก่อนเป็นศูนย์ประสานงานของกลุ่มคนเสื้อแดง คนที่อยู่คนละฝ่ายก็ขอถอนตัว ทั้งที่ยังไม่หมดสัญญา เป็นอีกสาเหตุทำให้ลาดพร้าวดูเหมือนร้างด้วย แต่พอกลุ่มเสื้อแดงย้ายออก เลยทำให้พื้นที่ว่าง ตอนนี้รอปรับโฉมใหม่ คาดว่าจะทำให้บรรยากาศคึกคักมากขึ้น

⦁จะวางมือธุรกิจเมื่อไหร่?

ผมตั้งเป้าภายใน 5 ปีนี้ ผมจะวางมือจากธุรกิจและให้ลูกๆ เขามารับไม้ต่อ จริงๆ ถ้าไม่ซื้อที่ดิน 5,500 ล้านบาท ผมว่าจะวางมือแล้ว ตอนนี้ผมอายุ 77 ปีแล้ว เริ่มค่อยๆ ผ่องถ่ายงานให้คนรุ่นใหม่ งานด้านบริหารผมไม่ได้ดูแล้ว ดูเฉพาะนโยบายและให้คำแนะนำบ้าง เพราะตอนนี้เด็กรุ่นใหม่เขาคิดเก่งกว่าเรา มีบางเรื่องเราคิดสู้เขาไม่ได้ ผมมีลูก 2 คน ลูกชายคนหนึ่ง ส่วนลูกสาวอยู่อเมริกา แต่มีหลานมาช่วยอยู่ 2-3 คน ที่สำโรงจะเป็นธุรกิจแบบกงสี แต่ว่าลาดพร้าวมีคนอื่นถือหุ้นด้วย มีคนบริหารอยู่ ต่อไปผมอาจจะเข้าไปดูมากขึ้น ถ้าทำแล้วไม่ดีเท่าที่ควรจะส่งลูกหลานเข้าไปดู ช่วงรอเปลี่ยนผ่านผมก็ยังทำธุรกิจอยู่ เพราะเป็นอาชีพเรา ไม่ทำไม่ได้ แต่ค่อยๆ ให้ลูกหลานเข้ามามีบทบาทมากขึ้น ผมก็บอกลูกๆ หลานๆ ผมจะค่อยๆ ถอย เพราะต่อไปทรัพย์สินเหล่านี้จะเป็นของพวกเขา จะไม่ใช่ของผมแล้ว

⦁บทบาททางการเมืองในตอนนี้?

หลังผมลาออกจากการเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อชาติ ได้เป็นที่ปรึกษาให้พรรคเพื่อชาติ เป็นประธานด้านยุทธศาสตร์ ผมลาออกเพราะผมไม่สามารถนำ ส.ส.คว้าที่นั่งได้ตามเป้า 10 กว่าคน ตามที่ประกาศไว้ สามารถทำได้แค่ 5 คน ซึ่งมีหลายสาเหตุที่ทำให้ได้ไม่ถึงเป้า ไม่อยากโทษใคร

ผมเข้ามาเล่นการเมือง เพราะอยากเข้ามาช่วยคนจน ผมเกิดจากครอบครัวยากจน เริ่มจากศูนย์ ค่อยๆ สร้างเนื้อสร้างตัวมาได้ขนาดนี้ ผมรู้ถึงความยากจนว่าเป็นอย่างไร จึงคิดถึงคนอื่นที่เขายังมีรายได้น้อย ให้มีโอกาสในการศึกษา เมื่อก่อนผมเป็นประธานมูลนิธิ และนายกสมาคมต่างๆ ก็ช่วยได้เล็กๆ น้อยๆ

ตอนที่คุณทักษิณ ชินวัตร มีนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค ผมไม่เชื่อว่าทำได้ ไม่ได้ดูถูกฝีมือ แต่เพราะทุกนโยบายต้องใช้เงินและช่วงนั้นเราเป็นหนี้ไอเอ็มเอฟ ประเทศมีหนี้อยู่กว่า 600,000 ล้านบาท ผมไม่ได้บอกว่านโยบายไม่ดี ดีมาก แต่จะเอาเงินจากไหนมาทำ ผมเลยไม่ลงเลือกตั้งไทยรักไทยสมัยแรก พอไทยรักไทยได้เป็นรัฐบาล 4 ปีแรกทุกนโยบายเขาทำได้ ผมก็เชื่อ ถึงลงเลือกตั้งสมัยที่ 2 ที่จังหวัดสมุทรปราการ นี่คือจุดเริ่มต้น

⦁จะวางมือจากการเมืองเมื่อไหร่?

ยังไม่คิด ตอนนี้ด้วยศักยภาพของผม ยังเล่นการเมืองไหวอยู่ ยังมีประโยชน์ในทางการเมือง สุขภาพยังดี สมองยังใช้ประโยชน์คิดอะไรได้ ถ้ายังทำประโยชน์ให้กับบ้านเมืองได้ ผมก็ยังเล่นต่อไป จะต่างจากธุรกิจที่ต้องให้รุ่นลูก รุ่นหลานมาบริหาร เพื่อให้ต่อยอดธุรกิจต่อไปได้ แต่การเมืองไม่ใช่ เมื่อสุขภาพเรายังไหวก็ทำต่อไป ถ้าวางมือทุกอย่างจะเหมือนคนแก่ เป็นอัลไซเมอร์ไป เพราะสมองไม่ได้ใช้ ไม่ได้คิด

⦁แล้วคิดจะย้ายพรรคหรือไม่?

ยังไม่ถึงเวลา ตอนนี้ผมยังอยู่พรรคเพื่อชาติ ถ้าจะไปอยู่พรรคอื่นต้องลาออก หลุดจากการเป็น ส.ส. จริงๆ มีหลายพรรคมาชวนเหมือนกัน แต่ผมยังไม่ได้ตัดสินใจ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image