‘โหร-หมอดู’ ผู้กำหนดฤกษ์สำคัญ ให้ผู้นำบ้านเมืองในประวัติศาสตร์

ปกหน้าและปกหลังนิตยสารโหราจารย์การเมือง มีนาคม 2517

ช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ สื่อต่างๆ มักจะเชิญ หมอดูชื่อดัง, โหรฝีมือดี มาทายทักดวงบ้านเมือง, ดวงบุคคลตามลัคนาราศีต่างๆ ในปีหน้าว่าจะเป็นเช่นไร เป็นธรรมเนียมเช่นนี้มาแทบทุกปี

นิตยสาร “ศิลปวัฒนธรรม” ฉบับเดือนมกราคม 2565 ก็นำเสนอบทความเกี่ยวกับหมอดูคนดังกับดวงของบ้านเมืองเช่นกัน เพียงแต่ชวนมองย้อนกลับไปในประวัติศาสตร์ กับโหร/หมอดูผู้กำหนดฤกษ์ยามให้กับผู้นำบ้านเมืองในพระราชพิธีของรัฐ หรือภารกิจสำคัญชนิดเสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย ฯลฯ ในบทความที่ชื่อว่า “โหราจารย์การเมืองสมัยปฏิวัติ 2475” โดย นริศ จรัสจรรยาวงศ์

โหร/หมอดูคนสำคัญที่ นริศ จรัสจรรยาวงศ์ รวบรวมข้อมูลมานำเสนอ มีตั้งแต่โหรอาชีพที่คำนวณแม่นยำ, พระสงฆ์ผู้มีความสามารถด้านโหราศาสตร์, นายแพทย์และนายทหารผู้สนใจศึกษาโหราศาสตร์จนมีความสามารถขั้นเทพ ฯลฯ ดังเช่นตัวอย่างต่อไปนี้

Advertisement
พระยาโหราธิบดี (แหยม วัชรโชติ พ.ศ.2411-94)

 

 

 

Advertisement

พระยาโหราธิบดี (แหยม วัชรโชติ พ.ศ.2411-94) รับราชการนับแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ในกิจการของสำนักโหรหลวงเรื่อยมา ถึง พ.ศ.2462 ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น “พระยาโหราธิบดี” ซึ่งเป็นท่านสุดท้ายของกรุงรัตนโกสินทร์ พระยาโหราธิบดี (แหยม วัชรโชติ) มีผลงานสำคัญพอสรุปได้ดังนี้

พ.ศ.2453 เป็นผู้ถวายพระฤกษ์บรมราชาภิเษก รัชกาลที่ 6

พ.ศ.2468 เป็นผู้ถวายพระฤกษ์บรมราชาภิเษก รัชกาลที่ 7

พ.ศ.2475 เป็นผู้ถวายพระฤกษ์ฉลองพระนครครบ 150 ปี (เปิดสะพานพุทธฯ) เมื่อต้นปี

พ.ศ.2475 เป็นผู้ถวายพระฤกษ์พระราชทานรัฐธรรมนูญ ว่าควรเป็นวันที่ 10 ธันวาคม 2475

พ.ศ.2493 เป็นผู้ถวายพระฤกษ์บรมราชาภิเษก รัชกาลที่ 9 และเป็นผู้จารึกดวงพระบรมราชสมภพลงบนแผ่นทอง และถวายน้ำสรงพระมุรธาภิเษกรัชกาลที่ 9

ร.อ.ทองคำ ยิ้มกำภู (พ.ศ.2444-2502)

ร.อ.ทองคำ ยิ้มกำภู (พ.ศ.2444-2502) นักเรียนนายร้อยที่ต้องออกจากราชการเนื่องจากปัญหาด้านสุขภาพ ที่หันมาเอาจริงด้านโหราศาสตร์จนได้ดี ร.อ.ทองคำเป็นผู้คำนวณฤกษ์ “รัฐประหาร 2490” ดังที่เจ้าภาพงานศพพิมพ์หนังสือแจกเป็นบรรณาการของ ร.อ.ทองคำ ตอนหนึ่งบันทึกไว้ว่า

“ในการกระทำกิจกรรมสำคัญขั้นสุดยอดของ ร้อยเอกทองคำ อีกครั้งหนึ่ง อันได้แก่การวางดวงฤกษ์ทำรัฐประหาร เมื่อเที่ยงคืน 8 พ.ย.2490 ร้อยเอกทองคำได้ให้ศิษย์คนสนิทที่วางใจได้ ค้นหาดวงชะตาบุคคลสำคัญในวงการเมืองทุกคน เปรียบเทียบกับบุคคลที่ร่วมคิดในการทำรัฐประหารชั้นหัวหน้าควบคุมกำลังต่างๆ

คำพยากรณ์ดวงรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2475 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.2495 โดย พระธรรมวโรดม (อยู่ ญาโณทโย) ผู้วางฤกษ์รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2495

ตลอดจนส่งผู้กรองข่าวไปกรองข่าวประชาชน ทางจังหวัดภาคเหนือ และภาคตะวันออก ผู้กรองข่าวนี้เดินวิธีการเป็นนักโฆษณายารักษาโรคของห้างร้านขายยามีชื่อในกรุงเทพฯ สอง-สามแห่ง ทั้งนี้ เพื่อทราบว่าประชาชนตามจังหวัดต่างๆ ชื่นชมยินดีหรือชิงชังรัฐบาลประการใด

ร้อยเอกทองคำให้ทัศนะแก่ศิษย์ว่า ตนเองเป็นผู้กำชีวิตของผู้ร่วมคิดรัฐประหาร หรือที่เรียกกันว่ากบฏ มีโทษชั้นอุกฤษฏ์ ประการแรกถ้าไม่สำเร็จก็ถูกประหารชีวิต ในเรื่องสามก๊ก คือ โจโฉ ซุ่นกวน เล่าปี่ ต่างคนต่างก๊ก มีที่ปรึกษาขบวนศึกอย่างจัดเจน และมีผู้มีความรู้ฤกษ์บนฤกษ์ล่างเท่าๆ กัน แต่การรู้แจ้งแทงใจของคู่ศึกว่ามีน้ำหนักหนักเบานี่สิสำคัญ

ฉะนั้น ดวงฤกษ์ของร้อยเอกทองคำ วันทำรัฐประหารจึงต้องทำสมผุสพระเคราะห์ใหม่ทั้งดวงอย่างละเอียด แล้วเทียบกับดวงเมือง ดวงพระราชทานรัฐธรรมนูญฉบับถาวร 10 ธันวาคม ดวงวันเปิดสภาผู้แทนราษฎร สมัยพลเรือตรีหลวงธำรงนาวาสวัสดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรี และที่สุดเมื่อถึงวันลงมือทำการก็สำเร็จภายใน 6 ชั่วโมง ร้อยเอกทองคำกลับเข้าประจำการอีกครั้งหนึ่ง เมื่อพฤศจิกายน พุทธศักราช 2490 ประจำแผนกเสนาธิการกองทัพที่ 1 และ
ภายหลังย้ายไปประจำกรม”

พลเรือตรี หลวงสุวิชานแพทย์ (อั๋น สุวรรณภาณุ พ.ศ.2435-2522)

พลเรือตรี หลวงสุวิชานแพทย์ (อั๋น สุวรรณภาณุ พ.ศ.2435-2522) แพทย์ใหญ่ทหารเรือ ที่ขึ้นชื่อเรื่องเจริญวิปัสสนาและเป็นที่นับถือว่ามีญาณพิเศษเปี่ยมเมตตาธรรมในการรับช่วยเหลือผู้คน ทั้งช่วยดูฤกษ์ ฯลฯ พลเรือตรี หลวงสุวิชานแพทย์ มีผลงานเรื่องการ “ล้างอาถรรพ์” ต่างๆ ดังนี้

ช่วยทางราชการในการจัดสร้างพระบวรราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว (สนั่น ศิลากรณ์ ออกแบบ) ณ บริเวณโรงละครแห่งชาติขณะกำลังก่อสร้าง เพื่อล้างอาถรรพ์ที่ลือกันในเวลานั้น เนื่องจากระหว่างสร้างหลวงวิจิตรฯ ถึงแก่อนิจกรรม และผู้รับมอบหมายต่อมาคือ จอมพล ถนอม กิตติขจร ก็ล้มเจ็บลง

พลเรือตรี หลวงสุวิชานแพทย์ ยังเป็นผู้ตั้งศาลพระภูมิพระพรหมสี่หน้า ณ โรงแรมเอราวัณ สี่แยกราชประสงค์ เมื่อ พ.ศ.2497 หลังจากประสบอุปสรรคในงานก่อสร้างมากมาย จน พล.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์ ในฐานะประธานกรรมการบริหารโรงแรมได้ติดตามให้มาแก้ปัญหา

ฯลฯ

พ.อ.(พิเศษ)ประจวบ วัชรปาณ (พ.ศ.2455-2515)

พ.อ. (พิเศษ) ประจวบ วัชรปาณ (พ.ศ.2455-2515) เป็นคนนครศรีธรรมราช จบหลักสูตรแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จากนั้นเข้ารับราชการเป็นแพทย์ในกรมแพทย์ทหารบก นอกจากนี้ ยังมีความสามารถในศาสตร์แห่งโหร เขาเคยทำนายว่า จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ เมื่อครั้งยังเป็น “พันโท” ว่า “จะได้ยศสูงสุดในกองทัพบกของไทย”, คำนวณวันตายของตนเองได้อย่างแม่นยำ ฯลฯ

หลังจบสงครามมหาเอเชียบูรพา นายแพทย์ประจวบลาออกจากราชการกลับไปใช้ชีวิตส่วนตัวที่หาดใหญ่และภูเก็ต ที่จอมพลสฤษดิ์โทรเลขไปตามถึง 4 ครั้ง จึงได้ยอมกลับมาช่วยวางฤกษ์ยาม การรัฐประหาร 16 กันยายน 2500 ที่ พลโท วัลลภ โรจนวิสุทธิ์ เขียนในหนังสืองานศพของนายแพทย์ประจวบไว้ว่า

“ก่อนเวลาลงมือทำการรัฐประหารไม่กี่นาที จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์…ทำการโค่นล้มรัฐบาล จอมพล ป.พิบูลสงคราม ได้กล่าวแก่คณะนาย ทหารฝ่ายอำนวยการประจำตัวท่านว่า “ถ้าทำงานคืนนี้ไม่สำเร็จ ไอ้จวบ. มึงไปกับกูสองคน นอกนั้นไม่ต้อง”

หนังสือยอดขุนพล (จักรวาล ชาญนุวงศ์, สำนักพิมพ์วิบูลย์กิจการพิมพ์) เล่าเกี่ยวกับปฏิบัติการครั้งนี้ไว้ว่า “แผนปฏิวัติ 2501 ได้เริ่มขึ้น ณ ห้องพักฟื้น แห่งโรงพยาบาลวอร์เตอร์รีด นับเป็นครั้งแรกที่การวางแผนปฏิวัติต้องประชุมข้ามทวีป (ยกเว้นคณะ 2475) ตามฤกษ์ของพันเอก ประจวบ วัชรปาณ โหรประจำตัวของยอดขุนพล คู่สงบคู่สงคราม

แม้ว่าท่านผู้หญิงวิจิตราจะเกลียดหน้า เหมือนเกลียดไส้เดือนกิ้งกือ ถึงกับประกาศว่า ‘หมอจวบ อย่าเข้ามาในบ้านสี่เสาเป็นอันขาด’ เป็นคำสั่งของท่านผู้หญิงวิจิตรา เคยตัดเยื่อใยให้สิ้นกังขา เพราะหมอประจวบผู้นี้ชอบหาอีหนูมาดู๋ดี๋กับยอดขุนพลมิได้ขาด…

การปฏิวัติครั้งนี้หมอประจวบ กำหนดฤกษ์ 20 ตุลาคม 2501 เวลา 21.00 น.การแสดงบทนี้ หลวงวิจิตรวาทการ เป็นผู้กำกับการแสดง จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ เป็นพระเอกตามเคย นางเอกก็คนเดิม ดาราคู่ขวัญ สฤษดิ์-วิจิตรา โดยมีออหนอม [ถนอม กิตติขจร – นริศ นายกรัฐมนตรีขณะนั้น] เป็นตัวประกอบ ส่วนนางเอกไม่สู้จะมีบทบาทมากมายอะไรนัก…21.00 น. ประกาศของคณะปฏิวัติซึ่งร่างกันมาบนเครื่องบินก็ดังขึ้นทางเครื่องรับวิทยุกระจายเสียง” (จัดย่อหน้าใหม่โดยผู้เขียน)

ที่กล่าวมาข้างต้นนี้ก็แค่บางส่วน ขอท่านผู้อ่านได้โปรดติดตามอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากนิตยสาร “ศิลปวัฒนธรรม” ฉบับเดือนมกราคมนี้ แล้วติดตามว่า ยังมีเหตุการณ์สำคัญใดในบ้านเมือง ที่บุคคลระดับผู้นำจำนวนมากเลือกใช้ “ฤกษ์งามยามดี” มาประกอบการตัดสินใจ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image