45 ปี มติชน ‘พลังคนธรรมดา’ เชื่อมอดีต สู่ปัจจุบัน ขับเคลื่อนสู่อนาคต

ภาพถ่ายกลุ่มอาคารมติชนที่เด่นด้วยรูปทรง เส้นสาย และแสงเงา จากมุมมองของพิชัย แก้ววิชิต

นับตั้งแต่ หนังสือพิมพ์มติชน ฉบับปฐมฤกษ์ วางแผงเมื่อวันที่ 9 มกราคม ปี 2521 มติชนได้อยู่เคียงข้างสังคมไทยมาโดยตลอด นำเสนอข้อมูลข่าวสารอย่างรอบด้านและลุ่มลึก เป็นกระบอกเสียงให้คนตัวเล็ก พร้อมยืนหยัดในหลักการและหลักปรัชญาวิชาชีพอย่างมั่นคง ได้รับความเชื่อมั่นจากสังคมไทยมาตลอดระยะเวลาหลายสิบปี กระทั่งก้าวเข้าสู่ปีที่ 45 อย่างแข็งแกร่ง

เบื้องหลังความสำเร็จตลอดระยะเวลาหลายทศวรรษของมติชนไม่เพียงมีผู้อ่านเป็นลมใต้ปีกมอบความเชื่อมั่นและคอยสนับสนุน มีพันธมิตรที่ช่วยเหลือเกื้อกูล มีกองบรรณาธิการและบุคลากรทุกฝ่ายที่พร้อมทุ่มเทแรงกายแรงใจสร้างสรรค์สาระประโยชน์ แต่ยังมีกลุ่มอาคารมติชน ที่แม้เป็นสิ่งปลูกสร้าง ทว่ากลับมีความสำคัญอย่างยิ่งในเชิงการเป็นฐานที่มั่น ให้มติชนได้ยืนหยัดอย่างมั่นคง ท่ามกลางคลื่นลมโหมกระหน่ำและสถานการณ์อันท้าทายไม่สิ้นสุด

ทั้งยังเป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ในอัตลักษณ์ของมติชนที่ยึดโยงกับสังคม เชื่อมอดีตเข้าสู่ปัจจุบัน และเป็นรากฐานให้อนาคตได้อย่างทรงพลังยิ่ง!

มีที่มั่นในวันนั้น จึงยังมีวันนี้

Advertisement
พิชัยและปานบัว ในเวิร์กช็อป “Wes Workshop ถ่ายภาพกับพิชัย แก้ววิชิต”

ท่ามกลางกลุ่มอาคารที่เป็นเสมือนฟันเฟืองพามติชนเดินหน้า ปานบัว บุนปาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) บอกเล่าที่มาของแต่ละตึกว่า ที่มั่นของมติชนเริ่มด้วยตึกที่ทำการหน้าวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เมื่อมติชนค่อยๆ เติบโต ขรรค์ชัย บุนปาน ประธานกรรมการ บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) ก็คัดสรรทำเลเหมาะย่านประชาชื่นเป็นที่ทำการใหม่

จากตึกเล็กๆ 3 ชั้น ซึ่งปัจจุบันคือที่ตั้งของ บริษัท งานดี จำกัด ในเครือมติชน ขรรค์ชัยได้สร้างตึกใหม่ 9 ชั้น และสร้างตึกแฝดขึ้นด้านหลังไว้เป็นตึกผลิต มีแท่นพิมพ์ทันสมัยที่นักศึกษาและหน่วยงานต่างๆ เข้ามาเยี่ยมชมไม่ขาดสาย จากนั้นได้ซื้อที่อีกผืนหนึ่งในซอยข้างกัน มีตึก 3 ชั้น ไว้เป็นที่ทำการของหนังสือพิมพ์ข่าวสด

เมื่อข่าวสดเจริญเติบโตด้วยดี ขรรค์ชัยจึงสร้างตึกข่าวสดขึ้นใหม่ โดยมี ฐากูร บุนปาน อดีตรองประธานกรรมการเครือมติชน เป็นผู้ดูแลความเรียบร้อย และย้ายโรงพิมพ์พิฆเณศจากแพร่งสรรพศาสตร์มาไว้ข้างๆ เพื่อพิมพ์งานป้อนสำนักพิมพ์และฝ่ายต่างๆ ต่อมาได้สร้างโรงพิมพ์ขึ้นใหม่ที่ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ซึ่งมีโกดังขนาดยักษ์ไว้เก็บกระดาษสำหรับพิมพ์ จึงได้ปรับโรงพิมพ์พิฆเณศเป็นมติชนอคาเดมี ซึ่งใช้เป็นสถานที่อบรมอาชีพจนถึงปัจจุบัน

Advertisement

สำหรับปานบัวแล้ว ตึกจึงไม่ได้มีความหมายในเชิงกายภาพเท่านั้น แต่ยังมีความสำคัญในแง่จิตใจ เพราะสะท้อนถึงความเป็นมาของมติชน ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาเป็นระยะเวลาหลายสิบปี

มองผ่านเงาขณะเวิร์กช็อป

พลังคนธรรมดา

คนธรรมดาเชื่อมโยงกับความเป็นมติชนแน่นแฟ้นเพียงใด กรรมการผู้จัดการเครือมติชนให้คำตอบทันทีว่า มติชนอยู่ได้ด้วยการสนับสนุนของผู้อ่านและผู้ติดตามที่เป็นคนทั่วไปในสังคมไทย

ดังนั้น สิ่งที่มติชนดำเนินงานมาตลอดระยะเวลา 45 ปี คือสื่อสารกับคนตัวเล็กตัวน้อยที่เป็นกำลังหลักของสังคม โดยมีสื่อในเครือมติชน อาทิ มติชน ประชาชาติธุรกิจ ข่าวสด มติชนสุดสัปดาห์ เส้นทางเศรษฐี เทคโนโลยีชาวบ้าน ศิลปวัฒนธรรม ฯลฯ ทำหน้าที่ดังกล่าวอย่างเข้มแข็ง

“สิ่งที่มติชนทำมาตลอดคือทำเพื่อคนธรรมดา ให้เขามีความรู้เป็นอาวุธ ให้เขาได้มีโอกาส ตรงไหนที่ไม่พอ ยังขาด ยังพร่อง มติชนก็ไปเสริมในจุดนั้น มติชนจึงยึดโยงกับคนในสังคมมาตลอด และเป็นหน้าที่ของเราที่ต้องส่งเสริมให้เขาแข็งแรงขึ้น” ปานบัวย้ำหนักแน่น

เพราะความฝันไม่ได้จำกัดไว้ให้คนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง พิชัย แก้ววิชิต ก็เช่นกัน เขาคือวินมอเตอร์ไซค์ย่านราชเทวี ที่รักการถ่ายภาพเป็นชีวิตจิตใจ แต่ด้วยเงื่อนไขการใช้ชีวิต ทำให้พื้นที่ส่วนใหญ่ในการถ่ายภาพของเขาคือสองข้างทางที่ไปรับส่งผู้โดยสาร

ถึงอย่างนั้น ภาพถ่ายของพิชัยที่เรียกได้ว่าสไตล์มินิมอล ก็มีมุมมองที่น่าสนใจอย่างยิ่ง เพราะเขาสามารถถ่ายภาพสิ่งที่เราคุ้นตากันอยู่แล้วให้มีรูปทรง เส้นสาย แสงเงา ที่โดดเด่นขึ้นมาได้อย่างน่าทึ่ง

จังหวะเหมาะเมื่อสำนักพิมพ์มติชน จัดงาน Matichon Bookmark 2021 #คั่นไว้ในใจเธอ เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2564 ที่มติชนอคาเดมี ปานบัว
ที่ติดตามผลงานของพิชัยอย่างต่อเนื่อง จึงทาบทามพิชัยให้มาทำเวิร์กช็อป “Wes Workshop ถ่ายภาพกับพิชัย แก้ววิชิต” พาผู้เข้าร่วมกิจกรรมหามุมถ่ายภาพในพื้นที่หมู่บ้านประชานิเวศน์ 1 ซึ่งเป็นที่ตั้งของกลุ่มอาคารมติชน

“เราอยากเห็นมุมมองของพี่เขาว่าจะถ่ายภาพสิ่งที่เราคุ้นชินอยู่แล้วให้ออกมาเป็นอย่างไร ซึ่งเขาไม่ใช่แค่ทำได้ แต่ทำให้เรามองประชานิเวศน์เป็นอีกแบบไปเลย ถ่ายสนามกีฬาและถ่ายหมู่บ้านให้ออกมามีเรื่องราว เพราะเขารู้สึกว่ามันน่าสนใจ หรือแม้แต่ถนนที่เราเดินทุกวัน เขาก็ถ่ายออกมาได้อย่างมีศิลปะ” ปานบัวเล่า

เมื่อถึงโอกาสดี 45 ปี มติชน ปานบัวจึงร่วมงานกับพิชัยอีกครั้ง คราวนี้ในบทบาทศิลปินรับเชิญที่ถ่ายทอดประวัติศาสตร์ของมติชน ผ่านภาพถ่ายที่ก่อให้เกิดมุมมองใหม่ๆ ดังที่ปานบัวให้เหตุผลว่า

“คุณพิชัยเป็นตัวแทนของคนธรรมดาที่มีฝีมือและมีความสามารถ ที่ฝังตัวอยู่ตามมุมต่างๆ ในสังคมไทย เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ เพราะสังคมไทยมีคนแบบนี้มากมาย และเป็นหน้าที่ของมติชนที่ต้องสนับสนุน และยกขึ้นมาให้ทุกคนได้เห็น

“อีกอย่าง คุณพิชัยไม่ใช่ช่างภาพโดยอาชีพ แต่มีความสนใจเรื่องการถ่ายภาพและถ่ายภาพออกมาได้ดีมากๆ สะท้อนมุมที่เราคิดไม่ถึง เขาสามารถหามุมประทับใจหรือมุมที่ชอบได้ทุกวัน ทุกเวลา

“เพราะฉะนั้น เรื่องนี้สำคัญกับอนาคตของสังคม การที่เราอยู่ในที่เดิมๆ ทุกวัน เรามักสิ้นหวัง ท้อแท้ จำเป็นที่จะต้องใช้มุมมองแบบคุณพิชัย คือมองสิ่งธรรมดาให้เป็นความงาม จะช่วยทำให้เรารู้สึกว่า สิ่งที่เราอยู่หรือสิ่งที่เราเห็นทุกวันนั้นมีค่าและมีความหมาย

“แล้วคุณพิชัยเป็นคนไม่เซตอัพ ไม่มีอุปกรณ์หรือตัวช่วยใดๆ เห็นอะไรก็ถ่ายไปตามนั้น เพราะการทำงานของเขาที่ต้องวิ่งรับส่งผู้โดยสาร ทำให้ต้องเข้าไปตามตรอกซอกซอยในเวลาที่เร่งรีบ ดังนั้นภาพที่เขาเห็นอาจจะไม่ใช่ทั้งตัวตึก แต่เห็นเพียงบางมุม เพราะถูกบังคับด้วยลักษณะพื้นที่ แต่เขาก็ยังเห็นว่ามันสวยอยู่ เลยชื่นชมว่าเขาสามารถถ่ายทอดชีวิตจริงออกมาได้ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นได้ นี่คือสิ่งที่เราเผชิญหน้าอยู่ในปัจจุบัน เราต้องผ่านพ้นไปให้ได้เท่าที่เรามีและเท่าที่เราเป็น และมองในมุมที่ดีที่สุด เราถึงจะมีความหวังที่ทำให้เราไปต่อได้” กรรมการผู้จัดการเครือมติชน ขยายความ

ภาพถ่ายของพิชัยไม่เพียงมอบแง่คิดให้สังคมเท่านั้น แต่ยังได้ให้กำลังใจกับชาวมติชนด้วยเช่นกัน

“พอเห็นภาพแล้วรู้สึกประทับใจมาก เพราะหลายครั้งเราแทบไม่ได้สังเกตรายละเอียดต่างๆ เลย แต่ภาพถ่ายทำให้กลับไปนึกถึงวันที่พ่อ (ขรรค์ชัย) ก่อร่างสร้างตัว สร้างรากฐานความเป็นมติชน จนได้รับความไว้วางใจจากสังคมอย่างทุกวันนี้ ดังนั้นหน้าที่ของเราคือดูแลและพัฒนาต่อไป

“ขณะเดียวกัน ภาพถ่ายเหล่านี้อาจทำให้ทีมงานหรือคนในบริษัทได้เห็นมุมใหม่ๆ เกิดความรักและผูกพันกับบริษัทขึ้นมาได้อีกทางหนึ่ง เป็นมติชนที่มีความทันสมัย แต่ยังสามารถเชื่อมโยงกับคนยุคเก่าได้”

“45 ปี มติชน” จึงเป็นปีที่มติชนยังคงมอบสาระความรู้เข้มข้น ปรับตัวอย่างไม่หยุดนิ่ง เชื่อมโยงจากรุ่นสู่รุ่น อยู่เคียงข้างสังคมไทย พร้อมรับความท้าทายที่เข้ามาด้วยความแข็งแกร่ง!

สุทธาสินี จิตรกรรมไทย เจียจันทร์พงษ์

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image