ผู้เขียน | นฤตย์ เสกธีระ |
---|
ปีใหม่ 2565 นี้มีอะไรใหม่ๆ ที่น่าสนใจ
อาจเป็นเพราะโลกกำลังอยู่ในช่วงการเปลี่ยนแปลง
มีเทคโนโลยีที่พัฒนา มีโรคระบาดที่ยังไม่หมดไป
ทำให้ทุกคนต้องดำรงชีวิตบนวิถีใหม่
เศรษฐกิจก็ถึงจังหวะเวลาที่ต้องแสวงหาเครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจตัวใหม่
สำหรับท้องถิ่น เมื่อปีที่ผ่านมารัฐบาลเพิ่งเปิดโอกาสให้มีการเลือกตั้ง
ท้องถิ่นหลายแห่งจึงมีผู้บริหารใหม่
สภาท้องถิ่นก็เช่นกัน หลายแห่งมีสมาชิกหน้าใหม่เข้าไป
ณ โอกาสนี้ขอต้อนรับผู้บริหารและสมาชิกสภาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้งหมด
ทั้ง อบจ. เทศบาล และ อบต.
ขณะเดียวกัน อยากเสนอข่าวดีที่น่าท้าทายให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรับทราบ
เป็นข่าวจากสถาบันพระปกเกล้า
ปีนี้สถาบันพระปกเกล้าจัดประกวดรางวัลพระปกเกล้าเหมือนเดิม
ประกวด 3 รางวัล คือ 1.รางวัลความโดดเด่นด้านมีส่วนร่วม 2.รางวัลความโดดเด่นด้านเครือข่ายรัฐ เอกชน และประชาสัมคม และ 3.รางวัลความโดดเด่นด้านความเหลื่อมล้ำ
ใครที่เคยสัมผัสกับรางวัลนี้แล้วคงรับทราบถึงคุณค่า
หลายองค์กรที่เคยรับโล่รางวัลติดต่อกันหลายครั้งในรอบ 5 ปี มีโอกาสได้ประกวดรางวัลพระปกเกล้าทองคำ
รางวัลพระปกเกล้าทองคำจะมี 2 ปีครั้ง ส่วนรางวัลพระปกเกล้าจัดขึ้นทุกปี
รางวัลพระปกเกล้าเน้นค้นหากระบวนการความสำเร็จที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทำให้ท้องถิ่น
กระบวนการมีส่วนร่วม โดยคนในท้องถิ่นร่วมคิด คนของท้องถิ่นร่วมทำ
ภารกิจใดที่ทำไม่ไหว ก็มีกระบวนการสร้างเครือข่ายที่คนในท้องถิ่นประสานกับภาครัฐภาคเอกชนมาช่วยเหลือ
กลายเป็นเครือข่ายที่สร้างสรรค์งานตอบสนองความต้องการท้องถิ่น
ความร่วมมือร่วมใจกันเช่นนี้สามารถทำให้สิ่งที่ยากกลายเป็นง่าย
แม้แต่ปัญหาความเหลื่อมล้ำที่เป็นปัญหาของโลก และเป็นปัญหาของประเทศ
หากท้องถิ่นเข้มแข็ง จัดเก็บข้อมูลที่ถูกต้อง นำข้อมูลมาใช้อย่างจริงจัง
อะไรที่มองว่าเหลื่อมล้ำ สามารถคลี่คลายได้ จะกลายเป็นผลงานชิ้นโบแดงที่คนท้องถิ่นทำได้เอง
เป็นผลงานของคนท้องถิ่น ซึ่งก็คือผลงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นด้วย
เมื่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นร่วมมือกับชาวบ้าน ทุกอย่างย่อมประสบผล
เชื่อว่าองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ได้พิสูจน์ฝีมือ และได้รับรางวัลจากสถาบันพระปกเกล้าบ่อยๆ จะเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ประชาชนนิยมชื่นชม
เมื่อถึงเวลาเลือกตั้ง ทั้งนายกฯ และผู้บริหาร ย่อมมีโอกาสได้รับเสียงโหวตให้เข้ามาทำหน้าที่ต่อ
ในปีนี้ สถาบันพระปกเกล้าเพิ่งสรุปว่าจะมีการประกวดรางวัลดังกล่าวอีกครั้ง
ดังนั้น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแห่งใดสนใจเตรียมตัวสมัครได้
เพียงแต่ต้องมั่นใจว่ามีผลงาน
อาจเป็นผลงานที่มาจากการมีส่วนร่วมมือ หรือผลงานที่เกิดจากเครือข่าย หรือเป็นผลการร่วมมือร่วมใจกันลดความเหลื่อมล้ำ
มีผลงานอย่างใดอย่างหนึ่งโดดเด่นก็เตรียมเอกสาร รอวันเวลาที่สถาบันพระปกเกล้าเปิดรับสมัคร
ลักษณะพิเศษของรางวัลพระปกเกล้า คือ พร้อมให้ความช่วยเหลือ
หากพบจุดใดที่เห็นว่าด้อย อาจารย์นักวิชาการพร้อมให้คำแนะนำ
ในขณะเดียวกัน ถ้าพบจุดแข็งขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สถาบันพระปกเกล้าพร้อมเผยแพร่โมเดลให้โลกรู้ เพื่อเป็นแบบอย่างให้ที่อื่นนำไปใช้ประโยชน์
สำหรับใครที่ยังมองไม่เห็นภาพการประกวดรางวัลพระปกเกล้า
ขอให้รออีกสักนิด
ช่วงเดือนมีนาคมถึงเมษายน สถาบันพระปกเกล้าจะจัดรายการพิเศษ
เชิญองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เคยได้รับรางวัลมาเล่าเรื่องราวของพวกเขา
ในสถานการณ์โรคระบาดเช่นนี้ ไม่ต้องเดินทางมารับฟัง
แค่เปิดเฟซบุ๊กของสถาบันพระปกเกล้าก็สามารถร่วมฟังรายการสดๆ ทางออนไลน์ได้
ใครที่รับฟังจะทราบถึงวิธีการเข้าสู่การประกวดรางวัลพระปกเกล้า
ถือเป็นการอธิบายเกณฑ์การคัดเลือกให้เข้าใจกันถ้วนทั่ว
ขณะเดียวกัน ยังได้รับฟังวิธีการบริหารงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ได้รับรางวัล
เชื่อว่าคงมีโอกาสได้ฟังผลลัพธ์จากผลงานที่ทำให้ประชาชนว่า ในที่สุดแล้วประชาชนมีท่าทีอย่างไรกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้นๆ
อยากให้ทุกท้องถิ่นมีโอกาสได้ฟังรายการนี้
อยากให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่สนใจสมัครเข้าประกวด
ผลจากการประกวดจะทำให้ทุกองค์กรได้สัมผัสถึงอานุภาพของความสามัคคี
ซาบซึ้งถึงพลังประชาชนท้องถิ่น
เมื่อท้องถิ่นจับมือกับประชาชน ย่อมเกิดพลังสร้างสรรค์
ยิ่งถ้าทุกองค์กรในท้องถิ่น ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ร่วมมือกัน
ยิ่งสร้างสรรค์งานได้อย่างมีพลัง
เป็นพลังของท้องถิ่นที่มีอยู่แล้ว แต่ที่ผ่านมาอาจยังหาไม่เจอ