คอลัมน์ For a Song ท่องโลกผ่านเพลง : MACK THE KNIFE แม็คมือมีด

มีนักเพลงไลน์มาว่า “กัวจินฟา” เจ้าของเพลงดัง “เซียวบ๊ะจ่าง” ล้มคว่ำลงคาเวที ก่อนจะเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจวาย ขอแสดงความเสียใจกับบรรดาแฟนของเขาด้วย

ในขณะเดียวกัน ก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึง Bobby Darin นักร้องอเมริกันขวัญใจวัยรุ่นเมื่อสมัยปลายยุค 50s ถึง 60s เพราะในครั้งนั้น คุณบ็อบบี ดาริน ซึ่งยังเป็นหนุ่มแน่นเคยล้มลงกลางเวทีขณะที่กำลังร้องเพลงแบบเดียวกันไม่มีผิด ก่อนที่จะไปเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจในวัยเพียง 37 ปี

โรคหัวใจของคุณบ็อบบี ดาริน เป็นปัญหาส่วนตัวที่สืบเนื่องมาจากโรครูมาติกเมื่อครั้งเขายังเป็นเด็ก ขนาดที่คุณหมอเคยบอกกับแม่เขาว่า “เด็กคนนี้คงอายุไม่ยืน”

แต่เด็กชายบ็อบบีก็เติบโตขึ้นมา (เกือบ) เหมือนเด็กแข็งแรงทั่วๆไป โดยมีแม่และพี่สาวคอยดูแลแต่ไม่ประคบประหงม มิหนำซ้ำยังปล่อยให้เขาทำอะไรๆ ตามใจอยาก โดยแอบคิดว่า เวลาของบ็อบบีมีน้อย ให้เขามีความสุขไว้ดีกว่า

Advertisement

สิ่งที่ทำให้บ็อบบีมีความสุขจริงคือการได้เรียนดนตรี ซึ่งแม่และพี่สาวก็สนับสนุนเต็มที่ เพราะทั้งบ้านรักดนตรีตามประสาคนอิตาเลียน-อเมริกันทั่วไป บ็อบบีเล่นทั้งกีตาร์ กลอง และเปียโน และตั้งวงเล่นกับเพื่อนๆ ตั้งแต่ยังอยู่ชั้นมัธยม แต่การเรียนไม่เคยเสีย เขาเป็นนักเรียนชั้นดีของโรงเรียนชั้นเยี่ยมในนิวยอร์ก

เมื่อได้ทุนเข้ามหาวิทยาลัยมีชื่อเสียงอย่าง Hunter College บ็อบบีก็ยังเล่นดนตรีและแต่งเพลงไปด้วย แต่เรียนได้สองเทอมก็เบื่อ ลาออกมุ่งหน้าสู่ถนนสายดนตรี ใช้เวลาไม่นานนักเขาก็กลายเป็นนักร้องเงินล้าน ขวัญใจวัยรุ่นผู้เขียนเพลงเอง-ร้องเองคนแรกๆ ของวงการเพลงป๊อป

ใน ค.ศ.1959 บ็อบบี ดาริน ก็จูง “แม๊คมือมีด” Mack the Knife ขึ้นอันดับหนึ่งของบิลบอร์ด แล้วติดอันดับรองๆต่อไปอีกร่วมครึ่งปี

Advertisement

ดังยืดยาวขนาดนี้หาไม่ได้ง่ายๆ ไม่ว่าสมัยไหน

ทุกวันนี้เมื่อคนรุ่นใหม่ได้ฟัง Mack the Knife ของบ็อบบี ดาริน ก็ยังอดเลื่อมใสดีกรีความมันส์ของผลงานจากรุ่นคุณปู่ไม่ได้

ผลงานในเพลง Mack the Knife ทำให้ บ็อบบี ดาริน ได้รางวัลแกรมมี่อวอร์ดทีเดียวสองแขนงในปี ค.ศ.1959 เลยคือเป็นศิลปินหน้าใหม่ที่ดีที่สุดของปีและเป็นนักร้องชายยอดเยี่ยม ขณะนั้นเขามีอายุเพียง 23 ปี

ถึงปี ค.ศ.1968 บ็อบบี ดาริน คิดจะสมัครแข่งขันชิงตำแหน่งทางการเมือง นิน่าพี่สาวกลัวคนอื่นจะไปขุดคุ้ยประวัติ จึงรีบเปิดเผยกับบ๊อบว่าจริงๆ แล้วเธอคือแม่ของเขา แต่เกิดท้องโดยไม่ได้แต่งงานเมื่ออายุยังน้อย ยายของบ๊อบบีจึงรับสมอ้างเป็นแม่เสียเอง ส่วนพ่อที่ตายในคุกนั้นจริงๆ คือตา หรือสามีของยาย

เมื่อรู้ความจริง บ๊อบบีต้องถอนตัวออกจากเส้นทางการเมือง เพราะกลัวคนจะขุดอดีตไม่สวยของครอบครัวหรือที่ฝรั่งเรียกว่าโครงกระดูกในตู้ (skeleton in the cupboard หรือ in the closet) ขึ้นมา

ดูไปก็ไม่ต่างอะไรจากสมัยนี้ คนที่ต้องการจะเล่นการเมืองเพราะจะต้องพยายามแสดงให้ประชาชนเห็นถึงความโปร่งใสทั้งในอดีตและปัจจุบัน นัยว่าจะเป็นเครื่องยืนยันการันตีไปถึงความโปร่งใสในอนาคต

แต่เอาจริงเข้าก็กลับกลายเป็นว่า ใครจัดเก็บโครงกระดูกใส่ตู้ได้มิดชิดกว่ากันต่างหาก บางคนที่เก่งจริงก็เอาโครงกระดูกที่ว่ามาประดับประดาเสียใหม่ให้วิไลตา ดูไปคล้ายๆ หนังเรื่องไซโคของอัลเฟรด ฮิทชคอกค์ ที่เอาโครงกระดูกแม่มาแต่งตัวจัดให้นั่งไฉไลอยู่บนเก้าอี้โยก

ในปัจจุบันคงเป็นเพราะสังคมเปลี่ยนไป คนสมัยใหม่ไม่ค่อยอับอายกับโครงกระดูกในตู้ เพราะเห็นว่าความผิดเพี้ยนของพ่อแม่ปู่ย่าตายาย ไม่จำเป็นต้องติดตามมาเป็นความผิดของลูกหลานด้วย

หากเป็นบัญชีออมทรัพย์ในธนาคารก็ไม่ใช่บัญชีร่วม แต่เป็นคนละบัญชีกัน ของใครของมัน ซึ่งก็ยุติธรรมดีอยู่เพราะใครเล่าจะดีพร้อมไปทุกสายสาแหรก ทุกท่อนไม้คาน หรือทุกชั่วโคตร

เขียนแล้วนึกถึงนักแสดงใหญ่อีกคนหนึ่งคือ แจ๊ค นิโคลสัน ประวัติของแจ๊คก็คล้ายๆ อย่างนี้ คือมารู้ตอนหลังว่าพี่สาวคือแม่ แต่คุณแจ๊คก็ไม่เดือดร้อนอะไร

ส่วน อาร์โนลด์ ชวาร์เซเนกเกอร์ นักแสดงกล้ามโต เคยพูดติดตลกว่า “คนอื่นเค้ามีโครงกระดูกในตู้คนละโครงสองโครง แต่ของผมนั้นมีเป็นป่าช้าทีเดียว”

รายชื่อคนที่ถูกแม็คมือมีดสังหารในเพลง Mack the Knife ก็แทบจะเป็นป่าช้าเหมือนกัน

Mack the Knife เป็นเพลงเก่าเล่าใหม่ ฮิตแล้วฮิตอีกมาหลายครั้ง ที่แฟนเพลงชอบกันมากคือเวอร์ชั่นของคุณตาหลุยส์ อาร์มสตรอง ที่ดังมาสองสามปีก่อนหน้าของบ็อบบี ดาริน

แม็คมือมีดมาจากละครเพลงเยอรมันเรื่อง Die Dreigroschenoper ซึ่งมีชื่อภาษาอังกฤษว่า The Threepenny Opera เนื้อเพลงนั้นสยดสยองพิกล มีรายชื่อเหยื่อของเจ้าแม็คฮีทตัวเอกของเรื่อง ว่ารายนั้นโดนมีดเลือดสาด รายโน้นโดนถ่วงน้ำ แต่ละรายล้วนแต่ไม่เจริญหู แต่ก็กลับเป็นเพลงซุปเปอร์ฮิต อยู่ยงมาร่วม 90 ปี

เมื่อครั้งเป็นเพลงในภาษาเยอรมันชื่อ Die Moritat von Mackie Messer แม็คมือมีดก็ดังลั่นในทวีปยุโรป บรรดาแฟนของเพลงนี้มีทั้งผู้ฟัง นักร้อง และนักดนตรี คือ คนเล่นก็ชอบเล่น คนร้องก็ชอบร้อง คนฟังก็ชอบฟัง เป็นความพึงใจร่วมกันอย่างกลมเกลียว ที่ยังคงทนและเป็นความจริงอยู่จนปัจจุบัน

เรื่องราวของแม็คมือมีดและละคร Threepenny Opera นี้ หากมองแว้บ-แว้บก็เห็นจะต้องว่า เป็นละครสรรเสริญผู้ที่มีความชั่วเป็นสรณะ (คือเจ้า Macheath) แต่หากเขม้นมองให้ดี ก็กลับกลายเป็นอีกมุมหนึ่ง คือเสียดสีคนที่ชื่นชมยกย่องคนชั่ว และอาศัยคนชั่วเปิดทางสะดวกให้แก่ตน

นี่เป็นเรื่องธรรมดาของทุกมุมโลก เห็นได้รอบๆตัวเราทุกคน เพียงแต่ไม่ค่อยมีใครกล้าเปิดปากวิจารณ์

มีละครเพลงเรื่อง Threesatang Opera เมื่อไหร่ เราจะตามไปดู

ไปด้วยกันไหม?


ฟัง MACK THE KNIFE โดย Bobby Darin

โดย Louis Armstrong

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image