อาศรมมิวสิก : ฟื้นเมืองเชียงแสนด้วยเสียงเพลง บรรเลงให้ก้อนอิฐฟัง

อาศรมมิวสิก : ฟื้นเมืองเชียงแสนด้วยเสียงเพลง บรรเลงให้ก้อนอิฐฟัง

ทําไมเลือกแสดงดนตรีที่เมืองเชียงแสน เพราะทุกคนรู้จักและได้ยินชื่อเชียงแสนมานาน รู้จักมากน้อยแค่ไหนอีกเรื่องหนึ่ง เชียงแสนมีชื่อเสียงมากกว่าความเป็นจริงคือสิ่งที่เชียงแสนเป็นอยู่จริงในปัจจุบัน ความจริงเชียงแสนเป็นเมืองที่ตายแล้ว เป็นเมืองที่มีชื่ออยู่ในประวัติศาสตร์ อยู่ในหนังสือ เป็นเมืองที่มีซากปรักหักพัง เป็นเมืองที่ไม่มีชีวิต ไม่มีธุรกิจการค้าหลักๆ เชียงแสนเป็นแค่ทางผ่าน ไม่มีศิลปวัฒนธรรมใหม่ใดๆ ที่จะอุ้มชูเชียงแสน

เชียงแสนไม่มีสถาบันการศึกษา ไม่มีองค์กรระดับชาติอยู่ ไม่มีหัวใจการค้นคว้าอนาคตที่เกี่ยวกับเชียงแสน ไม่มีศูนย์การค้าใหญ่ ไม่มีสินค้าหลักของเชียงแสน ไม่มีสถานรักษาพยาบาลชั้นยอด เชียงแสนไม่ได้เป็นเมืองหลักจึงไม่มีการพัฒนาเศรษฐกิจหรือการปกครอง ปัจจุบันไม่มีอะไรน่าสนใจ เหลืออยู่เป็นซากเมืองเก่า เห็นร่องรอยของอดีต เชียงแสนเป็นเพียงเมืองเชลยที่รัฐละทิ้งและปล่อยปละละเลย

อดีตเชียงแสนเป็นเมืองสำคัญทางประวัติศาสตร์ เป็นเมืองที่เป็นศูนย์กลางการค้าวัฒนธรรมข้ามชาติ เป็นพื้นที่อ่าวเว้าของแม่น้ำโขง ทำให้น้ำไหลวน เชียงแสนอยู่ใกล้พื้นที่ “สามเหลี่ยมทองคำ” มีความอุดมสมบูรณ์ เป็นเมืองทางการค้า เป็นแหล่งทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญทางเศรษฐกิจ พื้นที่การซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้า มีชนชาติและเผ่าพันธุ์หลากหลาย ร้อยพ่อพันแม่ จีน ลาว พม่า ไทย และชนเผ่า ทั้งยังมีนักเดินทางจำนวนมาก

ปัจจุบันสามเหลี่ยมทองคำเป็นเมืองคาสิโนของต่างชาติ เป็นเมืองอบายมุข เป็นพื้นที่ของคนบาป โดยได้รวบรวมเอาคนบาปจากจีน ไทย ลาว พม่า เวียดนาม สิงคโปร์ รามคนบาปนานาชาติไปไว้ที่สามเหลี่ยมทองคำ ซึ่งอยู่ห่างจากเชียงแสนเพียง 10 กิโลเมตร ลองนึกภาพดูว่า ประชากรเชียงแสนจะมีบุคลิกอย่างไร เด็กๆ ที่เมืองเชียงแสนจะเป็นอย่างไร ในอนาคตจะประกอบอาชีพอะไร เมื่อต่อมอบายมุขโตขึ้นทุกวัน ต่อมของภูมิต้านทานก็จะเล็กลงไปตามสัดส่วน

Advertisement
วัดพระธาตุจอมกิตติ วัดเก่าแก่เชียงแสน
วัดพระธาตุผาเงา ช่างฝีมือสืบทอดการสร้างวัดไว้สวยงามมาก

อดีตเชียงแสนเป็นเมืองสำคัญทางพุทธศาสนา มีอารยธรรมที่เก่าแก่ มีตำนานสุวรรณโคมคำ ตำนานสิงหนวัติกุมาร ตำนานเมืองหิรัญนครเงินยาง เชียงแสนมีพระพุทธรูปที่เป็นต้นแบบฝีมือ “ช่างเชียงแสน” ในการสร้างพระพุทธรูป มีพระพุทธรูปที่สำคัญเป็นต้นแบบในเวลาต่อมา อาทิ พระสิงห์ พระพุทธสิหิงค์ พระแก้วมรกต ซึ่งพระพุทธรูปสำคัญเหล่านี้ ได้เริ่มขึ้นโดยฝีมือช่างที่เมืองเชียงแสน เชียงแสนมีอดีตที่ยิ่งใหญ่แต่ไม่มีอนาคต

เชียงแสนจึงมีวัดที่สำคัญ อาทิ วัดเจดีย์หลวง วัดพระธาตุจอมกิตติ วัดป่าสัก วัดพระธาตุผาเงา วัดพระธาตุดอยภูเข้า วัดพระบวช วัดเชตวัน วัดมหาธาตุ วัดอ้อมแก้ววัดอโศก วัดช้างค้ำ วัดมงคล วัดป่างัวเชียง วัดคว้าง วัดอุดม วัดป่าแดง เป็นต้น วัดเหล่านี้เป็นต้นแบบของวัดในสยามยุคต่อมา วัดจำนวนหนึ่งล่มสลายไปตามกาลเวลา เหลือแต่ซากกองอิฐ ส่วนวัดที่ยังเหลืออยู่ มองเห็นร่องรอยความยิ่งใหญ่อลังการ มีความสวยงาม เห็นผู้คนและผู้สร้างวัดในเชียงแสน อาศัยความศรัทธาอันแรงกล้าที่มีต่อพระศาสนา เห็นวัดเห็นจิตใจคน

 

วัดป่าสัก เชียงแสน

อดีตเชียงแสนเป็นเมืองที่สำคัญทางการค้า แหล่งเศรษฐกิจ เมืองศาสนา และมีวัฒนธรรมที่สำคัญ ซึ่งทำให้เชียงแสนเป็นที่หมายปองของนักปกครอง ผู้มีอำนาจ กษัตริย์ หรือผู้นำทั้งหลาย ต้องการมีอำนาจปกครองเหนือเชียงแสน เพื่อควบคุมผู้คนและทรัพยากร หัวใจสำคัญก็คือพระพุทธศาสนาที่มีผู้เลื่อมใสศรัทธาอยู่มาก ผู้มีอำนาจจะต้องยึดเมืองเชียงแสนเพื่อแสดงถึงความยิ่งใหญ่เหนืออำนาจของเชียงแสนไว้

เมืองเชียงแสนถูกสงครามทำลายหลายครั้ง บางครั้งถูกทำลายโดยโรคระบาด ภัยธรรมชาติ แผ่นดินไหว น้ำท่วม ผู้มีอำนาจทั้งหลายก็ไม่ต้องการให้เชียงแสนเติบโตหรือมีอำนาจจนควบคุมไม่ได้ ในที่สุดเชียงแสนก็ถูกทำลาย ประกอบกับเชียงแสนตั้งอยู่บนพื้นที่รอยต่อของเปลือกโลกเมื่อใดที่เปลือกโลกขยับก็จะเกิดแผ่นดินไหว เมืองเชียงแสนก็ถูกทำลายด้วยภัยธรรมชาติ เกิดธรณีพิโรธเขย่าเมืองเชียงแสน

สงครามและภัยธรรมชาติ ทำให้คนเชียงแสนถูกกวาดต้อนโยกย้ายให้ไปอยู่ที่อื่น ไปเชียงราย เชียงใหม่ ลำปาง แพร่ ซึ่งเชียงแสนก็กลายเป็นเมืองร้าง เมืองที่ไม่มีผู้คนดูแลรักษา เมืองที่ถูกปล่อยให้ผุพังไปกับกาลเวลา ผู้อาศัยใหม่ก็มองไม่เห็นความสำคัญของเชียงแสน อยู่เพื่อทำมาหากิน ไม่มีอนาคตและรอเพื่อไปอยู่ที่อื่น

เชียงแสนเป็นเมืองที่มีตำนาน มีอารยธรรมทับถมหลากหลาย มีวัดวาอาราม มีบทเพลงอยู่จำนวนมากที่มีชื่อเชียงแสน อาทิ ตั้งเชียงแสน จ๊อยเชียงแสน พิลาศเชียงแสน มอญเชียงแสน เชียงแสนหลวง ปราสาทไหว ฤาษีหลงถ้ำ สาวไหม มอญดำ (สร้อยเวียงพิงค์) ล่องโขง ซอพม่า พม่าซ่อมดอก ล้อเลื่อน ป้าวไกวใบ ป้อก้าหมูน้อย กล่อมนางนอน เป็นต้น สำเนียงเพลงเชียงแสนแตกต่างไปจากสำเนียงเพลงของพื้นที่ในชุมชนอื่นๆ แม้ว่าจะเป็นเพลงชื่อเดียวกันก็ตาม

สำหรับผู้วิจัยแล้ว เชียงแสนเป็นเมืองที่วิเศษสุดในหลายมิติ เป็นเมืองตำนาน เคยมีความเจริญรุ่งเรือง มีร่องรอยประวัติศาสตร์ ทุกคนต่างอ้างถึงเมืองเชียงแสน จึงต้องการศึกษาและวิจัยวัฒนธรรมเพลงเชียงแสน แม้จะเข้าไม่ถึงแก่นของวัฒนธรรมเชียงแสนนัก แต่อย่างน้อยก็ได้ไปเคาะประตูให้ผู้คนในเชียงแสนรับรู้หันมาศึกษา เป็นการก่อกวนทางปัญญา ก่อกวนทางวิชาการ ก่อกวนทางวัฒนธรรม เพื่อเขย่าให้เกิดการพัฒนาวิถีวัฒนธรรมเชียงแสนในโอกาสต่อไป

เชียงแสนเป็นเมืองประวัติศาสตร์ที่นิ่ง รัฐได้ย้ายศูนย์กลางการปกครองไปที่อื่น ย้ายศูนย์วัฒนธรรมไปอยู่ที่เชียงราย ย้ายความเจริญไปอยู่ที่เชียงใหม่และเชียงราย ย้ายการศึกษาไปที่เมืองเชียงราย เชียงใหม่ พะเยา ลำปาง ส่วนเชียงแสนถูกลดระดับความสำคัญลง เหลือแค่อำเภอเชียงแสน ไม่มีศูนย์กลางความสำคัญใดๆ อีก

ขจร วงศ์ชัยพาณิชย์ นักประพันธ์เพลง, เด่นชัย รีอินทร์ นักร้อง, ประสิทธิ์ เลียวสิริพงศ์ และสุกรี เจริญสุข นักวิจัย
อ้อม รัตนัง นักร้องที่เชียงแสน, ภานุทัต อภิชนาธง ร้องเพลงชนเผ่าไต, เด่นชัย รีอินทร์ นักร้องชนเผ่า

การเลือกเพลงเพื่อนำเสนอโดยวงไทยซิมโฟนีออเคสตรา มีวงคนเวียงเก่า ซึ่งเป็นวงสะล้อซอซึงชาวบ้านที่เชียงแสน มีระบำเชียงแสนและระบำชุมนุมเผ่าไทย ช่างฟ้อนจากวิทยาลัยนาฏศิลปเชียงใหม่ ร้องเพลงสำเนียงเหนือโดยภานุทัต อภิชนาธง และอ้อม รัตนัง เพลงตั้งเชียงแสน จ๊อยเชียงแสน ฤาษีหลงถ้ำ เป่าปี่จุมโดยภานุทัตอภิชนาธง เพลงพิลาศเชียงแสน สาวไหม มอญดำ (สร้อยเวียงพิงค์) เพลงสะล้อซอซึงทำนองซอพม่า เนื้อร้องโดยศิลปินแห่งชาติ เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ขับร้องโดยภานุทัต อภิชนาธง เพลงกล่อมนางนอน เพลงดอกไม้เมือง ของอ้อม รัตนัง เพลงดอกระมิงค์ ทำนองเพลงน้อยไจยาเพลงเชียงแสนหลวง เพลงหนุ่มพญาซึง ขับร้องโดยเด่นชัย รีอินทร์ และเพลงพญาไพร (ชาฉุยฟง) ขับร้องโดยขจร วงศ์ชัยพาณิชย์ ซึ่งจะเปิดแสดงที่วัดป่าสัก เชียงแสน วันพุธที่ 27 เมษายน เวลา 18.00-19.30 น.

เมื่อไปแสดงดนตรีที่วัดป่าสัก เชียงแสน ได้ชักชวนสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสไปถ่ายทำ ชวนมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย ชวนนายอำเภอเชียงแสน ชวนผู้ใหญ่ไปฟังเพลง ทั้งที่รู้ว่าในวัดป่าสักไม่มีห้องน้ำรองรับ ไม่มีกำลังไฟฟ้าเพียงพอที่จะรองรับในการจัดงาน ซึ่งต้องหารถสุขา หาเครื่องปั่นไฟจากที่อื่นไปใช้งาน หาจากเชียงรายและเชียงใหม่ ซึ่งก็น่าฉงนว่ากำลังไฟฟ้ากับห้องน้ำเป็นความจำเป็นพื้นฐานที่สุดของเมือง แต่เชียงแสนยังไม่มี

การยกย่องให้เชียงแสนเป็นเมืองสำคัญทางประวัติศาสตร์ เมื่อไม่มีแม้แต่สิ่งจำเป็นขั้นพื้นฐานแล้ว เชียงแสนจะเป็นเมืองประวัติศาสตร์ที่เป็นตำนานได้อย่างไร ดังนั้น การฟื้นเมืองเชียงแสนด้วยเสียงเพลง จึงเป็นเพียงการนำบทเพลงที่เกี่ยวข้องกับเชียงแสนมาบรรเลง เพื่อจะกล่อมให้ก้อนอิฐฟังเท่านั้น

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image