‘45 ปี มติชน’ บนเส้นทางการอ่าน เติมหนังสือ กระจายความรู้ สู่ชาว ‘ฉะเชิงเทรา’

ปานบัว บุนปาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) พร้อมคณะผู้บริหารในเครือมติชน มอบหนังสือแก่ 45 หน่วยงานในฉะเชิงเทรา โดยมี ไมตรี ไตรติลานันท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา พินิจ จารุสมบัติ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และประธานสภาวัฒนธรรมไทย-จีนและส่งเสริมความสัมพันธ์ พร้อมด้วยตัวแทนจากหน่วยงานต่างๆ รับมอบ

“ผมในนามพ่อเมืองและผู้แทนของทุกส่วนและประชาชนชาวฉะเชิงเทรา ต้องกราบขอขอบพระคุณ มติชน มูลนิธิดร.โกวิท วรพิพัฒน์ และท่านพินิจ จารุสมบัติ ที่มีความเป็นห่วงเป็นใย

การอ่าน การหาความรู้เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ชาวฉะเชิงเทราพัฒนาวิสัยทัศน์ อยากให้ทุกหน่วยงานที่มารับมอบหนังสือในวันนี้ เมื่อรับไปแล้ว นำไปไว้ในห้องสมุดซึ่งเป็นศูนย์รวมที่เด็กและเยาวชนจะได้เข้าไปอ่าน”

ไมตรี ไตรติลานันท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา

คือคำกล่าวตอนหนึ่งของ ไมตรี ไตรติลานันท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา เบื้องหน้าผู้บริหารในเครือมติชน นำโดย ปานบัว บุนปาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วย สุดารัตน์ วันเพ็ญ รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาดและโฆษณา, นฤตย์ เสกธีระ กรรมการผู้จัดการ บริษัท งานดี จำกัด, ชลิต กิติญาณทรัพย์ ประธานที่ปรึกษา กรรมการผู้จัดการ บริษัท งานดี จำกัด, สุรพล พิทยาสุกล ที่ปรึกษากรรมการผู้จัดการ บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน), จุมพฏ สายหยุด ผู้อำนวยการฝ่ายวางแผนกลยุทธ์ บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) และ วณิชยา ปะตังถาโต ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายขายพิเศษ บริษัท งานดี จำกัด

รายล้อมด้วยตัวแทนหน่วยงานภาครัฐและองค์กรต่างๆ ในจังหวัดฉะเชิงเทรา ในวันรับมอบหนังสือ ภายใต้โครงการ “45 ปี มติชนส่งมอบความรู้ สู่สังคมไทย” ณ ห้องประชุมพระยาศรีสุนทรโวหาร (น้อย    อาจารยางกูร) ศาลากลางจังหวัดฉะเชิงเทรา ในช่วงบ่ายของวันที่ 9 พฤษภาคมที่ผ่านมา

Advertisement

‘ส่งต่อความรู้’ ภารกิจหลัก ‘45 ปี มติชน’

เพื่อคุณภาพสังคมไทย

Advertisement

โปรเจ็กต์ดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “แบ่งปันความรู้ เชิดชูศาสนา พัฒนาแหล่งน้ำลำคลอง” ซึ่งบริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ มูลนิธิ ดร.โกวิท วรพิพัฒน์ และมูลนิธิบรรจง พงศ์ศาสตร์ จัดกิจกรรมแบ่งปันความรู้อย่างต่อเนื่อง โดยหนังสือพิมพ์มติชนและสื่อในเครือเป็นสื่อกลางในการรณรงค์และประชาสัมพันธ์ ในการรับเงินบริจาคเพื่อระดมทุนจัดหาหนังสือใหม่และทันสมัยเข้าห้องสมุดทั่วประเทศ รวมถึงการปรับปรุงภูมิทัศน์วัดวาอาราม เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการเชิดชูศาสนา อีกทั้งบำรุงรักษาแหล่งน้ำลำคลองด้วย

ในปี 2565 นี้ บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) ดำเนินกิจการเข้าสู่ปีที่ 45 ด้วยนโยบายการส่งต่อความรู้ถือเป็นภารกิจหลักของบริษัทมาโดยตลอด การเล็งเห็นถึงคุณค่าของการอ่านจะช่วยให้คนในสังคมไทยได้รับความรู้และพัฒนาตัวเองให้อยู่รอด

เครือมติชน จึงจัดทำโครงการ “ส่งมอบความรู้สู่สังคมไทย” ด้วยการเลือกนิตยสารและหนังสือดี แก่ 1.โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ จำนวน 5 ชุด เพื่อเป็นกำลังใจให้กับผู้ป่วยที่กำลังพักรักษาตัวให้มีแรงกายแรงใจ 2.หน่วยงานภาครัฐและองค์กรในจังหวัดฉะเชิงเทรา จำนวน 45 แห่ง เข้าไปเพิ่มเติมในห้องสมุดให้มากยิ่งขึ้น เพื่อส่งเสริมการอ่าน สร้างภูมิปัญญา

ห้องสมุด ชุมชน บ้าน

กระจายโอกาส ‘อ่าน’ เพื่อ โอกาสของ ‘ชีวิต’

นฤตย์ เสกธีระ กรรมการผู้จัดการ บริษัท งานดี จำกัด เล่าว่า นี่คือโครงการต่อเนื่องของทางมติชนที่ร่วมกับมูลนิธิ ดร.โกวิท วรพิพัฒน์ ในการบริจาคหนังสือเพื่อส่งเสริมการอ่าน โดยมีแนวคิด ‘ส่งมอบความรู้สู่สังคมไทย’ โดยการมอบหนังสือในราชทัณฑ์ โรงพยาบาล เพื่อส่งเสริมการอ่าน ส่วนครั้งนี้ได้มอบหนังสือให้หน่วยงานต่างๆ ในจังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อส่งต่อให้กับห้องสมุดต่างๆ ต่อไป

“หวังว่าหนังสือทุกเล่มจะกระจายไปตามห้องสมุดต่างๆ ของชุมชน ให้กับคนอีกกลุ่มหนึ่ง หรือผู้ที่ไม่มีโอกาสได้อ่าน เพราะหนังสือทุกเล่มมีประโยชน์ ถ้าเราสามารถกระจายหนังสือไปยังห้องสมุดต่างๆ ตามชุมชน โรงเรียน ให้ได้มากที่สุด จะช่วยทำให้คนอ่านได้ประโยชน์ และนำไปใช้ในชีวิตต่อไป” นฤตย์กล่าว

สำหรับหน่วยงานที่รับมอบ อาทิ สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดฉะเชิงเทรา, สำนักงานเกษตรจังหวัดฉะเชิงเทรา, สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดฉะเชิงเทรา, สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดฉะเชิงเทรา, เทศบาลตำบลบ้านโพธิ์, เทศบาลตำบลเทพราช, เทศบาลตำบลแสนภูดาษ, องค์การบริหารส่วนตำบลคลองประเวศ เป็นต้น

พระแก้วมรกต, Siamese Melting Pot ก่อร่างเป็นบางกอก, เมื่อความจนเฆี่ยนตีผม, ความรักของวัลยา, ปีศาจ, เล่นแร่แปรภาพ, เรื่องธรรมดาสามัญประจำบ้าน, คนจรดาบ, วิ่งได้ไม่ใช่แค่วิ่ง, ต้นสายปลายจวัก, อ๋อ! มันเป็นอย่างนี้นี่เอง ฯลฯ คือส่วนหนึ่งของหนังสือที่ส่งมอบ รวมถึงการเป็นสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 1 ปีเต็ม

ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีการมอบหนังสือชุดสำคัญให้กับจังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อบรรจุใน ‘พิพิธภัณฑ์เมืองฉะเชิงเทรา’ เป็นกรณีพิเศษอีกด้วย

พิพิธภัณฑ์ดังกล่าวตั้งอยู่ในอาคารตำหนักกรมหมื่นมรุพงษ์ศิริพัฒน์ ซึ่งเดิมคือจวนผู้ว่าราชการจังหวัด จัดแสดงประวัติศาสตร์เมืองฉะเชิงเทรา บุคคลและเหตุการณ์สำคัญ อีกทั้งภาพถ่ายเก่าที่ไม่ควรพลาดชมนอกจากนี้ ยังเคยเป็นฉากหนึ่งในมรดกภาพยนตร์ของชาติ ‘สาย สีมา นักสู้สามัญชน’ ซึ่งสร้างจากวรรณกรรมอมตะ ‘ปีศาจ’ ผลงาน เสนีย์ เสาวพงศ์ ซึ่ง ขรรค์ชัย บุนปาน ประธานกรรมการบริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) นั่งเก้าอี้ผู้อำนวยการสร้าง ทั้งยังเดินทางมาดูแลการถ่ายทำฉากดังกล่าว ด้วยตนเอง เมื่อกว่า 40 ปีมาแล้ว ก่อนเดินทางมาเยี่ยมเยือนอีกครั้ง พร้อมด้วย ปานบัว บุนปาน และผู้บริหารในเครือ เมื่อปลายปี 2564 ย้อนความทรงจำฉากสำคัญในบ้านอันโอ่อ่าของ ‘รัชนี’ นางเอกของเรื่อง

ในรั้วเดียวกัน ยังมี ‘หอเชิดชูเกียรติพระยาศรีสุนทรโวหาร’ (น้อย อาจารยางกูร) ชาวฉะเชิงเทรา ผู้ซึ่งยูเนสโกเตรียมลงนามรับรองยกย่องเป็นบุคคลสำคัญของโลก โดยจะเข้าสู่วาระ 200 ปีชาตกาลในพุทธศักราช 2565 นี้ด้วย

‘นายอำเภอ’ เตรียมแจกจ่าย

มั่นใจพัฒนาศักยภาพประชาชน

จากตัวแทนผู้มอบ มาฟังเสียงตัวแทนผู้รับ อย่าง อนุชา เรืองอมรวิวัฒน์ นายอำเภอบ้านโพธิ์ หมาดๆ โดยเพิ่งมารับตำแหน่งราว 2 เดือนเศษ

“อำเภอบ้านโพธิ์ มีการทำเกษตรกรรม 26 เปอร์เซ็นต์ ส่วนใหญ่เลี้ยงกุ้ง เลี้ยงปลา นอกนั้นเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมต่างๆ ถ้ามีหนังสือเกี่ยวกับเทคโนโลยีทั้งด้านการเกษตรและอื่นๆ จะเป็นความรู้ที่นำไปใช้ได้จริง

การพัฒนาศักยภาพจำเป็นต้องอาศัยความรู้ ทั้งจากประสบการณ์และการอ่านให้มาก หนังสือที่ได้รับจากมติชนมีประโยชน์แน่นอน โดยจะนำหนังสือที่ได้รับในวันนี้ไปไว้ยังสถานที่กลาง เช่น ที่ว่าการอำเภอ รวมถึงแจกจ่ายไปยังท้องถิ่นเพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ได้ใช้ประโยชน์ ซึ่งในตัวอำเภอ มีห้องสมุดประชาชนของ กศน. เวลาไปรับบริการในส่วนของงานทะเบียน จะมีชั้นอ่านหนังสืออยู่ แม้สมัยนี้คนหันมาอ่านผ่านโทรศัพท์มือถือมากขึ้น แต่หนังสือเล่มยังมีความสำคัญอย่างมาก” นายอำเภอบ้านโพธิ์กล่าว ก่อนเล่าด้วยว่า

ขณะนี้กำลังศึกษาพื้นที่พร้อมทำงานขนานกันไปด้วย ส่วนตัวเป็นคนชอบเข้าพื้นที่ คุยกับคนดูหน้างาน เพื่อให้เห็นภาพชัดเจน ซึ่งจะส่งผลต่อการแก้ไขปัญหาได้อย่างเป็นรูปธรรม แน่นอนว่าการติดตามสถานการณ์ต่างๆ คือสิ่งจำเป็น ทุกวันนี้ติดตามข่าวสารจาก ‘มติชนออนไลน์’ ทั้งยังเป็นสมาชิกนิตยสาร ‘มติชนสุดสัปดาห์’ ตั้งแต่ 20 ปีก่อน

อนุชา เรืองอมรวิวัฒน์ นายอำเภอบ้านโพธิ์

“สำหรับมติชนรายวัน สมัยก่อนสนใจอ่านหน้าการเมืองเป็นหลัก แต่ตอนนี้เน้นไปที่เศรษฐกิจ ปากท้อง เพื่อนำมาปรับใช้ในการทำงาน ดูแลประชาชนในพื้นที่ตั้งแต่ยังเป็นนายอำเภอที่พลับพลาชัยและหนองหงส์ บุรีรัมย์ ก่อนย้ายมาที่บ้านโพธิ์ ฉะเชิงเทรา”

นอกจากนี้ นายอำเภอคนใหม่ยังสนใจแนวประวัติศาสตร์ โดยเป็นแฟนหนังสือ วิษณุ เครืองาม ซึ่งมีผลงานตีพิมพ์กับมติชนหลายเล่ม อาทิ ข้ามสมุทร, ลงเรือแป๊ะ และชีวิตของประเทศ เป็นต้น

ส่วนเล่มที่ไม่พลาดคือ ‘ฉะเชิงเทรา มาจากไหน ?’ ผลงาน สุจิตต์ วงษ์เทศ ผู้ก่อตั้งนิตยสารศิลปวัฒนธรรม และ 1 ใน 2 วิทยากรอาวุโสแห่งรายการ ขรรค์ชัย-สุจิตต์ ทอดน่องท่องเที่ยว ซึ่งนายอำเภอบ้านโพธิ์บอกว่า อ่านตั้งแต่มาทำงานใหม่ๆ รื้อห้องทำงานแล้วพบเข้า จึงไม่รีรอที่จะเปิดอ่านหาความรู้เกี่ยวกับจังหวัดฉะเชิงเทราในมิติประวัติศาสตร์ เพราะตนมีพื้นเพอยู่ที่แดนอีสานศรีสะเกษห่างไกลออกไปจากลุ่มน้ำบางปะกง การศึกษาข้อมูลเหล่านี้ย่อมสำคัญยิ่ง

หน่วยงานต่างๆ รับหนังสือเพื่อกระจายต่อในพื้นที่

หนังสือ คือ อาหารสมอง

‘ความรู้’ คือกุญแจเซฟแห่งความสำเร็จ

ด้าน พินิจ จารุสมบัติ อดีตรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีหลายกระทรวงหลายสมัย และประธานสภาวัฒนธรรมไทย-จีนและส่งเสริมความสัมพันธ์ผู้เกิดและเติบโตที่อำเภอบ้านโพธิ์ เริ่มต้นด้วยอารมณ์ขัน ว่า ‘ผมมีผู้ว่าฯไมตรีเป็นลูกพี่’ ก่อนเอ่ยว่า เป็นโชคดีของแปดริ้วที่มีผู้ว่าฯแอ๊กทีฟมาก พลอยส่งผลให้ภาคส่วนต่างๆ คึกคักตามไปด้วย

พินิจ จารุสมบัติ

“นี่เป็นกิจกรรมที่มีคุณูปการ ต้องขอบคุณผู้ว่าฯฉะเชิงเทรา มติชน และมูลนิธิดร.โกวิท วรพิพัฒน์ ซึ่งมอบหนังสือที่จะเป็นตำรับตำราให้ชาวแปดริ้วได้ใช้ประโยชน์ต่อไป

มติชนมีอาหารสมองครบหมด หนังสือในเครือมติชนเป็นแนวส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ และให้ความรู้ในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นศิลปวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ สิ่งแวดล้อม การศึกษา วิทยาศาสตร์” รองนายกรัฐมนตรีคนแรกของแปดริ้วกล่าว

จากนั้น เล่าประสบการณ์ครั้งเดินทางไปเยี่ยมเยือนสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี แหล่งสำคัญด้านประวัติศาสตร์การพิมพ์ของโลก โดยวันนี้คนจำนวนหนึ่งเมื่อเหยียบย่างไปยังยุโรป ต่างแวะซื้อหนังสือดีๆ เสาะหาเล่มที่มีประโยชน์ และทรงคุณค่า

“เราต้องพัฒนาเมืองของเรา ใครไม่รู้ว่ากุญแจคืออะไร โอกาสสำเร็จย่อมมีน้อย ผู้ว่าฯฉะเชิงเทรารู้เกินไปกว่ากุญแจ เพราะรู้ว่าตู้เซฟอยู่ตรงไหน” พินิจกล่าวพร้อมรอยยิ้ม

คำตอบคงไม่ใช่อื่นใด หากแต่เป็น ‘ความรู้’

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image