| ผู้เขียน | นฤตย์ เสกธีระ |
|---|
เว้นว่างไปนานกับการนำเอาภาพยนตร์ซีรีส์มาเอื้อนเอ่ยให้ฟัง
ความจริงแล้วมีภาพยนตร์หลายเรื่องที่ให้ข้อคิด อย่างที่ดังๆ อยู่ในขณะนี้ก็คงหนีไม่พ้น “คังคุไบ” Gangubai Kathiawadi ราชินีมาเฟีย
แต่ในวันนี้อยากนำเสนอภาพยนตร์ซีรีส์อีกเรื่องที่เพิ่งออกอากาศทาง netflix ครบ 16 ตอนไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
ภาพยนตร์ซีรีส์เกาหลีเรื่องดังกล่าว ชื่อ Tomorrow
เรื่องนี้มี คิมแทยุน และ ซองชีอุค เป็นผู้กำกับ
มี คิมฮีซอน เป็นตัวเอก รับบทเป็นคูรยอน หัวหน้าทีมของยมทูตมีหน้าที่ทำให้คนฆ่าตัวตาย
โรอุน เป็นพระเอกของเรื่องก็ว่าได้ รับบทเป็นชเวจุนอุง มนุษย์หนุ่มที่บังเอิญไปทำงานร่วมทีมยมทูต
ยุนจีออน รับบทเป็นอิมรยุงกู เป็นสมาชิกในทีมเดียวกับคูรยอน และทำงานร่วมกับชเวจุนอุง
รายละเอียดของเรื่องต้องไปรับชมเพื่อให้ได้อรรถรส
แต่พอสรุปคร่าวๆ เพื่อให้ไปชมกัน โดยเรื่องเกิดจากมนุษย์หนุ่มที่บังเอิญเข้าไปช่วยคนที่คิดจะฆ่าตัวตาย จนตัวเองต้องโคม่า
ช่วงที่โคม่า วิญญาณได้ลงไปอยู่กับยมทูต และมีโอกาสได้ทำงานร่วมกับทีมช่วยมิให้คนฆ่าตัวตาย
มีข้อแลกเปลี่ยนว่า ถ้าช่วยคนได้เพียงพอตามกำหนดเวลาก็จะฟื้นจากโคม่า กลับไปใช้ชีวิตในโลกมนุษย์ได้ต่อไป
แน่นอนเมื่อเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการคิดฆ่าตัวตาย แต่ละตอนจึงเริ่มต้นด้วยความเครียด
คนก็เครียด สัตว์เลี้ยงก็มีโอกาสเครียด
สาเหตุของความเครียดเกิดได้จากหลายปัจจัย
ความเครียดและเหตุการณ์สลดที่คิดสั้นปลิดชีพตัวเองนี้มีมาคู่กับสัตว์โลก
ทั้งคนในอดีต และคนปัจจุบันต่างมีความเสี่ยง
ความประทับใจจากการชมภาพยนตร์เรื่องนี้ คือ การอุทิศตัวเพื่อช่วยคนที่คิดสั้นให้เปลี่ยนใจ
ทำให้กลับมามองโลกอย่างมีความหวัง และดำเนินชีวิตต่อไปอย่างมีพลัง
ส่วนความสะเทือนใจจากการชมภาพยนตร์เรื่องนี้ คือ ความโหดร้ายของเพื่อนมนุษย์
มนุษย์คิดทำร้ายมนุษย์ร่วมโลกเดียวกัน
ในยุคโบราณ เมื่อหญิงเกาหลีถูกจับตัวไปเป็นเชลยศึก แล้วหนีกลับเข้ามาได้
แทนที่ชาวเมืองจะยินดีต้อนรับที่รอดตายกลับมาได้ หญิงเหล่านั้นกลับกลายเป็นบุคคลที่สังคมรังเกียจ
คนในชาติเกลียดคนชาติเดียวกัน
แม้แต่ผู้ชายที่ต้องรู้สึกผิดที่ปกป้องผู้หญิงไม่ได้ ยังร่วมแสดงความรังเกียจหญิงที่หนีจากข้าศึกกลับเข้าเมืองได้
รังเกียจและเกลียดชังจนหญิงเหล่านั้นต้องทนทุกข์ทรมานจากเสียงติฉินนินทา ใส่ร้ายป้ายสีด้วยความเชื่อผิดๆ
แม้แต่ครอบครัวที่ควรจะปกป้องก็ไม่ยอมปกป้อง
กระทั่งหญิงเหล่านั้นทนความกดดันบีบคั้นไม่ไหว สุดท้ายก็คิดสั้นฆ่าตัวตาย
การสร้างความเกลียดชังเช่นนี้ยังปรากฏให้เห็นในปัจจุบัน
ปฏิบัติการไอโอที่เป็นข่าวครึกโครม หรือการบูลลี่ที่เกิดขึ้น มีส่วนสร้างความเกลียดชัง
ใครตกเป็นเหยื่อสังคมออนไลน์ที่ระดมความเห็นมุ่งใส่ร้ายป้ายสี เหยียดหยาม บั่นทอนความเป็นมนุษย์ ย่อมท้อแท้ต่อการดำรงชีวิต
หลายคนคิดฆ่าตัวตาย
ดังนั้น คนที่ใส่ร้ายป้ายสี ปลุกปั่น สร้างความเกลียดชัง จึงเป็นคนบาป
ภาพยนตร์เรื่องนี้เตือนให้ระมัดระวังในการรับข้อมูลข่าวสาร
เตือนให้มองโลกรอบด้าน อย่าเพิ่งไปเชื่อแล้วร่วมไม้ร่วมมือไปทำร้ายใคร
หลายปีที่ผ่านมา คนไทยมีประสบการณ์ตรงเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้เป็นอย่างดี
หลายคนเป็นผู้กระทำ หรือร่วมกระทำ อีกหลายคนเป็นผู้ถูกกระทำ หรือตกเป็นเหยื่อ
เหยื่อหลายคนเข้มแข็งและเอาตัวรอดมาได้ แต่อีกหลายคนต้องยอมแพ้ต่อชะตากรรม
ชมภาพยนตร์ชุดนี้แล้วรีบนำมาเสนอ เพราะเห็นว่าการเมืองท้ายปี 2565 เข้าขั้นดุเดือด
สมัยการประชุมนี้หลายฝ่ายมองว่าเดือด ปุด ปุด แน่
ความร้อนแรงจากสภาอาจขยายสู่สังคม การยุยงปลุกปั่นให้สังคมแตกแยกอาจกลับมาอีก
การปลุกปั่นให้ฝ่ายหนึ่งเกลียดชังอีกฝ่ายหนึ่งอาจปะทุขึ้นอีกรอบ
เรื่องเหล่านี้เป็นสิ่งไม่พึงกระทำ เป็นการทำบาปให้ตัวเอง ผู้อื่น และสังคม
ใครที่กำลังกระทำ หรือคิดที่จะทำควรเลิกเสีย เพราะหลายปีที่ผ่านมาประเทศชาติบอบช้ำจากการทำร้ายกันและกันมามากแล้ว
หลายปีที่ผ่านมา เป็นเครื่องพิสูจน์ว่า การทำร้ายกันและกันไม่ได้เป็นผลดีต่อส่วนตัวและส่วนรวม
เดิมทีอาจจะเข้าใจว่าการกระทำดังกล่าวทำให้ส่วนตัวได้ประโยชน์ แต่ขณะนี้ทุกอย่างยืนยันชัดแจ้งว่า ถ้าส่วนรวมไปไม่ไหว ส่วนตัวก็มีโอกาสไปไม่รอด
นี่ก็เป็นบาปจากการกระทำที่เห็นผลชัด
ทางที่ดีทุกฝ่ายควรหลีกเลี่ยงการทำบาป
หลีกเลี่ยงการทำร้ายกันและกัน
