บทเรียนที่ไม่เคยจดจำ? ถอดรหัสร้อน ไฟไหม้ผับชลบุรี

บทเรียนที่ไม่เคยจดจำ? ถอดรหัสร้อน ไฟไหม้ผับชลบุรี

ความคืบหน้าทางคดีมีมากขึ้นตามลำดับ สำหรับกรณีไฟไหม้ผับที่เพิ่งเปิดใหม่เพียงราว 1 เดือนเศษ ในอำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี โดยมีการเปิดเผยล่าสุดว่า มาจากไฟฟ้าลัดวงจร เมื่อทางเข้าออกมีเพียงทางเดียว เหตุสลดก็เกิดขึ้นอย่างที่ไม่ควรจะเป็น 15 ราย คือยอดผู้เสียชีวิต ซึ่งถูกพบร่างไร้วิญญาณบริเวณหน้าประตู 4 ราย ในห้องน้ำชาย 3 ราย หลังบูธดีเจ 1 ราย บริเวณแคชเชียร์ 2 ราย หน้าแคชเชียร์ 3 ราย เสียชีวิตที่ รพ. 2 ราย ยังไม่นับผู้บาดเจ็บอีกกว่า 40 คน

นับเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่ นับแต่เมื่อ 14 ปีก่อน ณ ซานติก้าผับ ย่านเอกมัย ในค่ำคืนส่งท้ายปีเก่า 31 ธ.ค.2551 ซึ่งครั้งนั้นมีผู้เสียชีวิต 67 ราย บาดเจ็บกว่า 200 คน

ทำเอาหลายจังหวัดพากันสะดุ้ง เร่งตรวจสอบความปลอดภัยของสถานบริการต่างๆ เป็นการใหญ่ ในขณะที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งเคยเกิดไฟไหม้ที่ผับแห่งหนึ่งในสีลมซอย 2 โดยไม่มีผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เคยได้รับคำสั่งจาก ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม. ให้ทุกเขตเข้มงวด ล่าสุด ผู้บริหารยกทีมสุ่มตรวจเป็นการใหญ่

กลับมาที่กรณีผับชลบุรี ดร.สุพรรณ ทิพย์ทิพากร หัวหน้าภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า คณะวิศวกรรมศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดล มองว่าพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานบริการ เปิดบริการเมื่อเดือนมิถุนายน 2565 บนพื้นที่ 3 ไร่ โดยเหตุร้ายเริ่มจากมีประกายไฟแถวเวทีบริเวณหลังคา ซึ่งมีการเดินไฟสปอตไลต์สีอย่างหนาแน่น ซึ่งหากทำไม่ได้มาตรฐาน หรือมีการใช้ไฟเกินกำลังก็อาจทำให้สายไฟเกิดการลัดวงจร อาจเป็นต้นเหตุทำให้เกิดลุกลามไปยังแผ่นซับเสียงติดไฟลามไปทั่วอาคารได้เร็ว ตามข้อกำหนดทางกฎหมายนั้นมาตรฐานมีอยู่แล้วเพื่อความปลอดภัย แต่ความย่อหย่อนในการบังคับใช้กฎหมาย อาจมีส่วนทำให้เกิดความสูญเสียที่ป้องกันได้และไม่น่าจะเกิด กลายเป็นการล้อมคอกซึ่งไม่นานก็ลืมเลือนกับบทเรียนที่เคยมีมาดังเช่นไฟไหม้ผับซานติก้า ปี 2551 ซึ่งประตูทางออกมีน้อย ผู้คนวิ่งเบียดเสียดล้มทับเสียชีวิต ขาดระบบดับเพลิง การติดตั้งไฟฉุกเฉิน หรือการแสดงเส้นทางหนีไฟไม่ชัดเจน

Advertisement

สำหรับลักษณะของอาคาร เป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า เดิมเป็นร้านอาหารที่ต่อมาได้มีการต่อเติมและเปิดเป็นสถาน บริการมีดนตรีสด เครื่องดื่ม ขนาดหน้ากว้างประมาณ 20 เมตร ลึก 30 เมตร สูง 5-6 เมตร โครงสร้างเหล็ก หลังคามุงด้วยแผ่นเมทัลชีท

ดร.สุพรรณ มองว่า มีหลายส่วนที่ไม่ถูกต้องตามมาตรฐานความปลอดภัย เช่น ด้านหน้ามีทางออกทางเดียว ซึ่งตามกฎหมายสำหรับสถานบริการที่จุคนได้สูงสุด 400 คน จะต้องมีทางหนีไฟ (Fire Exit) ไม่น้อยกว่า 3 แห่ง ซึ่งหากมีเวทีแสดงก็จะต้องมีประตูหนีไฟเพิ่มอีก 1 จุดด้านหลังเวที โดยผลักออกได้ทางเดียว แต่ในที่เกิดเหตุมีประตูหลักด้านหน้าเป็นบานกระจกคู่ ด้านข้างมีอีก 1 ประตู แต่ตกแต่งสีกลมกลืนกับผนังในอาคาร มีเพียงพนักงานที่ทราบ ส่วนด้านหลังเป็นประตูธรรมดาบานเดียว

Advertisement

ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีถังดับเพลิงเพียง 2 ชุดเท่านั้น สถานบริการประเภท ค ซึ่งมีพื้นที่มากกว่า 500 ตารางเมตร จะต้องมีระบบดับเพลิงอัตโนมัติที่มีประสิทธิภาพ เพียงพอและเหมาะสม การขาดระบบไฟฉุกเฉิน หรือจ่ายไฟฟ้าสำรอง เมื่อเกิดเหตุไฟไหม้หรือไฟฟ้าดับ ภายในสถานบริการต้องมีเครื่องหมายแสดงเส้นทางฉุกเฉิน ระบบสัญญาณเตือนเพลิงไหม้และไฟส่องสว่าง

การบุผนังและเพดานด้วยแผ่นซับเสียงซึ่งทำมาจากโพลีสไตรีน หรือโพลียูรีเทน หรือโพลีโพรพิลีน ทนไฟได้เพียง 200 กว่าองศาเซลเซียส สามารถลุกติดไฟได้ก็ขัดกับกฎกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการก่อสร้างโรงมหรสพ ที่ระบุให้ต้องใช้แผ่นซับเสียงหรืออุปกรณ์ที่ทนไฟได้เกิน 750 องศาเซลเซียส แม้ราคาจะสูงกว่าแต่มีความปลอดภัย

อย่างไรก็ตาม กรณีแผ่นซับเสียงที่ว่านี้ ล่าสุด เจ้าของบริษัทโฟมกันเสียงออกมายืนยันว่า ‘พียูโฟม’ ไม่ติดไฟ โดยทำการทดสอบต่อหน้าผู้สื่อข่าวด้วย

มาถึงการแก้ปัญหาและป้องกันการเกิดซ้ำ ที่นำมาซึ่งความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนและนักท่องเที่ยว

ดร.สุพรรณ มี 10 ข้อเสนอแนะสำหรับผู้ประกอบการสถานบริการและสถานบันเทิง ดังนี้

1.การออกแบบอาคารและก่อสร้างต้องคำนึงถึงมาตรฐานทางวิศวกรรมความปลอดภัย รวมทั้งการระบายควันจากอัคคีภัย และปฏิบัติตามกฎหมายควบคุมอาคาร “ราชกิจจานุเบกษา กฎกระทรวง กำหนดประเภทและระบบความปลอดภัยของอาคารที่ใช้เพื่อประกอบกิจการเป็นสถานบริการ พ.ศ.๒๕๕๕” เช่น มีจำนวนทางหนีไฟ (Fire Exit) ตามที่กำหนด มีระบบดับเพลิงอัตโนมัติที่มีประสิทธิภาพ เพียงพอและเหมาะสมกับจำนวนพื้นที่และผู้มาใช้บริการ การเดินสายไฟฟ้า ระบบเสียงและระบบสัญญาณต่างๆ ให้เดินในรางหรือร้อยท่อสายไฟซึ่งทำด้วยโลหะ ต้องฝึกซ้อมแผนฉุกเฉิน เป็นต้น

2.ต้องมีระบบสายไฟฟ้าที่มีมาตรฐานที่ออกแบบวางแผนตามหลักวิศวกรรม พร้อมอุปกรณ์ตัดไฟ และติดตั้งโดยผู้เชี่ยวชาญทางวิชาชีพ

3.ควรติดตั้งแบบแปลนแผนผังอาคาร ซึ่งแสดงตำแหน่งที่ติดตั้งอุปกรณ์ดับเพลิง ทางหนีไฟ ทางออก และประตูทางออก ไว้ในตำแหน่งที่ผู้มาใช้บริการเห็นได้ชัดเจน

4.จัดให้มีระบบไฟฟ้าสำรอง สำหรับระบบสัญญาณเตือนเพลิงไหม้ ไฟฉุกเฉิน ป้ายบอกทางหนีไฟชนิดเรืองแสง

5.ควบคุมความจุคนของผู้ใช้บริการ หรือผู้ที่เข้าร่วมงานที่มีความเหมาะสม เพื่อความปลอดภัย ในการใช้อาคาร

6.ควรฝึกซ้อมแผนฉุกเฉินแก่พนักงาน เพื่อเป็นผู้นำแก่ลูกค้าในยามเกิดเหตุ โดยกำหนดบุคคลและบทบาทหน้าที่ชัดเจนในดูแลระบบความปลอดภัยและการป้องกันอันตรายจากอัคคีภัยตลอดเวลาที่เปิดบริการ และเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน ใครต้องทำอะไร

7.ก่อนเปิดบริการหรือจัดงานอีเวนต์ ควรจัดให้มีการตรวจสอบเครื่องดับเพลิง หรืออุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ในการดับเพลิงให้มีความพร้อมใช้งานได้ตลอดเวลาที่มีการเปิดบริการ

8.ระหว่างจัดงานหรือเปิดบริการ ควรประชาสัมพันธ์ให้ผู้ใช้บริการและผู้เข้าร่วมงานทราบ ถึงทางเข้าออกและทางหนีไฟ รวมทั้งข้อควรปฏิบัติกรณีเหตุฉุกเฉิน

9.วัสดุโฟมซับเสียงหลีกเลี่ยงการตกแต่งอาคารสถานที่ด้วยวัสดุตกแต่งที่ติดไฟง่ายหรือลามไฟเร็ว และงดการใช้อุปกรณ์เอฟเฟ็กต์ ของเล่น ที่ทำให้เกิดประกายไฟในสถานที่จัดงานหรือสถานบริการโดยเด็ดขาด

10.ควรพิจารณาทำประกันภัยเพื่อคุ้มครองเหตุที่อาจเกิดโดยไม่คาดคิด

สำหรับข้อแนะนำสำหรับประชาชน มีดังนี้

1.การใช้บริการของสถานบริการและสถานบันเทิง ควรตรวจสอบการใช้งานของระบบป้องกันอัคคีภัยของอาคาร และบริเวณโดยรอบสถานบริการ
2.ศึกษาข้อมูลเส้นทางหนีไฟ ประตูฉุกเฉินภายในอาคารที่เข้าไปใช้บริการ

3.กรณีเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้น ผู้มาใช้บริการต้องมีสติสัมปชัญญะ และควรปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้ประกอบการหรือผู้จัดงานอย่างเคร่งครัดตามที่มีการประชาสัมพันธ์ให้ทราบ

4.หมอบคลานต่ำหรือย่อตัวใกล้กับระดับพื้นมากที่สุด เนื่องจากอากาศบริสุทธิ์อยู่เหนือระดับพื้นไม่เกิน 1 ฟุต เพื่ออพยพไปสู่ประตูทางออกฉุกเฉินที่ใกล้ที่สุด

5.หากเป็นอาคารสูง งดการใช้ลิฟต์ หรือบันไดในอาคารในการอพยพ ควรใช้บันไดหนีไฟนอกอาคาร เพื่อลดความเสี่ยงจากการสูดควัน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image