คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ ชู Thai Song dum คอลเล็กชั่นใหม่ ‘เลสเตอร์ ซิตี้’

นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา กับคอลเลกชั่น Thai song dum ที่สนามคิง เพาเวอร์ เมืองเลสเตอร์ สหราชอาณาจักร
นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา กับคอลเลกชั่น thai song dum ที่สนามคิง เพาเวอร์ เมืองเลสเตอร์ สหราชอาณาจักร

ว่างเว้นกันไปตามการรุกโหมของโรคโควิด-19 ทำให้ชาวคณะ “คิง เพาเวอร์ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย” หยุดการเดินทางไปสโมสรเลสเตอร์ ที่เมืองเลสเตอร์ สหราชอาณาจักร หลายปี

กระทั่งปีนี้ ระหว่างวันที่ 7-13 กันยายน ชาวคณะคิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย นำคณะสื่อมวลชนไปเยือนสนามเลสเตอร์อีกครั้ง

ส่วนหนึ่งของคณะสื่อมวลชนที่ไปเยือนสนามกีฬาคิง เพาเวอร์ เมืองเลสเตอร์

หากแต่วันเวลาที่เดินทางไปถึง ทุกคนต่างก็พบกับข่าวเศร้า เมื่อทราบว่า สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ของสหราชอาณาจักรสวรรคต

วันที่ 8 กันยายน ฟ้าลอนดอนถูกเมฆปิด ฝนเทลงมาเป็นระยะๆ ตั้งแต่เช้าจรดค่ำ

Advertisement

ตั้งแต่ทราบพระอาการประชวรกระทั่งถึงข่าวเศร้าสวรรคต

รุ่งขึ้นชาวคณะได้รับแจ้งว่า การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีกในช่วงวันหยุดต้องเลื่อนออกไป ทำให้การแข่งขันฟุตบอลระหว่างที่เลสเตอร์ ซิตี้ กับ แอสตันวิลลา ต้องเลื่อนออกไปด้วย

แต่ชาวคณะ คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย ยังคงเดินหน้าเปิดตัวสินค้าคอลเล็กชั่นใหม่ของสโมสรเลสเตอร์ซิตี้ ประจำปี 2022

Advertisement

สินค้าที่ใช้ภูมิปัญญาคนไทยมาผสมกับการดีไซน์ของทีมงานออกแบบ เพื่อผลักดันให้ “พลังคนไทย ผงาดอยู่บนเวทีสากล” โดยใช้สโมสรเลสเตอร์ซิตี้เป็นสื่อกลาง

ไอเดียนี้ผลักดันภูมิปัญญาคนไทยนี้เป็นของ “วิชัย ศรีวัฒนประภา” ที่ได้รับการต่อยอดโดย “อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ และเป็นเจ้าของสโมสรฟุตบอล   เลสเตอร์ ซิตี้ คนปัจจุบัน

สนามฝึกซ้อมซี้เกรฟ เมืองเลสเตอร์ ที่เป็นสนามฝึกระดับแนวหน้าของยุโรป

โครงการ คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย นี้มีเป้าหมายส่งเสริมพลังคนไทยใน 3 ด้านหลัก ด้านที่หนึ่ง คือ กีฬา SPORT POWER โดยผลักดันโครงการ Fox Hunt คัดเยาวชนนักเตะชาวไทยไปเรียนและฝึกซ้อมที่สโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ นอกจากนี้ ยังมีโครงการแจกลูกฟุตบอล 1 ล้านลูก โครงการสร้างสนามฟุตบอลให้โรงเรียนและชุมชน 100 สนามเป็นต้น

ด้านที่สอง คือ ดนตรี MUSIC POWER มีโครงการร่วมมือกับวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล จัดประกวดวงดนตรี เปิดเวทีให้เยาวชนไทยเข้าร่วมการแข่งขันบนเวทีนานาชาติ เพื่อส่องประกายให้โลกเห็น

ด้านที่สาม คือ ชุมชน COMMUNITY POWER ผลักดันภูมิปัญญาไทยให้เปล่งประกายบนเวทีโลก   โดยผลิตสินค้าคอลเล็กชั่นใหม่ของสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ ทุกปี

หลายปีที่ผ่านมา คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย ได้นำภูมิปัญญาจากบ้านนาขาม จังหวัดสกลนคร ภาคอีสานของไทย คือ การใช้เทคนิคการย้อมครามนำไปทำสินค้าคอลเล็กชั่นของที่ระลึกสโมสรเลสเตอร์ และได้รับการขานรับอย่างมาก

หลังจากนั้นภูมิปัญญาจากภาคเหนือ คือ การใช้ผ้าทอตีนจกพื้นถิ่นย้อมสีธรรมชาติ จากชุมชนทุ่งหัวช้าง จังหวัดลำพูน และกลุ่มทอผ้าตีนจกไทย อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ นำไปอวดโฉมด้วยความสวยงามมีคุณค่า กระทั่งยอดการจำหน่ายที่สโมสรเลสเตอร์ หมดเกลี้ยงภายในเวลาไม่นาน

ห้องจำหน่ายของที่ระลึกสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ภายในสนามกีฬา เมืองเลสเตอร์

แต่แล้วโรคระบาดโควิด-19 ก็เขย่าโลก เดือดร้อนกันไปทุกหย่อมหญ้า แต่ คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย ก็ยังหาจังหวะเวลาที่การระบาดผ่อนคลายลง ผลักดันภูมิปัญญาการย้อมผ้าของชุมชนหมู่บ้านคีรีวง จังหวัดนครศรีธรรมราช ให้เป็นอีกหนึ่งคอลเล็กชั่นของสโมสรเลสเตอร์

กระทั่งมาถึงปีนี้ โลกเริ่มเปิด เพราะคนอยู่ร่วมกับโรคโควิด-19 ได้อย่างไม่หวาดผวา โครงการ คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย จึงค้นหาภูมิปัญญาชาวไทยภาคกลาง คือ กลุ่ม “ไทยทรงดำ” มาผลักดันเป็นผลิตภัณฑ์ คอลเล็กชั่น ภายใต้ชื่อ “THAI SONG DUM”

คอลเล็กชั่น “THAI SONG DUM” (ไทยทรงดำ) เป็นการพัฒนาสินค้าระหว่างบริษัท MULTIPLY BY EIGHT ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการด้านออกแบบชั้นนำในกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ร่วมกับ ชาวบ้านชุมชนไทยทรงดำ บ้านดอนมะนาว จังหวัดสุพรรณบุรี

ใช้ระยะเวลาร่วมปีกว่าจะออกมาเป็นคอลเล็กชั่น

ทั้งนี้ ทีมงานของ คิง เพาเวอร์ และ LCFC ได้ลงพื้นที่เข้าไปศึกษาเรียนรู้รายละเอียดต่างๆ กับชุมชน คิดค้นหาวิธีประยุกต์ให้เข้ากับสินค้าของสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ กระทั่งออกแบบมาได้อย่างลงตัว ตอบโจทย์ตลาดต่างประเทศ และเป็นช่องทางในการจัดจำหน่ายสินค้าไทยให้เป็นที่รู้จักในระดับโลก

ผลิตภัณฑ์ที่คิดค้นออกแบบ มีทั้งเสื้อกีฬา และไอเท็มต่างๆ ที่ผลิตออกมาในโทนสีเอกลักษณ์ของคิง เพาเวอร์ และ LCFC นั่นคือ สีคราม สีน้ำเงิน และสีดำ โดยมีลายหน้าจิ้งจอก และโลโก้สโมสร อันเป็นซิกเนเจอร์ของ LCFC มาปรากฏด้วย

รวมรูปสินค้าคอลเลกชั่นใหม่

สำหรับความเป็นมาของผ้าทอไทยทรงดำ นางขวัญยืน ทองดอนจุย ประธานกลุ่มทอผ้าไทยทรงดำบ้านดอนมะนาว เล่าให้ฟังว่า ผ้าทอของชาวชุมชนไทยทรงดำ หรือลาวโซ่ง ต.ดอนมะนาว อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี สืบสานองค์ความรู้มาจากบรรพบุรุษชาวเมืองแถงเคียนเบียนฟู ประเทศเวียดนามที่อพยพย้ายถิ่นฐานมาอยู่ในไทย ในสมัยธนบุรี รัชกาลที่ 1 และรัชกาลที่ 3 ที่ อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี พอมาสมัยรัชกาลที่ 5 ส่วนหนึ่งอพยพไปตั้งถิ่นฐานที่จังหวัดอื่นๆ อาทิ ราชบุรี นครปฐม นครสวรรค์ พิจิตร สุโขทัย สุพรรณบุรี เป็นต้น โดยชาวไทยทรงดำใน จ.สุพรรณบุรี ได้ย้ายมาอาศัยที่บ้านดอนมะนาวเมื่อราวปี พ.ศ.2443

“วันนี้ยังคงนำภูมิปัญญาด้านทอผ้า ย้อมผ้า มาใช้ เพื่อทำเครื่องแต่งกายให้คนในครอบครัวตามเอกลักษณ์ของชนเผ่าจวบจนปัจจุบัน ในฐานะตัวแทนของชาวชุมชนไทยทรงดำ บ้านดอนมะนาว สมาชิกในกลุ่มและเครือข่าย รู้สึกปลื้มใจ และภาคภูมิใจ ที่มีส่วนร่วมในการแสดงฝีมือและภูมิปัญญาของชาวไทยทรงดำในคอลเล็กชั่นของคิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย จนได้ส่งออกไปจำหน่ายในระดับโลก ชาวบ้านดอนมะนาวทุกคนตั้งใจทำงานนี้เพื่อให้ลวดลายไทยบนทุกชิ้นงาน ได้เผยแพร่ความงดงามจากงานฝีมือไทยทรงดำไปสู่สายตาคนทั่วโลก”

กลุ่มชาวไทยทรงดำ ที่ 3 จากซ้าย ขวัญยืน ทองดอนจุย ประธานกลุ่มทอผ้าไทยทรงดำบ้านดอนมะนาว

ผ้าทอดอนมะนาว เป็นผ้าทอมือจากฝ้ายแท้ ทอด้วยกี่พุ่งแบบโบราณ หรือกี่กระตุก ย้อมด้วยสีธรรมชาติ มีสีพื้นเป็นสีดำ หรือสีคราม (ย้อมเย็น) และเปลือกไม้ต่างๆ หรือย้อมนิล (ย้อมร้อน) ซึ่งเป็นกระบวนการย้อมธรรมชาติ

นางขวัญยืนบอกว่า เหตุที่ผ้าของชาวไทยทรงดำต้องเป็นสีดำหรือสีคราม เนื่องจากชาวไทยทรงดำส่วนใหญ่ประกอบอาชีพการเกษตร มีวัฒนธรรมการแต่งกายที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เสื้อผ้าที่สวมใส่ และผ้าคลุมไหล่ ส่วนใหญ่จะมีสีดำเป็นสีพื้น เพื่อสอดคล้องกับวิถีชีวิตของเกษตรกร

ลายในการทอยังมีความหมายสะท้อนถึงชีวิต การดำรงอยู่ของคู่ครอง และเป็นสัญลักษณ์ที่เป็นเอกลักษณ์ของชุมชน

ตามกำหนดการเดิมนั้น จะเปิดตัวของที่ระลึกสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ประจำปี 2022 LCFC x Community Power ภายใต้ชื่อคอลเล็กชั่น THAI SONG DUM นี้ที่สนามกีฬา คิง เพาเวอร์ เมืองเลสเตอร์ในวันแข่งขันฟุตบอลระหว่างทีมเลสเตอร์ ซิตี้ กับทีมแอสตันวิลลา

ทีมงานเลสเตอร์ ที่สนามฝึกซ้อม

แม้การแข่งขันจะเลื่อนออกไป แต่กำหนดการเปิดตัวก็คงเหมือนเดิม แต่ได้ย้ายสถานที่จากสนามฟุตบอล คิง เพาเวอร์ มาอยู่ที่สนามฝึกซ้อม สโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ แห่งใหม่ ชื่อ “ซีเกรฟ” เมืองเลสเตอร์ บรรดาคณะสื่อมวลชนที่ร่วมเดินทางไปครั้งนี้จึงมีโอกาสได้ชมความอลังการของสนามฝึกที่ถือว่าดีติดอันดับ 1 ใน 10 ของยุโรป

สนามฝึกดังกล่าว ประกอบด้วย อาคารวิชัย ศรีวัฒนประภา เป็นศูนย์กลางของศูนย์ฝึกซ้อม อาคารคิงเพาเวอร์ เซ็นเตอร์ เป็นศูนย์ที่มีสถาปัตยกรรมรูปโดม พร้อมสนามหญ้าเทียมในอาคาร สนามแข่ง 1 สนาม

สนามฝึกซ้อม 21 สนาม สนามกอล์ฟส่วนตัว 9 หลุม ระบบวิทยาศาสตร์การกีฬา และอุปกรณ์ทางการแพทย์ทันสมัย ศูนย์ฟิตเนส และระบบวารีบำบัดฟื้นฟูร่างกาย พร้อมทั้ง สปอร์ต เทิร์ฟ อะคาเดมี่ ซึ่งเป็นศูนย์วิจัย และศูนย์การเรียนรู้ เพื่อศึกษา และพัฒนานวัตกรรมการจัดการสนามหญ้าสำหรับการแข่งขัน

นายอัยยวัฒน์ เดินทางมาให้การต้อนรับ และเล่าให้ฟังว่า สนามฝึกแห่งนี้รับเด็กอายุตั้งแต่ 9 ขวบยันผู้ใหญ่ มีเจ้าหน้าที่คอยดูแลร้อยกว่าคน ถือเป็นสนามซ้อมฟุตบอลที่ทันสมัย มีความพร้อมที่สุด โดยได้รับเยาวชนทั่วอังกฤษ และทั่วยุโรปสนใจที่จะมาอยู่ และเข้ามาฝึก ถือเป็นการลงทุนแบบนี้ ลองเทอม นั่นคือ ใช้วิธีปั้นเด็กขึ้นมาเป็นนักเตะ แทนการทุ่มซื้อตัวนักเตะหมือนทีมอื่นทำ

สำหรับโครงสร้างของอาคารได้ออกแบบให้สอดรับกับวัตถุประสงค์ นายอัยยวัฒน์เล่าว่า ถ้ามองโครงสร้างตึกจากด้านบนจะเห็นว่าเขาออกแบบให้เหมือนจิ้งจอก จะมีฝั่งอคาเดมี่ที่รับเด็กตั้งแต่ 9 ขวบไล่มาจนถึงเฟิร์สททีม

“ถ้าคุณอยู่ฝั่งอคาเดมี่จะข้ามมาฝั่งเฟิร์สททีมไม่ได้ ถ้าอยากประสบความสำเร็จในชีวิตการค้าแข้งต้องผลักดันให้ตัวเองข้ามมาอยู่ฝั่งนี้ให้ได้” นายอัยยวัฒน์เล่าถึงเทคนิคการจูงใจ

นอกจากนี้ การตกแต่งภายในห้องแต่งตัวของนักเตะแต่ละรุ่น ตั้งแต่อายุ 12 ปี อายุ 15 ปี อายุ 18 ปี อายุ 21 ปี และอายุ 23 ปีก็ไม่เหมือนกันเลย ห้องเด็ก 9 ขวบจะแย่สุด พอได้รับการคัดเลือกให้เข้าสู่ U12 ห้องก็จะดีขึ้น ทำให้เห็นความแตกต่างว่า หากเข้าใกล้ความเป็นนักเตะอาชีพมากเท่าไหร่ก็จะพบความเปลี่ยนแปลงที่ดีมากขึ้นเท่านั้น

อีกสถานที่หนึ่งน่าสนใจ คือ โรงอาหาร เขาสร้างให้ทุกคนมากินรวมกัน ทุกทีมสามารถเจอกันได้ แต่ฝั่งอคาเดมี่ข้ามมานั่งฝั่งเฟิร์สททีมไม่ได้

ตอกย้ำให้รู้ว่าหากจะข้ามมาต้องพยายามที่จะผันตัวเองเข้าสู่นักเตะอาชีพ

ส่วนราคาค่าก่อสร้างสนามฝึกดังกล่าว นายอัยยวัฒน์ไม่บอกตัวเลข เพียงแค่เอ่ยถึงค่าตัวของ แฮร์รี แม็กไกวร์ อดีตกองหลังทีมเลสเตอร์ที่ปัจจุบันไปอยู่ทีมแมนยูฯ

เดินชมสนามฝึกซ้อมขนาดใหญ่เป็นที่หอมปากหอมคอแล้ว นายอัยยวัฒน์เข้าสู่การเปิดตัวสินค้าที่เป็นของที่ระลึกสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ประจำปี 2022 LCFC x Community Power ภายใต้ชื่อคอลเล็กชั่น THAI SONG DUM

นายอัยยวัฒน์กล่าวว่า คิง เพาเวอร์ เป็นบริษัทของคนไทย มีความมุ่งมั่นดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคม ภายใต้โครงการ คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย มาอย่างต่อเนื่อง ผ่านกิจกรรม 3 ด้านหลัก ได้แก่ SPORT POWER, MUSIC POWER และ COMMUNITY POWER นำไปสู่โครงการเพื่อสังคมตั้งแต่ระดับบุคคล ชุมชน ประเทศชาติ จนถึงระดับสากล

การเปิดตัวคอลเล็กชั่นใหม่ครั้งนี้ เป็นกิจกรรมในด้าน Community Power ที่เห็นความสำคัญของสินค้าไทย และต้องการที่จะสนับสนุนความสามารถของคนไทยให้เป็นที่ประจักษ์กับชาวต่างชาติ ตลอดจนสืบสานวิถีชีวิต และอนุรักษ์ภูมิปัญญาชาวบ้านในภูมิภาคต่างๆ ให้คงอยู่อย่างยั่งยืน

สินค้าที่เปิดตัวครั้งนี้มี 7 ประเภท ได้แก่ เสื้อยืดปักมือ, เสื้อยืดย้อมฮ่อม รุ่น Limited Edition, แจ๊กเก็ตสไตล์มินิมอล รุ่น Limited Edition เพียง 200 ตัวในโลก, กระเป๋าคาดเอว, หมวกแก๊ปผ้าฝ้ายทอมือย้อมคราม, พวงกุญแจนำโชค และลูกบอลผ้าฝ้ายทอมือย้อมคราม

เสียดายที่วันเปิดตัวสินค้าไม่มีการแข่งขันฟุตบอล แต่ถ้าเอาประสบการณ์หลายครั้งที่เคยประสบมาจากการเปิดตัวคอลเล็กชั่นใหม่ที่โชว์ภูมิปัญญาคนไทย

เชื่อว่า เมื่อสินค้าล็อตนี้วางขาย อีกไม่นานก็จะหมดแผงอย่างรวดเร็วเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image