ผู้เขียน | นฤตย์ เสกธีระ |
---|
วันที่ 1 ตุลาคมนี้ ประเทศไทยจะผ่อนปรนมาตรการคุมเข้มโรคโควิด-19 เพราะเชื่อมั่นในการดูแลรักษามากขึ้น
มาตรการที่เด่นๆ คือ ผู้ป่วยที่ไม่มีอาการหรืออาการน้อย ไม่ต้องกักตัว แต่ให้สวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่างจากผู้อื่น และล้างมือบ่อยๆ เป็นเวลา 5 วัน
ขณะที่จำนวนผู้ป่วยโรคโควิด-19 ลดลงตามลำดับ และองค์การอนามัยโลกส่งสัญญาณข่าวดีว่าโรคระบาดนี้กำลังเข้าสู่โค้งสุดท้าย แต่อย่าเหมารวมว่าโรคโควิดหายไปจากโลกแล้วนะ
เพราะถ้าใครเผลอก็ติดเชื้อและป่วย
เรื่องนี้พิสูจน์มาด้วยตัวเอง เพราะหลายวันมานี้ต้องกักตัวอยู่ที่บ้านเพราะเป็นโรคสุดฮิตของโลกตัวนี้
ขอยืนยันว่าแม้จะฉีดวัคซีนมากี่เข็มก็มีโอกาสติดโควิดได้ เพียงแต่วัคซีนที่ฉีดเข้าไปช่วยให้อาการไม่หนักถึงขั้นต้องหามส่งโรงพยาบาล
และด้วยเป็นคนที่ว่านอนสอนง่าย จึงโชคดีที่ก่อนหน้าได้รับวัคซีนตามกำหนด เมื่อถึงเวลาป่วย ทำให้หลายอาการที่เคยได้ยินว่ารุนแรง กลับไม่ส่งผลร้ายใดๆ ต่อชีวิต
สิ่งที่ทำระหว่างกักตัว คือ ทำงานผ่านระบบออนไลน์ และเปิดฟังข่าวสารต่างๆ
พบว่า ช่วงนี้พรรคการเมืองตระเวนหาเสียงกันมาก หลายพรรคพูดจามีแนวคิด ฟังแล้วรู้สึกคล้อยตาม เพราะบอกทั้งปัญหาและทางแก้ไข
เรื่องใหญ่ของประเทศที่ได้สดับ ยังคงเป็นเรื่องปากท้องประชาชน
จึงไม่น่าแปลกใจที่แวดวงการเมืองและการตระเวนหาเสียง จึงมีผู้นำเสนอไอเดียเพื่อให้คนไทยอยู่ได้ ปลอดพ้นจากวิกฤตเศรษฐกิจ
วิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นมาเสมือนคลื่นสึนามิที่ถาโถมเข้าใส่ เริ่มด้วยโรคระบาดโควิด และตามมาด้วยสงครามรัสเซีย-ยูเครน และความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่ล่อแหลมต่อการเกิดสงคราม รวมไปถึงสถานการณ์เศรษฐกิจในจีน
ก่อเกิดเป็นข้อวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตเศรษฐกิจที่เรียกว่า Perfect Storm
“Perfect Storm” จะนำชาวโลกเข้าสู่วิกฤตหลายด้าน ทั้งราคาพลังงาน อาหารขาดแคลน ตลาดการเงินผันผวน เศรษฐกิจถดถอย
วิกฤตนี้จะทำให้พวกเราตกอยู่ในสถานการณ์ เงินเฟ้อสูง อัตราการว่างงานสูง และเศรษฐกิจถดถอย ไปพร้อมๆ กัน
น่าสังเกตว่าวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิด ได้กระจายการเกิดไปทั่วโลก ทั้งทวีปอเมริกา ทวีปยุโรป และทวีปเอเชีย
ปกติวิกฤตเศรษฐกิจเกิดขึ้นที่แห่งเดียวก็มีอานุภาพส่งผลกระทบไปที่แห่งอื่นอยู่แล้ว แต่นี้เกิดวิกฤตหลายแห่งในเวลาไล่เลี่ยกัน คิดดูก็แล้วกันว่าผลกระทบจะมหาศาลขนาดไหน
วิกฤตเหล่านี้มิอาจหลีกเลี่ยง ทุกคนทุกองค์กรจำเป็นต้องรู้เพื่อรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว และกำลังจะเกิดขึ้น
ขั้นแรกต้องทำความเข้าใจเหมือนเมื่อตอนที่เราทำความเข้าใจกับโรคระบาดโควิด ขั้นต่อไปคือศึกษาหาทางรับมือเพื่อให้ดำรงอยู่ได้ท่ามกลางวิกฤตที่เกิด
กระทั่งบัดนี้โลกสามารถอยู่ได้ท่ามกลางสถานการณ์โควิด
ดังนั้น แม้วิกฤตที่เกิดจาก Perfect Storm จะส่งผลกระทบต่อเรามากหรือน้อยเพียงใด ทุกคนทุกองค์กรทุกประเทศก็ต้องกลับไปใช้ขั้นตอนเรียนรู้ ศึกษา รับมือ เพื่อการดำรงอยู่เช่นกัน
วันที่ 29 กันยายนนี้ เวลา 09.00-12.00 น. ที่โรงแรมเรเนซองส์ กรุงเทพฯ ราชประสงค์ หนังสือพิมพ์มติชนได้ระดมผู้เชี่ยวชาญ ผู้อยู่ในวงการต่างๆ ที่ต้องเผชิญหน้ากับ Perfect Storm มาชุมนุมกัน
เชิญผู้มีคุณวุฒิขึ้นเวทีสัมมนา “ท้าชน PERFECT STORM ทางรอดเศรษฐกิจไทย” เพื่ออธิบายความหมายและฉายภาพทางออกของประเทศ
ผู้ที่ขึ้นเวทีครั้งนี้ แต่ละคนล้วนไม่ธรรมดา
นับตั้งแต่ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่จะมาร่วมปาฐกถาพิเศษหัวข้อ “ท่องเที่ยวไทยท้าชน PERFECT STORM”
ถือเป็นมุมมองของ ครม. โฟกัสไปที่การท่องเที่ยวซึ่งเป็นความหวังฟื้นจากวิกฤตของไทย
จากนั้น นายกฤษณ์ จันทโนทก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ขึ้นเวทีบรรยายพิเศษหัวข้อ “โอกาส-ทางรอด เศรษฐกิจไทย”
ช่วยฉายภาพโอกาสและทางรอด ในมุมมองของนายธนาคารใหญ่ ที่มีข้อมูลทางการเงินและตัวเลขทางเศรษฐกิจอยู่ในมือแบบเรียลไทม์
ตามมาด้วย นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ที่จะมาบรรยายพิเศษหัวข้อ “จับทิศเศรษฐกิจ-สังคมไทย” ในพายุวิกฤต
คราวนี้เป็นมุมมองของนักธุรกิจ ซึ่งติดตามสถานการณ์วิกฤตอย่างใกล้ชิด
แค่นั้นยังไม่พอ เพราะมติชนยังจัดช่วงเสวนาพิเศษขึ้นมาอีก ใช้ชื่อว่า “Thailand New Chapter 2023”
พร้อมเชิญ 3 ผู้บริหาร 3 มุมมองขึ้นเวที
ทั้ง นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ทั้ง นายสิทธิกร ดิเรกสุนทร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ทั้ง นายพสุ ลิปตพัลลภ กรรมการบริหาร บริษัท พราว เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน)
แค่เอ่ยชื่อวิทยากรที่ขึ้นเวทีก็สัมผัสได้ถึงความหลากหลาย ในช่วงเวลาที่เราเผชิญหน้ากับวิกฤตใหญ่ การได้ฟังความคิดเห็นอันหลากหลายย่อมเป็นประโยชน์
โปรดอย่าลืมว่า ทุกวิกฤตมีโอกาส แม้ Perfect Storm จะฟังชื่อแล้วรู้สึกขนหัวลุก แต่ถ้าทำความเข้าใจและหาวิธีรับมืออย่างหลากหลายและรอบคอบ
บางทีในห้วงเวลาที่มืดมนก็อาจมองเห็นแสงสว่างได้อย่างชัดเจน
บางทีโอกาสที่เราเคยมองข้าม เมื่อตกอยู่ในวิกฤต เราอาจจะเห็นโอกาสนั้นได้ชัดขึ้น
ดังนั้น ใครสนใจอย่ารีรอ รีบสำรองที่นั่งได้ที่ bit.ly/3cJz1Z9 เพราะมีจำนวนจำกัด
วันที่ 29 กันยายน เวลา 09.00-12.00 น. ร่วมแรงร่วมใจไปท้าชน PERFECT STORM ด้วยการไปฟังสัมมนาที่โรงแรมเรเนซองส์ กรุงเทพฯ ราชประสงค์
ไปค้นหาโอกาสและทางรอดของตัวเอง องค์กร และประเทศชาติของเรา