4 รางวัล 4 ผลงาน‘มติชน’ บนเวทีเซเว่นบุ๊คอวอร์ด จากประวัติศาสตร์ถึงโลกยุคใหม่

ผู้ได้รับรางวัลหนังสือดีเด่น “เซเว่นบุ๊คอวอร์ด” ครั้งที่ 18-19
4 รางวัล 4 ผลงาน ‘สำนักพิมพ์มติชน’

การันตีคุณภาพย้ำชัดอีกครั้ง สำหรับผลงานของสำนักพิมพ์มติชน ซึ่งคว้ารางวัล ‘เซเว่นบุ๊คอวอร์ด’ ครั้งที่ 18-19 หนังสือดีมีคุณภาพ ถึง 4 ปก

7 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ณ สุรศักดิ์บอลรูม ชั้น 11 โรงแรมอีสติน แกรนด์ สาทร กรุงเทพฯ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) โดยสำนักกิจการเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ผู้รับผิดชอบโครงการประกวดหนังสือดีเด่นรางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด จัดพิธีรับโล่พระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี รางวัลหนังสือดีเด่น “เซเว่นบุ๊คอวอร์ด” ครั้งที่ 18 และครั้งที่ 19 ซึ่งมีขึ้นเพื่อคัดเลือกและส่งเสริมหนังสือดีมีคุณภาพให้กับสังคมไทย อันเป็นการส่งเสริมการอ่านและเป็นทางเลือกให้กับคนไทย

สำหรับ 4 ปก ผลิตผลการสร้างสรรค์โดยสำนักพิมพ์มติชนที่ได้รับรางวัล ได้แก่

1.หลังบ้านคณะราษฎร : ความรัก ปฏิวัติ และการต่อสู้ของผู้หญิง โดย ชานันท์ ยอดหงษ์ ได้รับรางวัลชนะเลิศ ประเภทสารคดี (ทั่วไป)

Advertisement

2.2475 ราษฎรพลิกแผ่นดิน โดย นริศ จรัสจรรยาวงศ์ ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ประเภทสารคดี (ทั่วไป)

3.วินาทีไร้น้ำหนัก โดย วุฒิชัย กฤษณะประกรกิจ ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ประเภทนวนิยาย

4.คนจรดาบ โดย วิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง ได้รับรางวัลกำลังใจสร้างสรรค์ ประเภทนวนิยาย

Advertisement

ปาฐกถาพิเศษ อากาศ การเมือง
เรื่อง ‘เปลี่ยนผ่าน’ ดิจิทัล ประชากร บริการสุขภาพ

สุวิทย์ กิ่งแก้ว ที่ปรึกษาอาวุโสคณะเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน)

หลัง สุวิทย์ กิ่งแก้ว ที่ปรึกษาอาวุโสคณะเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) กล่าวต้อนรับและแสดงความยินดีแก่ผู้ได้รับรางวัล

ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นพ.เกษม วัฒนชัย กรรมการกิตติมศักดิ์โครงการประกวดหนังสือดีเด่นรางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ประธานในพิธี กล่าวปาฐกถาพิเศษ มีเนื้อหาน่าสนใจยิ่ง ในประเด็นการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ทำให้ทั้งโลกหยุดชะงัก จึงต้องหาวิถีใหม่ในการดำรงชีวิตและหลังจากโควิดสงบลงแล้ว เรากำลังเผชิญกับอะไรต่ออีกหรือไม่ จึงตั้งชื่อว่าเป็นแนวโน้มหลักในปี 2565

“คำว่าแนวโน้มคือสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต ยังปรากฏในปัจจุบัน และจะเกิดขึ้นในอนาคต และทุกคนจะต้องประสบผลกระทบจากแนวโน้มเหล่านั้น

ศ.เกียรติคุณ นพ.เกษม วัฒนชัย กรรมการกิตติมศักดิ์โครงการประกวดหนังสือดีเด่นรางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ประธานในพิธี กล่าวปาฐกถาพิเศษ

ได้แก่ 1.วิกฤตสภาพภูมิอากาศ โดยมีนักวิทยาศาสตร์กล่าวว่า ถ้าเราแก้ปัญหานี้ไม่ได้และทำให้โลกร้อนไปเรื่อยๆ มนุษยชาติอาจจะอยู่ไม่ได้ ดังนั้น เป็นเรื่องที่ทุกคนจะต้องช่วยกัน

2.การเปลี่ยนขั้วอำนาจการเมือง ซึ่งเราไม่ต้องการให้เกิดสงคราม ความขัดแย้ง แต่ต้องการให้เกิดความร่วมมือ เราอยากจะไปมาหาสู่กัน ดังนั้น เราจะเลือกสงคราม หรือสันติภาพ แน่นอนว่าทุกคนต้องการสันติภาพ และจะดีไปกว่านั้นคือเราพยายามส่งเสริมความเข้าใจอันดีและความสมดุลในทุกอย่าง

3.การเปลี่ยนผ่านสู่เทคโนโลยีดิจิทัล ที่หลังจากช่วงโควิดนั้นเทคโนโลยีเกิดความจำเป็นอย่างมาก หลายๆ โรงงานเปลี่ยนจากการใช้มือผลิตเป็นหุ่นยนต์และ AI หมดแล้ว เพราะฉะนั้นเราปฏิเสธไม่ได้ ถ้าเรายังใช้ระบบหัตถกรรมอยู่ จะลำบากมาก และท้ายสุดคือ 4.จุดเน้นใหม่ของระบบบริการสุขภาพ และ 5.ประเด็นประชากร” ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นพ.เกษมกล่าว

2 เล่ม 2475 คว้ารางวัล ชี้ ‘นิมิตหมายอันดี’
กลางบรรยากาศ ‘ไม่เป็นประชาธิปไตย’

ชานันท์ ยอดหงษ์ เจ้าของผลงาน หลังบ้านคณะราษฎร ความรัก ปฏิวัติ และการต่อสู้ของผู้หญิง.

จากนั้น เริ่มพิธีมอบรางวัลหนังสือดีเด่น โดย ชานันท์ ยอดหงษ์ เจ้าของผลงาน หลังบ้านคณะราษฎร : ความรัก ปฏิวัติ และการต่อสู้ของผู้หญิง ซึ่งได้รับรางวัลชนะเลิศ ประเภทสารคดี (ทั่วไป) ขึ้นกล่าวขอบคุณโครงการเซเว่นบุ๊คอวอร์ดและคณะกรรมการทุกท่าน ว่ารู้สึกดีใจมากที่งานมอบรางวัลในครั้งนี้ มีหนังสือที่ว่าด้วยคณะราษฎรและการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองการปกครอง 2475 ที่จะนำพาประเทศเราไปสู่ประชาธิปไตย ได้รับรางวัลถึง 2 เล่มด้วยกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่บรรยากาศไม่เป็นประชาธิปไตยเท่าไหร่ สิทธิเสรีภาพของประชาชนถูกทำลายทั้งๆ ที่การปฏิวัติ 2475 ผ่านมาแล้ว 90 ปี นับตั้งแต่วันที่ 24 มิถุนายน 2475

อย่างไรก็ตาม มีประชาชนจำนวนมากที่ยังคงสืบทอดเจตนารมณ์ของคณะราษฎรและการปฏิวัติ 2475 เพื่อที่จะต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ตนหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเรื่องราวของคณะราษฎรและการปฏิวัติ 2475 จะถูกพูดถึง ถูกเขียน ถูกอ่านต่อไปเรื่อยๆ เช่นเดียวกับข้อเรียกร้องของคณะราษฎรปี 2563 เพื่อให้ประเทศเราเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง

ชานันท์ เปิดใจหลังลงจากเวทีด้วยว่า ตื่นเต้นและดีใจ เพราะตั้งแต่เขียนหนังสือมาไม่เคยได้รับรางวัลมาก่อน

“รู้สึกดีใจที่รอบนี้มีหนังสือที่ว่าด้วยคณะราษฎร 2475 ได้รางวัล ซึ่งถือเป็นนิมิตหมายที่ดีว่ารางวัลที่ใหญ่ขนาดนี้ และให้รางวัลกับงานสารคดี 2475 ถือว่างานได้รับความสำคัญและถูกมองเห็นว่ามีตัวตนมากขึ้นจากเมื่อก่อน ช่วง 10 ปีที่ผ่านมาภาพลักษณ์ของคณะราษฎรดีขึ้น ข้อมูลและข้อเท็จจริงบางประการก็ถูกนำเสนอมากขึ้นเรื่อยๆ จากที่ถูกมองว่าเป็นภัยร้าย ตอนนี้ประชาชนตระหนักได้ว่า เป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญ และมีคุณูปการต่อประชาธิปไตยในปัจจุบัน” ชานันท์เผย

สำหรับอีกเล่มที่คว้ารางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ประเภทสารคดี (ทั่วไป) มาครอง คือ

2475 ราษฎรพลิกแผ่นดิน โดย นริศ จรัสจรรยาวงศ์ นำเสนอคณะราษฎร

นริศ จรัสจรรยาวงศ์ เจ้าของผลงาน 2475 ราษฎรพลิกแผ่นดิน

ในมิติที่มีชีวิตชีวา ให้หลักฐานที่เป็นอนุสรณ์งานศพ บันทึกร่วมสมัยเป็นผู้เล่าเรื่อง โดยพาผู้อ่านย้อนกลับไปร่วมเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ ตั้งแต่การก่อตั้งรวบรวมสมัครพรรคพวกของคณะราษฎร การวางแผนและยึดอำนาจ ตราบจนกระทั่งอวสานคณะราษฎร และเจาะลึกเหตุการณ์ต่างๆ ให้ได้เห็นเกร็ดเล็กมุมน้อยต่างๆ ของคณะราษฎรที่ละเอียดยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น เหตุการณ์หลวงศุภชลาศัยสั่งเรือหลวงสุโขทัยเตรียมยิงถล่มวังไกลกังวล, กลุ่มมุสลิมีนที่ร่วมก่อการในวันที่ 24 มิถุนายน 2475, การหลอมนิกาย รวมธรรมยุติกนิกายและมหานิกายในสมัยคณะราษฎร, ฐานข้อมูลอนุสรณ์งานศพคณะราษฎร และฯลฯ

วินาทีไร้น้ำหนัก-คนจรดาบ 2 เล่ม 2 สไตล์
โลกที่ชวนสงสัย เพลงดาบกำลังภายใน หลังฉากกรุงศรีฯ

วุฒิชัย กฤษณะประกรกิจ เจ้าของผลงาน วินาทีไร้น้ำหนัก

ตามมาด้วยผลงานของ วุฒิชัย กฤษณะประกรกิจ ผู้คว้ารางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ประเภทนวนิยาย จากหนังสือ วินาทีไร้น้ำหนัก ซึ่งนำเสนอให้เห็นถึงคุณค่าของตนเอง และผู้อื่นท่ามกลางเป้าหมายชีวิต ความสุข ความทรงจำที่แตกต่างกันไป โดยผู้เขียน ได้ก่อร่างชีวิตรูปแบบต่างๆ สื่อสารผ่านมนุษย์เงินเดือน พนักงานเสิร์ฟอาหาร สถาปนิก คนขับรถรับจ้าง พนักงานแคชเชียร์ นักเรียน นักศึกษา ไปจนถึงหมาจรจัด นำเสนอตั้งแต่ระดับตัวตน คนรอบข้าง และผู้ร่วมอาศัยบนโลก

หลายชีวิตได้เกี่ยวข้องสัมพันธ์กันใน ‘อุบัติเหตุครั้งใหญ่’ เกิดการเชื่อมประสานส่งผลกระทบต่อกัน อ่านจบแล้วทำให้ได้ทบทวนความหมายของชีวิต อย่าปล่อยให้สิ่งสำคัญหล่นหายไป จนล่วงผ่านไปถึงวินาทีสุดท้าย

วุฒิชัย เปิดเผยว่า รู้สึกดีที่ได้รางวัลในวันนี้ เพราะตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเราไม่รู้ว่างานเราสามารถทำอะไรได้แค่ไหน แต่ตอนนี้รู้สึกดีที่มีคนอ่านและมีคนชอบ

“รู้สึกว่าเวลามีคนอ่าน คือเราไม่ได้คิดแบบนี้อยู่คนเดียว และคนที่ได้อ่านคงรู้สึกเหมือนกันว่าเขาไม่ได้รู้สึกแย่แบบนั้นคนเดียว โลกทุกวันนี้ทำให้เรารู้สึกสงสัยว่าจะมีชีวิตอยู่ไปเพื่ออะไร เมื่อมีคนมาอ่านก็อาจจะได้รู้สึกว่าคิดแบบนี้เหมือนกัน เราอยู่ในสังคมร่วมกัน ซึ่งก็เขียนมาจากความรู้สึกร่วม” วุฒิชัยกล่าว

สำหรับ คนจรดาบ โดย วิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง ผู้กำกับภาพยนตร์และนักเขียนมากฝีมือ คว้ารางวัลกำลังใจสร้างสรรค์ ประเภทนวนิยาย ส่งตัวแทน คือ ปกรณ์เกียรติ ดีโรจนวานิช หัวหน้ากองบรรณาธิการศิลปวัฒนธรรม ฉบับพิเศษ รับรางวัลแทน

เนื้อหาภายใน ถ่ายทอดเรื่องราวนักเลงดาบในกรุงศรีอยุธยายุคเสื่อมที่บ้านเมืองอยู่ในสภาวะไร้ขื่อแป ผ่านลีลาและสำนวนการเขียนแบบพงศาวดาร แต่ออกลวดลายเพลงดาบแบบนวนิยายกำลังภายใน และขมวดปมด้วยเรื่องราวที่ซับซ้อนชวนติดตาม เมื่อนักเลงดาบนิรนามปรากฏกายขึ้น พร้อมกับพราหมณ์หนุ่มผู้เยี่ยมยุทธ์ในเชิงดาบ ทั้งสองได้รับภารกิจลับจากหลวงชลาชลฯ ขุนนางอยุธยาคนสุดท้ายที่ล่วงรู้ถึงภัยร้าย ทั้งคู่จึงมุ่งหน้าสู่กรุงศรีอยุธยาเพื่อเปิดโปงแผนร้าย แต่กลับต้องเผชิญกับความจริงที่ร้ายยิ่งกว่า

เป็น 4 ปก 4 ผลงานที่ชวนอ่าน พิสูจน์ทุกคุณค่าในทุกตัวอักษร

พรสุดา คำมุงคุณ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image