จุดยืนไม่เคยเปลี่ยน อุดมการณ์ไม่เคยตาย ‘มติชน’ จากหน้าแรก ถึงบทที่ 46

จุดยืนไม่เคยเปลี่ยน อุดมการณ์ไม่เคยตาย มติชนž จากหน้าแรก ถึงบทที่ 46

จุดยืนไม่เคยเปลี่ยน อุดมการณ์ไม่เคยตาย
มติชนž
จากหน้าแรก ถึงบทที่ 46

ธำรงศักดิ์ เพชรเลิศอนันต์

“มติชนเป็นหนังสือพิมพ์การเมืองที่โดดเด่น และจับใจมาก”
ธำรงศักดิ์ เพชรเลิศอนันต์ อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต เปิดใจก่อนนับถอยหลังก้าวเข้าสู่ปีที่ 46 ของหนังสือพิมพ์มติชน ในอีก 24 ชั่วโมงข้างหน้า
ในฐานะนักประวัติศาสตร์ ธำรงศักดิ์ย้อนเล่าว่า รู้จักมติชนครั้งแรกเมื่อ พ.ศ.2524 พร้อมๆ กับการเข้าเรียนปี 1 ที่คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จนทุกวันนี้ยังคงตามอ่าน สมัครสมาชิก ให้เมสเซนเจอร์หิ้วมาเสิร์ฟทุกเช้าถึงหน้าประตูบ้าน ทั้งยังเป็นหนึ่งในนักวิชาการที่ร่วมเขียนบทความ ให้สัมภาษณ์รายงานหน้า 2 วิเคราะห์ปัญหาและทางออกของการเมืองไทยมาอย่างต่อเนื่องจนถึงวันนี้

โดดเด่น จับใจ
หนังสือพิมพ์ ‘ประหลาด’ บนชั้นวาง

อาจารย์รัฐศาสตร์ให้เหตุผลว่า เลือกอ่านมติชนเพราะเป็นหนังสือพิมพ์ที่ประหลาด
“มันมีหนังสือพิมพ์ประหลาดวางไว้ที่ชั้นวางหนังสือพิมพ์ ในห้องสมุดหอกลาง ของ ม.ธรรมศาสตร์ มันเป็นหนังสือพิมพ์การเมืองที่โดดเด่นและจับใจมากเลย เพราะเดิมทีผมจะรู้จักแต่หนังสือพิมพ์หัวสี เนื่องจากว่าเป็นคนต่างจังหวัด มติชนมีเนื้อหาการเมืองทุกหน้า มันทำให้เราอ่านแล้วรู้สึกว่า โอ้โห ทำไมมันเยอะขนาดนี้” ธำรงศักดิ์เล่าความรู้สึกเมื่อครั้งสบตากับหนังสือพิมพ์มติชนในวินาทีแรก
ย้อนไปพลิกฉบับปฐมฤกษ์ วันจันทร์ ขึ้น 1 ค่ำ 9 มกราคม พุทธศักราช 2521 คือฉบับแรกที่ ‘มติชนรายวัน’ ปีที่ 1 คลอดจากโรงพิมพ์สู่สายตาประชาชนบนแผงหนังสือ ด้วยราคา 1.50 บาท ความยาว 8 หน้า
‘นายกฯให้ปรับปรุงภาษี ยันไม่ถอนขนห่านคนจน’
คือพาดหัวข่าวหน้า 1
‘กรุงเทพวันนี้’ ที่คอยพยากรณ์อากาศ, พาณิชย์ทิ้งทวนปีเก่า เลิกคุมราคาสินค้า, กพ.ร่างกฤษฎีกำหนดอำนาจผู้ว่าฯ ย้ายตำรวจ เสนอกวาดล้างอาชญากรรมทุกเดือน”
คืออีกส่วนหนึ่งจากพาดหัวข่าวที่เวลาล่วงผ่านมาแล้วกว่า 4 ทศวรรษ สะท้อนบรรยากาศสังคม เศรษฐกิจ การเมืองไทยในห้วงเวลานั้น
กว่า 4 ทศวรรษที่ผ่านมา มติชน สวมหลายหมวก รับหลายบท ทั้งนักบันทึกประวัติศาสตร์สังคม เศรษฐกิจ การเมืองไทย มาอย่างต่อเนื่อง
พร้อมเปิด ‘บทใหม่’ ในปีที่ 46 ในฉบับวันพรุ่งนี้ 9 มกราคม พุทธศักราช 2566
ไม่ว่าผ่านกี่ยุคสมัย ยังคงเดินบนเส้นทางของตนเองอย่างแจ่มชัด จนกลายเป็นส่วนสำคัญในการร่วมขับเคลื่อนพัฒนาการประวัติศาสตร์สิ่งพิมพ์ไทย

ADVERTISMENT

ย้อนหมายเหตุหน้าแรก
จาก‘ประชาชาติ’สู่‘มติชน’

ADVERTISMENT

ธำรงศักดิ์ ในฐานะนักรัฐศาสตร์ควบนักประวัติศาสตร์ เล่าด้วยว่า ก่อนได้อ่าน ‘มติชน’ ตนไม่ใช่เป็นคนที่ติดตามการเมืองมาก่อน ก่อนหน้านี้เรียน มศ.4 แล้วสอบเทียบเข้า ม.ธรรมศาสตร์ จึงเริ่มทุ่มทุกอย่างเพื่อเข้ามหาวิทยาลัยให้ได้ ในวัยนั้นยังไม่ได้สนใจหรอกว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้างในบ้านเมืองนี้
“ตอนนั้นยังเป็นเด็กวัยเอ๊าะ แต่พอเรียนรัฐศาสตร์ คราวนี้ด้วยความที่ชอบเข้าห้องสมุดและเราไม่เคยซื้อหนังสือพิมพ์อะไรอยู่แล้ว แต่ที่ห้องสมุดธรรมศาสตร์ ซึ่งเป็นห้องอ่านหนังสือพิมพ์ มันทำให้เราเห็นโลกประหลาดๆ
จากหนังสือพิมพ์มติชน แล้วคราวนี้ ก็ขยับไปอ่านศิลปวัฒนธรรม คือมันก็เป็นเรื่อง 108 ในยุคของ อาจารย์
สุจิตต์ วงษ์เทศ ยุค ‘สุโขทัยไม่ใช่ราชอาณาจักรแรกของคนไทย’ ผมก็จำได้เรื่องเดียวนี่แหละ ตอนนั้นในการเรียนการสอน ทุกอาจารย์เขาก็จะหยิบยกเรื่องที่เป็นประเด็นฮอต ทำให้รู้จักศิลปวัฒนธรรมตั้งแต่นั้นมา แล้วเราก็เริ่มลองอ่าน” อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ย้อนเป็นฉากๆ
ตัดภาพมายังประวัติศาสตร์ของมติชนเองซึ่งปรากฏในล้อมกรอบ ‘หมายเหตุหน้าแรก’ ของฉบับปฐมฤกษ์ ว่าสืบไม้ต่อจาก ‘ประชาชาติ’ วิวัฒนาการจากหนังสือพิมพ์เข็มทิศธุรกิจรายสัปดาห์ อันมีที่มาจากการถูกสั่งปิดในยุค 6 ตุลาฯ
ความตอนหนึ่งว่า
‘เมื่อมิใช่หนังสือพิมพ์ฉบับใหม่ คณะผู้จัดทำทั้งปวงก็มาจากผู้สุจริตในวิชาชีพหนังสือพิมพ์เก่าๆ นั่นเอง รายละเอียดของความเป็นมาในเรื่องนี้ ได้ตีพิมพ์แล้วเป็นเนื้อหาสาระอยู่ในฉบับ…’
ข้อความข้างต้น บ่งชี้ความเกี่ยวเนื่องที่แยกไม่ออกจากสภาวะหลังเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 ห้วงเวลาซึ่งหนังสือพิมพ์ทุกฉบับถูกสั่งปิด รวมถึง ‘ประชาชาติ’ เป็นเหตุให้ทีมงานต้องเบี่ยง (ชั่วคราว) จากเส้นทางการเมือง มาออกหนังสือพิมพ์ ‘เข็มทิศธุรกิจรายสัปดาห์’ ที่เน้นด้านเศรษฐกิจ เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2520 กระทั่งคณะปฏิวัตินำโดย พลเรือเอก สงัด ชลออยู่ โค่นล้มรัฐบาล ธานินทร์ กรัยวิเชียร ได้เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ.2520 สั่งยกเลิกคณะที่ปรึกษาการพิมพ์ของรัฐบาล เปิดทางให้ผู้ประกอบวิชาชีพหนังสือพิมพ์
แต่รอแล้วรออีก หนังสือพิมพ์ 13 ฉบับที่สั่งถูกปิด ยังไม่มีคำสั่งให้ตีพิมพ์ได้ ทีมงานประชาชาติจึงตัดสินใจออกหนังสือพิมพ์ฉบับใหม่ ในชื่อ ‘มติชน’

ลายพระหัตถ์ ‘พระองค์วรรณฯ’ ประทานหัว นสพ.ประชาชาติ ให้ ขรรค์ชัย บุนปาน

…เมื่อนายขรรค์ชัย บุนปาน มาปรารภกับข้าพเจ้าŽ

ย้อนกลับไปก่อนหน้านั้น (อดีต) นักข่าวหนุ่ม ขรรค์ชัย บุนปาน ซึ่งปัจจุบันนั่งเก้าอี้ประธานกรรมการบริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) เข้าเฝ้า พลตรี พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์ หรือ พระองค์วรรณฯž เพื่อทูลขอหัวหนังสือพิมพ์ ประชาชาติž
ปรากฏในลายพระหัตถ์ พระองค์วรรณฯž ประทานหัว นสพ.ประชาชาติ ให้ขรรค์ชัย
ความตอนหนึ่งว่า
“…เมื่อนายขรรค์ชัย บุนปาน มาปรารภกับข้าพเจ้าว่าใคร่จะออกหนังสือพิมพ์ประชาชาติ รายสัปดาห์ ข้าพเจ้าก็มีความยินดีและอนุโมทนา โดยชี้แจงให้ทราบว่า เมื่อเปลี่ยนแปลงการปกครองมาเป็นระบอบประชาธิปไตยใน พ.ศ.2475 แล้ว ข้าพเจ้าได้เล็งเห็นความจำเป็นที่จะชี้แจงให้ประชาชนได้เข้าใจหลักประชาธิปไตยที่ว่า รัฐบาลเป็นของประชาชน โดยประชาชน และเพื่อประชาชน หรือว่าอำนาจอธิปไตยมาจากปวงชนชาวไทย ข้าพเจ้าจึงได้จัดการออกหนังสือรายวันให้ชื่อว่า ประชาชาติ…Ž”
นับเป็นจุดที่พลิกผันชีวิตของนักข่าวหนุ่มในวันนั้น และเป็นจุดเริ่มต้นของหนังสือพิมพ์การเมืองที่ยังคงคุณภาพเพื่อคุณภาพของประเทศในวันนี้

จาก 2521 ถึง 2566 อุดมการณ์ไม่เคยตาย

“ผมไม่เชื่อว่าอุดมการณ์มันตายŽ”
ฐากูร บุนปาน อดีตรองประธานกรรมการ บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) ผู้ล่วงลับ ลั่นวาจาในวันที่ยังมีชีวิต
“ผมไม่เชื่อว่าคนทำอาชีพนี้จะไม่เหลือ เพราะโดยตัวมันเองมีเสน่ห์บางอย่าง เป็นงานที่สนุก ได้เป็นผู้จับตาและสังเกตการณ์ความเปลี่ยนแปลง เป็นผู้รายงานความเปลี่ยนแปลง ขณะเดียวกันยังได้เจอคนที่แตกต่างหลากหลาย ตั้งแต่นักการภารโรง พนักงานระดับล่างสุด จนถึงนายกรัฐมนตรี หรือซีอีโอบริษัท ทำให้มุมมองต่อชีวิตแหลมคมขึ้น เพราะคุณได้เห็นบทเรียนของคนอื่น เรียนรู้ชีวิตของคนอื่นŽ”
– จากบทสัมภาษณ์ครั้งสุดท้าย เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2562 –

จากวันแรก สู่บทใหม่ มติชนž ยังคงมุ่งสานต่อรากฐานความรู้ ด้วยนานาโครงการที่ส่งเสริมการอ่าน ผนึกคนทำงานหลากวงการ ทั้งนักเขียนหลากหลายแนว วรรณกรรม กวี ปัญญาชน ตลอดจนนักวิชาการ
ย้ำชัดว่าอุดมการณ์ไม่เคยตาย
นักคิดนักเขียน ส่วนหนึ่งกลายเป็น จุดเด่นž เน้นย้ำความแข็งแกร่งของคุณภาพ ทั้งยังเดินไม่ห่างเหินจากแนวคิด รักในเสรีภาพ
วันนี้หนังสือพิมพ์มติชน ปรับตัวลื่นไหลไปตามแพลตฟอร์มที่บังเกิดขึ้นตามยุคสมัย โดยยังคงไว้ซึ่งเนื้อหาอัดแน่นเต็มสาระ จุดยืนและคุณภาพ
ไม่ยอมถอยห่างจากสโลแกน หนังสือพิมพ์คุณภาพ เพื่อคุณภาพของประเทศž

บรรยากาศการทำงานของกอง บก.มติชนรายวัน มีขรรค์ชัย บุนปาน เป็น บก.คนแรก
โรงพิมพ์พิฆเณศ ต่อเติมชั้นดาดฟ้า ย่านแพร่งสรรพศาสตร์ ใช้เป็นสำนักงานแห่งแรกของ “มติชน”

เปิดไทม์ไลน์ มติชนž จากบทที่ 1 ถึง 46

2515 หลัง ขรรค์ชัย บุนปาน และ สุจิตต์ วงษ์เทศ ถูกไล่ออกจากหนังสือพิมพ์สยามรัฐ ตัดสินใจเปิดโรงพิมพ์ พิฆเณศŽ ย่านแพร่งสรรพศาสตร์ รับจ้างพิมพ์หนังสือทุกชนิด
2517 ขรรค์ชัย พร้อมนักหนังสือพิมพ์กลุ่มหนึ่งได้รับประทานหัวหนังสือพิมพ์ ประชาชาติž รายสัปดาห์ จากพลตรี พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์
2519 ประชาชาติถูกปิดโดยคณะปฏิวัติ
2521 หนังสือพิมพ์มติชนรายวันฉบับแรก วางแผงเมื่อวันที่ 9 มกราคม
2524 เกิดระเบิดที่สำนักงานมติชน ย่านวัดราชบพิธฯ ในสถานการณ์ยื้อแย่งอำนาจในกองทัพและรัฐบาลอันดุเดือด
2534 เกิดหนังสือพิมพ์ ข่าวสดž ในเครือมติชน พร้อมๆ ยุครัฐประหาร มีคำสั่งห้ามนำหนังสือพิมพ์ในเครือมติชนเข้าเขตทหาร
2542 คนร้ายขว้างระเบิดใส่อาคารหนังสือพิมพ์ข่าวสด
2540-2544 สถิติฟ้องร้องหนังสือพิมพ์ในเครือมติชนพุ่งสูงผิดปกติ ท่ามกลางข่าวขุดคุ้ยปมทุจริต ที่สุดท้ายมีการนำกฎหมายเป็นเครื่องมือปิดปาก
2553 คนบางกลุ่มรณรงค์ไม่ซื้อหนังสือพิมพ์ในเครือ กีดขวางรถส่งหนังสือพิมพ์ ปลุกระดมในโซเชียลเน็ตเวิร์ก กล่าวหาคนมติชนบนสถานการณ์ทางการเมืองที่ตึงเครียด มติชนยังยืนหยัดเคียงข้างประชาธิปไตย ปฏิเสธอำนาจมืด
2557 ผลประกอบการเครือมติชนติดลบครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของตัวเอง ผู้บริหารปรับตัวเดินหน้ารับความเปลี่ยนแปลงทางด้านเทคโนโลยี
2563-2565 เกิดโรคระบาดแห่งศตวรรษ โควิด-19 หลากหลายสายพันธุ์ ปรากฏการณ์ ดิสรัปต์ž ยังคงอยู่ มติชนปรับตัว เดินหน้าตามอุดมการณ์ ไม่ว่าจะอยู่บนแพลตฟอร์มใด
2566 ยังยึดมั่นจิตวิญญาณของหนังสือพิมพ์ไม่แปรเปลี่ยน ตามข้อความที่พิมพ์หน้ากระดาษเหนือโลโก้สีดำในกรอบสีแดง

 

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image