ว่าด้วย ‘ทัวร์ศูนย์เหรียญ’ ผลกระทบและทางเลือกใหม่

พระธาตุดอยสุเทพ จ.เชียงใหม่

จังหวัดเชียงใหม่เป็นปลายทางในฝันของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ มนต์เสน่ห์ของวัฒนธรรมท้องถิ่น บวกกับความงามของโบราณสถาน สิ่งก่อสร้างต่างๆ อาหารการกิน รวมถึงวิถีชีวิตของผู้คนโดยเฉพาะชาวไทยภูเขาที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ดึงดูดให้มีผู้มาเยือนปีละหลายล้านคน

เช่นที่พระธาตุดอยสุเทพ สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ที่นั่นเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวหลากหลายเชื้อชาติ ทั้งเอเชีย ยุโรป และอเมริกา

ทว่าด้วยรายได้มหาศาลที่เกิดขึ้นจากการท่องเที่ยว ที่ปัจจุบันกลายเป็นอุตสาหกรรมหลักสร้างรายได้ให้กับประเทศไทย กลับเกิดปรากฏการณ์ที่เรียกว่า “ทัวร์ศูนย์เหรียญ” หนอนร้ายทำลายการท่องเที่ยวไทย

รัฐบาลไทยใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดจัดการกับหนอนร้ายตัวนี้ ล่าสุด (27 พ.ย.) กอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว.การท่องเที่ยวและกีฬาได้บินด่วนไปยังประเทศจีนเพื่อหารือถึงทางออกร่วมกันอย่างเหมาะสม

Advertisement
วัดปงสนุก จ.ลำปาง เจ้าของรางวัลอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมดีเด่นจากยูเนสโก้
วัดปงสนุก จ.ลำปาง เจ้าของรางวัลอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมดีเด่นจากยูเนสโก้

ทัวร์คู่แข่งหั่นราคา – ยืนหยัดสู้ด้วยคุณภาพ

การจัดการกับปัญหานี้ใช่เพียงกระทบกับผู้ประกอบการท่องเที่ยวในไทยเท่านั้น เขมิกา สมวงศ์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท แม่โขงเดลต้า ทราเวล เอเจนซี จำกัด เล่าว่า บริษัทของเธอจัดทัวร์ล่องแม่น้ำโขงจากไทยไปสิบสองปันนา ตอนนี้มีปัญหาเรื่องลูกค้าน้อย เพราะในจีนมีการแข่งขันเรื่องราคาสูง ราคาทัวร์ที่สิบสองปันนาราคาทัวร์จะถูก โดยการแข่งขันของบริษัททัวร์ท้องถิ่น 2-3 แห่งแข่งกันบีบราคาทัวร์ให้ถูกลงเพื่อที่จะดึงลูกค้า

“เคยมีลูกค้าจากจีนสนใจใช้บริการเราเพียงแต่ว่าติดเรื่องราคา เขาบอกว่าของเราแพงถ้าเทียบกับทัวร์ทั่วไป นี่คือสิ่งที่พบขณะที่ทัวร์ศูนย์เหรียญกำลังบูม ก่อนมีการปราบปราม เพราะราคาทัวร์ของเขาถูกมาก มีแค่ราคาตั๋วเครื่องบิน นอกนั้นมากินมาเที่ยวก็ได้จากค่าช้อป ที่เราโดนคือเราไม่สามารถดึงทัวร์จากจีนมาเที่ยวกับบริษัททัวร์ของไทยได้” เขมิกา เล่า

ก่อนเสริมว่า มาตรการของรัฐบาลไทยที่ออกมานั้น ไม่สร้างความเปลี่ยนแปลงนักเพราะบริษัทตนเจาะกลุ่มลูกค้าคนไทย ทั้งนี้ จากประสบการณ์การทำทัวร์ไม่พบว่าในจีนมีปัญหาแบบทัวร์ศูนย์เหรียญในบ้านเรา

Advertisement

“อย่างกรณีพี่พาลูกค้าไปสิบสองปันนา มันจะมีการแข่งขันกันเรื่องราคา มีการบีบราคา เรื่องลงร้านช้อปปิ้ง ซึ่งเราไม่ทำแบบนั้นแต่จะเน้นให้ลูกค้าได้พักโรงแรมดี กินดี ได้ท่องเที่ยวจริงๆ แต่มันจะมีลักษณะทัวร์อีกแบบคือ อยากไปถูกๆ ก็จะเจอลักษณะคล้ายๆ แบบนี้ คือมีการลงร้านช้อปปิ้ง ให้ซื้อของ เอากำไรจากการขายของ ส่วนหนึ่งจะไปเป็นกำไรของบริษัททัวร์ที่เมืองจีน แต่ว่าฝั่งจีนยังได้ค่าอาหาร ค่าโรงแรมอยู่ แต่มันไม่เหมือนบ้านเรา”

เขมิกา วิเคราะห์ว่า การเกิดทัวร์ศูนย์เหรียญในไทยมาจากกฎหมายไทยหละหลวม เธอยกตัวอย่างในจีน ที่ไกด์ทุกคนต้องมีบัตร เอาคนมาสวมบัตรไม่ได้ ถ้าเจอไกด์ผีเขาจับจริง ปรับจริง ถึงขั้นขึ้นแบล๊กลิสต์ แม้แต่ไกด์ท้องถิ่น ถ้าทำผิดระเบียบของเมืองนิดเดียวจะโดนแบล๊กลิสต์ทันที ขณะที่บ้านเราหย่อนกฎหมาย

ชูทางออก เน้นนักท่องเที่ยวกลุ่มคุณภาพ-ให้วัฒนธรรมท้องถิ่นเป็นจุดขาย

พูลศรี นิ่มพูลสวัสดิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท ฟรายเดย์ ทริป จำกัด ซึ่งเป็นแลนด์โอเปอเรเตอร์ให้กับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ได้เห็นว่าหลายส่วนได้รับผลกระทบอะไรบ้างจากมาตรการของรัฐบาลไทยครั้งนี้ แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ นักท่องเที่ยวที่เข้ามาเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพมากขึ้น นักท่องเที่ยวคุณภาพที่เพิ่มขึ้น มีทั้งกลุ่มที่เที่ยวเองและกลุ่มที่มากับทัวร์ เขาจะจ้างทัวร์ระดับพรีเมียมที่ไม่ใช่ทัวร์ศูนย์บาท ที่ราคาถูกตัดไว้ก่อน

พูลศรี นิ่มพูลสวัสดิ์
พูลศรี นิ่มพูลสวัสดิ์

“จากการที่เราคุยกับโรงแรม เขาบอกว่าจริงๆ โรงแรมมีผลกระทบอยู่เหมือนกัน เพราะว่านักท่องเที่ยวก้อนใหญ่ที่เข้ามาหาเขาเป็นจีน แม้ว่ามันจะตัดเงินเขาไปพอสมควรด้วยอำนาจการต่อรองที่สูง ทั้งๆ ที่เขาเป็นโรงแรมเกรดดีก็ตาม ในส่วนของร้านค้า แม้ว่าเขาจะเอาเข้าร้านช้อปของเขาเองเยอะมาก แต่ว่ามันก็มีร้านค้าที่เจ้าของคนไทยได้รับผลกระทบเหมือนกัน ว่าพอจีนไม่มาก็ทำให้ซบเซาลง

“มองว่ามาตรการครั้งนี้มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ตอนแรกคิดว่าคุ้มค่าไหม เพราะมันมีผลกระทบต่อหลายฝ่ายเหมือนกัน อย่างโรงแรมรู้สึกว่าตัวเองเงินหายไปส่วนหนึ่ง หรือแม้กระทั่งร้านค้ารายย่อยก็รายได้หายไป แต่คิดว่าในระยะยาวกับกลุ่มคนที่เข้ามาทำลายทรัพยากรธรรมชาติของเราเยอะมาก ฉะนั้น ส่วนตัวรู้สึกว่าเราได้เลือกนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพมากขึ้น”

พูลศรี เสนอว่า หากรัฐบาลต้องการจัดระเบียบให้การท่องเที่ยวยั่งยืน ก็สามารถโปรโมตให้การท่องเที่ยวของไทยยกระดับขึ้น เกรดสูงขึ้นได้ เหมือนบางประเทศที่ให้วีซ่าท่องเที่ยวยากขึ้น แต่นักท่องเที่ยวยังคงไหลมา ซึ่งนักท่องเที่ยวที่เข้ามาก็เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีสตางค์ ธรรมชาติบอบช้ำน้อยลง นักท่องเที่ยวก็พอใจกับสิ่งที่เขาได้รับมากขึ้น เขาก็สามารถไปบอกต่อได้ว่า เมืองไทยสวย มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่ดี ไม่ใช่แค่เร็ว shop and go

“เมื่อเลือกที่จะคัดเกรด ก็ทำแนวนี้ไปเลย เพราะเมืองไทยมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่พร้อมอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นชายหาดที่สวยมาก บวกกับอะไรอีกหลายอย่างที่เมืองไทยมี ไม่ว่าจะเป็นอาหาร วัฒนธรรมต่างๆ คนไทยน่ารักอยู่แล้ว ฉะนั้น อาจจะส่งเสริมในส่วนการท่องเที่ยวแบบ Luxury ส่วนผู้ประกอบการที่ไม่ได้อยู่ในระดับ 4-5 ดาว อาจเน้นแนววัฒนธรรม เพราะวัฒนธรรมต่างๆ เป็นสิ่งที่นักท่องเที่ยวต้องการ เช่น ลำพูน มีหมู่บ้านที่เป็นมังสวิรัติทั้งหมู่บ้าน หรือภาคเหนือมีลอยโคมยี่เป็ง ภาคใต้ที่ไม่ใช่แค่มีชายหาดที่สวยงาม แต่ว่ายังมีเรื่องภูมิปัญญาท้องถิ่นเช่นการทำกะปิ ที่มันน่าสนใจ หรืออีสานวัฒนธรรมเด่นชัด ก็อาจโปรโมตในแนวนั้นไป ซึ่งกลุ่มที่ไม่ใช่ luxury ก็สามารถอยู่ได้อย่างยั่งยืน เพราะเขาโปรโมตในแนวทางของเขา เพราะไม่ต้องสวยหรูหรือเปรียบเทียบกับของใคร เป็นแนวของตัวเองที่ชัดเจน” พูลศรีอธิบายทางเลือกที่น่าสนใจ

ย้อนมอง ‘ทัวร์ศูนย์เหรียญ’ ในไทย

แหล่งข่าวซึ่งอยู่ในวงการท่องเที่ยวมาเกือบ 30 ปี อธิบายถึงทัวร์ศูนย์เหรียญให้มติชนฟังว่า เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 20 ปีที่แล้ว ประเทศจีนเริ่มเศรษฐกิจดี ทั้งข้าราชการ นักธุรกิจ ประชาชน เริ่มเที่ยวต่างประเทศ มีการซื้อค่าทัวร์ปกติ แต่เมื่อจำนวนทัวร์จีนเริ่มเยอะ เริ่มมีการแข่งขัน บริษัทในจีนเองก็แข่งขันเพื่อนำคนมาเที่ยว ราคาจึงต่ำลงมากๆ

คำว่า “ศูนย์เหรียญ” เกิดประมาณ 15-16 ปีที่แล้วที่คนจีนมาเยอะมาก ประเทศไทยเริ่มรับไม่ไหว เกิดไกด์เถื่อนที่เป็นคนจีนนำเที่ยว พูดเองบรรยายเอง กลุ่มมัคคุเทศก์ในพระบรมมหาราชวัง วัดพระแก้ว ก็ได้ยินคนจีนที่บรรยายให้นักท่องเที่ยวฟังผิดๆ ถูกๆ ทำให้ประเทศชาติเสียหาย จึงมีการเรียกร้องให้จัดระเบียบไกด์ ช่วงแรกปัญหายังน้อย แต่เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวจีนมากขึ้นปีละหลายล้านคน สุดท้ายจึงมีปัญหา “ไกด์ซิตอิน” ตามมา เป็นไม้กันผีป้องกันเจ้าหน้าที่ตรวจจับ แม้จะมีบัตรไกด์แต่พูดภาษานั้นๆ ไม่ได้ ขณะที่ประเทศไทยก็พยายามผลิตไกด์ภาษานั้นๆ แต่ก็ไม่เพียงพอกับความต้องการ ทุกวันนี้นักท่องเที่ยวจีนมาปีละ 10 ล้านคน จะหาที่ไหนไปรับ มันก็มีปัญหาเหมือนกัน

คุ้มขันโตก ร้านอาหารชื่อดังในเชียงใหม่ซึ่งเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวชาวจีน
คุ้มขันโตก ร้านอาหารชื่อดังในเชียงใหม่ซึ่งเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวชาวจีน

พอคนจีนมามากๆ จึงมีกลุ่มที่คิดนำรายได้ที่เกิดจากการท่องเที่ยวของคนจีนเองกลับไป มีการเปิดบริษัท แม้จะจดทะเบียนว่าเป็นคนไทยถือหุ้น 51 เปอร์เซ็นต์ ต่างชาติถือ 49 เปอร์เซ็นต์ แต่ในความเป็นจริงก็อาจจะเป็นต่างชาติทั้งหมด เพียงแต่ว่าใช้ชื่อของคนไทย เงินที่ได้กำไรก็ขนกลับประเทศ ซึ่งประเทศไทยก็ได้การสร้างงาน เช่น การขับรถ มากินมาใช้ อาหาร โรงแรมการบริการต่างๆ แต่พอเยอะขึ้น คนจีนก็มาเปิดบริษัทในไทยโดยอาศัยคนไทยร่วมหุ้นหรือบังหน้า จุดนี้ ปัจจุบันยังมีปัญหาการตรวจสอบว่าเป็นของคนไทยครึ่งหนึ่ง ต่างชาติครึ่งหนึ่ง ไทยเกินกึ่งหนึ่งหรือต่างชาติเกินกึ่งหนึ่งกันแน่

แต่ตอนนี้ไม่เปิดบริษัทอย่างเดียว แต่ทำทัวร์เองเต็มรูปแบบ ทั้งขายทัวร์จากเมืองจีน รับเมืองไทยเอง เปิดร้านอาหาร เปิดร้านช้อปปิ้ง นี่เป็นปัญหา เป็นสาเหตุว่าทำไมเกิดเหตุการณ์ “ร้านนี้คนไทยเข้าไม่ได้” ทั้งๆ ที่มันตั้งอยู่ในแผ่นดินไทย นั่นเพราะเปิดจัดฉากไว้รับนักท่องเที่ยวของประเทศตนโดยเฉพาะ กลายเป็นว่าคนไทยไม่ได้อะไร

จุดความเสียหายเริ่มปรากฏ เมื่อนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาเยอะขึ้น เกิดการแข่งขันด้านราคา คำว่า “ศูนย์เหรียญ” เกิดขึ้นเมื่อ 15-16 ปีที่แล้ว

“สมมุติผมเป็นมัคคุเทศก์ อยากได้งานทำ แน่นอนว่าคนจีนเข้ามาใหม่ๆ ช้อปปิ้ง กิน ใช้เงินทุกสิ่งอย่างเพราะว่าเพิ่งออกมาได้เที่ยว เห็นอะไรก็ซื้อ แน่นอนว่าต้องมีรายได้กลับคืนมา จากเดิมที่ต้องจ้างมัคคุเทศก์พาทัวร์วันละ 2-3 พัน บริษัทเริ่มเล็งเห็นว่ามันมีรายได้มากกว่านั้น ถ้าจะรับพาทัวร์ต้องซื้อหัว สมมุติรถบัสคันหนึ่งมี 40 คน ผมต้องเอาเงินไป 2 พันเพื่อซื้อ 1 หัว คันหนึ่งก็ 8 หมื่นแล้วไปขูดรีดนักท่องเที่ยวคืน จึงเกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวถูกปล่อยเกาะ สาเหตุเพราะเขาไม่ซื้อ ไม่ทำยอดให้มันคุ้มกลับมากับที่มัคคุเทศก์ซื้อหัวไป ยิ่งถ้าทำต่อไป มัคคุเทศก์ต้องพาไปลงร้านถึงจะได้รถบัสมาใช้บริการ มัคคุเทศก์ต้องไปจ่ายค่าโรงแรม ค่าอาหารให้นักท่องเที่ยว นั่นหมายความว่ากรุ๊ปนี้ 40 คน มัคคุเทศก์รับทัวร์ไปคนหนึ่งต้องจ่ายเป็นแสน เพื่อที่จะเหมือนซื้อหัวไปทำทัวร์ แล้วไปเอาคืนจากส่วนเสริมต่างๆ เช่น ช้อปปิ้ง การเบียดเบียนทุกสิ่งอย่างในสิ่งที่จะเกิดขึ้น ขายโชว์อะไรก็ขายกันไป”

“ไคลแมกซ์คือ “คิก แบ๊ก” หรือที่เรียกกันว่า “เคบี” – เช่น สมมุติคุณส่งทัวร์มา จากเดิมที่ผมต้องรับเอง จ่ายเองทุกอย่างเสร็จสรรพแล้วหวังน้ำบ่อหน้าว่าจะได้คืนหรือไม่ได้คืน ไม่ได้คืนก็ทิ้งนักท่องเที่ยวไปซึ่งเป็นข่าวปกติ แต่คราวนี้ผมไม่ใช่แค่ซื้อหัวอย่างเดียว แต่ต้องเคบีกลับไป เอาไปคืนบริษัทคุณหัวละ 5 พัน แล้วผมต้องเอาลูกค้ากลุ่มนี้ไปลงทุน จากตอนแรกผมเสียแสนกว่าบาท แต่ตอนนี้ยอมจ่าย 4-5 แสนเพื่อที่จะนำนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้มา เหตุการณ์มันเริ่มจากกระบวนการตรงนี้ในเรื่องของการทำผิดจรรยาบรรณและคุณธรรมในการทำทัวร์/การท่องเที่ยว เลยเป็นปัญหาต่อเนื่องมาจนถึงระยะหลัง” แหล่งข่าวอธิบาย

นั่นทำให้เมื่อประมาณ 7-8 ปีที่แล้ว การท่องเที่ยวจีนเริ่มจัดระบบเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนักท่องเที่ยวจีน ทั้งนี้ การเที่ยวประเทศไทยนั้นไม่ผิด เพียงแต่ว่าระบบที่พาเข้ามาเป็นระบบที่บิดเบี้ยว ไม่เหมือนการเที่ยวยุโรปหรือญี่ปุ่น เพราะไม่มีรายได้อะไรกลับมาคืน พอเจอทัวร์เคบีเข้าไป รัฐบาลจีนก็ไล่จับ ฝั่งไทยก็ไล่จับ จึงเกิดมาเฟียในวงการ มีการผูกกันแบบเดิมอยู่ ผูกธุรกิจฝั่งประเทศจีนกับฝั่งไทย หลังๆ เริ่มมีคนจีนเข้ามา จดทะเบียนถูกต้องแต่รายได้จากการจับจ่ายของนักท่องเที่ยวไม่ตกถึงมือคนไทยเลย จะได้ก็แค่ค่าบริการเล็กๆ น้อยๆ อย่างค่ายกกระเป๋า ค่าเสิร์ฟอาหาร

แหล่งข่าวคนเดิมทิ้งท้ายว่า ปัจจุบันไม่มีแล้วทัวร์ศูนย์เหรียญ แต่ยังเรียกกันอยู่เพราะฟังแล้วง่าย รู้สึกเจ็บปวดดี

“ทุกวันนี้ทุกคนพยายามให้เข้ามาอยู่ในระบบ แม้จะเกิดการแข่งขันก็ตาม ศูนย์เหรียญหรือเคบีอาจจะมีอยู่ในบริษัทที่เปิดกันเอง ทำกันเอง แต่ในระบบจริงๆ มันน้อยลงมาก และกลับมาเป็นทัวร์แฟร์ แต่เป็นทัวร์แฟร์ถูกๆ ที่การบริการไม่ดีนัก”

แต่ที่แน่ๆ มาตรการของรัฐไทยดังกล่าว ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวลดจำนวนลงหลายแสนคน แม้เข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น แต่ยอดจองที่พักที่เคยเต็มกลับว่างเปล่า เพราะฝั่งจีนที่ทำผิดไม่กล้าส่งนักท่องเที่ยวมา ขณะเดียวกัน บริษัทที่ทำถูกต้อง ก็ยังส่งนักท่องเที่ยวมาปกติ

วัดร่องเสือเต้น หรือวัดสีน้ำเงิน จ.เชียงราย
วัดร่องเสือเต้น หรือวัดสีน้ำเงิน จ.เชียงราย

ทั้งนี้ จะอาศัยการช่วยเหลือจากรัฐฝ่ายเดียวคงไม่พอ ท้องถิ่นต้องจับมือกันสนับสนุนการท่องเที่ยวและเสริมศักยภาพของตัวเองด้วย อย่างพื้นที่ 5 จังหวัดภาคเหนือ เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง และพะเยา ที่รวมกลุ่มกันในชื่อ “พื้นที่เขตอารยธรรมล้านนา” ดึงอัตลักษณ์และจุดเด่นของท้องถิ่น กลายเป็นเส้นทางท่องเที่ยวที่ถูกเรียงร้อยกันด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมท้องถิ่น

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image