| ผู้เขียน | ศศวัชร์ คมนียวนิช |
|---|
ด้วยสังคมปัจจุบันคนเริ่มหันมาใส่ใจเรื่องสุขภาพมากขึ้น ไม่ใช่แค่การเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ หรือการออกกำลังกายเท่านั้น แต่ผู้คนยังเลือกที่จะทำประกันสุขภาพไว้ เพื่อเป็นหลักประกันในยามเจ็บป่วย
โฆษณาของ “กรุงเทพประกันชีวิต” เกือบ 4 นาที เล่าชีวิตของเพื่อนบ้านดาราชาย นาย ณภัทร ชื่อว่า “พี่แนน” ซึ่งอยู่ตัวคนเดียว ไม่มีเพื่อน จนกระทั่งวันหนึ่งพี่แนนเป็นลมล้มฟุบ แต่พี่แนนได้ทำประกันของกรุงเทพประกันชีวิตไว้ ทำให้มีคนที่ใส่ใจพี่แนน อยู่มากมาย ตั้งแต่ตัวแทนประกันชีวิต เจ้าหน้าที่ทุกคนในกรุงเทพประกันชีวิต รวมถึงคุณหมอและพยาบาลของโรงพยาบาลพันธมิตรทุกคน ที่ร่วมกันดูแลพี่แนนจนผ่านพ้นวิกฤต ภายใต้แคมเปญ “ประกันสุขภาพที่ใส่ใจคุณ”
โชน โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ BLA ได้เล่าถึงการบริหารงานของ BLA ในปีที่แล้วและวิสัยทัศน์ในปีนี้อย่างน่าสนใจ
⦁คนซื้อประกันผ่านดิจิทัลโตพุ่ง 84.9%
โชนเล่าผลการดำเนินงานของบริษัทในปี 2565 ประเมินว่า ภาพรวมเบี้ยประกันชีวิต ณ สิ้นปี 2565 เบี้ยรับรวมจะเข้าเป้าอยู่ที่ 35,800 ล้านบาท ยืนทรงตัว เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปี 2564 โดยเบี้ยปีแรกคาดว่าจะเติบโต 10% จำนวน 6,900 ล้านบาท
โดยช่วง 10 เดือนแรก (ม.ค.-ต.ค.) บริษัทมีเบี้ยรับรวม 30,195 ล้านบาท ลดลง 1.2% อยู่ในอันดับ 6 ของอุตสาหกรรม โดยทั้งอุตสาหกรรมประกันชีวิตมีเบี้ยรับรวมอยู่ที่ 486,600 ล้านบาท ปรับตัวลดลง 0.5% บริษัทมีเบี้ยปีแรกเติบโตในระดับ 5.5% ในขณะที่ทั้งอุตสาหกรรมติดลบอยู่ 0.2% สาเหตุเบี้ยรับรวมของบริษัทติดลบ เพราะมีกรมธรรม์ปีต่ออายุครบกำหนดชำระเบี้ย ซึ่งเป็นไปตามประมาณการ
ส่วนอัตราการเติบโตรายช่องทาง ช่องทางตัวแทนของบริษัทหดตัวไป 9.3% ในขณะที่ธุรกิจโดยรวมเติบโต 10% แต่ช่องทางดิจิทัล (ซื้อประกันโดยตรงกับบริษัทผ่านช่องทางออนไลน์) มีอัตราการเติบโตอย่างมากถึง 84.9% สวนทางกับธุรกิจโดยรวมหดตัว 11.5% ช่องทางธนาคาร (แบงก์แอสชัวรันซ์) เติบโต 12.4% ส่วนภาคธุรกิจหดตัว 5.8% และเบี้ยช่องทางอื่นๆ ของบริษัทเติบโต 3.4% ส่วนภาคธุรกิจโต 0.7%
สำหรับอัตราการเติบโตรายสินค้าที่เป็นไฮไลต์ ประกันชีวิตประเภทควบการลงทุน (ยูนิตลิงก์) มีอัตราการโตสูงถึง 320.7% ส่วนใหญ่มาจากการชำระเบี้ยแบบรายงวดไม่ใช่ก้อนเดียว รวมถึงเบี้ยจากประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ (MRTA) ผ่านลูกค้าธนาคารที่โตกว่า 41.9%
⦁กลยุทธ์ 5 มิติหลัก สู่อนาคตที่ยั่งยืน
โชนกล่าวว่า สิ่งที่ BLA มุ่งเน้นคือ ความยั่งยืนขององค์กร โดยการพัฒนาทุกมิติเพื่อตอบโจทย์ลูกค้า และต้องเป็นบริษัทที่มีบทบาทและมีส่วนร่วมในความยั่งยืนของสังคมและประเทศชาติด้วย โดยผ่านกลยุทธ์ 5 มิติ ที่ได้คิกออฟไปเมื่อต้นปี 2565 เพื่อก้าวสู่องค์กรแห่งความยั่งยืนตามแผน 3 ปี (2565-2567)
มิติแรก ด้านการบริการด้านสุขภาพที่เป็นเลิศ ซึ่งได้พัฒนาสินค้าที่หลากหลายเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของทุกกลุ่ม ทั้ง Prestige Health / Happy Health / Value Health ตลอดจนการพัฒนาระบบนิเวศด้านสุขภาพ ที่ได้รับความสนใจมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้าน BLA Health Services การบริการสุขภาพครบวงจร อาทิ BLA Health Partner, BLA Every Care และ E-Services โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงวิกฤตโควิด ที่ได้เปิดโครงการ Care@Home ช่วยให้ลูกค้าที่ประสบปัญหาสามารถแก้ไขให้ลุล่วงมาได้
มิติที่ 2 ด้านเวลท์ (Wealth) ได้ออกผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต พร้อมการวางแผนชีวิต วางแผนการลงทุน ประกันชีวิตยูนิตลิงก์ เป็นการวางแผนเพื่อเป้าหมายในชีวิตโดยมีที่ปรึกษาทางการเงินและระบบทำงานที่ตอบโจทย์เป้าหมายชัดเจน ตั้งเป้าจะเพิ่มจำนวนตัวแทนและที่ปรึกษาการเงินในอัตรา 20-30% ของแต่ละปี เฉลี่ย 1,800-2,000 คน
มิติที่ 3 ด้านดิจิทัล ได้เริ่มปรับเปลี่ยนระบบการบริหารจัดการในทุกกระบวนการ ให้เป็นรูปแบบดิจิทัล โดยคาดหวังว่า ภายใน 5 ปี ทุกระบบจะดำเนินไปตามแผนที่วางไว้ โดยในปัจจุบันมีแอพพลิเคชั่นสำหรับลูกค้า คือ BLA Happy Life และ Bangkok Life GMC เพื่ออำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมต่างๆ
มิติที่ 4 ด้านเพิ่มช่องทางการขาย ด้วยการพัฒนาตัวแทน 2 โครงการหลัก โครงการแรกพัฒนาทีมขายรุ่นใหม่ ประกอบด้วย Smart Agent, Smart FA และ Smart Leader โดย Smart Agent มีการรับรองรายได้ของตัวแทน 1 ปี ให้สามารถปรับตัว เรียนรู้เกี่ยวกับสินค้า เครื่องมือต่างๆ โดยไม่ต้องรับแรงกดดันจากการทำยอดขาย ซึ่งต้องมีการเข้างานประจำ เข้าการอบรมอย่างเข้มข้น
ส่วนโครงการที่สอง คือ โครงการสถาปนิกทางการเงิน หรือ Bangkok Life Fin Architect จะเข้าไปตามมหาวิทยาลัย หากลุ่มเป้าหมายที่เป็นนิสิตนักศึกษาที่กำลังจะจบการศึกษา เพื่อเข้าสู่อาชีพทางการเงินที่ตนเองสนใจ และมีเป้าหมายในการก้าวสู่ความเป็นเจ้าของธุรกิจในระยะยาว โดยเน้นสร้างตัวแทนและที่ปรึกษาทางการเงินมืออาชีพ เตรียมความพร้อมเพื่อการขยายตัวของธุรกิจในอนาคต ตอบโจทย์การทำงานของคนรุ่นใหม่ได้อย่างดี
ขณะเดียวกันมีการสร้างความแข็งแกร่งในช่องทางธนาคารและพันธมิตรอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้มีการจับมือกับธนาคารทิสโก้ ในการวางแผนการเงินเพื่อการเกษียณและวางแผนคุ้มครองสุขภาพที่ครอบคลุมทุกเพศทุกวัย ตลอดจนการคิดค้นผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่เพื่อการเกษียณ เพื่อประโยชน์สูงสุดสำหรับลูกค้า นอกจากนี้ เรามีเป้าหมายมุ่งสู่ผู้นำช่องทางขายประกันออนไลน์ ด้วยแบบประกันหลากหลายประเภท อาทิ การออมทรัพย์, การเกษียณ และสุขภาพ โดยจับมือกับ Shopee
มิติที่ 5 ด้าน CSR มุ่งมั่นขยายบทบาทในการช่วยเหลือสังคม และให้ความใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยจิตสำนึกการดูแลสิ่งแวดล้อมแก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย บริหารจัดการทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ โดย BLA ได้รับอนุมัติจากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) ให้ขึ้นทะเบียนฉลากคาร์บอนเรียบร้อยแล้ว
⦁ประกันชีวิตแบบ Par คือ ‘ที่สุด’ ของการ ‘ตอบโจทย์ลูกค้า’
โชนเล่าว่า ประกันชีวิตแบบมีเงินปันผล หรือ Par (Participating Life Insurance) คือ กรมธรรม์ประกันชีวิตที่มีการให้ผลประโยชน์เพิ่มเติมจากที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์ และจำนวนเงินผลประโยชน์เพิ่มเติมดังกล่าวไม่รองรับจำนวนการจ่ายที่แน่นอน เป็นการการันตีได้ว่าเงินต้นไม่หาย พร้อมรับประกันผลตอบแทนขั้นต่ำและโอกาสรับเงินปันผลเพิ่มเติมจากการลงทุน ที่ปัจจุบันมีสัดส่วน 44% ของเบี้ยประกันสามัญของบริษัท
“ประกันเกนเฟิสต์ เป็นประกันแบบ Par ที่ลูกค้าธนาคารกรุงเทพให้การตอบรับเป็นอย่างดี สามารถซื้อผ่านทางโมบายแบงกิ้ง และทางเว็บไซต์ธนาคาร เป็นช่องทางที่เข้าถึงลูกค้าได้ง่าย เชื่อว่าส่งเสริมการเติบโตของบริษัทในอนาคต”
ด้านประกันยูนิตลิงก์ โชนกล่าวว่า ไม่ใช่สินค้าหลักของอุตสาหกรรม แต่เป็นสินค้าสำหรับผู้ที่เข้าใจการลงทุน และพร้อมดูแลกรมธรรม์ด้วยตนเอง จุดที่ดีมากของยูนิตลิงก์ คือสามารถทำทุนประกันได้สูงมาก เมื่อเทียบกับเบี้ยประกัน สามารถปรับเปลี่ยนทุนประกันได้ในอนาคต เช่น ลูกค้าลดน้อยลง ก็สามารถลดทุนประกันได้ ทำให้มีเงินเหลือไปลงทุนมากขึ้น
“จากยอดขายประกันยูนิตลิงก์ ซิงเกิลพรีเมียมยอดขายน้อยลง เนื่องจากมีความอ่อนไหวกับสภาพเศรษฐกิจ เพราะเป็นการจ่ายเบี้ยครั้งเดียว ใช้เงินก้อนใหญ่ตู้มเดียว แล้วในวันที่ซื้อก็ไม่รู้ว่าได้ต้นทุนตลาดดีหรือไม่ แต่สำหรับประกันยูนิตลิงก์ ชำระรายงวด มียอดโตเลข 2 หลัก เพราะสามารถจ่ายเบี้ยเฉลี่ยรายงวด ซึ่งก็จะได้ต้นทุนในแต่ละปีไป ผู้ซื้อมีความสบายใจมากขึ้น”
⦁มุ่งพัฒนาช่องทางดิจิทัล เพิ่มประสิทธิภาพ ไม่ใช้เงินสด 100%
ที่ผ่านมากว่า 95% ที่สาขา/ตัวแทนส่งงานผ่านแท็บเล็ต เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพ ลดทรัพยากร สามารถส่งงานได้ทุกที่โดยไม่ต้องเข้ามาที่สาขาของบริษัท BLA มุ่งการพัฒนาธุรกรรมการชำระเบี้ยประกันผ่านดิจิทัล โดยปีที่ผ่านมา กว่า 99% เป็นการชำระเงินผ่านการโอนเงิน และบัตรเครดิต ซึ่งช่วยลดภาระและเพิ่มความสบายใจให้กับทุกฝ่าย และเชื่อว่าปีนี้จะครบทั้งหมด 100% ได้
“ในอดีตเวลาตัวแทนขายประกันไปแล้วจะเป็นการออกใบเสร็จชั่วคราว ซึ่งลูกค้าบางคนอาจไม่มั่นใจเพราะเป็นใบเสร็จที่บริษัทไม่ได้ออกโดยตรง ซึ่งก็อาจเปิดช่องทางให้เกิดการทุจริตได้ แต่ปัจจุบันจ่ายตรงถึงบริษัทได้เลย ทั้งนี้ ในแง่ของกระบวนการทำงาน หลายคนจะพูดถึงการลดกระดาษ แต่จริงๆ ไม่ได้มีมูลค่าขนาดนั้น สิ่งที่เราคิดว่าช่วยได้มาก คือช่วยลดเวลาและพลังงานที่ต้องเดินทางไปมา ทั้งของลูกค้าและตัวแทนมากกว่า” โชนกล่าว
⦁จับตาเศรษฐกิจโลกส่งกระทบ มองบวก ธุรกิจประกันยังสดใส
โชนกล่าวว่า ความท้าทายของ BLA ในปีนี้ขึ้นอยู่กับเศรษฐกิจโลกเป็นหลัก ซึ่งจะกระทบต่อเศรษฐกิจไทย ส่งผลต่อกระเป๋าเงินของลูกค้า ซึ่งผู้ที่มีเงินออมสามารถช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบา แต่ถ้าเศรษฐกิจไม่ดีต่อเนื่องยาว 3-5 ปี จะทำให้ลูกค้าได้รับผลกระทบ หนักขึ้น ทำให้ความสามารถในการเปิดกรมธรรม์ใหม่ลดน้อยลง และส่งผลต่อการจ่ายเบี้ยกรมธรรม์ตัวเก่าด้วย
แต่อย่างไรก็ตาม โชนมองว่าธุรกิจการประกันชีวิตและประกันสุขภาพมีแนวโน้มดีขึ้นสดใส จากการที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ได้ออกมาตรฐานประกันสุขภาพฉบับใหม่ โดยเฉพาะไม่ให้มีการบอกเลิกสัญญาได้ ยกเว้นการฉ้อฉลประกัน และสามารถปรับเบี้ยประกันได้ ซึ่งสามารถสร้างความมั่นใจให้กับผู้ทำประกัน
“ลูกค้ามีการศึกษาการทำประกันสุขภาพเยอะขึ้น มีการเปรียบเทียบกับบริษัทต่างๆ ผู้เอาประกันดูว่ามีการปรับเบี้ยเพิ่มขึ้นไหม มีการยกเลิกไหม ต้องยอมรับว่าประกันสุขภาพเบี้ยก็ไม่น้อย เป็นสัดส่วนค่าใช้จ่ายในครอบครัวที่สูง คนจะให้ความสำคัญมากกับการหาอะไรที่คุ้มค่ามากยิ่งขึ้น” โชนกล่าวปิดท้าย
