‘บวชแล้วไม่ไหวก็ไปเถิด’ เสียงเตือนของสังคม จากออนไลน์ถึงพัทธสีมา

พระเทพปฏิภาณวาที หรือเจ้าคุณพิพิธ

วงการยูนิฟอร์มสีเหลืองแซ่บไม่แผ่วตั้งแต่ต้นปีเรื่อยมาจนไม่กี่วันมานี้ 

โดยเฉพาะเมื่อ แพรรี่ไพรวัลย์ วรรณบุตร ออกมาแฉพระภิกษุสังกัดวัดแห่งหนึ่งใน จ.นครสวรรค์ ที่มีฐานะเป็นรองเจ้าคณะตำบล เลี้ยงเด็กหนุ่ม และฉันบวบ ก่อนจะนำภาพดังกล่าวออกมาเผยแพร่จนกลายเป็นที่กระฉ่อนไปทั่ว และมีรายงานว่าชาวบ้านต่างพากันเดินทางไปยังวัดดังกล่าวเพื่อสอบถามข้อเท็จจริง สุดท้ายเป็นอันต้องสึกไปตามระเบียบ 

ไหนจะเรื่องราวของฆราวาสรายหนึ่ง ซึ่งถ่ายภาพเล่าเรื่องราวเมื่อเข้าปลดทุกข์ที่ห้องน้ำสาธารณะ พบเห็นบุคคลแต่งกายคล้ายพระสงฆ์รูปหนึ่งเดินตามชายรายหนึ่งเข้าไปในห้องน้ำห้องข้างๆ ก่อนจะมีเสียงปริศนา ซึ่งเจ้าตัวบรรยายว่า 

ฉันเพลเจริญอ็อกหลวงพี่สะดวกอมบวบและนั่งฉันผัดไทยอย่างเมามันส์ หลังโยมหนุ่มจัดถวายที่ห้องน้ำสาธารณะแห่งหนึ่ง โดยเป็นเสียงซวบๆ ดังมาเป็นระลอก 

Advertisement

ฆราวาสรายดังกล่าวจึงนำมือถือก้มลงไปถ่ายภาพ บันทึกอิริยาบถที่หลวงพี่รูปนั้นกำลังคุกเข่านั่งฉันเพลในส้วม 

ทำเอาโลกออนไลน์วิพากษ์อย่างกว้างขวาง ร้อนไปถึงเพจดังอย่างวุ้นแปลภาษา ที่ต้องออกมาให้นิยามความหมายของซู้ดผัดไทย ว่า 

Advertisement

สลับกันทำ ผลัดกันทำ ผลัดรุกผลัดรับ ผลัดกันอมบวบให้แก่กัน เป็นคำที่เริ่มฮิตมาจากวงการสงฆ์ ไม่น่าเชื่อ

ครั้น อานนท์ นำภา ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ถามว่าผัดไทยคืออะไร ตอบ !’ ผศ.สุรพศ ทวีศักดิ์ นักวิชาการด้านปรัชญาและศาสนา ก็เข้าไปแสดงความคิดเห็นแนวหยอกๆ ว่ารหัสนัยนอกพระไตรปิฎก

น่าจะเป็นรหัสนัยทางพระที่เกิดขึ้นใหม่ในประเทศที่เป็นศูนย์กลางพุทธศาสนาโลก ผมเองไม่รู้ ตามไม่ทันศัพท์ทางพระใหม่ๆ มันไม่มีในพระไตรปิฎกอะนะ

ล่าสุด ยังมีคลิปฉาวในทำนองว่าพระเลขานุการวัดแห่งหนึ่งในจังหวัดนนทบุรี มีพฤติกรรมนัดแนะให้หญิงสาวที่มาช่วยงานวัด ไขกุญแจเปิดประตูกุฏิเข้าไปรอในห้อง โดยได้ใช้เวลาอยู่ร่วมกันแบบสองต่อสองเป็นประจำ จนชาวบ้านรอบวัดเอือมระอา จึงแอบถ่ายไว้เป็นหลักฐาน โดยกรณีนี้เจ้าตัวรับความผิดโลกวัชชะคือ ชาวโลกติเตียน แต่ยืนยันว่าไม่เคยถึงขั้นเกินเลยจนต้องปาราชิก 

ซู้ดผัดไทยในส้วม (ภาพจากเพจอีซ้อขยี้ข่าว2)

ประเด็นนี้ พระเทพปฏิภาณวาที หรือเจ้าคุณพิพิธวัดสุทัศนเทพวราราม เจ้าคณะเขตดุสิต กล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่า ก่อนอื่นต้องยอมรับปัญหาดังกล่าวมีอยู่จริง 

ส่วนหนึ่งเกิดจาก 

1.พระนักปกครองไม่เอาใจใส่พระที่บวช 

2.สมภารเป็นเอง แม้กระทั่งตำแหน่งใหญ่กว่าเจ้าอาวาสก็มี วงการสงฆ์รู้กัน 

อยากเตือน เพื่อป้องปรามและกำจัดปัญหาว่า หากบวชเป็นภิกษุแล้วอยู่ไม่ไหวก็ไปเสียเถิดเจ้าคุณพิพิธฝากไว้ให้คิด 

นอกจากนี้ยังเล่าว่า ปัจจุบันมีการสื่อสารผ่านไลน์สำหรับภิกษุที่มีรสนิยมและพฤติกรรมลักษณะดังกล่าว มีการนัดหมายกินหมี่ระหว่างพระกับพระ พระกับฆราวาส จนถึงการซื้อขายก็มี โดยไม่นานมานี้ก็เพิ่งไปชำระมา 1 คดี ซึ่งปัจจุบันคดีลักษณะนี้เกิดขึ้นบ่อยมากในวงการสงฆ์

ยุคนี้สื่อสารผ่านไลน์ มีไลน์กรุ๊ป มีการแชตคุยกันว่าไปได้เหยื่อรายนี้มาแล้ว หวานเจี๊ยบเชียว อะไรแบบนี้ กินหมี่ กินถั่ว กินบวบ อะไรก็ว่ากันไป เรื่องที่ถูกแฉออกมาบางเรื่องเป็นที่รู้กันอยู่แล้ว แต่ไม่มีใครพูด กระทั่งเกิดปัญหา แย่งชิงกันเอง เหมือนแย่งผัวแย่งเมีย หักหลัง 

บางทีไม่ได้แล้วแค้น ไม่จ่ายตังค์ ไม่เลี้ยงดู หรือเคยเลี้ยงดูแล้วทอดทิ้ง สารพัด เลยถูกแฉ นี่คือเรื่องจริงที่มีมานานแล้ว แต่ทุกวันนี้เครือข่ายขยายมากขึ้น ทั้งระหว่างพระกับพระ และพระกับฆราวาส มีการซื้อขายตัว ที่ควรระวังคือ วัดใหญ่ๆ ที่มีสำนักเรียนและมีสามเณรเยอะๆ ถ้าเป็นวัดในจังหวัดที่มีการท่องเที่ยว เพิ่มความเสี่ยง มีการซื้อหนุ่ม เป็นกลุ่มค้าขาย

ขอเตือนไว้ ถ้าคิดว่าเป็นพระแล้วอยู่ไม่ไหวก็ไปซะ พอข่าวลงแล้วจะไม่มีแผ่นดินอยู่ โดยเฉพาะพระใหญ่ๆ โดนโซเชียลแขวน 

แม่ค้าขอบคุณแพรี่ ทำผัดบวบขายดี

เจ้าคุณพิพิธยังระบุว่า เพื่อสกัดเหตุดังกล่าว พระพุทธเจ้าจึงตรัสว่า สามเณรจะนวดเท้าให้ อย่าให้เกินหัวเข่าขึ้นไป 

พระเณรจะนวดอุปัชฌาย์ ครูบาอาจารย์ อย่าให้เกินหัวเข่านะ และนวดในที่ไม่ลับตา ถ้าลับตาเดี๋ยวก็เรียบร้อย แล้วเณรจะนวดพระระดับธรรมดาหรือ? ต้องพระมีระดับ เดี๋ยวเรียบร้อย 

ส่วนการป้องกันและแก้ไขปัญหาเมื่อพระนักปกครองปล่อยปละละเลย หรือเป็นเสียเอง หรือคิดว่าหมดกำลังใจ ทำไปก็ไม่ได้ดี ไม่มีสมณศักดิ์ จึงทิ้งหน้าที่ เบื้องต้นก็ต้องอาศัยหูตาของโยมที่เห็น ซึ่งสามารถแจ้งเรื่องไปยังคณะสงฆ์ในพื้นที่ ส่วนที่มักมีผู้เรียกร้องให้ สำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติ ออกมาจัดการนั้น เจ้าคุณพิพิธมองต่างออกไป โดยระบุว่า สำนักพุทธฯไม่ใช่นักปกครองพระสงฆ์ ไม่มีหน้าที่จัดการพระ ยกเว้นพระให้ไปช่วย แต่เป็นผู้ช่วยและสนับสนุนด้านการศาสนา

โลกโซเชียลเร็วกว่าพระแก่ๆ เยอะ เป็นโลกแห่งหูทิพย์ ตาทิพย์ พระจะทำหูหนวกตาบอดไม่ได้ พฤติกรรมกับกิจวัตรเป็นตัวบ่งบอกอยู่ โยมก็ช่วยเป็นหูเป็นตาให้ แต่ขอให้เป็นข่าวจริงก็แล้วกัน อาจเรียนเจ้าอาวาสของวัดนั้นๆ ก่อน ส่วนควรไม่ควรลงสื่อก็ลองดู เจ้าคุณพิพิธกล่าว

แม้มีบ่อยจนชักชินชา แต่อย่าให้ถึงกับกลายเป็นเรื่องปกติ นาทีนี้วงการผ้าเหลืองต้องเฝ้าระวังตนเองทั้งใจและกาย อย่าให้ย่อหย่อน หน้าต่างมีหู ประตูมีช่อง ผู้คนมีสมาร์ทโฟน เรื่องเด็ด คลิปโดน พร้อมแฉแบบนาทีต่อนาที

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image