| ผู้เขียน | นฤตย์ เสกธีระ |
|---|
แท็งก์ความคิด : ไปหาเพื่อนใหม่
หนังสือยังเป็นเพื่อนที่น่ารักเสมอ แม้ระยะหลังหนังสือประเภทวรรณกรรมค่อนข้างเงียบ แต่ผู้มีฝีมือก็ยังจรดปากกาเขียนมาให้อ่านอยู่เนืองๆ
สำนักพิมพ์มติชนสนับสนุนนักเขียนไทย และผลิตผลงานวรรณกรรมไทยระดับคุณภาพออกมาบ่อย
อย่างเล่ม “คนจรดาบ” โดย วิศิษฎ์ ศาสนเที่ยง ก็เพิ่งได้รับรางวัลจาก สพฐ.
หนังสือเล่มนี้พิมพ์ออกมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ด้วยลีลาการเขียนที่น่าติดตาม
เขียนเหมือนพงศาวดาร มีร้อยแก้วและร้อยกรองบรรยายเรื่องราว ภาษาสวย เขียนถึงฉากรบได้สนุก
ยิ่งเรื่องนี้สู้กันทั้งเรื่อง ยิ่งสนุก
สมแล้วที่ผู้ประพันธ์เป็นผู้กำกับภาพยนตร์ เพราะเนื้อหาและการดำเนินเรื่องน่านำไปทำหนังทำละคร
นี่คงเป็นวรรณกรรมไทยอีกเรื่องที่อ่านจบแล้ว วางไว้แล้วหยิบมาอ่านใหม่ก็ยังสนุก
เนื้อหาความบันเทิงเหล่านี้คือจินตนาการของผู้เขียนที่นำความสุขมาสู่ผู้อ่าน
และเหมือนดั่งที่ว่าไว้ว่า หนังสือเหมือนเพื่อน และเป็นเพื่อนในทุกๆ ด้าน
เพื่อนที่ให้ความบันเทิง เพื่อนที่ให้ความคิด เพื่อนที่ให้กำลังใจ เพื่อนที่ให้ความรู้ เป็นต้น
ดังนั้น ยิ่งอ่านหนังสือมากก็เหมือนกับได้รู้จักเพื่อนมากขึ้น
ในวันที่ 30 มีนาคม-9 เมษายนนี้ จะมีงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 51 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
ที่นั่นคือตลาดหนังสือขนาดใหญ่ที่อยากชวนให้ทุกคนไปหาเพื่อน เพราะทุกสำนักพิมพ์ต่างมีหนังสือดีหนังสือดังออกมาวางอวดโฉม
ยิ่งตลาดหนังสือพ็อคเก็ตบุ๊กเมื่อปีที่แล้วตอกย้ำว่าฟื้น บรรดาสำนักพิมพ์ยิ่งมั่นใจในการนำเสนอหนังสือใหม่ๆ ให้ได้อ่าน
สำนักพิมพ์มติชนก็ต้องการนำเนื้อหาสร้างสรรค์จากหนังสือส่งต่อให้สังคม
หลายคนที่ติดตามคงทราบว่า สำนักพิมพ์มติชนทยอยผลิตหนังสือใหม่ออกมาเรื่อยๆ อย่างหลากหลาย
ยกตัวอย่างสักหลายปก เป็นการเรียกน้ำย่อย
เริ่มจาก “Downtown Ayutthaya ต่างชาติต่างภาษา และโลกาภิวัตน์
แรกในสยาม-อุษาคเนย์” ของ กำพล จำปาพันธ์ และ โมโมทาโร่
เล่มนี้เคยกล่าวถึงในคอลัมน์แห่งนี้แล้ว ไม่ขอเอื้อนเอ่ยมากความ เอาเป็นว่าอ่านแล้วเราจะรู้ว่า ณ แผ่นดินศรีอยุธยานั้นมีชนชาติต่างๆ มาอาศัยอยู่มากมาย
อ่านแล้วอยากไปเยือนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา แล้วแวะเวียนไปยังพื้นที่ที่มีการกล่าวถึง
อีกเล่ม คือ “เขตคลองมองเมือง” เขียนโดย บัณฑิต จุลาสัย และ
รัชดา โชติพานิช
บอกกล่าวเรื่องราวของเขตและคลองในเมืองกรุง เพราะในสมัยนั้นการสัญจรเน้นเดินทางทางน้ำ ผู้คนในแผ่นดินบางกอกมีวิถีชีวิตผูกพันกับสายน้ำ
หนังสือเล่มนี้จึงพาผู้อ่านย้อนอดีตกลับไปมองประวัติศาสตร์ วิถีชีวิต และการพัฒนาเมืองผ่านเรื่องคลอง
หรือใครนิยมศึกษาเรื่องราวลึกๆ
หนังสือ “เป็นจีนเพราะรู้สึก : ประวัติศาสตร์เสื่อผืนหมอนใบที่เพิ่งสร้าง” มี สิทธิเทพ เอกสิทธิพงษ์ เป็นผู้เขียนก็น่าสนใจ
เนื้อหาของหนังสือ บ่งบอกเรื่องราวของ “ชนชั้นกลางไทยเชื้อสายจีน”
ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ศึกษาประวัติศาสตร์ความรู้สึกของชนชั้นกลางไทยเชื้อสายจีน และตีความหลักฐานใหม่ เพื่อจัดวางอารมณ์ความรู้สึกของชนชั้นกลางไทยเชื้อสายจีนภายใต้บริบททางประวัติศาสตร์อย่างลึกซึ้ง
ส่วนเล่มนี้อ่านง่าย ได้ความรู้ และสนุก หนังสือ ชื่อ “Need to Know รู้แล้วรู้รอด” เขียนโดย ดร.นำชัย ชีววิวรรธน์
ตอบคำถามอย่างมีหลักวิชาในคำถามที่หลายคนอยากรู้ เช่น การเมืองทำให้คนโง่จริงหรือ อำนาจทำให้ฉ้อฉลจริงไหม ทำไมคนแก่ไม่ชอบฟังเพลงวัยรุ่น หรือสัญชาตญาณแรกแม่นแค่ไหน
อีกสักเล่มส่งท้าย เป็นวรรณกรรมชื่อ “โนอาห์แห่งความทรงจำ” เขียนโดย อ้อมแก้ว กัลยาณพงศ์ ถ่ายทอดเรื่องราวของคนที่อยากลบความทรงจำที่ไม่ดีออกไป
แล้วถ้าวันหนึ่งมีเครื่องมือลบความทรงจำนั้นๆ ออกไปได้ พวกเราจะเป็นอย่างไร
เป็นเนื้อหาจากจินตนาการที่เปิดให้ผู้อ่านมีจินตนาการต่อไป
นอกจากนี้ ยังมีหนังสืออีกหลายปกที่ออกใหม่ตระเตรียมไปอวดโฉมในงาน
เท่าที่ทราบมีหนังสือ ชื่อ “The Blues Cheaters เจ้าชายผู้โกงทุกข์” เขียนโดย เจ้าของเพจ “ทูตนอกแถว” นายรัศม์ ชาลีจันทร์ อดีตทูตหลายประเทศ
เป็นนิยายเรื่องแรกในชีวิตของทูตนอกแถว แต่แค่อ่านเกริ่นนำก็อยากอ่านต่อไปให้จบเล่ม
ยังมีหนังสือ ชื่อ “นเรศวรนิพนธ์” หนังสือ ชื่อ “ทาสไทย” หนังสือแปล ชื่อ “ทำไมฉันจึงเป็นทุกข์ขณะที่ทุกคนก็ดูมีความสุขกันดี”
และหนังสือบางเล่มได้คัดสรรมาเพื่อพรีออเดอร์ พร้อมๆ โปรโมชั่นเด็ด ซึ่งจะเริ่มกันตั้งแต่วันที่ 13 มีนาคมเป็นต้นไป เป็นการโหมโรงก่อนจะถึงงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ
อย่าพลาด วันที่ 30 มีนาคม-9 เมษายน ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ใครอยากได้เพื่อนใหม่โปรดไปเลือกหาหนังสือกัน
แถมปีนี้ ยังจัดช่วงเวลาพิเศษสุด 3 วันแรก คือ 30 มีนาคม-1 เมษายน ขยายเวลาให้ช้อปหนังสือไปถึงเที่ยงคืน
ไปงานนี้ ได้เดิน-ได้อ่าน และได้เลือกหนังสือภายในอาคารที่สวยงาม
บรรยากาศเช่นนี้น่าจะทำให้หลายคนมีความสุข
สุขกับหนังสือใหม่ เพื่อนใหม่ ภายใต้สถานที่ที่สวยงาม