พรรคเล็ก คนไม่เล็ก เปิดใจนโยบายไซซ์เบิ้ม สู้ศึกใหญ่ #เลือกตั้ง66

พรรคเล็ก คนไม่เล็ก เปิดใจนโยบายไซซ์เบิ้ม สู้ศึกใหญ่ #เลือกตั้ง66

คึกคักมากขึ้นทุกขณะ สำหรับบรรยากาศสมรภูมิเลือกตั้ง 2566 ซึ่งพรรคการเมืองต่างๆ แห่สมัครรับเลือกตั้งล้นหลาม ทั้งแบบแบ่งเขตและแบบบัญชีรายชื่อ

ไม่เพียงพรรคใหญ่ที่งัดยุทธศาสตร์ทั้งเชิงอุดมการณ์ นโยบาย และอีกมากมายมาซื้อใจประชาชน
แต่เหล่าพรรคเล็กก็สู้ยิบตา ตั้งแต่วันแรกของการสมัคร ณ อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง โดยมีพรรคคลองไทย และพรรคพลังไทยรักชาติ ยื่นเอกสารในวันสุดท้าย 7 เมษายนที่ผ่านมา โดยให้เหตุผลว่า ‘รอเลขสวย’

ขณะที่เหล่าพรรคใหญ่มือไม่เฮง คว้าเลข 2 ตัวล้วน เว้นแต่ ‘ภูมิใจไทย’ ที่ล้วงได้เบอร์ 7
ว่าแล้วมาจ่อไมค์คุยนโยบายของพรรคไม่ใหญ่ แต่ใจสู้ ที่ล้วนมีนโยบายน่าฟัง ล้นเหลือด้วยความหวังเปลี่ยนแปลงประเทศ

กฤดิทัช แสงธนโยธิน หรือ ทนายวุฒิ
หัวหน้าพรรคใหม่ เบอร์ 1
‘ล้างบางคอร์รัปชั่น ทุจริตต้องประหาร ปฏิรูปราชการ’

Advertisement

“ตื่นเต้นมาก เพราะพรรคใหม่ เป็นพรรคการเมืองน้องใหม่ ไม่คาดคิดว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ เป็นการรวมตัวจากกลุ่มชาวบ้านธรรมดาเท่านั้น ถือว่าปาฏิหาริย์ตอนที่จับสลากได้เบอร์ 1 เป็นความรู้สึกของที่สุดของชีวิตเหมือนกัน เพราะพรรคการเมืองขนาดใหญ่ก็ได้หมายเลข 2 หลัก มีเพียงพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ที่ได้เลขหลักเดียว

รู้สึกเหมือนถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 เป็นความโชคดี เหมือนเป็นความหวัง ทำให้พรรคใหม่ รวมทั้งมีแรงและพลังที่จะลงสู่สนามการเลือกตั้งครั้งนี้

สำหรับการเลือกตั้ง 2566 พรรคใหม่ส่งผู้สมัครเพียง 4 เขตเท่านั้นคือ จังหวัดนครนายก เขตเลือกตั้งที่ 1, 2 และจังหวัดกำแพงเพชร เขตเลือกตั้งที่ 3, 4 บัญชีรายชื่อ 10 คน ส่วนนโยบายที่เป็นจุดขายของพรรค อาทิ การล้างบางทุจริต อยากให้ประเทศโปร่งใส ตรวจสอบได้ อยากเห็นการทุจริตต้องประหาร ซึ่งเป็นแนวทางของพรรคที่อยากจะทำส่วนนี้ รวมทั้งการปฏิรูประบบราชการทุกหน่วยงาน เนื่องจากเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ประเทศไทยสามารถพัฒนาต่อไปได้ การยกเลิกเครดิตบูโร และหาวิธีการให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนง่ายขึ้น การสร้างวินัยทางการเงิน รวมทั้งนโยบายการคืนความเป็นธรรมให้สังคม การจำกัดสิทธิการถือครองที่ดินไม่ให้มีมากเกินความจำเป็น สวัสดิการที่อยู่อาศัย การรักษาพยาบาล และกองทุนวัยรุ่นสร้างตัว โดยเฉพาะกลุ่มที่กำลังศึกษาและเรียนจบ ได้มีแหล่งเงินทุนเพื่อใช้ประกอบอาชีพได้ การยกระดับการศึกษา การเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตร ยกระดับ มันสำปะหลังและอ้อย ไปทำเอทานอล เพื่อขายและสร้างรายได้ รวมทั้งพืชอื่นๆ อาทิ ปาล์ม ข้าว ข้าวโพด เป็นต้น

Advertisement

คาดหวังว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะได้ ส.ส.อย่างน้อย 3 คน แม้จะสูงเกินไปแต่ก็คาดหวังเช่นนั้น เพราะเบอร์ 1 จำได้ง่าย แม้จะมีคนมาบอกว่าเบอร์ 1 อาจจะเป็นเบอร์ส้มหล่น เพราะพ่อเฒ่า แม่แก่ เวลาเข้าคูหาแล้วจำไม่ได้ ก็มักกาเบอร์ 1 แต่ในฐานะหัวหน้าพรรค มองว่าไม่ว่าจะเป็นคะแนนส้มหล่นหรืออะไรก็แล้วแต่ พรรคใหม่อยากมีโอกาสเข้าไปทำงานเพื่อเป็นตัวแทนรับใช้พี่น้องประชาชน”

ทั้งนี้ ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศจัดตั้งพรรคการเมืองชื่อ “พรรคใหม่” เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2565 โดยมีชื่อย่อภาษาไทยว่า “ม.” และภาษาอังกฤษว่า NEW PARTY ใช้ภาพกำปั้นขวา สีน้ำเงิน ขาว และแดง เป็นโลโก้

สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ซอยท่ออิฐ ถนนราชพฤกษ์ ปากเกร็ด จ.นนทบุรี มีอุดมการณ์สร้างพรรคการเมืองที่ประชาชนมีส่วนร่วม เป็นเจ้าของพรรคอย่างแท้จริง และมุ่งมั่นปฏิรูปเปลี่ยนแปลงประเทศไปสู่ความยั่งยืนทุกด้าน และน้อมนำเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นหลักชัยในการพัฒนาประเทศ ส่งเสริมให้ประชาชนมีที่ดินทำกินของตนเอง รวมไปถึงรักษาทรัพยากรธรรมชาติและคุณภาพสิ่งแวดล้อมไทย มีนโยบายต่างๆ 17 ข้อด้วยกัน โดยการเลือกตั้ง 2566 นี้

มาพร้อมกับสโลแกน กล้าทำ กล้าพูด กล้าลุย ล้างบางคอร์รัปชั่น ทุจริตต้องประหาร และปฏิรูปราชการ

กรกนก คำตา
ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อพรรคสามัญชน
‘ประชาธิปไตยจากฐานราก สิทธิมนุษยชน เท่าเทียม เป็นธรรม’

“พรรคสามัญชนมาด้วยความพร้อมมาก ส่ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ จำนวน 6 คน ส.ส.แบบแบ่งเขต จำนวน 1 คน โดยนโยบายหลักของพรรคคือ การปฏิรูปกฎหมายเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม และต้องการให้เสรีภาพในการแสดงออกสามารถเกิดขึ้นได้กับประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะการยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 (ม.112)

พื้นฐานของพรรคต้องการประชาธิปไตยทางตรง เป็นประชาธิปไตยจากฐานราก เป็นธรรม เท่าเทียม และยึดหลักสิทธิมนุษยชน

โดยเป็นครั้งแรกที่พรรคจะได้รับการเลือกตั้งจากประชาชนทั่วประเทศ เราไม่มั่นใจว่าจะได้จำนวนคะแนนเท่าไหร่ เพราะครั้งที่แล้วไม่ได้ส่งผู้สมัครครบทุกเขตจึงได้คะแนนน้อย แต่รอบนี้ถ้าทุกคนสามารถเลือกได้จากทั่วประเทศ เราคาดว่าน่าจะมีคนเลือกมากขึ้น โดยหวัง ส.ส.ไว้ทั้ง 6 ที่นั่ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อที่สามัญชนทุกคนเห็นอยู่นี้ เราไม่ได้คัดเลือกจากความร่ำรวย ชื่อเสียง อิทธิพล

ระดับการศึกษา อายุ แต่เราคัดเลือกจากความเข้มข้นของประสบการณ์การต่อสู้เพื่อความเป็นธรรมในมิติต่างๆ

ด้วยทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดเราจึงสามารถส่งนักสู้เพื่อความเป็นธรรมเข้าสภาได้เพียง 6 ที่นั่ง แต่พวกเราจะยังคงสนับสนุนและอำนวยการให้สามัญชนที่อยู่นอกสภา ในทุกพื้นที่ต่อสู้อย่างเข้มแข็งต่อไป

สภาคือพื้นที่ต่อสู้ใหม่ แต่ท้องถนน ทะเล ผืนดิน สายน้ำ จะเป็นพื้นที่ต่อสู้ที่เป็นหนึ่งเดียวกับวิถีชีวิตของสามัญชนเสมอ”

ทั้งนี้ พรรคสามัญชนมีหัวหน้าพรรคคนปัจจุบันคือ น.ส.ชุมาพร แต่งเกลี้ยง หรือวาดดาว

ส่งผู้สมัคร มีรายชื่อดังนี้
รายชื่อ ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง
สุรเดช แก้วกัลยา เขตเลือกตั้งที่ 4 จังหวัดขอนแก่น
รายชื่อ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ
กรกนก คำตา : ทำงานเรื่องสิทธิพลเมืองและสิทธิความเท่าเทียมทางเพศ
สุริยา แสงแก้วฝั้น : ทำงานเรื่องสิทธิพลเมืองและประเด็นผู้พิการ
ภรณ์ทิพย์ สยมชัย : ทำงานต่อสู้เรื่องทรัพยากรและนักต่อสู้ต่อต้านเหมืองทองคำ
อาหามะ ลีเฮ็ง : ทำงานเรื่องสิทธิที่ดินและป่าไม้
มนีนุด อุทัยเรือง : ทำงานต่อสู้เรื่องทรัพยากรและเหมืองแร่หินอุตสาหกรรม
นิติพงศ์ สำราญคง : ทำงานต่อสู้เรื่องสิทธิพลเมือง

มนัส โกศล
หัวหน้าพรรคแรงงานสร้างชาติ เบอร์ 8
‘ตั้งธนาคารแรงงาน ปฏิรูปประกันสังคม
แก้กฎหมายไม่เป็นธรรม’

“เนื่องจากพรรคดูแลฐานรากของประชาชน นโยบายของพรรคจะทำเรื่อง การปฏิรูปประกันสังคมถ้วนหน้า การบรรจุลูกจ้างเหมาภาครัฐเป็นพนักงานราชการ ผู้ประกันตนไม่ต้องรอถึงอายุ 55 ปี สามารถรับเงินบำเหน็จบำนาญได้ นอกจากนี้ ยังมีธนาคารแรงงาน โรงพยาบาลประกันสังคม
เราตั้งพรรคมาเพื่อจะดูแลว่าพี่น้องผู้ใช้แรงงานประมาณ 20 ล้านคน ทั้งในระบบและนอกระบบ สวัสดิการจะต้องดีขึ้น การจ้างงานต้องเป็นธรรม

การจับมือกับพรรคใด ไม่ได้เลือกว่าเป็นฝั่งไหน เพราะเราเป็นพรรคเล็ก แต่เราเป็นพรรคทางเลือก เพราะตอนนี้ความขัดแย้งทางการเมืองสูง

สื่อกระแสหลักก็ออกแต่พรรคใหญ่ๆ แต่พรรคของเราใครก็ตามที่ชวนเข้าร่วมรัฐบาล ถ้ามีการปฏิรูปตามนโยบายของพรรค ก็สามารถร่วมเป็นพรรครัฐบาลได้

พรรคได้ส่ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ จำนวน 11 คน ส.ส.แบบแบ่งเขต จำนวน 4 คน คาดหวังว่าพรรคจะได้คะแนน 2 ล้านเสียง จากพี่น้องผู้ใช้แรงงาน พี่น้องประชาชนที่มีรายได้น้อย

ถ้าพรรคเราเข้าสภา ประเด็นแรกที่จะทำ คือ การแก้กฎหมายที่ไม่เป็นธรรมให้เป็นธรรมมากขึ้น มันต้องสำเร็จ เพราะเราอยู่ในขบวนการแรงงานมา 43 ปี”

ทั้งนี้ พรรคแรงงานสร้างชาติ Nation Building Labour Party (NLP) ชู 3 นโยบายหลัก คือ 1.จัดตั้งธนาคารแรงงาน เพื่อผู้ใช้แรงงานกู้ง่าย ปลอดดอกเบี้ย 5 ปี 2.เงินบำเหน็จบำนาญผู้ประกันตน ต้องเลือกได้ ไม่ต้องรออายุครบ 55 ปี และ 3.จัดตั้งโรงพยาบาลประกันสังคม พรรคแรงงานสร้างชาติ แรงงานไม่ทิ้งกัน

ลลิตา สิริพัชรนันท์
หัวหน้าพรรคถิ่นกาขาวชาววิไล
‘1 เสียงเพื่อพระพุทธศาสนา ผสานคนรุ่นเก่า-ใหม่’

“พรรคได้ส่ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ จำนวน 13 คน หวังได้ที่นั่ง ส.ส.ทั้งหมดจากชาวพุทธกว่า 95% ในประเทศไทย โดยนโยบายหลักของพรรคเป็นเรื่องพระพุทธศาสนาอย่างเดียว เพื่อให้เป็นที่ประจักษ์กับชาวพุทธทั่วประเทศ ให้ศรัทธาในพระพุทธศาสนา

1 คะแนนเสียงของท่านจะเป็นเสียงของพระพุทธศาสนา ให้การทำงานพระพุทธศาสนาเกิดเป็นรูปธรรมมากขึ้น ฉะนั้น 1 เสียงของท่าน ขอให้ท่านช่วยกาพรรคถิ่นกาขาวชาววิไล เพื่อไปขับเคลื่อนงานพระศาสนาให้บังเกิดในประเทศไทย” นางลลิตากล่าว

พรรคได้ชูนโยบายผสมผสานคนรุ่นใหม่และคนรุ่นเก่า ที่มาเป็นรอยต่อในสมัยนี้ คนรุ่นใหม่หันหลังให้วัด ฉะนั้นเราตัองการดึงคนรุ่นใหม่กลับเข้าสู่พระพุทธศาสนาอย่างจริงจัง เพราะการขับเคลื่อนงานใดก็ตามต้องมีกำลังใจที่เกิดจากชาวพุทธ กำลังแรงศรัทธาของพระพุทธศาสนาเป็นที่ตั้ง หวังว่าการขับเคลื่อนครั้งนี้จะเป็นแนวทางให้งานพระศาสนาบรรลุเป้าหมาย และมั่นคงยิ่งขึ้นตลอดไป”

ทั้งนี้ พรรคถิ่นกาขาวชาววิไลใช้ชื่อภาษาอังกฤษว่า Thinkakhao Chaovilai Party จดทะเบียนก่อตั้งเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม พ.ศ.2555 มีที่ทำการพรรคแห่งแรกตั้งอยู่ที่ 41 ซอยลาดพร้าว 134 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ ซึ่งเป็นอดีตที่ทำการพรรคพลังสร้างสรรค์

พันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์
หัวหน้าพรรคเปลี่ยน
‘แก้ปมหวย ทางรอดคนหาเช้ากินค่ำ’

“พรรคเปลี่ยนเป็นพรรคตั้งใหม่ เป็นทางรอดให้คนหาเช้ากินค่ำ ตั้งเป้าไว้ 3 ล้านเสียง โดยฐานเสียงมาจากคนที่เห็นว่าเราแก้ปัญหาได้ ทางพรรคส่ง ส.ส.แบบแบ่งเขต 12 คน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ 11 คน ไม่มีรายชื่อเสนอแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเนื่องจากส่ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อไม่ถึง 25 คน เพราะมีเวลาทำพรรคเพียงแค่ 10 วัน

พรรคเปลี่ยนคือการเปลี่ยนปัญหาเป็นโอกาส จะมาทำเรื่องเศรษฐกิจ เพราะเราเจอมาตลอดชีวิต ไม่มีโอกาสทั้งชีวิต กว่าจะเติบโตมาได้ขนาดนี้ล้มลุกคลุกคลาน ขนาดมีเป็นร้อยล้านก็ยังร่วงลงมาอีกแล้ว คือคนแบบพวกเราไม่เคยมีโอกาสเลย ไม่มีใครมาสู้แทนพวกเราเลย ผมอยากลุกขึ้นมาสู้เพราะผมรู้ปัญหาดี”

ทั้งนี้ พรรคเปลี่ยนแถลงเปิดตัวเมื่อวันที่ 16 มกราคมที่ผ่านมา หลังยื่นจดทะเบียนไปเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2565 และจองชื่อไว้ตั้งแต่วันที่ 24 ธันวาคม 2564 เพื่อเตรียมตัวทำงานการเมือง เลือกชื่อ พรรคเปลี่ยน

กกต.มีมติรับรองพรรคเปลี่ยนเป็นพรรคการเมืองอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2565

เหล่านี้คือส่วนหนึ่งของพรรคทางเลือกขนาดเล็กที่นโยบายไม่เล็ก ภายใต้ความหวังยิ่งใหญ่ในการเลือกตั้ง 2566 ที่กำลังจะมาถึง

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image