| ที่มา | มติชนรายวัน |
|---|---|
| ผู้เขียน | กฤตยา เชื่อมวราศาสตร์ |
| เผยแพร่ |
ในห้วงที่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เป็นสิ่งเดียวที่ฉุดให้เศรษฐกิจไทยเดินหน้าต่อไปได้ ทำให้คนไทยยังยิ้มได้ที่อย่างน้อยของดีในท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็นที่จับต้องได้และจับต้องไม่ได้ สามารถสร้างอาชีพ สร้างมูลค่า สร้างรายได้เข้าประเทศ
ไทย เป็นปลายทางในฝันของนักท่องเที่ยวทั่วโลกมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นกรุงเทพฯ ภูเก็ต เชียงใหม่ ทว่า ด้วยสภาพเศรษฐกิจโลกที่ย่ำแย่ ทั้งสหรัฐอเมริกา ยุโรป หรือแม้กระทั่งรัสเซียที่เคยเฟื่องฟู วันนี้กลับซบเซา มีเพียงจีนเท่านั้นที่ยังยิ่งใหญ่ด้วยการเติบโตของจีดีพีอย่างต่อเนื่อง
นั่นทำให้กลุ่มนักท่องเที่ยวจีน เป็นความหวังของตลาดท่องเที่ยวทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยด้วย เพราะไปที่หนักก็เปย์หนัก จ่ายไม่อั้น
5 กลุ่มจังหวัดภาคเหนือซึ่งเป็นปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวจีน คือ เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง และ พะเยา จึงจับมือกันส่งเสริมการท่องเที่ยวตลาดเชิงรุกกลุ่มล้านนา ตามแผนปฏิบัติการพัฒนาการท่องเที่ยวในเขตอารยธรรมล้านนา พ.ศ.2559-2563
ตอกย้ำวิถีชุมชนปลอดภัย ใส่ใจนักท่องเที่ยว
สุธน วิชัยรัตน์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงใหม่ เกริ่นว่า คณะรัฐมนตรีมีโนบายเกี่ยวกับการท่องเที่ยวคือ ต้องเพิ่มศักยภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ ในการส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยและสร้างสิ่งจูงใจและสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกื้อกูลต่อบรรยากาศการท่องเที่ยว ส่งเสริมการท่องเที่ยวที่ควบคุมแหล่งท่องเที่ยวอันมีลักษณะโดดเด่นร่วมกัน หรือจัดเป็นกลุ่มที่จะเชื่อมโยงจากผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาจากวิถีชุมชน รวมทั้งพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวในประเทศ ทั้งที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวเดิมแหละแหล่งท่องเที่ยวใหม่ โดยเน้นการให้ความรู้ การเพิ่มมาตรฐานความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ควบคุมสินค้าและบริการให้มีคุณภาพ ราคาเป็นธรรม ตลอดจนอำนวยความสะดวกในด้านต่างๆ แก่นักท่องเที่ยว
“เขตพัฒนาการท่องเที่ยวอารยธรรมล้านนา ประกอบด้วยเชียงใหม่ เชียงราย พะเยา ลำพูน และลำปาง เป็นจังหวัดที่มีศักยภาพในการท่องเที่ยว ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ ศาสนา ศิลปวัฒนธรรม ตลอดจนสินค้าโอท็อปต่างๆ เช่น เครื่องปั้นดินเผา ไม้ดอก ไม้ประดับ ไม้ผล โดยมีกลยุทธ์ที่จะส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยว พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวให้มีการบริการที่ปลอดภัย ได้มาตรฐาน”
“ทั้ง 5 จังหวัดถือว่าเป็นพื้นที่ที่มีความสัมพันธ์กัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งอารยธรรมล้านนา เรามีความผูกพันกัน เป็นพื้นที่ที่มีต้นทุนทางธรรมชาติ ต้นทุนทางแหล่งท่องเที่ยวที่มีความสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติซึ่งสำคัญและหลากหลาย โดยเฉพาอย่างยิ่งในช่วงฤดูหนาว เป็นเสน่ห์อย่างยิ่งที่จะดึงนักท่องเที่ยวมาที่เชียงใหม่ พร้อมกับเชื่อมไปยังกลุ่มอารยธรรมล้านนา” สุธนย้ำ
จากสถิติของกรมการท่องเที่ยว พบว่าในปี 2558 มีนักท่องเที่ยวมาเยือนเชียงใหม่เกือบ 10 ล้านคน สร้างรายได้กว่า 8 หมื่นล้านบาท, เชียงรายมีนักท่องเที่ยวกว่า 3 ล้านคน สร้างรายได้กว่า 2 หมื่นล้านบาท, ลำพูนมีนักท่องเที่ยวราว 1 ล้านคน สร้างรายได้ 1.3 พันล้านบาท, ลำปางมีนักท่องเที่ยวราว 8 แสนคน สร้างรายได้ 2 พันล้านบาท ส่วนพะเยามีนักท่องเที่ยวประมาณ 5 แสนคน สร้างรายได้กว่า 1 พันล้านบาท
“เชียงใหม่เป็นศูนย์กลางการคมนาคม ศูนย์กลางที่จะพานักท่องเที่ยวเดินทางมาจังหวัดเชียงใหม่ได้สะดวก โดยเฉพาะสายการบินสามารถเชื่อมโยง 13 ท่าอากาศยานในประเทศ และบินตรง 19 ท่าอากาศยาน โดยเฉพาะจีนมีถึง 9 ท่าอากาศยานที่เชื่อมโยงมาที่เชียงใหม่ จึงถือเป็นศูนย์กลางที่จะเชื่อมโยงไปจังหวัดต่างๆ ที่อยู่ใกล้กัน” สุธนทิ้งท้าย
“เชียงราย”ถ้าคุณรักกาแฟ เราคือจุดขาย
ด้าน ปราณปริยา พลเยี่ยม ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงราย เริ่มว่า จุดเด่นของเชียงรายคือ “เหนือสุดในสยาม ชายแดนสามแผ่นดิน ถิ่นวัฒนธรรมล้านนา ล้ำค่าพระธาตุดอยตุง” ติดกับเมียนมาที่ท่าขี้เหล็ก ติดกับ สปป.ลาวที่แขวงบ่อแก้ว สามารถล่องน้ำโขงเพื่อเดินทางไปสิบสองปันนา
“เชียงรายยังเป็นที่รู้จักจากการเป็นที่ตั้งของโครงการพระราชดำริ ซึ่งในหลวงรัชกาลที่ 9 สมเด็จย่าและพระบรมวงศานุวงศ์เสด็จมาเชียงรายและสร้างโครงการพระราชดำริไว้จำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นดอยตุง เกษตรที่ราบสูงต่างๆ ปีนี้เราประกาศวาระของจังหวัด เรื่องอาหารปลอดภัย และเชื่อมไปยังการท่องเที่ยวชุมชนวิถีชากาแฟ เป็นตัวชูโรงของเราปี 2560” ปราณปริยากล่าว
“ลำพูน-ลำปาง”ต่อยอด เมืองต้องห้ามพลาด นครแห่งความสุข
“พระธาตุเด่น พระรอดขลัง ลำไยดัง กระเทียมดี ประเพณีงาม จามเทวี ศรีหริภุญชัย” คำขวัญจังหวัดลำพูนที่ ธณัท ปภพธนานนท์ ผู้แทนท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดลำพูน ใช้อธิบายให้เห็นภาพของดีเมืองหริภุญชัย
“ลำพูนมีประวัติยาวนานถึง 1,400 ปี ได้ชื่อว่าเป็นเมืองปฐมอารยนครแห่งล้านนา ซึ่งแน่นอน เมื่อมีประวัติยาวนาน ก็มีเรื่องของวัฒนธรรมประเพณีที่ส่งต่อกันจากรุ่นสู่รุ่น รวมถึงมีเรื่องของธรรมชาติ ระบบนิเวศที่ยังอุดมสมบูรณ์ เช่น อุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล และอุทยานแห่งชาติแม่ปิง และสินค้าอุปโภคบริโภค มีไม้แกะสลักที่ยิ่งใหญ่ที่สุด และลำไยที่อร่อยมาก รวมถึงกระเทียม เป็นจุดเด่นของลำพูน”
ยุทธศาสตร์ของเมืองที่วางไว้ คือ เมืองจุดหมายปลายทางแห่งการท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์วัฒนธรรม (Cultural experience destination) เที่ยวลำพูนแล้วได้รับประสบการณ์เชิงวัฒนธรรม ซึ่งเป็นจุดเด่นของจังหวัดลำพูน
“เมื่อปีที่ผ่านมา ททท.ได้จัดแคมเปญ 12 เมืองต้องห้าม พลัส ลำปาง ลำพูน โดยของดีต้องห้าม 12 อย่างคือ 1.ไหว้วัดพระธาตุหริภุญชัย 2.ดินแดนลำไยกรอบหวาน 3.โบราณสถานกู่ช้างกู่ม้า 4.ถิ่นครูบาศรีวิชัย 5.แหล่งทอผ้าไหมทุ่งหัวช้าง 6.เมืองจามเทวี 7.สัมผัสวิถีชุมชน 8.ยลสะพานขาวทาชมภู 9.ธรรมชาติสวยหรูแม่ปิง 10.แหล่งช้อปปิ้งกาดขัวมุง ถนนวัฒนธรรม 11.งามเลิศล้ำพระพุทธบาทตากผ้า 12.อาหารพื้นเมืองเลอค่า รถรางล้านนาพาชมเมือง” ธณัททิ้งท้าย เล่นเอาคนฟังอยากพุ่งตัวไปลำพูนเดี๋ยวนั้นเลย
บ้านพี่เมืองน้องของลำพูนอย่างเขลางค์นคร หรือนครลำปาง ก็เป็นหนึ่งในเมืองต้องห้ามพลัส
สวัสดิ์ มูลภาที ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดลำปาง บอกว่า ลำปางเป็น 1 ใน 12 เมืองต้องห้ามพลาด เป็นนครแห่งความสุข เพราะคนลำปางเรา เป็นน้องของเมืองลำพูน ลำปาง 1338 ปี เป็นบ้านพี่เมืองน้อง โดยสถิติของลำปาง คดีฉกชิงวิ่งราวมีน้อย ฉะนั้น นักท่องเที่ยวที่เข้ามาจะปลอดภัยและมีความสุข
“แหล่งท่องเที่ยวในลำปางนั้นมีจำนวนมากทั้งทางธรรมชาติและทางวัฒนธรรม ออกจากลำพูนก็มาเจอกับศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย จากนั้นจะพบพระธาตุลำปางหลวง ฝั่ง อ.แม่ทะ จะเป็นบ้านหลุบ ซึ่งมีฝีมือในการแกะสลักไม้ดีที่สุดในประเทศไทย เข้าไปทางเหมือนแม่เมาะ ถ้าจะขึ้นไปเชียงราย พะเยา ต้องไปดูถ้ำประตูผา มีน้ำตกรายทางมากมาย ทาง อ.แจ้ห่ม มีวัดเฉลิมพระเกียรติพระจอมเกล้าราชานุสรณ์ (วัดพระบาทปู่ผาแดง) ซึ่งโด่งดัง แล้วก็ลงมาที่น้ำตกแจ้ซ้อน ซึ่งมีน้ำพุร้อน”
“ส่วนแผนพัฒนาจังหวัด ผู้ว่าราชการจังหวัดได้มองเห็นพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวปัจจุบัน คิดว่าต้องพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวให้เป็นแบบอินดี้ มาแล้วมีที่ถ่ายภาพ แต่เรื่องราวทางวัฒนธรรมเราก็ไม่ทิ้ง เราจะทำอย่างไรให้ดึงนักท่องเที่ยวมาถ่ายภาพแล้วติดตลาด ทำให้สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดลำปาง มีแผนการพัฒนาท่องเที่ยวชุมชน เพราะเราต้องทำทุกขั้นตอนให้ชุมชนอยู่ได้ด้วยตัวเอง เราออกมาแล้วเขาอยู่ได้ มีรายได้ ที่จะนำเสนอแหล่งท่องเที่ยว”
สวัสดิ์ทิ้งท้ายว่า โดยเฉพาะชุมชนบ้านปงถ้ำ-ปงทอง มีสิ่งมหัศจรรย์หลายอย่าง หรือจะเป็นพุทธอุทยาน 29 ปาง สร้างภายใน 30 วันโดยไม่ใช้เงินราชการแม้แต่บาทเดียว มีพระพุทธรูปแกะสลักติดหน้าผา และถ้าขึ้นไปบนดอยหนอก จะเห็น 4 จังหวัด เชียงราย ลำปาง และพะเยา สามารถขึ้นได้ทั้งทางพะเยาและลำปาง จึงตั้งใจจัดกิจกรรมร่วมกันบนยอดเขา
“พะเยา” เที่ยวทางน้ำผ่านเมืองโบราณ
ด้านจังหวัดเล็กซึ่งเป็นที่ตั้งของทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในภาคเหนือ ที่มี วีระวุฒิ ต๊ะปินตา เป็นท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดพะเยา ก็มียุทธศาสตร์ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน
วีระวุฒิ เกริ่นว่า พะเยาเป็นจังหวัดเล็กๆ ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยว 5 แสนกว่าคน แต่สามารถทำรายได้ให้จังหวัด 1,100 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นโอกาส โดยยุทธศาสตร์ของจังหวัดมองในเรื่องของการเกษตรปลอดภัย ในส่วนของอารยธรรม พะเยามีความสัมพันธ์กับจังหวัดใกล้เคียงอย่างเชียงราย ยุคหนึ่งสมัยหนึ่งมีการยกทัพไปช่วยเชียงราย ก็มีเรื่องราวสร้างบ้านแปงเมือง มีอารยธรรมที่ยังมองเห็นในปัจจุบัน ยังสามารถไปค้นและเยี่ยมชมได้ เช่น โบราณสถานเวียงลอ ตรงนั้นมีโครงกระดูก เครื่องปั้นดินเผา นอกจากนี้ ยังสามารถส่งเสริมเป็นการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรร โดยส่งเสริมการท่องเที่ยวทางน้ำที่ผ่านเมืองโบราณ
“โบราณสถานเวียงลอเป็นเมืองที่ใหญ่มาก เป็นเมืองหน้าด่าน ในส่วนของโครงการที่ได้นำเสนอเพื่อรับจัดสรรงบประมาณของเขตอารยธรรมล้านนา คือโครงการพัฒนาอุทยานพุทธศิลป์ที่วัดห้วยผาเกี๋ยง ตรงนี้มีทำเลที่ตั้งอยู่บริเวณเทือกเขาผายาว ซึ่งเป็นที่มาของชื่อจังหวัดพะเยา คือหน้าผาเยา วัดผาเกี๋ยงก็มีไฮไลต์ที่นักท่องเที่ยนิยมไปดู คือพระพุทธรูปแกะสลักบนหินทรายซึ่งมีการแกะสลักบนหน้าผา เรียงไปเป็นแนว มีความสวยงามแปลกตา”
วีระวุฒิ กล่าวถึงการพัฒนาการท่องเที่ยวของพะเยา ว่าอย่างน้อยในอนาคต ทุกท่านจะได้สัมผัสประสบการณ์การท่องเที่ยวพะเยาอย่างน้อย 4 ส่วนด้วยกัน คือ 1.อ.ภูซาง อ.เชียงคำ จะเป็นเมืองท่องเที่ยวชายแดน โดยปีหน้าพะเยาจะเปิดด่านถาวรบ้านฮวก ซึ่งใกล้ที่สุดเมื่อเชื่อมกับหลวงพระบาง นักท่องเที่ยวสามารถกินข้าวเช้าที่ภูซาง อาหารกลางวันที่หลวงพระบางได้ ขณะนี้เส้นทางพัฒนาไปมาก สามารถลงเรือได้ที่ปากคอก ซึ่งเป็นเส้นทางเรือที่มาจากเชียงของ สามารถไปหลวงพระบางได้ทางเรือ 2.พะเยายังเป็นจังหวัดตรงกลางเป็นเส้นทางท่องเที่ยวเชิงผจญภัย มีการล่องแก่ง ตามรอยไดโนเสาร์ ศิลปวัฒนธรรมไทลื้อ และโบราณสถานเวียงลอ เส้นทางเดียวสามารถเที่ยวได้ 4 อำเภอ
3.ขยับเข้ามาตรงกลางใกล้เมือง จะมี อ.แม่ใจ อ.ภูกามยาว มีเส้นทางที่เราวางตำแหน่งทางการตลาดให้เป็นเมืองท่องเที่ยวเชิงเกษตร เพราะมีหุบเขาลิ้นจี่ ที่สามารถขึ้นไปเที่ยวชมวิถีชีวิตชุมชนม้ง มีกาแฟสด สามารถส่งเสริมเป็นการท่องเที่ยวเชิงเกษตร ไปชมสวน กินลิ้นจี่สดๆ พักโฮมสเตย์ และ 4.ในเมือง คือกว๊านพะเยา ยังคงเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ นักท่องเที่ยวเดินทางไปเที่ยวกว๊านมากที่สุด เราสามารถพัฒนาสินค้าและบริการได้อีกมากมาย ในเชิงสุขภาพนั้นสามารถปั่นจักรยานรอบกว๊าน รอบๆ ก็มีชุมชนหลายกว๊าน ที่ยังคงวิถีชีวิตประมงพื้นบ้านและอื่นๆ
“คิดว่าพะเยายังมีอะไรที่รอให้ทุกท่านได้ค้นหาต่อไป” วีระวุฒิทิ้งท้าย
พื้นที่ 5 จังหวัดภาคเหนือ เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง และ พะเยา ยังเป็นหลายทางที่น่าเทใจให้เสมอ โดยเฉพาะช่วงฤดูหนาวเช่นนี้
