กทม.ปังมาก เปิดลิงก์‘เฝ้าหีบ’ 24 ชม. ยืมมือ ‘เอไอ’ รวมคะแนนเลือกตั้ง

กทม.ปังมาก เปิดลิงก์‘เฝ้าหีบ’ 24 ชม. ยืมมือ ‘เอไอ’ รวมคะแนนเลือกตั้ง

กลายเป็นหน่วยราชการที่ประชาชนไทยปรบมือให้รัวๆ สำหรับ ‘กรุงเทพมหานคร’ กับการเตรียมความพร้อมการเลือกตั้ง 2566 ที่กำลังจะมาถึง ไม่ใช่เพียงด้านการเด้งรับ หากแต่ยังพร้อมปรับตัวพัฒนาตามโลกเทคโนโลยี ทั้งยังดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมว่างานนี้เข้มจริงในความโปร่งใส อยากแม้กระทั่ง ‘ติดไฟหวอ’ หีบบัตรเลือกตั้งที่เฝ้าระวังยิ่งกว่าไข่ในหินด้วยกล้องวงจรปิด และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยผลัดเวรยาม

ยังไม่นับการรณรงค์ให้ประชาชนไปใช้สิทธิเลือกตั้งที่ระดับผู้บริหารโดยเฉพาะรองปลัด กทม. อย่าง เฉลิมพล โชตินุชิต ลงทุนควงคทาบนรถแห่เปิดประทุนมาแล้ว

ADVERTISMENT

7 พฤษภาคมที่ผ่านมา วันเลือกตั้งล่วงหน้า ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการ กทม. พร้อมคณะผู้บริหาร เดินสายตรวจจุดเลือกตั้งตลอดทั้งวัน สั่งรถน้ำฉีดพ่นคลายร้อน หลังประชาชนและเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยหลายรายเป็นลมล้มพับเซ่นอุณหภูมิสูงปรี๊ด

ติดกล้องครบ 33 เขต ตั้งระบบจับเคลื่อนไหว 24 ชม.

ADVERTISMENT

ผิดปกติเมื่อไหร่ ไลน์เด้งทันที!

ย้อนไปเมื่อ 3 พฤษภาคม ชัชชาติ ควง 2 รองผู้ว่าฯ วิศณุ ทรัพย์สมพล และศานนท์ หวังสร้างบุญ ตรวจเยี่ยมการเชื่อมระบบ CCTV ห้องเก็บรักษาหีบบัตรเลือกตั้งล่วงหน้า ณ ศูนย์กล้องโทรทัศน์วงจรปิด ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) โดยเผยถึงความคืบหน้าการติดตั้งกล้องที่ห้องเก็บรักษาหีบบัตรเลือกตั้งล่วงหน้า ขณะนี้ได้ติดตั้งครบทั้ง 33 เขตเลือกตั้งแล้ว โดยติดตั้งเขตละ
2 กล้อง อยู่ระหว่างการเชื่อมระบบมาที่ศูนย์ฯ โดยเผยแพร่ลิงก์เว็บไซต์ https://general-election.bangkokcc.com/ ให้ประชาชนทราบโดยทั่วกันแล้ว หลัง กกต.ไฟเขียว

ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีการตั้งระบบตรวจจับความเคลื่อนไหว (Motion Detect) ตลอด 24 ชั่วโมง หากมีการเคลื่อนไหวระบบจะแจ้งเตือนอัตโนมัติมายังเจ้าหน้าที่ทันทีผ่านไลน์ และจะบันทึกประวัติการเคลื่อนไหวไว้ ทั้งภาพ วัน และเวลาที่ตรวจจับความเคลื่อนไหวได้ ซึ่งจะทำให้เจ้าหน้าที่สามารถไล่ดูรายงานได้อย่างรวดเร็ว ไม่ต้องย้อนดูกล้องตั้งแต่ต้น อีกทั้งยังเป็นการสร้างความมั่นใจว่าตั้งแต่เริ่มเก็บรักษาหีบบัตรเลือกตั้งล่วงหน้าจนกระทั่งถึงวันที่นำหีบบัตรดังกล่าวออกไปนับคะแนนจะไม่มีใครมายุ่งอย่างเด็ดขาด ทั้งนี้ จากการทดสอบระบบตรวจจับความเคลื่อนไหว ปัจจุบันยังพบบั๊ก (Bug) หรือจุดบกพร่องของระบบอยู่เล็กน้อย นั่นคือ ตรวจจับความเคลื่อนไหวนอกห้องเก็บรักษาหีบ ซึ่งจะให้เจ้าหน้าที่เร่งแก้ไขบั๊กให้เรียบร้อยโดยเร็ว

“ขอขอบคุณ กกต.ที่มีมาตรการหลายๆ อย่างเพื่อความโปร่งใส ซึ่งทาง กกต.ต้องดูแลหลายหน่วยเลือกตั้ง กทม.จึงช่วยในสิ่งที่สามารถทำได้ และเทคโนโลยีคือหัวใจของการทำงาน การที่ กทม.นำกล้อง CCTV มาช่วยนั้นไม่ได้ใช้เงินเพิ่มเติม เนื่องจากเป็นการนำกล้อง Standby จากสำนักการจราจรและขนส่ง กทม.มาใช้ ส่วนโปรแกรมก็ได้ประสานขอให้คนช่วยเขียนให้ เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพโดยไม่ต้องใช้เงินลงทุน

สำหรับวันเลือกตั้ง ทาง กกต.อนุญาตให้ถ่ายภาพใบรายงานผลการนับคะแนน (5/18) ได้ เพื่อเป็นการป้องกันกรณีผลเลือกตั้งช้า กทม.จึงได้ประสานกับอาสาสมัครสตาร์ตอัพ นำเทคโนโลยี OCR หรือ Optical Character Recognition เปลี่ยนข้อความที่อยู่ในรูปภาพให้อยู่ในรูปแบบของข้อความ เพื่อช่วยให้การนับคะแนนเร็วขึ้น โดยหลังจากอัพโหลดภาพ ระบบจะขึ้นคะแนนทันที โดยจะมีการแสดงระดับความเชื่อมั่น (Confidence Level) ไว้ด้วย หากลายมือในภาพอ่านยาก ระดับความเชื่อมั่นจะน้อยลง ทำให้เจ้าหน้าที่จะต้องตรวจสอบเฉพาะจุดซ้ำอีกครั้งเพื่อความถูกต้องแม่นยำ ทั้งนี้ การนำเทคโนโลยีมาใช้เป็นการช่วยเพิ่มความรวดเร็วและโปร่งใส ซึ่งจะเป็นผลดีกับทุกคน รวมถึงเป็นการสร้างความเชื่อมั่นในระบอบประชาธิปไตยอีกด้วย” ชัชชาติกล่าว พร้อมยืนยันว่า มีความพร้อมเพราะได้มีการอบรมซักซ้อมการปฏิบัติงานแล้ว นอกจากนี้ เนื่องจากช่วงเลือกตั้งอาจจะมีพายุเข้า จึงได้สั่งการให้สำนักงานเขตและสำนักการระบายน้ำเตรียมความพร้อมในกรณีฝนตกน้ำท่วม

“การเลือกตั้ง ส.ส.ในครั้งนี้ คาดว่าจะมีคนออกมาใช้เสียงมากถึง 80% ขอเชิญชวนทุกคนออกมาแสดงพลังใช้สิทธิเลือกตั้ง เพราะในระบอบประชาธิปไตย วันเลือกตั้งนั้นสำคัญที่สุด เนื่องจากเป็นวันที่เรามีตัวตนและทุกเสียงของเรามีความหมายในการกำหนดว่าบ้านเมืองเราจะไปใน
ทิศทางไหน” ผู้ว่าฯกทม.ระบุ

‘เอไอ’ ช่วยนับผลรวมคะแนน

สแกน ‘ลายมือ’ สู่ตัวเลข 5 นาทีรู้เรื่อง!

อีกหนึ่งเทคโนโลยีที่ได้รับความสนใจมากจากประชาชนคือ การใช้ปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ ช่วยรวมผลคะแนน ซึ่งชัชชาติเผยว่า ในวันเลือกตั้งเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยจะมีการถ่ายภาพรายงานผลคะแนนส่งเข้าระบบของ กทม. เพื่อให้ระบบเอไอเปลี่ยนจากลายมือเขียนเป็นตัวเลข โดยจะช่วยการนับผลคะแนนรวม สามารถรู้ผลการเลือกตั้งทั้งพื้นที่กรุงเทพฯได้ 5 นาที หลังจากที่ถ่ายภาพส่งเข้าส่วนกลางมาแล้ว จากปกติที่ต้องรวบรวมคะแนนผ่านโปรแกรม Microsoft Excel ซึ่งใช้เวลาร่วมชั่วโมง อย่างไรก็ตาม ผลคะแนนอย่างเป็นทางการ ทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะเป็นผู้ประกาศ

นอกจากนี้ กทม.เตรียมหาแนวทางในการรายงานผู้ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งในแต่ละช่วงเวลา โดยนับจากต้นขั้วบัตรเลือกตั้ง เพื่อจะได้รู้ว่าแต่ละช่วงเวลา มีผู้ออกมาเลือกตั้งมากน้อยเท่าใด หรือช่วยจับผิดหน่วยเลือกตั้งที่มีคนออกมาใช้สิทธิมากกว่าผิดปกติ ซึ่งกระบวนการดังกล่าวอยู่ระหว่างการขออนุญาตจาก กกต.

“กทม.ได้ดำเนินการส่งจดหมายแจ้งผู้มีสิทธิเลือกตั้งตามทะเบียนบ้านครบเรียบร้อยแล้ว มีการประชุมซักซ้อมทำความเข้าใจของเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้ง จำนวน 60,000 คน เมื่อวันที่ 29-30 เมษายนที่ผ่านมา ซึ่งประธานหน่วยเลือกตั้งส่วนใหญ่เป็นครู โดยมีความกังวลว่าบางคนอาจจะไม่เคยทำงานเลือกตั้งมาก่อน จึงได้ให้ ผอ.เขตช่วยกำชับเรื่องกฎระเบียบต่างๆ ส่วนคูหาเลือกตั้งให้มีการอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้วีลแชร์ ต่อมาให้เจ้าหน้าที่ช่วยอำนวยความสะดวกกับประชาชนที่อาจจะเกิดความสับสน เพราะมีหลายหน่วยเลือกตั้งอยู่ในพื้นที่เดียวกัน” ชัชชาติอธิบาย

ซ้อมเข้มตั้งแต่รับหีบ ให้ความสำคัญ ‘ทุกขั้นตอน’

จากภาพรวม มาโฟกัสยังเขตพื้นที่ ล่าสุด แพทย์หญิงวันทนีย์ วัฒนะ รองปลัดกรุงเทพมหานคร ตรวจเยี่ยมการอบรมเจ้าพนักงานผู้ดำเนินการเลือกตั้งประจำหน่วยเลือกตั้งในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป เขตเลือกตั้งที่ 10 เขตดอนเมือง ณ โรงแรมอมารี ดอนเมือง แอร์พอร์ต กรุงเทพฯ ในการอบรมได้มีวิทยากร ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการเลือกตั้ง มาร่วมถ่ายทอดขั้นตอนการปฏิบัติงาน การดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนด และปัญหาที่คาดว่าจะเกิดขึ้น เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมมีความรู้ ความเข้าใจ และสามารถปฏิบัติงานได้ด้วยความเรียบร้อย โปร่งใส

แพทย์หญิงวันทนีย์เน้นย้ำว่า ทุกขั้นตอนมีความสำคัญ โดยเฉพาะกรรมการประจำหน่วยที่จะทำให้ทุกกระบวนการเป็นไปด้วยความโปร่งใส และอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้สังเกตการณ์ของแต่ละพรรคการเมืองได้อย่างราบรื่น ซึ่งในพื้นที่เขตเลือกตั้งดอนเมืองมี 3 พรรคการเมืองที่ได้แจ้งขอส่งผู้สังเกตการณ์ประจำหน่วยเลือกตั้งเพื่อติดตามในช่วงที่สำคัญคือการตรวจนับคะแนน การวินิจฉัยบัตรซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องมีความชัดเจน แม่นยำ

“การจัดการเลือกตั้งของเขตเลือกตั้งที่ 10 เขตดอนเมือง ในด้านความพร้อมของบุคลากร พบว่าประธานกรรมการประจำหน่วย (กปน.) ส่วนใหญ่จะเป็นข้าราชการครูกรุงเทพมหานคร และได้ตรวจความพร้อมของเจ้าหน้าที่ในส่วนการรักษาความปลอดภัยเพิ่มเติม ซึ่งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เมื่อคนพร้อมก็เป็นขั้นตอนของการอบรมชี้แจงขั้นตอนการปฏิบัติงาน การเตรียมวัสดุอุปกรณ์แต่ละหน่วย การซักซ้อมตั้งแต่การรับหีบจนถึงการส่งหีบเลือกตั้ง ซึ่งได้เน้นย้ำว่าทุกขั้นตอนมีความสำคัญ โดยเฉพาะกรรมการประจำหน่วยงานที่จะนำพาทุกกระบวนการเป็นไปด้วยความโปร่งใส และอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้สังเกตการณ์ของแต่ละพรรคการเมือง ซึ่งในพื้นที่เขตเลือกตั้งมี 3 พรรคการเมืองที่ได้แจ้งขอส่งผู้สังเกตการณ์ประจำหน่วยเลือกตั้ง เพื่อติดตามในช่วงที่สำคัญคือการตรวจนับคะแนน การวินิจฉัยบัตร ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องมีความชัดเจน แม่นยำ โดยนอกจากผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครจะเน้นย้ำให้ข้าราชการวางตัวเป็นกลางแล้ว ยังอยากเห็นการเลือกตั้งมีมาตรฐานมากพอที่จะทำให้ประชาชนเกิดความศรัทธาในระบอบประชาธิปไตย ดังนั้นในการเลือกตั้งครั้งนี้ กระบวนการเก็บรักษาบัตรเลือกตั้งจะมีการควบคุมโดยส่วนกลางเพื่อให้มีความมั่นใจว่าจะไม่มีใครยุ่งเกี่ยวกับบัตรจนถึงวันเลือกตั้ง รวมถึงกระบวนการนับคะแนนจะใช้ระบบ AI ช่วยในการประมวลผล”

ส่วนการเตรียมกรรมการสำรองก็เป็นเรื่องที่สำคัญเช่นเดียวกัน ในกรณีที่มีกรรมการประจำหน่วยติดเชื้อโควิด-19 ขอให้รีบแจ้งเพื่อให้จัดกรรมการสำรองเข้ามาปฏิบัติงานได้ทัน ถึงแม้โควิดตัวใหม่จะไม่ได้มีอาการมากนักแต่ยังคงต้องกักตัวเองอย่างน้อย 5 วัน และรักษาตามอาการ หากรู้ตัวว่าติดเชื้อต้องไม่เสี่ยงที่จะออกไปแพร่เชื้อให้ผู้อื่น และต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา” แพทย์หญิงวันทนีย์กล่าว

นับถอยหลัง 5 วัน เคาต์ดาวน์สู่บทใหม่ประเทศไทย ที่กรุงเทพมหานครจัดเต็มไม่ยั้ง พร้อมรับพลังมวลมหาประชาชนคนรักประชาธิปไตยเข้าคูหาเลือกคนที่รัก พรรคที่ใช่ 14 พฤษภาคมนี้

ศศวัชร์ คมนียวนิช

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image