ที่มา | คอลัมน์สุวรรณภูมิในอาเซียน มติชนรายวัน |
---|---|
ผู้เขียน | เสถียร ดวงจันทร์ทิพย์ |
เผยแพร่ |
ในการพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง มีประโคมย่ำยามวันละ 6 ครั้ง (6 ยาม) เป็นประจำต่อเนื่องตลอดทุกวัน โดยวงประโคมของสำนักพระราชวัง
ร่วมกับวงปี่พาทย์พิธีและวงปี่พาทย์นางหงส์เครื่องใหญ่ กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม
จัดวงบรรเลงและประโคมสลับหมุนเวียน 5 วง ในความดูแลของหัวหน้าวง 5 คน มีประวัติย่อ ดังต่อไปนี้
นายเอนก อาจมังกร (อายุ 57 ปี)
ศิษย์เก่าวิทยาลัยนาฏศิลปกรุงเทพฯ
เกิดในครอบครัวเป็นทั้งเกษตรกรและมีวงปี่พาทย์สืบทอดมาตั้งแต่รุ่นปู่ ต.จระเข้ร้อง อ.ไชโย จ.อ่างทอง
ฝีมือดีทั้งฆ้องวงใหญ่และตะโพนไทย แต่งคำประพันธ์และทำนองเพลงใหม่ใช้ในโอกาสต่างๆ
นายไชยยะ ทางมีศรี (อายุ 66 ปี)
ได้รับยกย่องเป็นคลังเพลงโบราณที่ไม่เพียงแม่นยำชำนาญฆ้องวงใหญ่ แม้ในเชิงกลอนระนาดก็งดงาม
ชาวบางช้าง อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม พ่อคือครูแย่ง ทางมีศรี เจ้าของวงปี่พาทย์ (ศิษย์ครูกล้อย ณ บางช้าง และสำนักนิลวงศ์ ซึ่งเป็นมหาดเล็กเรือนนอก ในสมเด็จวังบูรพาฯ และสมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระนครสวรรค์วรพินิต)
หลังร่วมงานกับครูบุญยงค์ เกตุคง (ศิลปินแห่งชาติ ถึงแก่กรรม) ที่วงดนตรีไทยเทศบาลกรุงเทพฯ ก็ย้ายมาอยู่ที่กรมศิลปากร
นายสุริยะ ชิตท้วม (อายุ 51 ปี)
เริ่มเรียนดนตรีปี่พาทย์จากพ่อ แล้วศึกษาต่อวิชาโขนและเครื่องสายที่วิทยาลัยนาฏศิลปกรุงเทพฯ จบแล้วประจำที่กองดุริยางค์ทหารบก จากนั้นโอนย้ายมาอยู่กรมศิลปากร
เกิดในตระกูลนักดนตรีเก่า อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ
พ่อคือครูลับ ชิตท้วม เจ้าของคณะปี่พาทย์มีชื่อ เป็นหลานปู่ครูจางวางสวนมหาดเล็กปี่พาทย์วังพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงบดินทรไพศาลโสภณ ซึ่งตั้งคณะปี่พาทย์สำนักใหญ่ใน อ.สำโรง จ.สมุทรปราการ
นายจำลอง ม่วงท้วม (อายุ 58 ปี)
มีฝีมือบรรเลงฆ้องวงใหญ่ในเพลงปี่พาทย์ประชันและชั้นเชิงระนาดลิเกเข้มแข็งแกร่งกล้า
ชาวปากน้ำ สืบทอดวิชาดนตรีไทยจากครูคนแรกคือกำนันสุดจิษ เพ็ญสมบูรณ์ (บ้านปี่พาทย์กลุ่มเก่าแก่ใน อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นหลานปู่ครูเม้าที่เคยสังกัดวังเจ้านายสมัย ร.5)
เข้ากรุงเทพฯ เรียนรู้กับครูสุพจน์ โตสง่า และ จ.ส.อ.สมชาย ดุริยประณีต ฯลฯ
นายบุญสร้าง เรืองนนท์ (อายุ 56 ปี)
ศิษย์เก่าวิทยาลัยนาฏศิลปกรุงเทพฯ เมื่อเรียนจบแล้วก็บรรจุเข้ารับราชการที่สำนักการสังคีต กรมศิลปากร
ชาวกรุงเทพฯ พ่อเป็นศิลปินแห่งชาติ ชื่อครูทองใบ เรืองนนท์ (เป็นลูกครูพูน เรืองนนท์ เจ้าของคณะละครชาตรีย่านหลานหลวง สืบเชื้อสายละครชาตรีจากภาคใต้สมัย ร.3)
เรียนรู้จากครูปี่พาทย์เก่งๆ หลายสำนัก ผ่านงานประชันอย่างโชกโชน ได้ชื่อว่าเป็นนักระนาดเอกที่แกร่งกล้าสามารถฉลาดครบเครื่องคนหนึ่ง
นายไพรัตน์ จรรย์นาฏย์ (อายุ 56 ปี)
ฝีมือทางดนตรีมีเชิงระนาดทุ้มยอดเยี่ยมอย่างยิ่ง
ชาวบางปะหัน อยุธยา เกิดในครอบครัวดนตรีไทยที่พ่อคือครูไพฑูรย์ (เคยเป็นมหาดเล็กปี่พาทย์ในสมเด็จเจ้าฟ้ากรมหลวงลพบุรีราเมศวร์ ที่วังบางคอแหลม) สืบสายตระกูลปี่พาทย์เก่าแก่มาแต่ปู่คือครูเพชร จรรย์นาฏย์ (เป็นมหาดเล็กปี่พาทย์ของวังบูรพาภิรมย์ในสมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช สมัย ร.5)
นายสุรพงษ์ โรหิตาจล (อายุ 47 ปี)
ศิษย์เก่าวิทยาลัยนาฏศิลปกรุงเทพฯ
ชาวกรุงเทพฯ เป็นศิลปินเลือดผสมที่มีทั้งโขนละครกับดนตรีปี่พาทย์อยู่ในตัวเอง
สายพ่อคือครูสมพงษ์ โรหิตาจล (เป็นตระกูลโขนหลวงในราชสำนัก ร.6) สายแม่คือครูกัญญา อบนวล (นักร้องหญิงชั้นยอด ปี่พาทย์ลุ่มแม่น้ำอ้อม เมืองนนทบุรี)
เคยอยู่วงดนตรีไทยกรุงเทพมหานครแล้วย้ายมารับราชการที่สำนักการสังคีต กรมศิลปากร
8.นายทวีศักดิ์ อัครวงศ์ (บรรเลงระนาดเอก) หัวหน้าวงที่ 5
นายทวีศักดิ์ อัครวงศ์ (อายุ 39 ปี)
ศิษย์เก่าวิทยาลัยนาฏศิลปสุโขทัย และจบปริญญาตรีจากสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ ที่กรุงเทพฯ
ชาวบ้านเนินฝอยทอง อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ ครอบครัวเป็นเกษตรกรมีเชื้อสายดนตรีไทยสืบมาทางบรรพชนข้างแม่ (โดยมีคุณตาเชื่อ ชำนาญรักษา เจ้าของคณะปี่พาทย์และละคร เป็นผู้สนับสนุนมาตั้งแต่เด็ก)
ฝีมือโดดเด่นเป็นพิเศษคือระนาดเอก และมีชื่อร่ำลือมากจากภาพยนตร์เรื่องโหมโรง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ‘รมว.ปุ๋ง’ ห่วงน้ำท่วมเชียงราย ยังไม่พบโบราณสถานเสียหาย-กรมศิลป์ติดตามใกล้ชิด
- กรมศิลป์แจงแล้ว โบกปูนยักษ์วัดอุโมงค์ ยึดตามแบบศิลปะโบราณ ไม่ได้ดีไซน์เอง
- ครูเตรียมอุดมฯ พุ่งชม ‘โกลเด้นบอย’ เก็บข้อมูลสอนนร. หวังเข้าใจรากเหง้าปวศ.
- อาจารย์มหิดล รุดชม ‘โกลเด้นบอย’ อัศจรรย์ใจกะไหล่ทองพันปี ขอบคุณเดอะเมทส่งคืน ยกเป็น ‘ความงามทางมนุษยธรรม’