ที่มา | มติชนรายวัน |
---|---|
ผู้เขียน | ทีมข่าวเฉพาะกิจ |
เผยแพร่ |
9 มกราคม 2560 เป็นวันที่ “หนังสือพิมพ์มติชน” จะก้าวสู่ปีที่ 40 ที่ได้ทำหน้าที่สื่อมวลชน เป็นสถาบันที่ทำหน้าที่ถ่ายทอดความเป็นจริงให้สังคม เป็นหลักและอุดมการณ์ที่ยึดถือมาตลอดไม่เสื่อมคลาย
สมหมาย ปาริจฉัตต์ หรือที่น้องๆ ในออฟฟิศ รวมถึงพี่น้องในวงการสื่อมวลชนเรียกกันติดปากว่า พี่หมาย ก็เป็นหนึ่งใน ”ลูกหม้อ” ที่เติบโต กระทั่งแผ่ร่มเงาเป็นที่พักพิงของบุคลากรรุ่นหลัง
เขาเริ่มต้นเส้นทางนักข่าวด้วยการเป็นนักข่าวที่ประชาชาติรายสัปดาห์ เมื่อ ขรรค์ชัย บุนปาน และคณะ ก่อตั้งมติชนโดยวางแผงฉบับแรกเมื่อวันที่ 9 มกราคม 2521 แล้ว สมหมายก็ย้ายมาทำที่นี่ เริ่มด้วยการเป็นผู้สื่อข่าวที่เชี่ยวชาญสามารถทำข่าวได้หลายแขนง โดยสนใจข่าวการศึกษาเป็นพิเศษ ขณะเดียวกันก็สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทจากคณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
พี่หมาย เล่าอย่างเป็นกันเองว่าร่วมงานกับมติชน ตั้งแต่ยังเป็น ประชาชาติรายสัปดาห์ ในฐานะนักศึกษาฝึกงาน ก่อนจะเลื่อนตำแหน่งมาเรื่อยๆ ตั้งแต่บรรณาธิการบริหาร นสพ.มติชน, บรรณาธิการ นสพ.มติชน, บรรณาธิการอาวุโส นสพ.มติชน, บรรณาธิการอํานวยการ นสพ.มติชน, กรรมการผู้จัดการ บมจ.มติชน และรองประธานกรรมการ บมจ.มติชน
สำหรับ “มติชน” หากเทียบกับมนุษย์ คงเป็นชายฉกรรจ์ที่ผ่านร้อนผ่านหนาว สั่งสมประสบการณ์ มามากพอที่จะมองความจริงทางสังคมออกว่ามีเบื้องลึกเบื้องหลังอย่างไร และแน่นอนว่า แม้จะเป็นชายฉกรรจ์ แต่ก็ไม่หยุดที่จะเรียนรู้และพัฒนาตัวเอง เพื่อสร้างประโยชน์ให้กับสังคมต่อไป
บริษัท มติชน จำกัด จดทะเบียนก่อตั้งเป็นบริษัทจำกัดเมื่อวันที่ 18 มกราคม พ.ศ.2521 เพื่อประกอบธุรกิจการพิมพ์ เป็นผู้พิมพ์หนังสือ นิตยสารต่างๆ และรับจ้างโฆษณา ได้รับอนุมัติเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ.2532 ก่อนแปรสภาพเป็นบริษัท มหาชน จำกัด ต่อกรมทะเบียนการค้า กระทรวงพาณิชย์เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ.2536
ภาพรวมของการประกอบธุรกิจของกลุ่มบริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทที่ประกอบกิจการหนังสือพิมพ์ และสิ่งพิมพ์อื่นๆ มีผลิตภัณฑ์หลัก คือ หนังสือพิมพ์ 3 ฉบับ คือ มติชน ข่าวสด และประชาชาติธุรกิจ นิตยสารรายสัปดาห์ นิตยสารรายเดือน หนังสือเฉพาะกิจต่างๆ รับจ้างโฆษณา นอกจากนี้ยังประกอบธุรกิจอบรมวิชาชีพและรับจ้างพิมพ์ ธุรกิจผลิตสื่อโทรทัศน์ และงานรับจ้างจัดงาน
โดยต้นปี 2559 หลังจากดำเนินการด้านข่าวออนไลน์มาพักใหญ่ มติชนประกาศเดินหน้าเว็บไซต์ข่าวของหนังสือพิมพ์และนิตสารในเครืออย่างเป็นทางการ ภายใต้แนวคิด #MovingForward
ตลอดระยะการดำเนินงานของหนังสือพิมพ์มติชน ด้วยการเป็นสถาบันที่ทำหน้าที่ส่งต่อความจริงให้สังคม ทำให้ได้รับรางวัลข่าวยอดเยี่ยมเป็นประจำทุกปี เช่น พ.ศ.2547 ข่าวเปิดโปงข้อสอบเอ็นทรานซ์รั่ว วิกฤตศรัทธาการศึกษาไทย, พ.ศ.2548 ข่าวชำแหละอาณาจักร ปิคนิค ขุมทรัพย์ ลาภวิสุทธิสิน สู่เวทีการเมือง, พ.ศ.2549 ข่าว ผ่าขบวนการเอื้อประโยชน์ชินวัตร ขายหุ้น ชินคอร์ป 73,000 ล้าน, พ.ศ.2550 ข่าว เจาะทุจริตกองทุน 4 แสนล้าน ปลุกปฏิรูประบบประกันสังคม, พ.ศ.2551 เปิดโปง อบจ.ทั่วประเทศฮั้วเอกชนทุจริต ซื้อตำราห่วยแจกโรงเรียน, พ.ศ.2552 ข่าว เปิดโปงทุจริตชุมชนพอเพียง ยับยั้งแผนรุมทึ้งไทยเข้มแข็ง สธ.
พ.ศ.2557 ทีมข่าวการศึกษา หนังสือพิมพ์มติชน ขึ้นรับรางวัลอิศรา อมันตกุล ประเภทข่าวชมเชย ผลงานข่าว ผ่าขบวนการทุจริตครูผู้ช่วย อัปยศครั้งใหญ่วงการศึกษาไทย จากนายพงษ์ศักดิ์ พยัฆวิเชียร ประธานมูลนิธิอิศรา อมันตกุล เนื่องในวันนักข่าว ที่โรงแรมสุโกศล เมื่อวันที่ 5 มีนาคม
พ.ศ.2558 ผลงานข่าว แฉขบวนเขมือบงบสร้างสนามฟุตซอล 17 จังหวัด เหนือ อีสาน เสียหาย 689 ล้าน ของ มติชน คว้ารางวัล อิศรา อมันตกุล เปิดโปงขบวนการทุจริตก่อสร้างสนามฟุตซอล ในวันนักข่าว 5 มีนาฯ
ขณะเดียวกัน ก็เป็นสถาบันที่ตอบแทนสังคม โดยมีเส้นทางความรับผิดชอบต่อสังคม ดังนี้
พ.ศ.2521-2530 โครงการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม โบราณคดี ศาลากลางน้ำ วัดศรีโคมคำ กว๊านพะเยา
พ.ศ.2531-2540 โครงการรณรงค์อนุรักษ์คลองแสนแสบสัมมนาสัญจร เวทีสาธารณประชาชาติเศรษฐกิจการเมือง (รณรงค์เลือกตั้ง)
พ.ศ.2541-2550 โครงการระดมหนังสือเข้าห้องสมุด, ห้องสมุดพร้อมปัญญา และโครงการโรงเรียนไอซียู
พ.ศ.2551-2556 โครงการจุดประกายปัญญา, ตู้อักษรซ่อนปัญญา, แบ่งปันความรู้ เชิดชูศาสนา พัฒนาแหล่งน้ำลำคลอง, โครงการร่วมฟื้นฟูประเทศไทย และช่วงปี 2555-2556 โครงการรณรงค์ฟื้นฟูคลองเปรมประชากร ปลูกป่า บูรณะศาลาการเปรียญไม้สักเก่า 150 ปี วัดแก้วไพฑูรย์ บูรณะพระประทานพระอุโบสถวัดพระบรมธาตุ จ.ชัยนาท
ล่าสุด พ.ศ.2557-2558 โครงการ แบ่งปันความรู้ เชิดชูศาสนา พัฒนาแหล่งน้ำลำคลอง
น่าติดตามว่าวันที่ 9 มกราคม พ.ศ.2560 นี้ มติชน จะมีทิศทางการดำเนินงาน และการทำงานเพื่อสังคมอย่างไรต่อไป
– รู้สึกอย่างไร เมื่อก้าวสู่ปีที่ 40 ?
ในโอกาสที่หนังสือพิมพ์มติชนและบริษัทมติชน ก้าวสู่ปีที่ 40 คงเน้นที่ตัวหนังสือพิมพ์เป็นหลักมากกว่า เพราะว่าเป็นสถาบันทางสังคมที่สำคัญ ส่วนตัวบริษัทเป็นธุรกิจเพื่อสังคม
ใจกลางสำคัญ จึงเป็นหนังสือพิมพ์
หนังสือพิมพ์มติชน ไม่เพียงเป็นหนังสือพิมพ์รายวันที่เผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร นำเสนอบทความ บทวิพากษ์วิจารณ์ ความคิดเห็น การเสนอแนะ การท้วงติงต่างๆ เปิดเผยข่าวสารที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ เผยเบื้องหลังเบื้องลึกของเรื่องราวต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งข่าวทุจริตคอร์รัปชั่น
นั่นคือบทบาทของสื่อ นสพ.มติชนที่โดดเด่นมาถึงปัจจุบัน
– บทบาทมติชน นอกจากการเสนอข่าว ?
ภายใต้บทบาทนี้ มติชน มิใช่เพียงหนังสือพิมพ์ แต่เป็นสถาบันทางสังคม สถาบันสาธารณะ สถาบันทางปัญญา เป็นแสงสว่างให้แก่สังคม นอกจากเป็นที่พึ่งพิงให้คนที่เดือดร้อน เป็นที่ระบายออกของความไม่ถูกต้อง ความเหลื่อมล้ำในสังคม ความพิกลพิการในสังคม ก็ยังเป็นสถาบันที่สะท้อนความคิดความอ่าน เป็นเวทีทางปัญญาเพื่อให้ประชาชนมีทางเลือกและทางออกในการแก้ไขปัญหาของสังคม
นี่เป็นความภูมิใจที่สถาบันแห่งนี้ดำเนินมาตลอด แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงในแง่เทคโนโลยี การสื่อสารเปลี่ยนแปลงจากสิ่งพิมพ์เป็นสื่อดิจิทัล สื่อออนไลน์ สื่อใหม่ แต่สิ่งที่เป็นสาระหรือใจความสำคัญคือ เนื้อหาสาระ
สถาบันแห่งนี้ยังผลิตบุคลากร ให้ความสำคัญกับเนื้อหาสาระอันเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะมาโดยตลอด
อีกด้านหนึ่งมติชน ยังเป็นสถาบันการศึกษานอกระบบ สถาบันทางการศึกษาตามอัธยาศัย ที่เข้าถึงผู้คนที่ด้อยโอกาสทุกสถานะ ให้คุณค่าทางความคิดและทางปัญญา ตรงนี้เป็นสิ่งที่มติชนได้ดำเนินมาตลอดจนถึงปัจจุบันนี้
-บทบาทด้านการ “สร้างคน” ?
จุดที่โดดเด่นของมติชน คือบุคลากร ที่ได้รับฝึกฝน ได้รับการหล่อหลอม แนะนำ อบรม บอกกล่าว และสืบทอดกันมาโดยตลอด ว่าความจริง ความเป็นธรรม ความถูกต้องสมบูรณ์ ความยุติธรรม เป็นหัวใจสำคัญ นี่เป็นสิ่งที่เรายึดถือมาตลอด คู่กับสิทธิและเสรีภาพ ซึ่งเป็นสิ่งที่เรายืนหยัดมาโดยตลอด ทั้งเสรีภาพในการแสวงหาความจริง เสรีภาพในการรายงานความจริง เสรีภาพในการเปิดเผยสิ่งที่ไม่ถูกต้องให้สังคมได้รับรู้และช่วยกันแก้ไขปัญหา
คนของมติชนถูกหล่อหลอมมาให้เป็นคนตั้งคำถามตลอดเวลา ไม่เชื่ออะไรไว้ก่อน สงสัยตลอดเวลา ว่าความจริงที่เราเห็นเบื้องหน้า เบื้องหลังมีอะไรที่ลึกซึ้งกว่านั้นหรือเปล่า มีความไม่ถูกต้อง ไม่เป็นธรรมเกิดขึ้นในระบบการเมือง สังคม เศรษฐกิจ วัฒนธรรมต่างๆ หรือไม่
– แนวคิดเกี่ยวกับข่าวและบทความต่างๆ ?
มติชนได้หยิบประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวกับระบบโครงสร้างของประเทศมานำเสนอตลอด แม้กระทั่งรายละเอียดในแต่ละกรณีที่เกิดขึ้น สิ่งที่ยืนยันผลงานตรงนี้อย่างต่อเนื่อง เห็นชัดที่สุดคือ ข่าว และรายงานต่างๆ โดยเฉพาะข่าวที่ได้รับรางวัลจากมูลนิธิอิศรา อมันตกุล มาโดยตลอด ทุกด้าน เช่น ด้านสิ่งแวดล้อม ด้านมนุษยธรรม ด้านเด็กและเยาวชน ด้านผู้หญิง
นี่คือความโดดเด่นของเนื้อหาสาระที่เผยแพร่ออกไปภายใต้บุคลากรที่มีความเข้มแข็ง และมีความคิด แนวทางชัดเจน มีการฝึก อบรม แนะนำ และปฏิบัติกันมาโดยตลอด
– มติชน กับการเมือง
บทบาทของหนังสือพิมพ์มติชนที่ผ่านมาในสังคมการเมืองจะถูกมอง และเป็นอย่างนั้น
มติชนทำหน้าที่เป็นปากเป็นเสียงของคนเล็กคนน้อย คนนอกระบบ คนที่ห่างไกล ฉะนั้นจึงมักถูกมองเป็นฝ่ายค้านที่อยู่ตรงข้ามกับรัฐบาล คอยค้าน ท้วงติง อาจจะทำให้เป็นปัญหา เกิดการกระทบกระทั่งบ้างสำหรับผู้บริหารบ้านเมือง อย่างไรก็ตาม เหล่านี้เป็นไปเพื่อเจตนาดี เพื่อให้สังคมเกิดความสงบสุขและเกิดสันติภาพมาโดยตลอด
เรามักจะถูกเพ่งมองจากฝ่ายต่างๆ ที่มีอำนาจ ว่าเราเป็นอุปสรรคของผู้มีอำนาจต่างๆ แต่เมื่อสถานการณ์การเมืองเปลี่ยนไป มีสงครามกีฬาสีเกิดขึ้น ก็ถูกกล่าวหาว่าเข้าข้างนู้นเข้าข้างนี้ แต่หลักยึดของเราคือ ความจริง ความจริงเป็นอย่างไร ไม่ว่าจะสีอะไรก็แล้วแต่ ความคิดเห็นที่แตกต่างเป็นเรื่องปกติธรรมดา แต่เราไม่ส่งเสริมความก้าวร้าวรุนแรง การสร้างให้เกิดความเกลียดชังการสวมหมวกให้คนนั้นคนนี้ เราถือเอาความจริงและผลประโยชน์ของสาธารณะเป็นหลัก ภายใต้การพูดคุย ปรึกษาหารือ แลกเปลี่ยน หาทางออกด้วยแนวทางสันติด้วยกัน เรายึดหลักอันนี้
เรายึดหลักความเป็นกลาง แม้บางคนจะมองว่าความเป็นกลางไม่มีในโลก ฉะนั้น เราจึงเป็นทั้งกระจก ตะเกียง เทียนไข เป็นคนที่ขุดเจาะข้อเท็จจริงออกมา เอาความจริงมาวางให้สังคมตัดสิน เราจะไม่ชี้นำ ครอบงำและทำตัวเป็นศาสดา นี่คือสิ่งที่เรายึดถือและดำเนินมาโดยตลอด
– 40 ปีที่ผ่านมาเกี่ยวข้องกับจุดเปลี่ยนต่างๆ ของสังคมอย่างไรบ้าง ?
เราเป็นองค์กรหนึ่งที่ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงไปในแนวทางที่เหมาะสม ให้ความคิดกับผู้ที่มีบทบาทในการบริหารจัดการบ้านเมืองแทบจะทุกระบบ ทั้งเศรษฐกิจ การเมือง สังคม วัฒนธรรม การศึกษา มีส่วนช่วยนำเสนอสิ่งต่างๆ เหล่านี้ ทั้งข้อมูล ข่าวสาร และความคิดเห็นต่างๆ นี่เป็นบทบาทอีกด้านหนึ่งที่ทำให้สังคมมีทางเลือกมากขึ้น นี่เป็นสิ่งที่เราดำรงมาตลอด
– เริ่มงานตั้งแต่เป็นนักศึกษาฝึกงาน ?
ตอนนั้นเป็นประชาชาติรายสัปดาห์ แล้วก็เกิดมติชน แต่ผมก็เดินไปเดินมาระหว่าง 2 กลุ่มองค์กรนี้ ผมก็ไปหัดเป็นเด็กฝึกงานตั้งแต่ตอนนั้นเรื่อยมา พอย้ายมารายวัน ผมยังอยู่รายสัปดาห์ กระทั่งเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 ผมก็เลยกลับมาอยู่กับมติชน
ตอนนั้นมติชนเป็นหนังสือพิมพ์ที่ก้าวหน้า เสนอข่าวลึก และกว้างขวาง โดยเฉพาะข่าวในเชิงระบบ เชิงนโยบายสำคัญๆ เชิงมหภาค ฉีกจากข่าวสารทั่วไป มติชนเป็นข่าวสารที่มีสาระ น่าจะเป็นทิศทางที่ดำเนินมาตลอด นี่เป็นจุดเด่นของมติชน ได้ทำงานในส่วนนี้เรื่อยมา
ถ้าเทียบกับหนังสือพิมพ์อื่นๆ ในขณะนั้น ช่วงนั้นเป็นช่วงที่เรียกว่าประชาธิปไตยครึ่งใบ เป็นผลพวงจากเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 ทำให้สิทธิเสรีภาพถูกบั่นทอนไป หนังสือพิมพ์ก็ต้องหาทางเสนอข่าวเบา ไม่กระทบกระเทือนต่อผู้มีอำนาจ แต่ขณะเดียวกันกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ดำรงความมีสาระ ข่าวหนัก ซึ่งหนังสือพิมพ์ที่เสนอข่าวหนักในขณะนั้นมีไม่กี่ฉบับ คือสยามรัฐ ก่อนนั้นมี นสพ.ประชาธิปไตย นสพ.ประชาชาติ เมื่อมติชนนำเสนอข่าวคุณภาพ ข่าวมีสาระ เป็นที่ตอบรับของสังคม และเป็นเวทีให้กับนักคิด นักเขียน นักวิชาการ มหาวิทยาลัยต่างๆ เป็นศูนย์กลางที่แสดงออก ขยายไปตามหนังสือพิมพ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นตามมา บรรยากาศก็คลี่คลาย เปลี่ยนแปลงไปตามสถานการณ์ของการเมืองและเศรษฐกิจ
– เติบโตสู่ผู้บริหาร ?
ผมเติบโตมาจากนิตยสารรายสัปดาห์ ซึ่งครอบคลุมเกือบทุกสายงานทั้งสายงานตำรวจ อาชญากรรม การศึกษา สิ่งแวดล้อม การคมนาคม การพาณิชย์ เพราะมันเป็นนิตยสารสุดสัปดาห์ เมื่อมาทำรายวันแล้วก็สามารถทำได้หลายที่เพราะเราทำมาหลายสายงาน เช่น กรมตำรวจ กระทรวงคมนาคม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทำเนียบรัฐบาล รัฐสภา กระทรวงศึกษาธิการ ที่อยู่นานที่สุดคือกระทรวงมหาดไทย รองลงมาคือกระทรวงศึกษาธิการเพราะส่วนตัวสนใจเรื่องการศึกษา
กระทั่งได้เลื่อนเป็นผู้ช่วยหัวหน้าข่าวหน้า 1 แล้วเป็นหัวหน้าข่าวหน้า 1 จากนั้นเป็นผู้ช่วยบรรณาธิการข่าว บรรณาธิการข่าว กระทั่งได้เป็นบรรณาธิการบริหาร
เมื่อเราเป็นบรรณาธิการบริหารแล้ว ต้องมองกว้างขึ้น ทั้งเนื้อหาสาระที่จะนำเสนอ ทั้งบุคลากรที่ดูแลรับผิดชอบว่าการทำงานเป็นอย่างไร ความเป็นอยู่ ความสัมพันธ์ ความทุกข์สุขเป็นอย่างไร นอกจากนี้ยังต้องดูระดับบริษัทว่าองค์กรมีทิศทางอย่างไร มีแนวนโยบายอย่างไร ลักษณะการประกอบการ การดำเนินธุรกิจอย่างไร ต้องเอามาสอดประสานกัน เพราะหนังสือพิมพ์ไม่ได้มีแค่กองบรรณาธิการอย่างเดียว แต่ยังมีฝ่ายโฆษณา ฝ่ายจัดจำหน่าย เอเยนต์ขายหนังสือ เอเยนซี่ขายโฆษณา คนเป็นบรรณาธิการต้องดูลึกลงไปอีก เหนือกว่าบรรณาธิการข่าวไปอีก
– เห็นเส้นทางของมติชนตลอด 40 ปีมานี้เป็นอย่างไร ?
เห็นการพัฒนามาโดยตลอด แม้จะมีภาวะความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น ในด้านเทคโนโลยี พฤติกรรมของผู้บริโภค ที่หันไปบริโภคสื่อออนไลน์มากขึ้น แต่ความเป็นสาระ คุณค่า และบุคลากรที่ได้สั่งสมประสบการณ์มาโดยตลอด ก็ยังมีความแข็งแกร่ง ยืนหยัดได้ ผมยังเชื่ออย่างนั้น
การปรับองค์กร ปรับตัว เป็นเรื่องปกติธรรมดาในภาวะความเปลี่ยนแปลง สื่อทั่วโลกเจอปัญหาแบบเดียวกัน ซึ่งเรายังสามารถรักษาความเป็นเอกภาพ เอกลักษณ์ และอัตลักษณ์ที่ชัดเจนของเราเอาไว้ได้ นี่เป็นแก่นสำคัญ แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงบุคลากร แต่หลักใหญ่สำคัญยังดำรงอยู่ได้ คนรุ่นใหม่จะสืบสานตรงนี้ต่อไปได้ ภายใต้ความเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและพฤติกรรมของผู้บริโภค เศรษฐกิจ และสังคม
นี่เป็นสิ่งที่อยู่ที่คนรุ่นใหม่ๆ จะดำรงรักษามันอย่างไร และดำรงรักษาตัวเองอย่างไรให้อยู่คู่องค์กรและตัวผลิตภัณฑ์ของพวกเรา
คิดว่ายังน่าจะสู้ต่อไปได้ เพราะเราปรับตัวมาโดยตลอด
– กิจกรรมอื่นๆ ของมติชนที่ผ่านมา?
ได้รับการตอบรับมาโดยตลอด ผู้ที่มาร่วมทำกิจกรรมอย่างนี้ ยังมอบความไว้วางใจและเต็มใจที่จะสนับสนุน เพราะเราทำหลายแขนง ทั้งการศึกษา ศิลปวัฒนธรรม ทรัพยากรธรรมชาติ-สิ่งแวดล้อม มีความหลากหลาย ซึ่งการทำแต่ละครั้งก็จะมีจุดเด่นของแต่ละโครงการที่สามารถจุดประกาย ทำให้หลายๆ ที่สามารถนำไปต่อยอดทำด้วยตัวเองได้
จริงอยู่ในอดีตจะมีการบริจาคหนังสือ แต่ของมติชนจะมีจุดของความแหลมคม โดดเด่นในตัวโครงการ สามารถสะท้อนแนวคิดที่โดดเด่น เป็นตัวเอง เช่น โครงการ I SEE U-ไอซียู เป็นการแปลจากคำว่าไอซียู ที่พบเห็นในโรงพยาบาลว่าเป็นห้องสำหรับผู้ป่วยที่มีอาการสาหัส ปรับมาเป็น ผมมองเห็นคุณ โรงเรียนที่ประสบปัญหา เราก็เห็นและไปช่วยกัน
ทุกโครงการของมติชนจึงมีลักษณะแปลกมีอัตลักษณ์ เอกลักษณ์พิเศษ เช่น โครงการที่คุณขรรค์ชัย ทำ เช่น แบ่งปันความรู้ เชิดชูศาสนา พัฒนาแหล่งน้ำลำคลอง มีลักษณะที่แปลกกว่าที่อื่นๆ เพราะสะท้อนความคิด สะท้อนไอเดีย ความเฉียบคม เป็นโครงการที่ไม่ใหญ่โตมาก แต่ เฉียบ และ คม เหมือนการพาดหัวข่าว ในข่าวเดียวกันแต่เราพาดหัวได้เฉียบกว่า นี่คือลักษณะพิเศษของโครงการแต่ละโครงการ มีเสน่ห์ และความน่าสนใจอยู่ในแต่ละโครงการที่มติชนทำ เพราะเราระดมความเห็นกันตั้งแต่ท่านประธาน ลงมาจนถึงน้องๆ ทุกคน ในที่สุดก็พบความลงตัว และในความเป็นกวีของคุณขรรค์ชัย ก็สามารถตั้งชื่อต่างๆ ได้เฉียบ เช่นหนังสือ ประทับใจในราษฎร์ กับ สถิตในใจชน ท่านลงมาให้แนวทาง ให้ไอเดีย ให้ถ้อยคำ นี่เป็นสิ่งที่ไม่เหมือนที่อื่น
– ความเห็นต่อมติชน?
มันเป็นหนังสือโดยตัวมันเองอยู่แล้ว เป็น NEWSPAPER เป็นสถาบันทางความคิดทางปัญญา เป็นนามธรรม ความรู้ ความคิด ความเหมาะสม ความถูกต้อง ความเป็นธรรม
ถ้าเปรียบเทียบ มติชน เป็นจิตวิญญาณของความถูกต้อง จิตวิญญาณของคนที่ต้องการมีอิสรภาพ-เสรีภาพ ความเท่าเทียม จิตวิญญาณของความงดงามทางปัญญา จิตวิญญาณของความเป็นมนุษย์ที่ควรจะสมบูรณ์ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นนามธรรม
เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ทุกคนจะเอาความจริง ความถูกต้อง ความเท่าเทียม ความเสมอภาค