สวัสดีปีไก่ : คอลัมน์ นอกลู่ในทาง

ไก่เกิดก่อนไข่ หรือไข่เกิดก่อนไก่?

ไก่เกิดก่อน เพราะไม่มี “ไก่” ก็ไม่มี “ไข่”

ไข่เกิดก่อน เพราะไม่มี “ไข่” แล้ว “ไก่” จะมาจากไหนได้ล่ะ

สรุปว่า ไก่หรือไข่??

Advertisement

ไข่ หรือไก่ที่เกิดก่อนกัน???

ว่ากันตามหลักวิทยาศาสตร์ เมื่อไม่นานมานี้ ทีมวิจัยของ University of Sheffield และ Warwick University ประเทศอังกฤษ ได้ค้นพบว่าโปรตีนที่ชื่อ ovocledidin-17 หรือ OC-17 ซึ่งว่ากันว่าเป็นสิ่งจำเป็นในการเริ่มต้น และเร่งขบวนการตกผลึกของเปลือกไข่ให้แข็งนั้น เป็นโปรตีนที่มีอยู่แต่ในรังไข่ของ “ไก่” เท่านั้น จึงพอที่จะได้ข้อสรุปว่า “ไก่” ต้องเกิดก่อน “ไข่”

เพราะต้องมี “แม่ไก่” ที่มี OC-17 ในรังไข่เสียก่อนจึงมีไข่ออกมาได้

Advertisement

“ไก่” จึงเกิดก่อน “ไข่” ด้วยเหตุนี้

แต่ถ้าว่ากันด้วยเรื่องของปีใหม่นี้ ปี 2560 จะตรงกับปีไก่ (ระกา) ที่แน่นอนก็คือ (ปี) ไก่ มาทีหลังปีลิง (วอก) และมาก่อนปีจอ (หมา) เป็นประจำเช่นนี้ทุกปีไม่เคยเปลี่ยน

คำตอบข้างบนมาจากวงสังสรรค์ในวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่เพิ่งผ่านไปหมาดๆ หลังจากหน้าดำหน้าแดงเถียงกันไปมาเพื่อหาข้อสรุปที่ทุกฝ่ายจะยอมรับได้ว่า “ไก่กับไข่” ใครเกิดก่อนกัน

วงสนทนาแบ่งออกเป็นสองฝั่ง

ฝั่งที่ชนะค้นหาคำตอบจาก “อากู” มาอ้างอิง อีกฝั่งแม้จะจำนนในข้อมูลแต่ไม่อยากยอมแพ้ง่ายๆ จึงงัดมุข ปี “ไก่” เกิดก่อน “หมา” และมาทีหลัง “ลิง” มาปิดหัวข้อสนทนาว่าด้วยเรื่องไก่กับไข่ซะงั้น

ก่อนที่จะไปกันใหญ่ กลับมาที่ปีใหม่นี้กันอีกที

ในช่วงเริ่มต้นของปีใหม่ เชื่อว่าคนส่วนใหญ่มักใช้ช่วงเวลานี้ทบทวนถึงสิ่งที่แล้วๆ มาในปีที่ผ่านมา ว่ามีอะไรที่ผิด อะไรที่พลาดไปบ้าง มีอะไรที่เคยตั้งใจไว้ แต่ไม่ได้ทำสักที เพื่อที่จะมาเริ่มต้นกันใหม่อีกครั้งในปีนี้

ผู้เขียนเองในปีที่ผ่านมา ตั้งเป้าหมายไว้หลายสิ่งด้วยกัน แต่จำได้แค่ว่า ลิสต์ออกมาเป็นข้อๆ ได้มากเกินกว่าห้าข้อ ยอมรับว่าทำได้จริงเพียงแค่เรื่องเดียวเท่านั้น แถมยังจำได้ไม่หมดด้วยว่า ตั้งปณิธานอะไรไว้บ้างเมื่อปีที่แล้ว

คงเพราะมีมากไป นอกจากจะทำให้ไม่โฟกัสแล้วยังทำให้ทำได้ไม่ดีที่สุดสักอย่าง

เป้าหมายที่ดีจึงไม่ควรมากสิ่งเกินไป

แต่ถึงจะจำปณิธานของตัวเองได้ไม่ครบ แต่จำกฎแห่งความสุขของนักเขียนคนโปรด “อัลแบร์ การ์มูส์” ได้ขึ้นใจ

กฎที่ว่ามีอยู่ 4 ข้อด้วยกัน

1.อยู่ในที่ที่มีอากาศปลอดโปร่ง 2.พ้นจากความทะเยอทะยาน 3.ทำงานสร้างสรรค์ และ 4.รักใครสักคน

ไม่ว่าปีไหนๆ ก็จะพยายามทำให้ได้ครบทั้ง 4 ตามนั้น เพราะไม่ว่าเป้าหมายในแต่ละปีจะเปลี่ยนไปแค่ไหน ปลายทางล้วนต้องการมีความสุข

เมื่อปีเก่าผ่านไป ปีใหม่มาถึงแล้วก็มาเริ่มต้นกันใหม่ดีกว่า

ปีนี้ ขอสัก 1-2 หรือ 3 เรื่องก็พอ (ไหนว่าจะไม่เยอะ)

หนึ่งในสิ่งที่ตั้งใจว่าจะทำให้ได้ คือ วิ่งฮาล์ฟมาราธอนสัก 1 รายการ

หลังเริ่มต้นวิ่งมาหลายปี โดยมีเป้าหมายแค่ว่าจะพยายามวิ่งให้ได้อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 วัน แม้ทำได้เกินครึ่งของที่ตั้งใจ แต่ไม่เคยวิ่งเกินครั้งละสิบกิโลเมตรเลยสักครั้ง (ระยะปกติอยู่ที่ 5-6 กิโลเมตร)

ทำให้การลงสมัครวิ่งในแต่ละรายการมีระยะทางอยู่ที่ระยะฟันรัน (Fun Run) 5 กิโลเมตรบ้าง 6 กิโลเมตรบ้างเป็นส่วนใหญ่ มีไต่ไปถึงมินิมาราธอน (10 กิโลเมตร) และ 11-12 กิโลเมตรบ้าง แต่ไม่เคยกล้าคิดไปถึงระยะฮาล์ฟมาราธอน (21 กิโลเมตร)

ปีไก่นี้ตั้งเป้าแบบท้าทายตนเองว่า ขอสัก “ฮาล์ฟ” ละกัน ถ้าทำได้แล้วค่อยคิดอีกทีว่าจะขยับไปถึงมาราธอนไหม

พูดถึงเรื่องปณิธานปีใหม่ทีไร นึกถึงพี่มาร์กทุกที

ปีก่อน “มาร์ก ซัคเกอร์เบิร์ก” เจ้าพ่อโซเชียลเน็ตเวิร์ก “เฟซบุ๊ก” ตั้งเป้าหมายส่วนตัวแต่ประกาศให้โลกรู้โดยทั่วกันผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ของตนเองว่าจะอ่านหนังสือให้ได้เดือนละสองเล่ม

ปีที่ผ่านมา พี่มาร์กตั้งเป้าหมายใหม่ว่าจะให้เป็น “ปีแห่งการวิ่ง” โดยตั้งใจว่าจะวิ่งให้ได้อย่างน้อย 365 ไมล์ เท่ากับต้องวิ่งอย่างน้อยวันละ 1 ไมล์

พี่มาร์กไม่ได้วิ่งคนเดียว แต่ตั้งกรุ๊ปเพจ A Year of Running ขึ้นมา และประกาศเชิญชวนให้คนลุกขึ้นมาวิ่งด้วยกัน พร้อมทั้งให้แชร์ประสบการณ์เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้กันและกันในกรุ๊ปเพจแห่งนี้ด้วย

ปีที่ผ่านมา กรุ๊ปเพจ A Year of Running ของพี่มาร์กมีสมาชิกร่วมวิ่งจากทั่วโลก มากกว่า 1.3 แสนคน

หนึ่งในเรื่องราวเกี่ยวกับการ “วิ่ง” ของสมาชิกในกรุ๊ปเพจที่พี่มาร์กประทับใจ เป็นเรื่องของหนุ่มฝรั่งเศส ชื่อ “นิโคลาส”

“นิโคลาส”ไม่ได้แค่ลุกขึ้นมาวิ่งเฉยๆ แต่ยังตั้งกลุ่มของตนเองขึ้นมาโดยใช้ชื่อว่า “Run Eco Team”

“Run Eco Team” มีสมาชิกมากกว่า 1,500 คน

นักวิ่งทีมนี้ไม่ได้แค่วิ่งธรรมดา แต่มีเป้าหมายเดียวกันที่จะทำให้ชุมชนรอบๆ เส้นทางวิ่งของพวกเขาสะอาดจึงวิ่งไปเก็บขยะไปด้วย

เมื่อไรที่ใครสักคนลุกขึ้นมาวิ่งเก็บขยะอาจไม่ได้ทำให้ถนนทั้งเส้นที่เขาวิ่งผ่านเปลี่ยน

แปลงไปจากเดิมมากนัก แต่เมื่อไรที่คนนับสิบ นับร้อย หรือพันคนออกวิ่งพร้อมกับเก็บขยะไปด้วยกัน เชื่อว่า วิ่งผ่านไปที่ไหนที่นั่นจะสะอาดขึ้นแน่นอน

“ก้าวคนละก้าว” โครงการวิ่งการกุศลของ “ตูน บอดี้สแลม” ที่ต้องการหาเงินเพื่อซื้อเครื่องมือแพทย์ให้โรงพยาบาลบางสะพาน และอยากจุดประกายให้คนหันมาออกกำลังกาย ก็คงไม่ต่างกัน

ถ้าการเริ่มต้น “วิ่ง” เป็นการแสดงออกถึงความรักที่มีต่อตนเอง การวิ่งของนิโคลาสและเพื่อน รวมถึง “ตูน บอดี้สแลม” ก็น่าจะเป็นวิธีแสดงความรักต่อคนรอบข้าง

เมื่อรักตัวเองเป็น ก็จะรักคนอื่นเป็น”Run Eco Team” และ “ก้าวคนละก้าว” จึงใหญ่กว่าการรักใครสักคนตามกฎแห่งความสุขของอัลแบร์ กามูส์ แต่เผื่อแผ่ไปยังคนอื่นๆ ไม่รู้จบ เป็นกิจกรรมที่ได้ทั้งสุขภาพที่ดี และความสุข

คุณล่ะ คิดออกหรือยังว่า อะไรคือเป้าหมายใหม่เพื่อตัวคุณเอง และคนที่คุณรักในปีใหม่ 2560 นี้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image