ที่มา | มติชนรายวัน |
---|---|
ผู้เขียน | จันทร์รอน |
เผยแพร่ |
ความเป็นไปอย่างหนึ่งในวิถีชีวิตมนุษย์เราคือการน้อมใจไปคาดหวังว่าใครต่อใครที่มาสัมผัสสัมพันธ์กับเราจะ “ดีงาม”
ไม่ว่าใครล้วนปรารถนาจะได้รับการแสดงออกจากคนอื่นในทางที่ดีกับตัวเอง
คนดีของเราจะต้อง “ชื่นชมเรา ช่วยเหลือเรา เคารพศรัทธาเรา เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่มีน้ำใจให้เรา เข้าใจเรา รักเรา” หรืออะไรต่ออะไรที่ทำให้เรารู้สึกชื่นชอบ
เพราะความปรารถนาที่จะได้พบรับความสัมพันธ์ที่ดีจากคนอื่น ภารกิจใหญ่ของมนุษย์จึงเป็นไปเพื่อ “สร้างคนดีสำหรับเรา”
ในระดับประเทศเราสร้างกฎหมาย ประเพณี วัฒนธรรม เพื่อบังคับ เพื่อหล่อหลอม กดดันให้ใครต่อใครเป็น “คนดี”
การระดมรณรงค์สร้างค่านิยมให้ผู้อยู่ร่วมสังคมเป็นคนดีเป็นเรื่องที่ทำกันอย่างต่อเนื่อง
การสร้างแรงกดดันให้คนอื่นเป็นคนดีสำหรับเราเกิดขึ้นในทุกระดับสังคม ตั้งแต่ประเทศลงมาจนถึงครอบครัว และหมู่เหล่า องค์กร
ทุกคนต่างถูกบังคับ กดดัน พัฒนาจิตสำนึกของตัวเองให้เป็นคนดีตามแบบที่ผู้มีอำนาจมากกว่าในแต่ละระดับจะนิยาม หรือสร้างกรอบความดีไว้อย่างไร
เป็นความดีในความหมายที่ผู้มีอำนาจมากกว่าอยากให้เป็น
ทุกคนต่างคาดหวังที่จะสัมผัสสัมพันธ์กับคนดี
เป็นคนดีในความหมายที่เรากำหนด
ความยุ่งยากเกิดขึ้นเพราะคนดีในนิยามของแต่ละคนไม่เหมือนกันเนื่องด้วยแท้ที่จริงแล้วมนุษย์เราแม้จะร่วมแผ่นดินแผ่นฟ้าเดียวกับ หายใจด้วยอากาศที่ถ่ายเทถึงขั้น ทว่าปัจจัยต่างๆ ที่มาประกอบเป็นชีวิตของเรานั้นอยู่ต่างภพกัน
บางคนอยู่ “กามภพ” ที่กำหนดความดีงามไว้ที่ “ความสุขทางกาม” นิยามความดีงามไว้ในกรอบของเรื่องราวที่เอื้อให้ได้เสพสุขทางกามรส
บ้างอยู่ที่ “รูปภพ” ที่ความดีงามไปนิยามไว้ที่เรื่องราวที่เอื้อให้ได้สัมผัสสัมพันธ์กับความสวยงามของสิ่งต่างๆ
มีไม่น้อยที่อยู่ใน “รูปภพ” ปรารถนาความดีงามจากสิ่งที่หลอมอารมณ์ความรู้สึกด้วยนามธรรมต่างๆ ที่กระตุ้นให้จิตใจปลอดโปร่ง ชื่นบาน
นั่นเป็นการแบ่งตามภพภูมิ แต่แท้ที่จริงแล้ว ความดีงามยังแบ่งได้ด้วยอะไรอื่นๆ มากมาย แล้วแต่จิตของผู้นั้นในขณะให้นิยามความดีงามอยู่ในภาวะอะไร
บางคนอยู่ในภาวะเคร่งศีล จะให้คุณค่ากับผู้รักษาศีลเป็นคนดี บางคนอยู่ในห้วงชื่นชมสมาธิ จะให้คุณค่าการสงบ ไม่พลุ่งพล่านเป็นคนดี ขณะที่คนที่มองสิ่งต่างๆ ด้วยปัญญา จะนิยามคนดีไปอีกแบบ
ยังมีการตัดสินคนดีด้วยกรอบอื่นๆ ตามที่ถูกออกแบบจากจิตของแต่ละคน
และเพราะความดีที่เกิดจากการกำหนดของแต่ละคนที่จะเหมือนกันได้ยากนี้เอง ทำให้ชีวิตที่ปรารถนาความสัมพันธ์ที่ดีงามเป็นความวุ่นวาย
เนื่องจากต้องเที่ยวไปตัดสินใจความดีงามของคนอื่น สิ่งอื่นจากกรอบความคิดของตัวเองที่ประกอบด้วยปัจจัยต่างๆ เฉพาะของคนคนนั้น
โอกาสที่จะเกิดความหงุดหงิด รำคาญ ไม่ชอบอกชอบใจเพราะสังคมเต็มไปด้วยคนที่มีพฤติกรรมไม่ถูกใจจึงเกิดขึ้นตลอดเวลา
ยิ่งบางคนที่หลงอยู่กรอบที่ครอบงำความคิดว่าตัวเองมีหน้าที่จัดการให้คนอื่นเป็นคนดี ยิ่งต้องรับภาระที่หนักขึ้น
เพราะคนคนหนึ่งย่อมมีความคิด คำพูด การกระทำไปตามเหตุปัจจัยที่มาประกอบเป็นคนคนนั้น ไม่ได้เป็นไปตามความอยากให้เป็นของใคร
หากคนหลงอยู่กับกรอบความคิดว่าตัวเองต้องทำให้คนอื่นเป็นคนดีเป็นผู้มีอำนาจอย่างใดอย่างหนึ่ง
คนคนนั้นก็จะไปเที่ยวหาวิธีบังคับ จัดการให้คนอื่นเป็นคนดีตามแบบที่ตัวเองคิด
นั่นแหละเป็นความวุ่นวาย
ด้วยกรอบที่เอามาคิดกำหนดความเป็นคนดีนั้น ล้วนแตกต่างกันในแต่ละคน ไม่มีทางเหมือนกันได้เลย