เริงโลกด้วยจิตรื่น : การเปรียบเทียบ

เริงโลกด้วยจิตรื่น : การเปรียบเทียบ

เป้าหมายชีวิตซึ่งมุ่งไปที่ “ความสุข” หนึ่งใน “สิ่งสำคัญ” คือ “การเปรียบเทียบ”

โลกที่วัดความสำเร็จกันด้วย “ความเหนือกว่า”

“ชัยชนะ” นำมาซึ่งความปลาบปลื้ม พร้อมเสียงปรบมือ โห่ร้องยินดี ส่งผลให้หัวใจพองฟู ท่วมท้นน้ำตาแห่งปิติ

ในทางกลับกัน “พ่ายแพ้” นำสู่เศร้าซึม จมอยู่ในอารมณ์สูญเสีย

ADVERTISMENT

แม้ไม่ถึงกับชนะ แค่รู้สึกสบายกว่า สวยงามกว่า เพราะกว่า หอมกว่า อร่อยกว่า รื่นรมย์กว่า ก็ดีอกดีใจกับความเหนือกว่า เก่งกว่า สำเร็จกว่านั้น

ใครที่ด้อยกว่าก็เศร้าซึม

ชีวิตในโลกของผู้คนดื่มด่ำ และดิ่งไปในผลของ “การเปรียบเทียบ” เช่นนี้

แม้จะรับรู้ได้ไม่ยากว่า “ชีวิตที่ต้องดิ้นรนแข่งขันเพื่อให้ได้ชื่อว่าสำเร็จกว่า” นั้น แม้จะสร้างความปลาบปลื้ม แต่ที่สุดแล้วต่างรู้ว่าเป็นปีติชั่วคราว และจากนั้นก่อความยุ่งยากมากมายให้เกิดขึ้น

เมื่อมีแพ้-ชนะ อันหมายถึง “การแข่งขัน เปรียบเทียบ” ย่อมมีอยู่ไม่เลิกลา ใครที่เคยชนะย่อมเป็นธรรมดาที่จะแปรเปลี่ยนมาเป็นพ่ายแพ้ได้เสมอ ยิ่งไปกว่านั้นเพื่อสาระของชีวิตอยู่ที่ความเหนือกว่า วิธีจัดการเพื่อชัยชนะเป็นไปได้ที่จะพลิกมาเป็นเพื่อโค่นล้ม ทำลายคู่ต่อสู้ให้ด้อยกว่า แทนที่จะพัฒนาตัวเองให้เหนือ

การแข่งขันจะกลายเป็นการต่อสู้ ซึ่งก่อความยุ่งยากในการอยู่ร่วมกันที่ซับซ้อนขึ้น

สู่สังคมที่ตึงเครียด ทั้งหมดทั้งสิ้นเริ่มต้นอยู่ที่ “การเปรียบเทียบ”

ในทางคุณธรรม ผู้มีประสบการณ์สัมผัสถึงความยุ่งยากมาก่อน และมีความปราถนาดีที่จะแก้ไขเยียวยา ได้ชี้แนะ ตักเตือน บอกเล่าประสบการณ์ สั่งสอนให้รู้คิดมาตลอด ให้เลือกอยู่ร่วมกันด้วย “ความช่วยเหลือเกื้อกูล แบ่งปันให้กันและกัน” และมีมากมายที่ชี้ให้เห็นโทษภัยที่เกิดขึ้นเพราะค่านิยม “เปรียบเทียบ”

ชี้ให้เห็นการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขด้วยการยอมรับความไม่เหมือนกัน หรือแตกต่างกัน โดยไม่จำเป็นต้องเทียบชีวิตตัวเองเพื่อเปรียบกับคนอื่น

ชี้ทางสู่ความเป็นอิสระด้วยก้าวพ้น “การเปรียบเทียบ”

หรือที่ลึกซึ้งไปกว่านี้คือการชี้ให้เห็น “สัจธรรมของสรรพสิ่ง” ล้วนแล้วประกอบด้วยเหตุปัจจัยที่หลากหลาย

เมื่อทุกสิ่งอย่าง กระทั่งทุกคนล้วนแต่เป็นไปตามเหตุที่มาประกอบต่างๆ กันไป ความยินดีปรีดา หรือโศกเศร้ากับการนำความแตกต่างที่เป็นปกติมาเปรียบเทียบนั้น ต้องถือว่าเป็นทรรศนะที่ไม่ควรจะเกิดขึ้น

เพราะสาระของความเป็นไปทุกสิ่งอย่างที่เกิดขึ้นในแต่ละชีวิตเป็นผลที่เกิดจากเหตุประกอบที่ไม่เหมือนกัน ไม่ใช่เรื่องที่จะนำมาปลาบปลื้ม หรือน้อยเนื้อต่ำใจ

ความรู้สึกเหนือกว่า หรือด้อยกว่าเป็นแค่ความคิดที่มองไม่เห็นเหตุที่มาประกอบเป็นภาพรวม อาศัยแค่ความอยากให้เห็นตามค่านิยมที่ต้องการเหนือกว่า ไม่อยากจะด้อยกว่า

ค่านิยมแห่งการแข่งขัน อันเริ่มต้นจาก “การเปรียบเทียบ” จึงไม่ใช่การดำเนินชีวิตที่เริ่มต้นจาก “ความเป็นจริง” เป็นแค่ “ความเพ้อฝัน” ที่ปรุงแต่งขึ้นมาจาก “ความอยาก”

สังคมที่ปล่อยให้ค่านิยมเช่นนี้ครอบงำกระบวนการชีวิตของผู้คน ย่อมสู่ความสุขสงบได้ยาก การอยู่กับความคิดที่ต้องเปรียบเทียบ เป็นการสร้างความไม่เท่าเทียม การแข่งกันกันสะสมความเหนือกว่าเป็นต้นทางของการสร้าง และขยายความเหลื่อมล้ำ

ซึ่งเป็นการสะสมปัญหาให้ซับซ้อน ยากแก้ไขมากขึ้น

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image