ผู้เขียน | ร้อยเอก ดร.จารุพล เรืองสุวรรณ |
---|
สงครามอิสราเอล ปาเลสไตน์
กับสงครามโลกครั้งใหม่
สถานการณ์สงครามในตะวันออกกลางระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ ยังคงร้อนแรง ส่งผลกระทบต่อคนทั่วโลก มิเว้นคนไทยอย่างเราๆ จากข้อมูลล่าสุดพบว่า ในฉนวนกาซามีผู้เสียชีวิตแล้วมากกว่า 5 พันราย แน่นอนว่าในจำนวนนี้มีพลเรือนจำนวนมาก และหากพิจารณาว่ามีผู้เสียชีวิตจากหลายประเทศ เหตุการณ์นี้สามารถกล่าวได้ว่าเป็นปัญหาความมั่นคงระหว่างประเทศอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และไม่ว่าฝ่ายใดจะเป็นฝ่ายผิดหรือถูก (ซึ่งจะไม่ขอกล่าวในที่นี้) คงปฏิเสธไม่ได้อย่างสิ้นเชิงว่าเหตุการณ์นี้เป็นเหตุการณ์ที่ทั่วโลกต่างเฝ้ามอง โดยเฉพาะคำถามที่ว่า
⦁สงครามครั้งนี้จะขยายตัวออกไปเป็นวงกว้าง หรือนำเราไปสู่สงครามโลกครั้งใหม่ได้หรือไม่?
จากท่าทีของหลายประเทศ โดยเฉพาะมหาอำนาจ และกลุ่มประเทศอาหรับ มีทั้งที่แสดงออกอย่างชัดเจนว่าสนับสนุนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง และแสดงออกอย่างอ้อมๆ ว่าให้การสนับสนุนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่สถานการณ์ ณ ปัจจุบัน เราสามารถมองเห็นรูปการณ์ของการแบ่งข้างกันได้ค่อนข้างชัดเจน หรืออาจกล่าวได้ว่า สถานการณ์ในปัจจุบันเริ่มมีลักษณะคล้ายคลึงกับสงครามเย็นในอดีต ที่มีการแบ่งขั้วกันทางการเมืองระหว่างประเทศ จนอาจกล่าวได้ว่าสงครามระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์งวดนี้อาจกลายเป็นสงครามตัวแทนครั้งใหม่
นอกจากนี้ จากท่าทีและสถานการณ์ในปัจจุบัน คงไม่มีใครกล้าฟันธงได้ว่า งานนี้จะจบลงในเร็ววันแบบ “สันติ” เพราะจากความเสียหายในปัจจุบันเชื่อว่าทั้งสองฝ่ายน่าจะทุ่มสุดตัวเพื่อเอาชนะอีกฝ่ายให้ได้ มิหนำซ้ำยังมีทีท่าว่าจะมีการ “ร่วมแจม” ของเหล่าบรรดาผู้สนับสนุนอีกต่างหาก
เป็นที่แน่ชัดว่า อิสราเอลเป็นหนึ่งในพันธมิตรที่แน่นแฟ้นของสหรัฐ อีกทั้งยังถูกมองว่าเป็นส่วนหนึ่งของผลประโยชน์ที่สหรัฐต้องปกป้อง ดังนั้น สงครามในครั้งนี้จึงไม่น่าแปลกใจที่สหรัฐจะออกมาแสดงทีท่าอย่างแข็งกร้าวต่อการที่อาจมีกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเข้าแทรกแซงสถานการณ์ อีกทั้งยังส่งสัญญาณอย่างชัดเจนโดยการส่งเรือบรรทุกเครื่องบิน 2 ลำ พร้อมเครื่องบินรบจำนวนหนึ่งเข้าไปยังทะเลเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออก
เรียกว่าแสดงความพร้อมหากมีใครคิดจะเข้าผสมโรงในเหตุการณ์นี้ ชี้ให้เห็นได้ว่าการยกระดับและการขยายตัวของสงคราม ไม่ใช่เรื่องเป็นไปไม่ได้ และการเกิดขึ้นได้ในชั่วพริบตา หากฝั่งตรงข้าม เช่น อิหร่าน ซึ่งมีท่าทีสนับสนุนปาเลสไตน์ ปฏิบัติการบางอย่างที่สามารถนำไปเป็นปัจจัยในการโต้ตอบกันทางการทหาร
เรียกได้ว่านาทีนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้
หากสถานการณ์ที่เสมือนสงครามเย็นในครั้งนี้ แปรผันไปเป็นการใช้กำลังทางทหารที่มากกว่ากำลังทหารของอิสราเอลและปาเลสไตน์ พูดง่ายๆ ว่าเมื่อกองเชียร์คนใดคนหนึ่งผันตัวไปเป็นผู้เล่น เชื่อว่าจากจุดนั้น การผสมโรง และความวุ่นวายที่ยกระดับจะเกิดขึ้นเร็วมาก
เลวร้ายที่สุด เราอาจได้เห็นสงครามที่ขยายตัวไปสู่ระดับภูมิภาค และอาจถึงระดับโลกในที่สุด
เป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่จะทดสอบแนวคิดทางการเมืองระหว่างประเทศโดยเฉพาะบทบาทขององค์กรระหว่างประเทศที่ถูกตั้งคำถามอยู่ในปัจจุบัน ว่าท้ายที่สุดแล้วมีกลไกมีประสิทธิภาพพอที่จะยับยั้งสงครามและความขัดแย้งได้หรือไม่ อีกทั้งยังเป็นบททดสอบของเหล่าผู้นำประเทศทั่วโลกต่อการเดินหมากทางการเมืองระหว่างประเทศ
ประเทศไทยของเราก็จำเป็นเช่นกัน ที่จะต้องวางแผนล่วงหน้าต่อเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้น ว่าจะเดินเกมทางการเมืองอย่างไร ที่จะปลอดภัยและรักษาไว้ซึ่งผลประโยชน์แห่งชาติได้มากที่สุด การออกตัวประณามความรุนแรง โดยไม่ระบุฝั่งนั้น ถือว่าเป็นก้าวแรกที่ทำได้ดีในฐานะประเทศขนาดเล็กที่ยังต้องอาศัยความร่วมมือกับทุกฝั่ง หากแต่ถ้าเหตุการณ์ยกระดับไปอีกจุดหนึ่ง การวางท่าทีในจังหวะนั้น ถือว่าเป็นโจทย์ยากที่ต้องคิดไว้ล่วงหน้า
นอกจากมิติด้านการเมืองระหว่างประเทศแล้ว เราควรหาทางหนีทีไล่สำหรับเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในมิติอื่นๆ ด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นด้านการค้าการขาย เศรษฐกิจ สังคม ตลอดจนมองหาโอกาสที่อาจเป็นประโยชน์กับชาติที่อาจแฝงตัวอยู่ในวิกฤตการณ์ เพื่อให้ประเทศไทยและคนไทยอยู่รอดปลอดภัยในความผันผวน
สุดท้ายนี้ ได้แต่ภาวนาให้ทุกอย่างจบลงอย่างรวดเร็วอย่างสันติ หากจะเป็นไปได้
ขอให้คนไทยทุกคนปลอดภัย