| ผู้เขียน | ปิ่นโตเถาเล็ก |
|---|
รสิก Rasik Local Kitchen เชียงใหม่ ร้านเล็กๆ คิวยาว เมนูไทยทวิสต์ทั่วทิศ มีเอกลักษณ์
ร้านดังในเชียงใหม่ที่กำลังมาแรงมาก เปิดมาแค่ปีเดียวนิดๆอนาคตสดใสแน่นอน ขอบอกว่าเมนูน่าชิมไปหมดทุกอย่าง ร้านนี้มีชื่อว่ารสิก โลคอล คิทเช่น(Rasik Local Kitchen) อยู่ริมถนนศรีดอนไชย ถ้ามาจากคูเมืองจะอยู่ทางฝั่งขวาเยื้องกับโรงแรมมณีนาราคร ก่อนถึงสุริวงศ์บุ๊คเซนเตอร์
รสิกเป็นร้านเล็กๆ เปิดเฉพาะมื้อเย็น 3 รอบ แต่ละรอบมีแค่ 4 โต๊ะเท่านั้น จัดอยู่ในประเภท”ข้าทำครัวคนเดียว” โดยเชฟหวาย สาละ ศักดาเดช(ในวัยเพียง 34 ปี) มีเมนูเปลี่ยนไปตามฤดูกาลสั่งได้ตามใจชอบไม่ได้ทำเป็นคอร์สบังคับ
ช่วงที่ปิ่นโตเถาเล็กไปชิมปลายเดือนตุลาคมนั้นเป็นเมนูหน้าฝน ตอนนี้เปลี่ยนเป็นเมนูหน้าหนาวแล้ว สามารถดูได้โดยค้นหาร้านรสิก โลคอล คิทเช่น ในกูเกิ้ลแมพส์ จากนั้นเลื่อนไปกดดูในช่อง Menu (ใครทำไม่เป็นให้ลูกหลานเปิดให้นะจ๊ะ)
ช่วงนั้นผมจองล่วงหน้าแค่ 2-3 วันก็ได้โต๊ะแล้ว แต่น้องหวายกับน้องฝ้าย ชนิดา รัตนมโนไพบูลย์(คนรู้ใจ) บอกว่าตั้งแต่ผม และน้องจูน สาวิตรี กับน้องเมย์ After You โพสต์ลงในโลกโซเชียล กลายเป็นว่าเดี๋ยวนี้ต้องจองนาน 2 อาทิตย์แล้วจ้า
โดยมีการปรับวิธีจองใหม่คือ เดือนธันวาคมนี้เปิดรับจองคิวของเดือนมกราคม 2567 และหลังปีใหม่ 2567 ก็จะเปิดจองของเดือนกุมภาพันธ์ต่อ(1 เดือนล่วงหน้า)
สามารถเข้าไปจองผ่านช่องทาง direct message ของอินสตาแกรม rasik.chiangmai และทางเฟซบุ๊กเพจชื่อร้าน Rasik Local Kitchen – รสิก โลคอลคิทเช่น แจ้งชื่อ จำนวนคน เบอร์โทร วัน เวลาคร่าวๆ ถ้าทางร้านตอบรับมาจะมีให้ชำระค่ามัดจำคนละ 500 บาท (อนาคตจะมีจองผ่าน Line@ ด้วย)
ซึ่งจะเปิดเฉพาะมื้อเย็น 17.00-22.00 น.หยุดทุกวันอังคาร แบ่งเป็น 3 รอบ นั่งได้รอบละ 1 ชั่วโมงครึ่ง(17.00-18.30 น. รอบที่สอง 18.30 – 20.00 น. ส่วนรอบสุดท้าย 2 ทุ่มนั่งได้ 2 ชั่วโมงจนถึงปิดร้านสี่ทุ่มเลย) โทรสอบถามได้ที่ 08-3269-6632
น้องหวายเคยทำอยู่ที่ห้องอาหารอิตาเลียนในโรงแรมเลอเมอริเดียนเชียงใหม่ พอออกมาเปิดร้านรสิก หันมาทำเมนูไทยทวิสต์(twist) โดยใช้วัตถุดิบของภาคเหนือ ใต้ อีสาน มีของทะเลสดๆจากเรือประมงพื้นบ้านฝั่งอันดามันด้วย เช่นจากเกาะลิบง จ.ตรัง จากจ.กระบี่และพังงา สดมากจนประหลาดใจ คัดสรรเครื่องปรุงท้องถิ่นหลากหลาย เช่นน้ำปลาสุโขทัย กะปิเกาะลิบง น้ำตาลมะพร้าวชุมพร ปลาร้านครพนม ข้าวหอมมะลิเชียงใหม่ ฯลฯ
โดยแบ่งเป็น เมนูพิเศษ(Special menu) ซึ่งอาจจะไม่ได้มีขายทุกวัน เมนูตามฤดูกาล (Seasonal menu) และ Rasik menu คือเมนูคลาสสิกประจำร้าน เท่านี้ยังไม่พอ ยังมีเมนูพิเศษประจำวันนั้นๆอีกด้วย ซึ่งไม่ควรพลาด โดยเชฟหวายจะทำอาหารในครัวเปิดโล่งอย่างใกล้ชิด
ขอยกตัวอย่างเมนูที่ชิมไปตอนนั้น ซึ่งหลายๆอย่างมีปรับเปลี่ยนใหม่แล้ว พวกเรามา 4 คนสั่งไป 15 อย่าง
เริ่มกันด้วยเมนูคลาสสิกต่างๆของร้าน น้ำตกลิ้นวัว(350 บาท) โคนลิ้นวัวชาโรเลย์หมักดอกเกลือนุ่มหอมเด้งใส่ข้าวหอมมะลิคั่วแกล้มผักชีฝรั่งซอยพริกจินดาทอดหอมแขกแตงกวาจิ้มแจ่วปลาร้าเพิ่ม
และเมนูสำหรับคนกินเนื้อมีอีกเพียบ เนื้อน่องลายตุ๋นย่างพริกลาบข้าวคั่ว (230 บาท) ตุ๋นเนื้อจนเปื่อยนุ่ม คลุกพริกลาบทางเหนือหอมๆ ใส่ข้าวคั่ว ย่างเตาถ่านจนหอม ต่อด้วยไขกระดูกวัวเผาและน้ำพริกข่า(200-300 บาท) ไขกระดูกวัวย่างเตาถ่านให้มีกลิ่นหอม โรยน้ำพริกข่าแก้เลี่ยนและเสริมรสชาติ ช่างสร้างสรรค์เสียจริง
ซึ่งของย่างต่างๆจะแกล้มด้วยผักพื้นบ้านเช่นใบมะตูมแขก ใบชะมวง ใบชะเอม ใบดีปลากั้ง สลับกันไป
ไม่กินเนื้อก็มีซี่โครงหมูสามชั้นย่างสามเกลอดีปลี(280 บาท) ทาซี่โครงจนหอมรากผักชี กระเทียม พริกไทย เพิ่มความหอมร้อนแรงด้วยดีปลี อีกทั้งเมนูซิกเนเจอร์ของน้องหวาย แกงคั่วหมูย่างกุหลาบมอญ(240 บาท) สูตรนี้เคี่ยวกะทิจนข้นหอม ห้ามพลาดเช่นกัน และมีเมนูง่ายๆไข่เจียวน้ำมันหมู(100 บาท) หอมมากเพราะน้ำมันหมูนี่เอง อย่าลืมสั่งข้าวหอมมะลิ(20 บาท)มากินพร้อมกับข้าวต่างๆ
ส่วนเมนูหมวดถัดมาจะเป็นเมนูตามฤดูกาล ซึ่งบางอย่างจะเป็นเมนูพิเศษเฉพาะวันนั้น ซึ่งจะเล่าให้ฟังว่าช่วงนั้นมีอะไรบ้าง(ตอนนี้อาจจะไม่มีแล้ว)
ที่ถูกใจมากๆคือ ยำมังคุดเคยหวานกุ้งสดเม็ดมะม่วง(300 บาท) ยำสามรสกลมกล่อมเข้มข้นมาก กุ้งทะเลเข้ากันดีกับมังคุด ปรุงด้วยเคยหวานหรือกะปิกุ้งหวานจากเกาะลิบง ซึ่งมีความหวานเล็กน้อยและหอมมาก น่าเสียดายที่หมดฤดูกาลแล้ว
พล่าหอยโนรา(ตระกูลหอยสังข์)(400 บาท) คือเมนูพิเศษช่วงนั้นน้องหวายย่างหอยแค่พอสุกเนื้อกรอบนุ่มปรุงด้วยน้ำพล่าผสมน้ำพริกเผาเพิ่มใบมะกรูดตะไคร้ซอยใส่หอมเจียว
คืนนั้นมีหมึกกระดองสดๆจากเกาะลันตา เอามาทำเมนูง่ายๆ หมึกกระดองย่าง(350 บาท)เนื้อเด้งๆเต็มคำ ซึ่งจะล้างด้วยน้ำทะเลมาก่อนอย่างเดียว(ไม่ล้างน้ำจืดเพราะเนื้อจะเหนียว)
เมนูพิเศษประจำวันที่ยกนิ้วให้สองข้างเลย ปลาเจ้าสมุทรย่าง(750 บาท) หมักแค่ดอกเกลือให้เนื้อปลามีความหวานธรรมชาติ ย่างเตาถ่านสุกกำลังดีเนื้อสดชุ่มฉ่ำเป็นก้อน น้องๆปลากิงกิของญี่ปุ่น โรยด้วยพริกไทยปะเหลียนจาก จ.ตรัง
ส่วนเมนูฤดูหนาวตอนนี้จะมี แล้วแต่ใจทะเลจะให้มา(260-1,000 บาท) นำมาย่างเตาถ่าน ให้สอบถามที่ร้านว่าวันนี้มีของทะเลอะไรนะจ๊ะ และมีไก่เมืองต้มบ๊วย(270 บาท) เนื้อปลาดุกย่างเตาถ่าน สะเดาน้ำปลาหวาน(200 บาท) ส่วนเมนูพิเศษประจำฤดูนี้เช่น ต้มแซ่บลิ้นวัว/เนื้อตุ๋น(250 บาท) แกงกะเพราเผ็ดร้อนและปลาทะเล(350 บาท) แค่ได้ยินชื่อก็อยากลองแล้ว
กลับมาที่เมนูคืนนั้น มีเมนูพิเศษประจำวัน ปลากุดสลาดนึ่งกังป๋วย(900 บาท) มาจากทะเลอันดามันสดแสนสด เพิ่มรสชาติความหอมอูมามิด้วยหอยเชลล์แห้งหรือกังป๋วย ส้าผักปลังแหนมทอดเม็ดมะม่วง(150 บาท) (ตอนนี้ไม่มีแล้ว) และผัดผักพื้นบ้าน เชียงดาผัดไข่(100 บาท) กับกุ้งแชบ๊วยผัดพริกขี้หนูสดและกระเทียม(450 บาท)
ปิดท้ายด้วยของหวานอร่อยเข้มข้นสุดๆ มูสครีมชีสปลาแห้ง(สอบถามของหวานประจำวันกับที่ร้านได้เลย) น้องหวายนำคอนเซปต์ข้าวเหนียวหน้าสังขยากับปลาแห้งมาใช้ คือมูสกะทิสดแช่เย็นจัดๆกับครีมชีส ใส่เนยเล็กน้อย โรยด้วยปลาแห้ง น้ำตาลมะพร้าว เม็ดมะม่วง หอมมันอุดมสมบูรณ์มากๆ
และช่วงนี้มีเมนูใหม่ ไอศกรีมครีมชีสน้ำตาลมะพร้าวใส่ดอกเกลือโรยด้วยปลาแห้งปิ่นโตเถาเล็กจะกลับไปลิ้มลองอีกตอนปลายปี
นี่คือร้านอร่อยมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครของเชียงใหม่ สมแล้วที่ได้ไปอยู่ในทำเนียบของมิชลิน แฟนๆที่นิยมชมชอบรสชาติใหม่ๆปรุงอย่างสร้างสรรค์ รีบจองโดยด่วนเลยนะจ๊ะ ขอให้มีความสุขกับการกิน
ปิ่นโตเถาเล็ก
ข้อมูลร้าน
รสิก Rasik Local Kitchen
โดย คุณสาละ(หวาย) ศักดาเดช และคุณฝ้าย–ชนิดา รัตนมโนไพบูลย์
ที่ตั้ง 44/3 ถ.ศรีดอนไชย ต.ช้างคลาน อ.เมือง (ตรงข้ามโรงแรมมณีนาราคร)
จ.เชียงใหม่ 50100
โทร 083-269-6632
เปิดบริการ 17.00 – 22.00 น. พุธ–จันทร์
หยุด อังคาร
หมายเหตุ ต้องจองโต๊ะล่วงหน้าทาง direst message ที่อินสตาแกรมและเฟซบุ๊ก
คิวยาวครึ่งเดือนแล้ว
แนะนำ เมนูไทยทวิสต์(twist) โดยใช้วัตถุดิบภาคเหนือ ใต้ อีสาน และมีของทะเลสดๆ เปลี่ยนตามฤดูกาล
