
ในวันที่ทรัพยากรร่อยหรอลงไปทุกเมื่อ เชื้อเพลิงกลายเป็นของล้ำค่ามนุษย์หวั่นถูกแทนที่ด้วยเอไอ สูงวัยพุ่งสวนทางการเกิดใหม่
ไหนจะปากท้องประชากร เศรษฐกิจที่แข่งขัน การเมืองโลกพัลวัน
ฝุ่นควัน โลกร้อน อุณหภูมิแปรปรวน ล้วนเป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องไฮไลต์
ทุกความผันผวนในโลกปัจจุบันอาจสำคัญน้อยกว่า ‘ลมหายใจ’
เพราะหากปอดที่หล่อเลี้ยงทุกวงจรชีวิตดับสูญ อุตสาหกรรมจะไปต่ออย่างไรไหว?
เป็นเหตุผลว่าทำไมประชากรโลกถึงหันมาสนใจ ‘NET ZERO’
“ถ้าเรามีระบบแบตเตอรี่ที่ดี ผมเชื่อว่าน่าจะเปลี่ยนโครงสร้างพลังงานของประเทศได้ ทำให้เราไปสู่ความกรีนมากขึ้น”

รศ.ดร.เติมศักดิ์ ศรีคิรินทร์ ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (MTEC) เสียบกุญแจไขล็อก สอดส่องทุกประตูที่พอจะช่วยอุดช่องโหว่ปัญหา พาไทยก้าวเข้าสู่อุตสาหกรรม 4.0
เปิดแล็บ เตรียมทัพนักวิจัยตัวท็อป จัดเต็มโชว์เคสมากกว่าครั้งไหน
หลังร่วมมือสร้าง ‘เปลปกป้อง’ ที่พาคนไทยผ่านพ้นวิกฤตครั้งใหญ่ใช้ขนย้ายผู้ป่วยในช่วงเวลาที่โควิดย่ำกราย เมื่อไม่นานมานี้ผู้บริหารมติชน และสื่อ นำทีมโดย ปานบัว บุนปาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) รุดเยือนสถาบันที่ใช้ความเข้มแข็งด้านงานวัสดุ ปรุงแร่ธาตุ ใช้เทคโนโลยีมาผสานจนเกิดเป็นวัสดุที่ ‘รับผิดชอบสิ่งแวดล้อม’ พร้อมถ่ายทอดสินทรัพย์ทางปัญญา ปั้นผู้ประกอบการ SMEs ไทย

เตียงที่คุณยายลุกแล้วไม่ล้ม ชุดพยุงเคลื่อนไหวไม่บาดเจ็บ อุปกรณ์แจ้งเตือนความเสี่ยงให้ลูกหลานรับรู้ เนื้อไก่จากถั่วเหลืองโปรตีนแน่นๆ ทรายแมวทิ้งลงชักโครกได้ หุ่นยนต์กำจัดวัชพืช คอนกรีตบล็อกสายกรีนที่น้ำไม่ขัง เหมาะนำมาทำฟุตปาธไทยแลนด์ให้รู้รอด
เหล่านี้ไม่ใช่เพียงผลลัพธ์จากความมุ่งมั่นทดสอบ แต่คือคุณภาพชีวิตของประชากรไทยที่ยกระดับ
ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ เอ็มเทคไม่หยุดมองหาความเป็นไปได้ ออกแบบในเชิงนโยบาย หนุนองค์ความรู้ให้ภาคธุรกิจนำแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ไปแอพพลาย พร้อมทำงานร่วมกับกระทรวงอุตสาหกรรม ผลักดันรถ EV พัฒนาแบตเตอรี่ที่ปลอดภัย และอีกมากมายนับไม่ถ้วน
เราจะไปสู่จุดนั้นได้อย่างไร เมื่อรีไซเคิลยังไม่ยั่งยืน สารเคมีที่ถูกแบนไทยจะไปทางไหน ยืนยาวทั้งระบบไม่ฟอกเขียวทำอย่างไร มีคำตอบ
“เราจะพาเยี่ยมชม MTEC รวมถึงอีกหลายกิจกรรมภายใน สวทช. ทั้งโชว์เคส นวัตกรรม เทคโนโลยีต่างๆ การลดโลกร้อน ตอนนี้เราเน้นทำเชิงนโยบาย เฟสต่อไปจะมุ่งไปในเรื่องของการลดคาร์บอนและขับเคลื่อนไปสู่ NET ZERO”
หัวเรือเอ็มเทคต้อนรับขับสู้ ก่อนพาทัวร์สถานประกอบร่างนวัตกรรมที่ซุกซ่อนอยู่ภายในอุทยานวิทยาศาสตร์
เล่าทิศทางการขับเคลื่อนงานวิจัยก้าวต่อไป ที่มีพันธกิจสอดประสานกับนโยบายรัฐบาล คือการ ‘ขับเคลื่อนเศรษฐกิจหมุนเวียน’ ให้เกิดขึ้นจริง

ไม่จบแค่ในแล็บ
ต้องไปถึงประชาชน
รศ.ดร.เติมศักดิ์เผยทิศทางการขับเคลื่อนงานวิจัยในปีนี้ ซึ่ง ‘เอ็มเทค’ พุ่งเป้าให้ไปสู่สาธารณะ เน้นแก้ไขปัญหาที่สำคัญของชาติ
“ไม่ใช่แค่วิจัยแล้ว เราอยากจะผลักดันให้ไปถึงผู้ใช้งาน จึงมุ่งเน้นให้ตอบโจทย์ทั้งห่วงโซ่แห่งคุณค่า (Value Chain) ด้วยนโยบายของทางกระทรวงอุตสาหกรรม ที่มองงานวิจัยเป็นการลงทุน ไม่ใช่วิจัยเพื่อวิจัย แต่จะวิจัยเพื่อแก้ไขปัญหาที่สำคัญของประเทศ หรือแก้ปัญหาของภาคเอกชน เราจึงมุ่งเน้นไปในทิศทางนี้”
แล้วอะไรคืออุปสรรคที่ทำให้งานวิจัยไม่ถูกนำไปใช้จริง?
รศ.ดร.เติมศักดิ์ชวนตั้งคำถามถึงสิ่งที่เราผลักดันกันมาก อย่าง Doing The Project Right
“Doing The Project Right ผมเชื่อว่านักวิจัยของเราไม่มีปัญหา ทุกคนเก่ง มีความสามารถหมด แต่ Doing The Right Project เลือกโปรเจ็กต์ที่มีผลกระทบอะไรขึ้นมา หรือแก้ปัญหาถูกจุด เป็นเรื่องยาก”
ความร่วมมือกับผู้ที่เกี่ยวข้อง (Stakeholder) ก็สำคัญ ซึ่ง ‘วิจัยและพัฒนา’ เป็นเพียงต้นน้ำเท่านั้น
‘บ่มเพาะเทคโนโลยี’
ให้องค์ความรู้ แปลงร่างสู่ธุรกิจ
ในฐานะกลไกต้นน้ำ ‘เอ็มเทค’ เล็งเห็นความสำคัญยิ่งของการต่อยอดเทคโนโลยีที่มีอยู่แล้ว
“ผมเชื่อว่าทำให้ Technology Localization ได้ (พัฒนาเทคโนโลยีจากต่างประเทศสำหรับอุตสาหกรรมยุทธศาสตร์) เหมือนที่จีนสำเร็จในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา คือนำเข้าเทคโนโลยีมาก่อน ใช้งานเลย ผมได้ไปดูเรื่อง ‘ไผ่’ เป็นพืชที่น่าสนใจ โตเร็วและมีคุณสมบัติที่ดี แต่ยังขาดงานวิจัยที่จะไปสนับสนุน คงจะต้องมีหน่วยลาดตระเวนนำมาวิเคราะห์ว่าเราควรจะใส่อะไรลงไปได้บ้าง”
เห็นจุดที่ขาดคือมาตรฐาน อย่างเรื่องอาหาร รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานก็เป็นอีกเรื่องที่ต้องดู
“ภาคเอกชนเก่งอยู่แล้วในเรื่องวิจัยและพัฒนา แต่ยังขาดการผลักดันทางด้านมาตรฐาน ซึ่งเอกชนไม่สามารถไปเป็นผู้คุมกฎได้ จึงต้องการมือที่สาม (Third Party) ที่มีความเป็นเอกเทศ (Independent) ให้ผลที่ไม่มีอคติ

อย่างเราก็จะไปเป็น Account Third Party ให้ในเรื่องนั้นๆ เริ่มต้นด้วยการหาโปรเจ็กต์แบบ Doing The Right Project ด้วยการวิเคราะห์ทั้ง Value Chain และดูผู้รับช่วงต่อ ลำพังในทางการแพทย์เราก็พลาดกันมาเยอะเพราะไม่ดูทั้งกระบวนการว่าตรงกลางมีกฎ หรือมีประกาศรองรับหรือเปล่า พอทำไปปุ๊บ วิจัยกันแทบตาย สุดท้ายไม่สามารถลงทุนได้” ผอ.เอ็มเทคฉายภาพอุปสรรคให้เห็นอย่างแจ่มชัด
ข้อดีคือ เราถูกออกแบบจุดยืนไว้ดีมาก ‘อยากให้เป็นส่วนหนึ่ง ไม่อยากให้ไปแข่งกับเอกชน’ จึงรับบทเป็นกาวประสาน สร้างกลไกการให้องค์ความรู้เพื่อแปลงร่างไปเป็นธุรกิจได้
“แต่มีหน้าที่หนึ่งที่ผมเรียกว่า คอยบ่มเพาะเทคโนโลยี (Incubate Technology) เราจะเน้นเรื่องนี้เยอะ”
ดร.เติมศักดิ์ย้ำจุดยืนหนักแน่น พร้อมเปิดประตูต้อนรับทุกภาคส่วน มีหน่วยพัฒนาธุรกิจคอยให้คำปรึกษาโดยเฉพาะ
มอง ‘ประเทศเป็นบริษัท’
ผู้สูงวัย ต้องอยู่เองได้
แน่นอนว่าหลายบริษัทไม่ใหญ่พอที่จะมี R&D เป็นของตัวเอง และการบริหารจัดการทรัพย์สินทางปัญญาถือเป็นงานยักษ์
“เราคาดว่าสิ่งหนึ่งที่น่าจะนำมาใช้ประโยชน์ได้มาก คือรูปแบบของการมอง ‘ประเทศเป็นบริษัท’ เราอยากเป็นเหมือนหน่วย R&D Out-source ที่คอยสนับสนุนภาคธุรกิจ ที่เรามองเป็นฝ่ายขาย ฝ่ายผลิต วิจัยให้ทางอุตสาหกรรมนำไปใช้ประโยชน์ เก็บความลับของการร่วมพัฒนา ช่วยให้เกิดความคล่องตัวขึ้น ไม่ต้องไปปวดหัวเรื่องวิจัย”

ไม่ถามไม่ได้ Smart Life, Well Living มาแรงสุดๆ รศ.ดร.เติมศักดิ์มองเทรนด์เรื่องนี้อย่างไร?
Well Living สำหรับผู้อำนวยการท่านนี้เชื่อว่ามีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะเรากำลังจะก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย ที่ในอนาคตน่าจะต้องอยู่ได้ด้วยตัวเอง จึงต้องมีอุปกรณ์ต่างๆ เข้ามาช่วยเหลือ ตั้งแต่ชุดสวมใส่ อุปกรณ์การแพทย์ เครื่องมือช่วยเหลือภายในบ้าน ซึ่งปัจจุบันก็ได้พัฒนา Ross ขึ้นมาสำหรับผู้ดูแล พยาบาล เวรเปล หรือบุคคลทั่วไปที่ดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน ต้องยกเคลื่อนย้ายผู้ป่วย
“เป็นโครง (Exoskeleton) ที่ใส่เป็นบอดีสูทพยุงหลัง เป็นอุปกรณ์เหมือนในหนัง จะช่วยผ่อนแรงเวลาเดินเหิน หรือยกของ คาดว่าน่าจะไปถึงตรงนั้นได้” ผอ.เอ็มเทคเชื่่อมั่น
‘แบตเตอรี่’ คืออนาคต
เปลี่ยนโครงสร้างพลังงานประเทศ
ถามถึงงานวิจัย ชิ้นที่น่าจะมีบทบาทสำคัญในโลกอนาคตได้ชัวร์
ผอ.เอ็มเทคกระซิบ ‘มีหลายเรื่องมาก’ ทั้งเรื่องการลดคาร์บอน การกักเก็บพลังงาน ที่นำมาโชว์รอบนี้เป็นเทรนด์ในอนาคตทั้งหมด
“เวลาทำงานวิจัยเราจะต้องนำเทรนด์ไปหนึ่งก้าว อย่างทุกวันนี้มีเรื่อง ‘แบตเตอรี่’ มองออกไปแสงแดดส่องลงมาทั้งวัน มีโซลาร์เซลล์ไปเก็บเกี่ยว แต่ยังไม่มีหน่วยกักเก็บไฟไว้ใช้ตอนกลางคืน เหมือนน้ำที่ต้องมีโอ่งคอยรองน้ำไว้เป็นหน่วยสะสม
พลังงานพวกนี้มีความสำคัญมาก แตกต่างจากพลังงานพวก Fossil Fuel ทั้งน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ มาจากการที่เราไปขุดคาร์บอนขึ้นมา สุดท้ายก็มาปลดปล่อยในชั้นบรรยากาศ ซึ่งเชื่อกันว่าทำให้เกิดสภาวะโลกร้อน เราจึงพยายามทำอะไรจากพื้นดินแล้วก็ใช้กันบนนี้” รศ.ดร.เติมศักดิ์ชี้เป้าหนึ่งในกลไกที่สำคัญมาก

จินตนาการว่าถ้าเรามี ‘ระบบแบตเตอรี่’ ที่ดี น่าจะเปลี่ยนโครงสร้างพลังงานของประเทศได้ เขยิบเข้าใกล้ความกรีนมากขึ้น
“ในส่วนของ TRIS ACADEMY CLUB ซึ่งเรียกตัวเขาเองว่า หน่วยสอดแนม คอยศึกษาเรื่องที่โลกสนใจ เรื่องการปลดปล่อยคาร์บอนเป็นอย่างไร จะกลายมาเป็นอีกกลไกที่สำคัญทางการค้า ทำงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับกลุ่มอลูมิเนียมและกลุ่มเหล็กของทางสภาอุตฯ ตัวเขาเองเรียกว่าเป็นเหมือนหน่วยลาดตระเวนที่จะต้องตามไปด้วยกองทัพ ต่อไปเป็นขั้นตอนที่สำคัญคือ ‘การลดอย่างจริงจัง’ ทำอย่างไรให้ไปช่วยลดค่าคาร์บอน อีมิชชั่นได้ อีกส่วนคือพวกการประเมินคาร์บอนฟุตพรินต์ เราจะต้องมาออกแบบตรงนี้กันก่อน
นอกจากคำนึงถึงต้นทุนทางด้านเศรษฐศาสตร์แล้ว ยังต้องคำนึงถึงต้นทุนทางด้านสิ่งแวดล้อมด้วย” ผอ.เอ็มเทคมองยาวทั้งสายพาน
เลี่ยงไม่ได้ เป้าหมาย ‘ปลอดคาร์บอน’
ต้องช่วยพยุงอุตสาหกรรม
เรียกว่าเป็นงานวิจัยล้ำหน้าเทรนด์ 4 ปีเป็นอย่างต่ำ อาจมีส่วนช่วยขับเคลื่อนประเทศไทยให้พิชิตเป้าหมาย
ดร.อศิรา เฟื่องฟูชาติ รองผู้อำนวยการ MTEC เป็นตัวแทนเล่า 4 กลยุทธ์ ทิศทางบูสต์อัพศักยภาพอุตสาหกรรมไทย ด้วย ‘เทคโนโลยีวัสดุ’

“อยากให้อุตสาหกรรมในประเทศเจริญก้าวหน้า ท้ายที่สุดแล้วคุณภาพชีวิตของคนไทยก็จะดีขึ้นไปด้วย”
ในศักราชนี้ปักหมุดวิจัยใน 4 ธีมหลัก
ธีมแรก การขับเคลื่อนประเทศด้วยเทคโนโลยีวัสดุสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์
“เป็นหนึ่งในความรับผิดชอบของคนที่ทำงานวัสดุศาสตร์ เราต้องดูแลสิ่งแวดล้อมและโลกของเราด้วย
โฟกัสเรื่อง NET ZERO, การมี DATA BASE ที่จะบ่งบอกถึงเรื่องคาร์บอน, เป้าหมาย Sustainable Development Goals (SDGs) เรื่อง The Chemicals in Products (CiP) เราก็มุ่งเน้นไปที่พลาสติก ที่อยากให้เข้าสู่วงจรหมุนเวียน (Circular Economy) มองถึงเรื่อง End of Waste และดูเรื่องการนำเอาคาร์บอนจากบรรยากาศเข้ามากักเก็บในวัสดุ ในพื้น” ดร.อศิราเผย
ท้ายที่สุด ‘น้ำ’ สำคัญต่อชีวิตมาก เพราะกว่า 90% ของร่างกายเราเป็นน้ำ ดังนั้น การสร้างวงจรหมุนเวียนน้ำ (Circular Water) เป็นอีกเรื่องที่ขับเคี่ยวอย่างหนัก
ธีม 2 นวัตกรรมอุปกรณ์การแพทย์และสุขภาพ ทั้งฝังเข้าไปในร่างกาย หรืออยู่นอกร่างกาย คอย Active ช่วยเหลือผู้สูงวัย รวมถึงแบบ Passive ที่ไม่ได้ใช้พลังงานก็มีการพัฒนาเช่นกัน มีแพลนต์เบส ฟู้ด ที่รองรับเทรนด์ในอนาคตที่คนจะหันมารักสุขภาพมากขึ้น
ธีม 3 การพัฒนาเทคโนโลยีวัสดุออกแบบสำหรับอุตสาหกรรมการผลิตและการขนส่ง
“ถ้าเทียบทั้ง 4 เสา เสานี้จะใหญ่มาก เป็นเสาหลักที่จะไปช่วยอุตสาหกรรมการผลิตและขนส่ง เราพยายามโฟกัสเรื่อง Industry 4.0 เพื่อผลักดันไทยไปเป็น 4.0 ให้ได้ อีกสิ่งที่สำคัญคือยานยนต์สมัยใหม่ ความปลอดภัยในการเดินทาง โดยดูทั้งคน รถ และถนนไปพร้อมกัน” รอง ผอ.MTEC เผย
ธีม 4 การพัฒนาวัสดุชีวภาพสู่ผลิตภัณฑ์สมบัติเฉพาะที่มีมูลค่าสูง
บ้านเรามีพื้นฐานร่ำรวยทางชีวภาพ อย่าง ‘ยางพารา’ ที่มองในแง่กรีนรับเบอร์ นำของเหลือจากเกษตรกรรม สกัด Lignin จากพืช ออกมาใช้งาน ทำเป็นเบาะรองนั่งเพื่อสุขภาพ แก้กดทับ รวมถึงพัฒนาโพลิเมอร์ เช่น PLA เป็นแพคเกจจิ้งรักษ์โลกสำหรับใส่อาหาร
เรียกว่ามุ่งเน้นเต็มๆ ในการนำพาประเทศไปสู่ความเขียว
“ที่เราสนใจเรื่องนี้ เพราะอุตสาหกรรมที่ส่วนใหญ่ยังปล่อยก๊าซเรือนกระจกค่อนข้างเยอะ กว่า 60% มาจากการผลิตและการใช้พลังงาน และอีกกว่า 10% มาจากกระบวนการในอุตสาหกรรมด้วยซ้ำ
เมื่อไทยจะมุ่งไปสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ในปี 2050 และเป็น Net Zero ภายในปี 2065 เลี่ยงไม่ได้เลยที่จะต้องทำงานวิจัยและนวัตกรรมให้ตอบโจทย์ เพื่อไปช่วยพันธมิตรในอุตสาหกรรม”
ดร.อศิราทิ้งท้าย
ติดอาวุธ ยกระดับความเป็นอยู่
คลอดสู่ตลาด
คิดค้น วิจัย กระทั่งคลอดออกสู่ตลาด
สำหรับ 5 โปรดักต์ที่ได้รับทุนสนับสนุนจากคณะกรรมการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (กพข.) เพื่อทำโครงการยกระดับนวัตกรรมฐานวัสดุให้ออกสู่ตลาดชั้นนำ สร้างความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
“เราติดอาวุธทางนวัตกรรมให้กับคนตัวเล็ก บริษัทย่อมๆ และตรงกลาง เสริมพลังให้เขาเติบโตอย่างยั่งยืนทุกด้าน โดยคัดเลือก 5 บริษัทนำร่อง”
ระพีพันธ์ ระหงษ์ นักวิเคราะห์อาวุโส ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ (MTEC) เล่าที่มา ก่อนแนะนำความพีคของสินค้าที่น่าซื้อหาอย่างยิ่ง
ไม่ว่าจะ ‘Power Lift Bed’ ที่สูงวัยลุกแล้วไม่ล้ม ซึ่ง SB Design Square รับถ่ายทอดเทคโนโลยี ‘เตียงโจอี้’ หรือเตียงตื่นตัว อยู่ระหว่างขึ้นลิสต์นวัตกรรม พร้อมพาออกไปสู่ตลาดใหม่อย่าง รพ. สถานผู้สูงวัย
‘รถพยาบาลปลอดภัยด้วยเทคโนโลยีเอ็มเทค’ มีโครงสร้างแข็งแรง น้ำหนักเบา ผลิตโดย สุพรีร่า อินโนเวชั่น จำหน่ายพร้อม ‘เปลปกป้อง’ (PETE) ความดันลบ ที่ได้รับการสนับสนุนจากมติชน ในช่วงโควิด

หรือจะเป็น Ve-Chick เนื้อไก่จากถั่วเหลือง โปรตีนพืช โดย AUROMEX Food, ผลิตภัณฑ์แบรนด์ Goodies เอาใจสายทาสแต่ประนีประนอมกับธรรมชาติ ทั้งทรายแมวเททิ้งชักโครกได้ ทำจากกากมันสำปะหลังและกากเส้นใยสับปะรด รวมถึงขนมที่ช่วยให้น้องสุขภาพดี อยู่ได้ไปนานๆ ในฝั่งโครงสร้างก็มีคอนกรีตน้ำซึมผ่านเร็ว บล็อกช่องลมจากเศษกระเบื้อง และผลิตภัณฑ์อาคารเขียวแบรนด์ Kenzai พร้อมเสิร์ฟ
เพราะการทำงานกับวัสดุ คงคุณค่าทรัพยากรนั้นให้นานที่สุด คือหัวใจหลัก
ไม่ใช่การเปลี่ยนขยะ แต่ค้นหานวัตกรรมที่ทำให้ตายแล้วฟื้นกลับมาใหม่ได้ จึงจะใกล้เคียงกับเศรษฐกิจหมุนเวียนที่แท้
อธิษฐาน จันทร์กลม