ผู้เขียน | นฤตย์ เสกธีระ |
---|
ฮับของภูมิภาค
ดูเหมือน นายกฯเศรษฐา ทวีสิน จะมุ่งมั่นกับการผลักดันไทยให้เป็นฮับ
ก่อนหน้านี้ให้สัมภาษณ์บ่อยๆ ว่าอยากให้ไทยเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคในด้านต่างๆ
วันก่อนขึ้นเวทีแถลงวิสัยทัศน์ “IGNITE THAILAND : จุดพลัง รวมใจ ไทยต้องเป็นหนึ่ง”
ผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางหรือฮับ 8 ด้าน
1.เป็นศูนย์กลางเมืองท่องเที่ยว 2.เป็นศูนย์กลางด้านการแพทย์และสุขภาพ 3.เป็นศูนย์กลางอาหาร 4.เป็นศูนย์กลางการบิน
5.เป็นศูนย์กลางขนส่งของภูมิภาค 6.เป็นศูนย์กลางผลิตยานยนต์แห่งอนาคต 7.เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจดิจิทัล
และ 8.เป็นศูนย์กลางทางการเงิน
ความมุ่งมั่นให้ไทยเป็นศูนย์กลางหรือฮับของภูมิภาคนี่น่าสนใจ เพราะด้วยภูมิศาสตร์ไทยก็เป็นฮับโดยธรรมชาติอยู่แล้ว
ย้อนกลับไปในยุคอดีต ผืนดินแถบนี้เรียกว่า “สุวรรณภูมิ” เป็นศูนย์กลางทางการค้า มีทองแดงเป็นสินค้าที่โลกต้องการ
การเป็นศูนย์กลางทางการค้าทำให้บ้านเมืองเจริญรุ่งเรือง
เมื่อสัปดาห์ก่อนได้ร่วมทริปไปกับอาศรมสยาม-จีนวิทยา เยือนเมืองท่าสำคัญของจีนในมณฑลกวางตุ้ง
หนึ่ง คือ นครกว่างโจว อีกหนึ่ง คือ เมืองซัวเถา
นครกว่างโจว เป็นต้นทางเส้นทางสายไหมทางทะเลสมัยโบราณ
เป็นสถานที่สำคัญเพราะเปรียบเหมือนเป็นประตูเปิดเข้า-ออกจากจีนสู่โลก
เมื่อภูมิศาสตร์เอื้ออำนวย กว่างโจวจึงกลายเป็นเมืองการค้าที่สำคัญขึ้นมาในทันที
เช่นเดียวกับเมืองซัวเถาที่มีท่าเรือ ตามประวัติระบุว่าหลังสงครามฝิ่นครั้งที่ 2 มีบริษัทต่างชาติเข้ามาทำธุรกิจทำให้ท่าเรือซัวเถามีความสำคัญมากขึ้น
เมื่อการค้าขายดี เศรษฐกิจในเมืองก็อู้ฟู่ เสียดายที่เงินซึ่งได้มานั้นกระจุกตัวอยู่เฉพาะกลุ่ม ทำให้คนอีกจำนวนมากในเวลานั้นอยู่ไม่ได้ ตัดสินใจเคลื่อนย้ายไปเสี่ยงโชคในดินแดนแห่งใหม่
เหลียวมามองกรุงศรีอยุธยาที่เจริญงอกงาม ส่วนสำคัญที่ผลักดันก็เพราะเป็นศูนย์กลางการค้าระหว่างโลกฟากฝั่งจีนกับโลกฟากฝั่งเปอร์เซีย
เป็นที่ทราบกันว่า ก่อนหน้าที่จีนจะตัดสินใจใช้สำเภาทำการค้าเอง ศูนย์กลางการค้าย่านนี้ยังอยู่แถวๆ เขมร แต่ภายหลังจีนมองเห็นทำเลที่อยุธยาว่าเหมาะสมกว่า
ประกอบกับจีนมีความสัมพันธ์กับเจ้านครอินทร์ ทำให้ศูนย์กลางทางการค้าเปลี่ยน
เมื่อศูนย์กลางทางการค้าเปลี่ยน เขมรที่เคยสำคัญก็ถูกลดความสำคัญลงไป ขณะที่อยุธยากลับกลายเป็นเมืองที่นักเดินเรือทั่วโลกรู้จัก
หากใครติดตามหนังสือ “กรุงศรีอยุธยาในแผนที่ฝรั่ง” ผลงาน ธวัชชัย ตั้งศิริวานิช ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 2 ที่สำนักพิมพ์มติชนจัดพิมพ์ขึ้น
หลักฐานที่ปรากฏเหล่านั้นยืนยันว่า อยุธยาเป็นเมืองสำคัญในสายตาชาวโลก
เป็นเมืองสำคัญเพราะเป็นฮับของการค้า และการเดินทางทางทะเลของโลก
น่าเสียดาย ช่วงเวลา 10-20 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยกลายเป็น “มนุษย์ล่องหน” ในมุมมองของ อาจารย์สุรชาติ บำรุงสุข เพราะเหตุเกิดจากการรัฐประหาร
ต่างชาติฝั่งอเมริกา และยุโรป มองข้ามประเทศไทย และงัดกฎกติกาต่างๆ นานาขึ้นมากีดกัน
ขณะเดียวกัน โครงการ “วันเบลต์ วันโรด” (One Belt One Road หรือ OBOR) ของจีนก็ไม่มีเส้นทางเชื่อมโยงมาถึงไทย
หรือจะว่าไป ไทยก็ไม่มีเส้นทางไปเชื่อมโยงกับโครงการจีน
สถานการณ์ปัจจุบันจึงน่ากังวลว่าไทยจะสูญเสียความเป็นศูนย์กลางทางการค้าและการเดินทางไปหรือไม่
และถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ผลกระทบใหญ่หลวงจะเกิดขึ้น เพราะในประวัติศาสตร์ หลายเมืองที่เคยรุ่งเรือง พอมาถึงยุคที่ขาดความโดดเด่นทางการค้า อาณาจักรนั้นก็เสื่อม
สำหรับประเทศไทย เราเชื่อมั่นว่ามีภูมิรัฐศาสตร์ที่ได้เปรียบ
เป็นศูนย์กลางของภูมิภาคอาเซียน
แม้ที่ผ่านมา สิ่งที่เราคิดตรงกับสิ่งที่โลกคิด แต่วันนี้ สิ่งที่เราคิดจะตรงกับสิ่งที่โลกเข้าใจหรือเปล่ายังเป็นคำถามที่รอคำตอบ
ในขณะที่รอคำตอบ ไทยจำเป็นต้องประกาศให้โลกทราบว่ามีความพร้อมในการเป็นศูนย์กลางในภูมิภาค
พร้อมที่จะเป็นฮับในภูมิภาค
เป็นศูนย์กลางการบิน เป็นศูนย์กลางการขนส่ง เป็นศูนย์กลางการค้า และอื่นๆ
ต้องประกาศให้โลกรู้ว่าในภูมิภาคนี้ ที่ตั้งประเทศไทยนี่แหละทำเลดีที่สุด
การประกาศออกไปจะช่วยให้ไทยกลับมามีตัวตน ไม่เป็นมนุษย์ล่องหน
การประกาศออกไปทำให้นานาชาติกลับมามองประเทศไทยอย่างที่เคยเห็น
มองเห็นไทยเป็นประตูสู่อาเซียน มองเห็นไทยเป็น “สุวรรณภูมิ”
เป็นทำเลทองทางการค้า การท่องเที่ยว และอื่นๆ ในอาเซียน
นโยบายผลักดันไทยเป็นฮับภูมิภาคจึงไม่ธรรมดา
ถ้าทำได้ เศรษฐกิจไทยจะฟื้นฟู
เศรษฐกิจเติบโต คนในชาติก็ลำบากน้อยลง
นฤตย์ เสกธีระ