คอลัมน์ เริงโลกด้วยจิตรื่น: เหตุต้องเรียนรู้จากจิตตัว

เพราะวิธีการศึกษาที่มนุษย์เราใช้เรียนรู้มาตั้งแต่เด็ก เป็นแบบทำความเข้าใจโลกและชีวิตจากสิ่งภายนอก

พอเกิดมาเรามีพ่อแม่ใครต่อใครที่รายล้อมรอบตัวคอยบอกว่า สิ่งนั้นเป็นอย่างโน้น สิ่งโน้นเป็นอย่างนี้ สิ่งนั้นดี ไม่ดี

ความเป็นจริงต่างๆ จึงเริ่มต้นจากคนอื่นๆ

เมื่อถึงวัยเข้าสู่ระบบการศึกษา ความเป็นจริงตามกรอบการเรียนการสอนได้เข้ามาครอบงำเราไว้อีกชั้น

Advertisement

ขณะเดียวกัน กลไกของสังคมที่ยื่นส่งความเชื่อต่างๆ ให้กับเราตามวิธีการหล่อหลอมของวัฒนธรรม ประเพณี ค่านิยมสารพัด

รวมไปถึงระบอบการเมืองการปกครองที่มีเครื่องไม้เครื่องมือที่จะหลอมความเชื่อของประชาชนให้ไปในทิศทางเดียวกันอย่างเข้มข้น

เหล่านี้จึงทำให้มนุษย์เราส่วนใหญ่เติบโตไปตามความเชื่อที่ถูกครอบงำ หลอมหล่อ

Advertisement

และนั่นเป็นความคุ้นชิน จนไม่ทันนึก หรือนึกไปไม่เคยถึงว่ามีความเป็นจริงอีกแบบที่วิธีการเรียนรู้แตกต่างสิ้นเชิงจากที่เคยชินอยู่

นั่นคือการรู้ได้ด้วยตัวเอง เกิดความเข้าใจเพราะได้สัมผัสเรื่องราวนั้นได้ด้วยตัวเอง

ทุกคนต่างมีประสบการณ์มากมายทั้งที่เหมือนๆ กัน และแตกต่างกัน แต่การรับรู้ว่าเรื่องราวนั้นความเป็นจริงคืออะไรกลับแตกต่างกัน เพราะเราเคยชินที่จะตัดสินว่าอะไรจริงอะไรไม่จริงจากความเชื่อ

จากความเชื่อที่ยึดถือมาแตกต่างกัน ทำให้การตีค่าประสบการณ์ หรือสิ่งที่ได้รับรู้ต่างกันไป

ด้วยความเคยชินที่ถูกปลูกฝังมายาวนาน ทำให้ยากที่จะกลับมาสู่การรับรู้เรื่องราวจาก “จิตบริสุทธิ์” อันหมายถึงจิตที่ไม่อยู่ในการครอบงำของความเชื่อใดๆ

อาจจะมีบางเรื่องที่ต่อมาเรารับรู้ได้ด้วยประสบการณ์ของตัวเองว่าเป็นจริง หรือไม่เป็นจริงตามที่กล่าวขาน บอกเล่ากันมา แต่เรื่องราวส่วนใหญ่เป็นความยึดถือว่าจริงอยู่ด้วยความเชื่อ

การถูกหล่อหลอมมากระทั่งเกิดความเคยชินที่จะคิดตามความเชื่อที่ถูกปลูกฝังมานั้น ทำให้เราถนัด และชื่นชอบที่จะเรียนรู้เรื่องราวต่างๆ จากสิ่งภายนอก

เป็นความเคยชินที่ทำให้เราไม่นึก หรือไม่เคยคิดที่จะนึกว่า ยังมีหนทางรับรู้ความเป็นจริงอีกทางนั่นคือ พิจารณาอาการต่างที่เกิดกับจิตเราให้เข้าใจ

เข้าใจอาการ เข้าใจเหตุของอาการ

สัมผัสถึงการคลี่คลาย เปลี่ยนแปลงจากอาการหนึ่งไปเป็นอาการอีกอย่างหนึ่ง ด้วยการรับรู้ถึงวิธีการที่ทำให้เกิดการคลี่คลาย เปลี่ยนแปลงนั้นอย่างกระจ่างชัด

หนทางที่ก้าวข้ามความเชื่อทั้งหมด หลุดจากเปลือกที่ถูกหล่อหลอมมา ถอนรากถอนโคนจากการปลูกฝัง

เห็นและรับรู้ได้ด้วยสภาวะจิตที่เป็นอิสระจากการครอบงำทั้งหลายทั้งปวง

เห็นได้ด้วยตัวเอง รู้ได้ด้วยตัวเอง รู้ที่อาการที่เกิดขึ้นกับตัวเอง

เป็นความรู้ที่กระจ่างชัด จริงแท้โดยมิพักต้องตั้งคำถามว่าควรเชื่อหรือไม่อย่างที่เคยเรียนรู้จากภายนอก

เพียงแต่ว่าการจะไปรู้การรับรู้โดยด้วยการหลุดพ้นจากความเชื่อนั้น

จำเป็นต้องสละความเชื่อทั้งหลายทั้งปวงทิ้งไป

ตรงนี้เป็นเรื่องไม่ง่ายเลย สำหรับชีวิตที่ถูกทำให้คุณชินกับการต้องพึ่งพาการเรียนรู้จากภายนอกมาตลอดการดำรงอยู่

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image