ชีวิตจริงพริ้งกว่านิยาย : คอลัมน์ โลกสองวัย

ก่อนมกราคม 2560 จะหมดเดือน ข้าพเจ้า (ผู้เขียน) ได้รับหนังสือมาเล่มหนึ่งจากนักกลอน หรือจะเรียกว่า “กวี” คงไม่ผิด แต่หากจะเรียกตามสถานภาพ “แห่งชาติ” ที่ได้รับการยกย่องตั้งแต่ พ.ศ.2548 เขาคือ “ศิลปินแห่งชาติ” สาขาวรรณศิลป์ – ประยอม ซองทอง

พี่ประยอมกรุณาส่งหนังสือชื่อ “ชีวิตจริงพริ้งกว่านิยาย” สารคดีบนเส้นทางสายวรรณศิลป์ที่พี่เขาเขียนเอง แต่ไม่รู้ว่าขายเองหรือเปล่า จัดพิมพ์เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2559 จำนวน 500 เล่ม (เท่านั้นเอง) นัยว่าพิมพ์เป็นบรรณาการให้ผู้ที่นับถือและเพื่อนกับน้อง เช่นข้าพเจ้า (ผู้เขียน) ได้อ่าน ราคาเล่มละ 150 บาท หนังสือเล่มนี้พี่ประยอมบอกไว้ใน “ความนำ” ว่า

“อยู่ในวงการ (วรรณศิลป์) มากว่ากึ่งทศวรรษ (1 มกราคม 2477) จึงจดบันทึกเรื่องที่ (อาจ) เป็นประโยชน์แก่วงการ ให้น้องๆ รุ่นหลังได้ทราบความเป็นไปไว้ในวงการ เพราะประสบการณ์ที่ได้มานั้น ส่วนมากเป็นประสบการณ์จริงหรือทำด้วยตัวเองทั้งสิ้น

“ฉะนั้น จึงเป็นข้อมูลที่เชื่อถือได้ อ้างอิงได้ เสมือนเป็นตำนานอันมีหลักฐานยืนยันได้จริง คิดว่าการบันทึกไว้ด้วยตนเองเพื่อคนรุ่นหลังได้สืบค้นความจริงได้ถูกต้อง

Advertisement

“บันทึกชีวิตในหนังสือเล่มนี้ เริ่มแรกลงพิมพ์ในนิตยสาร ‘กุลสตรี’ รายปักษ์ ที่เพื่อนรัก-น้องรักสนิท ชื่อโกวิท สีตลายัน ริเริ่มในการก่อตั้งไว้ตามความใฝ่ฝันที่วัยหนุ่มสาวปรารภว่าอยากจะทำ เสียดาย แต่เมื่อเขาริเริ่มไว้แล้ว ก็ด่วนจากไปเสียก่อน

“บันทึกเล่มนี้จึงค่อนข้างจะเอ่ยเกี่ยวกับเขามากหน่อย…”

พี่ประยอมจบ “ความนำ” ไว้ว่า

Advertisement

“บันทึกชีวิตการเดินทางช่วงหนึ่งของวงวรรณศิลป์ที่ข้าพเจ้าเรียบเรียงไว้นี้ จะไม่เป็นเพียงแค่สายลมที่ผ่านเลย แต่จะเป็นหมุดหมายหนึ่งซึ่งสลักไว้บนแผ่นหินแห่งเวลาอนาคตกาล”

พี่ประยอม ซองทอง เริ่มเขียนบทกวีจริงจังเมื่อไหร่ไม่ได้บอกไว้ชัดเจน บอกไว้แต่เพียงว่า เมื่ออยู่โรงเรียนกินนอนที่บ้านสมเด็จเจ้าพระยา ระหว่างปี 2496-2498 เป็นนักเรียนประจำกินนอน หลังรับประทานอาหารเย็น เป็นเวลา “เรียนตามลำพัง” ซึ่งเป็นเวลาทำการบ้าน ทำรายงานหรือปรึกษาเฉพาะกลุ่ม

“ช่วงที่มีการเรียนโดยลำพังนี้เอง ที่ข้าพเจ้าถือโอกาสอ่านหนังสือนอกหลักสูตร และใช้เวลาคิดแต่งกลอน กินเวลาทบทวนวิชาไปบ่อยๆ เพราะเป็นเวลาที่ไม่มีใครมายุ่งกับเรา…

“แต่สิ่งหนึ่งที่ข้าพเจ้าได้มาจากการร่วมกิจกรรมที่ชอบ คือได้รับเลือกเป็นตัวแทนของชั้นปีที่ 2 เป็นกรรมการฝ่ายหนังสือพิมพ์ของโรงเรียน มีโอกาสได้แสดงฝีมือการเขียนกาพย์กลอนและบทความลงหนังสือ “ข่าวสารบ้านสมเด็จฯ” ซึ่งมีพี่นักศึกษาปีที่ 3 เป็นหัวหน้าและกรรมการส่วนใหญ่…

“กลายเป็นผลให้ได้รับเลือกเป็นหัวหน้าแผนกหนังสือพิมพ์ในชั้นปีที่ 3 ได้เริ่มเรียนรู้งานทำหนังสือครั้งแรกที่โรงพิมพ์วุฒิศึกษา…ได้เป็นบรรณาธิการจัดทำ “บ้านสมเด็จฯ อนุสรณ์ 2498″ อันเป็นงานทำหนังสือเล่มแรกในชีวิต…”

“ชีวิตจริงพริ้งกว่านิยาย” รวบรวมและเรียบเรียงจากความทรงจำของ ประยอม ซองทอง ซึ่งเกิดเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2477 เวลาผ่านจากวันที่ 1 มกราคม 2560 ถึงวันนี้ 1 กุมภาพันธ์ 2560 ขึ้นสู่เดือนที่สองของอายุ 83 ปี มีหนังสือรวมบทกลอนเล่มแรกจาก 10 นักกลอนหนุ่ม ออกเป็นของขวัญปี 2503 ชื่อ “ชะบา” 10 นักกลอนหนุ่ม มี เจษฎา วิจิตร โกวิท สีตลายัน อนันต์ สวัสดิพละ ภิญโญ ศรีจำลอง ประยอม ซองทอง บุญรอด ปาณปุณณัง บุญนิตย์ ไชยเศรษฐ สนธิกาญจน์ กาญจนาสน์ สวัสดิ์ ธงศรีเจริญ และ รงก์ โรจน์กร (ในจำนวน 10 คน มีที่ใช้นามปากกา 2 คน คือ สนธิกาญจน์ กาญจนาสน์ คือ วิจิตร ปิ่นจินดา กับ รงก์ โรจน์กร คือ เกษม จรินโท)

ถึงวันนี้ ทั้งสิบคนยังอยู่ เห็นหน้าเห็นตากันเพียง 3 คน คือ พี่ประยอม บุญรอด และบุญนิตย์

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image