สาดน้ำสงกรานต์ มาจากสาดน้ำนางแมว

สาดน้ำสงกรานต์ มาจากสาดน้ำนางแมว

สาดน้ำสงกรานต์ มาจากสาดน้ำนางแมว

สาดน้ำสงกรานต์เพิ่งมีราว 100 ปีมานี้เอง ซึ่งเป็นวัฒนธรรมร่วมอุษาคเนย์ ตามความเชื่อ “ผี-พราหมณ์-พุทธ” เพราะก่อนหน้านั้นสงกรานต์ไม่มีเล่นสาดน้ำ

ดังนั้นเพื่อความเข้าใจตรงกัน ต้องแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้วยการแยก 2 เรื่อง คือ สาดน้ำ และ สงกรานต์

1.สาดน้ำ มีเหตุจากหน้าแล้ง ฝนไม่ตก ประชาชนต้องการน้ำเพื่ออุปโภคบริโภค จึงร่วมกันมีกิจกรรมสาดน้ำเพื่อขอฝน โดยไม่มีกำหนดเวลาตายตัว แต่ขึ้นอยู่กับความเดือดร้อนและความพร้อมของชุมชน

Advertisement

เมื่อพร้อมก็นัดหมาย แล้วมีสาดน้ำเร่ไปตามเรือนที่ปลูกเรียงรายในหมู่บ้าน แล้วสาดคนในชุมชนเดียวกันด้วย

(1.) สาดน้ำนางแมวในกรง เพราะเชื่อว่าแมวเป็นตัวแล้งน้ำ หมายถึงแมวเป็นเหตุให้น้ำแล้ง เนื่องจากแมวเป็นสัตว์กลัวน้ำ ถ้าสาดน้ำใส่แมวเสมือนบงการให้ฝนตก

(2.) สาดน้ำขึ้นหลังคาเรือน หลังสาดน้ำใส่แมว เสมือนมีฝนตกลงมาแล้ว

Advertisement

(3.) สาดน้ำคน เป็นกิจกรรมต่อเนื่องจากสาดน้ำนางแมว แล้วสาดคนแห่นางแมว จากนั้นก็สาดน้ำกันเองแวดวงแคบๆ ในหมู่เพื่อนบ้านเดียวกัน (ไม่ออกนอกหมู่บ้าน)

 2.สงกรานต์ ตัดคำมาจากชื่อ “มหาสงกรานต์” เป็นพิธีกรรมสำคัญทางศาสนาพราหมณ์-ฮินดูในอินเดีย หมายถึงการเปลี่ยนศักราช ซึ่งเป็นวันขึ้นปีใหม่ของชาวทมิฬ อินเดียใต้

สงกรานต์จากทมิฬ อินเดียใต้ แผ่ถึงอุษาคเนย์ราว 1,500 ปีมาแล้ว หรือเรือน พ.ศ.1000 จากนั้นชนชั้นนำราชสำนักยกเป็นปีใหม่ของตน ได้แก่ พม่า, กัมพูชา, ลาว, ไทย ฯลฯ

ส่วนประชาชนขึ้นปีใหม่ตามความเชื่อเดิม คือ เดือนอ้าย (ราวธันวาคม-มกราคม) และไม่รู้จักสงกรานต์

สงกรานต์แบบพราหมณ์จากอินเดียถูกปรับเปลี่ยนเป็นพุทธแบบพื้นเมือง ทั้งนี้ โดยราชสำนักอุษาคเนย์ ซึ่งมีกิจกรรม 2 อย่างเกี่ยวกับน้ำ ได้แก่

ก.สรงน้ำพระ ทั้งพระพุทธรูปและพระสงฆ์

ข.รดน้ำผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือ

[กิจกรรมเหล่านี้ไม่มีสาดน้ำ]

ในไทยพบหลักฐานว่ามีสรงน้ำและรดน้ำตั้งแต่รัฐอโยธยา-อยุธยา ถึงรัตนโกสินทร์แผ่นดิน ร.3 แต่ไม่มีเล่นสาดน้ำ (อย่างที่เข้าใจปัจจุบัน)

สงกรานต์เล่นสาดน้ำ

ไม่พบหลักฐานว่าสาดน้ำสงกรานต์เริ่มแพร่หลายเมื่อไร? จึงคาดเดาว่าน่าจะเริ่มในกลุ่มเล็กๆ ราวพุทธศตวรรษที่ผ่านมา

กรุงเทพฯ พ.ศ.2500 เมื่อ 67 ปีที่แล้ว เล่นสาดน้ำสงกรานต์ในชุมชนพวกเดียวกันเองตามตรอกซอกซอย ไม่ออกนอกถนน

ส่วนท้องถิ่นต่างๆ สาดน้ำกันเองประปรายในชุมชนหมู่บ้านบางแห่ง จึงไม่พบทั่วไป

เชียงใหม่มีรูปปกหนังสือรายเดือนรดน้ำสงกรานต์ตามแขนและไหล่ของสาวสวย ถือว่า “เซ็กซี่” ที่สุดแล้ว ไม่มีรูปสาดน้ำ

เมื่อการท่องเที่ยวขยายตัวหลังการปฏิวัติของจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ หลัง พ.ศ.2500 การเล่นสาดน้ำสงกรานต์เริ่มขยายความรุนแรงจากตรอกซอกซอยออกสู่ถนนใหญ่ เพื่อแหกคอกและแข็งข้อต่อความเคร่งครัดของสังคมและเศรษฐกิจ-การเมืองขณะนั้น สร้างความเดือดร้อนให้ผู้แต่งตัวสวยงามไปทำงาน

สาดน้ำสงกรานต์อย่างรุนแรงเป็นปัญหาขัดแย้งสืบเนื่องหลังจากนั้นอีกหลายปี กว่าจะมีการจัดระเบียบเล่นสาดน้ำสงกรานต์

สุจิตต์ วงษ์เทศ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image