พญาคันคาก ขอฝน คางคก ‘ยกรบ’ แถน
พญาคันคาก (คางคก) ยกรบกับแถนผู้มีอำนาจ เป็นตำนานบั้งไฟพญานาคจากเรื่องเล่าชาวบ้านสองฝั่งโขงราว 3,000 ปีมาแล้ว
ต่อมามีการแต่งเติมเสริมให้โลดโผนสนุกสนานหลายสำนวน ที่มีตัวละครสารพัดสัตว์ลักษณะสากล และเหมาะสำหรับสร้างสรรค์สู่จักรวาลของซอฟต์ เพาเวอร์?
คันคาก เป็นคำไท-ไต แพร่หลายบริเวณลุ่มน้ำโขง แปลว่าคางคก
เรื่องเล่าต่อไปนี้สรุปจากหนังสือ พญาคันคาก สุจิตต์ วงษ์เทศ ยกเรื่อง ทวีศักดิ์ ใยเมือง ยกรูป มติชนพิมพ์ครั้งแรก พ.ศ.2547
คางคกยกรบ
พญาคันคากกลายร่างเป็นคนมีสง่าราศีสมเป็นราชาครองเมืองชมพู บรรดาบ้านเมืองบริวารใหญ่น้อยร้อยเอ็ดพระนคร ก็ล้วนมีความมั่งคั่งและมั่นคงขึ้นกว่าแต่ก่อน จึงพร้อมใจกันบังคมก้มให้พญาคันคากถ้วนทั่วทุกหัวระแหงทุกแหล่งละหาน จนลืมส่งสการไหว้สาฟ้าแถนเหมือนแต่ก่อน แม้องค์อมรินทราธิราชก็อำนวยอวยพรให้พญาคันคาก
ผีฟ้าพญาแถนเป็นใหญ่อยู่เมืองแมนแดนสวรรค์ ครั้นเมื่อฝูงคนทั้งหลายไปภักดีต่อพญาคันคากหมดสิ้น ถึงเวลากินข้าวก็ไม่บอกไม่หมาย กินแลงกินงายก็ไม่บอกแก่แถน ได้กินชิ้นไม่ส่งขา ได้กินปลาก็ไม่ส่งรอยไม่ส่งก้างแก่แถน ผีฟ้าพญาแถนเลยโกรธ ก็ไม่ส่งน้ำฟ้าน้ำฝนหล่นลงมาให้บ้านเมืองแว่นแคว้นใหญ่น้อย จนเกิดความแห้งแล้งทุกหย่อมหญ้าสาหัส
พญาคันคากเห็นความทุกข์ยากของไพร่บ้านพลเมือง เพราะภัยแล้งติดต่อกันหลายขวบปี จึงขี่ยนต์อันเรืองฤทธิ์มุดลงไปเมืองบาดาลนาคผู้บันดาลน้ำเลี้ยงโลกได้ แล้วไต่ถามความนัยว่าเหตุไฉนถึงเกิดภัยแล้งแห้งน้ำมานานปี
พญานาคจอมบาดาลจึงบอกว่าเหตุเพราะผีฟ้าพญาแถนไม่ให้นาคทั้งหลายขึ้นไปเล่นน้ำบนสวรรค์เหมือนแต่ก่อน น้ำเลยไม่แตกฉานซ่านกระเซ็นกระเด็นกระดอนเป็นฝอยฝนหล่นลงมาเลี้ยงโลกมนุษย์ เมืองชมพูและบริวารเลยยากแค้นแสนกันดาร ด้วยแถนฟ้าเคืองรำคาญผู้คนที่ไม่บัตรพลีดีไหว้ มัวแต่ไปบังคมพญาคันคากนั้นแล
พญาคันคากรู้ความตามจริงก็ยิ่งโกรธพิโรธนัก สั่งให้พญานาคผู้เป็นเมืองบริวารทำทางถนนจากเมืองชมพูขึ้นไปเมืองแถนแดนสวรรค์ หมายจะจู่โจมโรมรันแถนฟ้าเพื่อหาน้ำมาเลี้ยงโลก
พญานาคพร้อมนาคบริวาร พากันแผ่พังพานพวนขนด แล้วขดขนขุนภูเขาทุกเขตแคว้นแดนมนุษย์เอามาต่อเข้าด้วยกัน ขณะนาคตั้งต่อภูเขาเป็นแกนแก่นกลาง พญาคันคากก็ให้บรรดาปลวกระดมขนดินมาถมพอกภูเขา ให้เป็นทางถนนด้นดั้นถึงเมืองแถนในทันที พญาคันคากให้บริวารประโคมตีเกราะเคาะไม้และโปงเปิง เป็นสัญญาณระดมสมกำลังไปรบศึกพิลึกมหึมาบนเมืองฟ้าเมืองแถน
ฝูงพญาครุฑยุดพญานาคมาพร้อมกัน ทั้งฝูงต่อฝูงแตนและมิ้ม ผึ้ง มอด มด ทั้งหมดทั้งนั้นมาพร้อมเพรียงด้วยสรรพสัตว์สารพัดเสือสิงห์กระทิงแรดในปัถพี
เมื่อสารพัดสัตว์มาชุมนุมสุมสามัคคีพร้อมกันแล้ว พญาคันคากก็คืนร่างเป็นคางคกขึ้นนั่งหลังช้าง แล้วสั่งให้เคลื่อนขบวนล้วนไพร่พลโยธีไปตามทางถนนหนเหินเดินเป็นหมวดหมู่แถวแนวตรงแน่วขึ้นไปเมืองแถนแดนสวรรค์ชั้นฟ้าพู้นแล
พญาคันคาก vs พญาแถน
ครั้นถึงเมืองแถนแดนสวรรค์ พญาคันคากรูปคางคกยกชี้ไปที่พญาแถนฟ้า แล้วตะโกนบอกว่าแถนทำผิดฮีตคองประเพณีที่สมควรนี่ นานหลายปีดีดักนับไม่ถ้วนที่แถนไม่แต่งน้ำลงไปโลกมนุษย์ ชมพูทวีปต้องแสนสุดจะล่มแล้งแห้งเหือดเดือดร้อน อีกไม่นานช้าจะเกิดไฟไหม้โลกเผาพสกนิกรและส่ำสัตว์จตุบททวิบาทอนาถตายไปทั้งสิ้น
พญาแถนก็แค้นโกรธพิโรธวาทินที่คันคากกากคางคกยกคำมาพูดจา จึงตอบว่า กูเป็นใหญ่ในฟ้าแผ่นนี้อย่างมีธรรมประจำแผ่นฟ้า ฝูงแถนถ้วนหน้าในปกครองไม่เคยขุ่นข้องหมองใจให้กังวล กูหรือก็ไม่ใช่ขี้ข้าขี้ข้อยคอยแต่งฟ้าแต่งฝนให้ใครๆ แล้วเหตุไฉนมึงจะมาบังคับขู่เข็ญไม่เป็นธรรม เมื่อยกพรรคไพร่พลมาระยำอย่างนี้ก็ต้องรบกัน
พญาคันคากบนหลังช้างต้นยืนตระหง่าน สั่งให้นาคจากบาดาลทั้งหมดแปลงร่างเป็นช้างศึก แล้วให้ครุฑกับแร้งกากบเขียดเสือหมีลิงค่างบ่างชะนีตีวงจุกช่องกองหลวงไว้จากนั้นมีบัญชาให้กบเขียดเป็นกองหน้ากล้าศึกออกรบก่อน
พญาแถนมิได้อนาทรก็เสกมนต์เป็นงูพิษออกไล่กินกบเขียด
กบเขียดของพญาคันคากกลัวงูก็พากันหนี ตัวที่หนีไม่ทันจึงถูกงูพิษของพญาแถนจับกินกัดสะบัดสะบิ้งทิ้งเป็นซากอยู่เกลื่อนกลาดดาษดาฟ้าแถน กบเขียดก็กลัวงูแต่นั้นมา
พญาคันคากสั่งรุ้งเหยี่ยวแร้งกาออกไปไล่จิกจับกินงู แร้งการุ้งเหยี่ยวก็เฉี่ยวโฉบงูมากินจนสิ้นไป
พญาแถนแค้นใจจึงเสกมนต์เป็นหมาล่าไล่รุ้งเหยี่ยวแร้งกาโกลาหล บรรดารุ้งเหยี่ยวแร้งกาก็กลัวหมาแต่นั้นมา
พญาคันคากสั่งให้ลิงกับอีเห็นเต้นโลดกระโดดรบไล่หมา
แต่หมาของพญาแถนหากลัวไม่ ก็ไล่งับขับอีเห็นกับลิงวิ่งหนี ด้วยเหตุดังนี้อีเห็นกับลิงล้วนกลัวหมาแต่นั้นมา
คันคากผู้มีปัญญาจึงให้เสือไปสู้ เสือก็กรูกันกินหมาพญาแถนหมดทุกตัว หมาก็กลัวเสือแต่นั้นมา
เสือพญาคันคากลากหมาพญาแถนไปกินหมดทุกตัวแล้ว ก็วิ่งแจ้วโจมจ้ำขย้ำกัดกินทกล้าทหารแถนแล่นหนีล้มตายระเนระนาด พญาแถนเสกมนต์ฉกรรจ์ฉกาจเป็นกะต่ำคือเครื่องมือดักเสือซ้อนไว้ เสือพญาคันคากได้ใจวิ่งไปตกกะต่ำ เลยถูกหอกดาบแหลนหลาวเกาทัณฑ์ทหารแถนฟันแทงจนแดงเดือดเลือดตกตาย เสือเลยกลัวกะต่ำแต่นั้นมา
พญาคันคากสั่งผึ้งมิ้มต่อแตน บินไปกัดต่อยช้างม้าผู้คนพลไพร่พญาแถนแล่นหนีล้มตายกระจายไป พญาแถนก็เสกมนต์กลแก้เป็นเพลิงไฟ แผ่ไปผลาญเผารมควันผึ้งมิ้มต่อแตนจนดิ้นตาย คนทั้งหลายจึงรู้ใช้ไฟเริงเพลิงควันรมไล่ผึ้งมิ้มต่อแตนแต่นั้นมา
การสู้รบดำเนินต่อไป ครั้นเป็นเพลาพาแลงเข้าเย็นย่ำ ทั้งสองพญายังไม่เพลี่ยงพล้ำชนะแพ้แก่กัน จึงต่างก็หยุดยั้งยุทธหัตถี นัดหมายว่าถึงรุ่งพรุ่งนี้จะตีต่อล่อกันใหม่
แถนแพ้คันคาก
คืนนั้นเดือนดับ พญาคันคากสั่งมอดให้ไปทำงานลับเล็ดลอดดอดแทะแกะกัด ตัดปืนผาหน้าไม้ของ้าวหลาวแหลนหอกดาบของพญาแถน ให้ยับยุ่ยเป็นผุยผงใช้การไม่ได้
รุ่งขึ้น พญาคันคากสั่งพญานาคให้พรางกายคล้ายเป็นหางไอยราเกาะหลังช้างไปด้วยกัน เมื่อถึงคราวพญาแถนพลัดตกก็เอาบ่วงบาศพาดพันคอไว้ในทันที อย่าให้หนีได้
เมื่อช้างทั้งคู่เข้าจู่โจมโรมรันอุตลุดยุทธหัตถีอีกครั้งคราว พญานาคที่พรางกายคล้ายหางช้างต้นของพญาคันคาก เห็นแถนฟ้าไม่ทันระวัง ก็ผาดแผลงด้วยพลังฤทธิ์บิดกายเป็นบ่วงพราน ระเห็จหาวเหินทะยานคล้องคอพญาแถนแล่นลัดพลัดตกจากหลังช้างลงกลางสมรภูมิแผ่นฟ้า ก็ปราชัยให้กับพญาคันคาก
พญาแถนยกมือขึ้นบังคมพนมไหว้ยอมแพ้ แต่พญาคันคากโกรธนักก็ต่อยเตะตีกระหน่ำไปที่หัวพญาแถน แก้แค้นที่เอาขอมาสับจนหัวปูดหัวโปน ไพร่พลเสนาของพญาคันคากกรากเข้าไปช่วยรุมทำร้าย พลางก็ด่าทอขอฆ่าพญาแถนให้สมแค้นที่ไม่แต่งฟ้าฝนให้ตกไปสู่เมืองมนุษย์ ทำให้มนุษย์สุดแล้งเข็ญล้มหายตายกว่ามหาศาล
พญาแถนแสนทุเรศก็รู้สึกสำนึกผิด ขอเป็นเมืองส่วยสุจริตแต่งน้ำฟ้าห่าฝนหล่นลงเมืองมนุษย์ทุกปี แล้วร้องเชิญพญาคันคากเข้าเมืองแถน พญาคันคากให้ผูกมัดรัดคอพญาแถนแน่นหนา แล้วยกพหลพลโยธาแห่พญาแถนที่ถูกจองจำนำทางเข้าเมืองแถน
ในคุ้มหลวงเมืองแถน บรรดาบริวารพญาแถนทั้งลูกเมียและนางท้าวร้องขอต่อพญาคันคากที่นั่งเมืองแถน ว่าอย่าพิฆาตฟาดฟันบั่นเกล้าชาวแถนเลย จะยอมเป็นข้าช่วงใช้ไปนิรันดร
พญาคันคากมีใจเมตตา สั่งให้ไพร่พลเสนาแก้เครื่องพันธนาการทั้งมวล แล้วเจรจาว่ากล่าวอบรมบ่มนิสัยพญาแถนให้ประพฤติธรรม แต่ข้อสำคัญแถนฟ้าต้องรักษาหน้าที่ปล่อยน้ำฟ้าน้ำฝนให้ตกต้องตามฤดู ไม่อย่างนั้นจะขึ้นมาลงโทษอีกให้สาสม
พญาแถนถามว่าจะรู้ได้อย่างไรว่าเมืองมนุษย์ต้องการน้ำตอนไหน เมื่อไร
พญาคันคากตอบว่า จะส่งสัญญาณให้พญานาคขึ้นมาบอกแล้วเล่นน้ำบนฟ้า
พญาแถนบอกว่า ฟ้าแถนอยู่ไกลมาก กว่าพญานาคมาบอกจะช้าเกินไป
พญาคันคากยกมือตบหัวพญาแถน แล้วอธิบายว่า จะให้พญานาคขี่บั้งไฟขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เมื่อได้ยินเสียงแล้วมองเห็นบั้งไฟมีหัวพญานาค ก็ให้ไขน้ำทำฝนหล่นลงเมืองมนุษย์ทันที
พญาแถนน้อมรับคำสั่งสอนของพญาคันคากทุกอย่าง แล้วสั่งให้ไพร่พลลูกเมียเตรียมสำรับกับข้าวเลี้ยงดูกองทัพพญาคันคาก
เมื่อสำเร็จเสร็จสรรพแล้ว พญาคันคากก็พาสารพัดสัตว์ไพร่พลทั้งหลายลงจากเมืองแถนแดนฟ้า กลับสู่แดนดินเมืองชมพูตามเส้นทางเดิมที่ปลวกทำไว้
นับแต่พญาคันคากร่างคางคกยกรบชนะพญาแถน บรรดาผู้คนและสัตว์พืชในโลกชมพูทวีปก็อุดมสมบูรณ์พูนสุขทุกประการ พืชพันธุ์ว่านยาอาหารมั่งคั่งและมั่นคง ถึงเดือนอ้ายได้ฉลองความร่มเย็นเป็นปีใหม่เก็บเกี่ยวพืชผล
จนถึงเดือนห้าฟ้าฝนแห้งแล้งก็แต่งตกยอยกพญานาคขี่บั้งไฟขึ้นไปบอกแถนฟ้า น้ำฟ้าน้ำฝนก็หล่นลงมาเป็นธรรมชาติไม่ขาดแคลนตามคำแถนตกลงไว้
สุจิตต์ วงษ์เทศ