| ผู้เขียน | ภูษิต ภูมีคำ |
|---|
ปลุกตำนานไอคอนยุค 90s
Big Bite Burger Bar & Grill
กัดเต็มคำฉบับ อเมริกัน ไดนิ่ง
ปลุกความทรงจำวันวานให้กลับมามีชีวิตชีวา ร่วมกันมาสัมผัสเบอร์เกอร์พรีเมียมสุดปัง สไตล์อเมริกัน ไดนิ่ง Big Bite Burger Bar & Grill ร้านอาหารภายใต้แบรนด์โรงแรมระดับโลกอย่าง คอร์ทยาร์ด บาย แมริออท กรุงเทพฯ สุวรรณภูมิ แอร์พอร์ต ที่จัดเต็มขนเครื่องตกแต่งสร้างไวบ์ 90s ให้เต็มไปด้วยสีสันละความสนุกสนาน พร้อมเสิร์ฟอาหารและเครื่องดื่มสุดคลาสสิก มาให้ได้สัมผัสจนหายคิดถึง
สอดแทรกเรื่องราวตำนานธุรกิจตั้งต้นของ แมริออท ที่ได้บุกเบิกการทำร้านอาหารสแตนด์อโลน จนจับจุดความอร่อยอันเรียบง่าย อร่อยไวทันใจ ด้วยการชูโรง เบอร์เกอร์ คำโต และมิลค์เชค หวานมัน จนกลายเป็นไอคอนแห่งยุค สร้างการขยับขยายครั้งใหญ่ มาสู่ธุรกิจการบริการและโรงแรมอันโด่งดัง ที่เรารู้จักกันมาจนถึงปัจจุบันนี้
เบอร์เกอร์คำโตฉบับ Big Bite Burger ครั้งนี้ ยังคงซิกเนเจอร์อันโดดเด่นด้านความอร่อยแบบดั้งเดิม แต่เพิ่มเติมด้วยคุณภาพอัดแน่นทุกกระบวนการ ตั้งแต่วัตถุดิบชั้นเลิศ จนไปถึงพิถีพิถันในทุกขั้นตอน ที่พร้อมจะเสิร์ฟเบอร์เกอร์แบบสดใหม่ชิ้น ทุกชิ้นในทุกวัน ทั้งรังสรรค์ช่วงเวลาแห่งความสุขจนคาดไม่ถึง
ย้อนตำนานลับกว่า 100 ปี
แมริออท ตั้งต้นจากเบอร์เกอร์
เมื่อเริ่มต้นล้วงลับเรื่องราวสุดพิเศษของแมริออท ถามถึงคอนเซ็ปต์ของร้านเบอร์เกอร์สุดแปลกตา ที่ผุดอยู่กลางโรงแรมสุดหรูหราจากปาก โรบิน เบิร์นฮาร์ด ผู้อำนวยการฝ่ายอาหารและเครื่องดื่ม เล่าว่า เราคงต้องย้อนกลับปีเมื่อเกือบ 100 ปีก่อน เจ้าของแมริออทและภรรยาเริ่มธุรกิจแรกจาก Root beer stand
“พวกเขาทำร้านอาหารเล็กๆ ขายเครื่องดื่มรูทเบียร์ มิลค์เชค และเบอร์เกอร์ ขายดีและเป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก จนสามารถพัฒนาต่อยอดมาเป็นโรงแรมแมริออทได้ เป็นคอนเซ็ปต์ที่น่าสนใจ จนตอนที่เราสร้างโรงแรมแห่งนี้ขึ้นมา ได้สำรวจโดยรอบว่าแถวนี้ยังขาดอะไรอยู่ แล้วเราจะสามารถยกระดับอะไรขึ้นมาได้อีก
เราเห็นว่ายังขาดเบอร์เกอร์คุณภาพสูง บนพื้นที่ลาดกระบัง เราเลยตัดสินใจเปิดร้านเบอร์เกอร์ขึ้นมา เพื่อขายฟาสต์ฟู้ดที่ใช้วัตถุดิบอย่างดี ราคาคุ้มค่า และมีเอกลักษณ์ที่ชัดเจน แค่คิดว่าถ้าเรามีร้านเบอร์เกอร์ดีๆ มันคงจะดี” โรบินเล่าย้อนถึงคอนเซ็ปต์
โรบินเล่าลงลึกถึงดีเทลอีกว่า เมื่อ 100 ปีที่แล้ว แมริออททำเบอร์เกอร์ออกมาดียังไง วันนี้ก็ยังคงเหมือนเดิม เพียงแต่ว่าอาจจะมีการปรับเปลี่ยนวัตถุดิบที่ใช้ทำให้มีคุณภาพมากขึ้น เช่น ขนมปังที่เนียนนุ่ม เนื้ออย่างดี วัตถุดิบที่สดใหม่ หยิบมาผสมผสานกันแล้ว ออกมาเป็นเบอร์เกอร์ที่ชุ่มฉ่ำในทุกคำที่กัด นี่คือสิ่งที่เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น
“ทุกครั้งก่อนที่จะเปิดร้านเบอร์เกอร์ ผมจะคอยบอกเสมอว่า 1 สิ่งที่ทีมงานต้องยึดถือ คือ เราต้องชิม เทสต์จนมั่นใจว่าเบอร์เกอร์มันรสชาติดี ซึ่งเวลาที่ลูกค้ากินแล้วซอสเลอะเปื้อนตามมือ แสดงว่าเบอร์เกอร์มีคุณภาพและสดใหม่ที่สุด เพราะความชุ่มฉ่ำมาจากซอสและเนื้อที่ข้างในยังฉ่ำอยู่
แล้วนึกภาพว่านอกจากเบอร์เกอร์จะเหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัวแล้ว ก็ยังสามารถมาเดตแรกกันที่นี่ กินเบอร์เกอร์แบบเลอะเปื้อนมือได้อย่างสบายใจ หรือพาเด็ก คุณย่ามาทาน มันคงจะสร้างความสุขร่วมกันในครอบครัวได้สำหรับทุกโอกาส
พวกเราพยายามตั้งใจทำเบอร์เกอร์อย่างหนัก ตั้งใจว่าทำออกมาให้มันเป็นเบอร์เกอร์ที่มหัศจรรย์ที่สุด คุณมาลิ้มลองรสชาติด้วยตัวเองว่ามันอะเมซิ่งแค่ไหน ต้องมาลองกัน” โรบินเชิญชวนอย่างจริงใจ
ทุ่มประสบการณ์ 3 ทศวรรษ
ผุด เบอร์เกอร์ เรียบง่ายแต่พรีเมียม
ถัดมาขยับมาถึงการซอกแซกเรื่องราวหลังครัว ที่เต็มไปด้วยรายละเอียดอยู่ทุกจุด โดย ชัชพล สวยสม
หรือเชฟชัช (Executive Chef) กล่าวว่า ความพิเศษของเบอร์เกอร์ที่นี่ คือ วัตถุดิบ คอนเซ็ปต์ วิธีการที่เราทำ รวมถึงการบริการ ซึ่งหากเราย้อนกลับไปดูต้นกำเนิดเบอร์เกอร์ เขาจะไม่ได้ใช้เนื้อที่แพงกัน กินแล้วก็จะรู้สึกมันแห้ง
“เบอร์เกอร์คลาสสิก มันเรียบง่ายไม่ใช่อะไรที่แปลกใหม่ แต่เราอยากจะโยงกลับไปถึงความคลาสสิก โดยจะใช้วัตถุดิบและวิธีการที่ดียิ่งขึ้น เพราะเราใช้เนื้อออสเตรเลียน วากิว ซึ่งกว่าที่เราจะเลือกอันนี้เราลองกันมาเยอะมาก
ถ้าคุณได้มากินจริง จะรู้สึกได้เลยว่าเบอร์เกอร์ของเรามันไม่แห้ง เพราะความตั้งใจเลือกผสมระหว่างสัดส่วนเนื้อกับมัน ที่เราใช้เนื้อ 80 เปอร์เซ็นต์ และส่วนมันอีก 20 เปอร์เซ็นต์ และเราไม่ได้ใช้ไขมันทั่วไป แต่เราใช้มันจากเนื้อวากิวอย่างดี
ผมทำงานอยู่กับแมริออทมา 26 ปี ทำตั้งแต่ไฟน์ไดนิ่ง นิวยอร์ก สเต๊กเฮ้าส์ ซึ่งผมเป็นเชฟคนแรกที่เปิดห้องนั้น ที่นี่ผมได้ชิมเนื้อเกือบทุกประเทศที่มีในโลกนี้ ที่เขาขายกันในตลาด ก็เลยมีความชำนาญเป็นพิเศษ แล้วผมก็ไปเรียนเกี่ยวกับเนื้อ 2 ครั้ง จากผู้ผลิตเนื้อโดยตรงที่ประเทศสิงคโปร์ จึงทำให้มีความรู้และความชำนาญค่อนข้างพิเศษ
คิดว่าความโชคดีของผม คือ กว่าครึ่งหนึ่งของการทำงานได้อยู่ต่างประเทศ ซึ่งแต่ก่อนการเข้าถึงองค์ความรู้มันมีอย่างจำกัด การที่อยู่ต่างประเทศมันก็เลยมีโอกาสมาก สำหรับมุมมองกว้างขึ้นและได้คลุกคลีกับวัตถุดิบที่หลากหลาย” เชฟชัชงัดประสบการณ์โชว์ความเก๋า
สดใหม่ทุกชิ้น วันต่อวัน
เสิร์ฟจานเด็ดมัดใจทั้งแฟมิลี่
ขณะที่ ธนารัตน์ อู่สุวรรณ หรือเชฟจ๋า กล่าวว่า ตัวขนมปังที่เอามาทำเป็นเบอร์เกอร์ เราจะอบใหม่ทุกวัน ซึ่งมีเชฟเบเกอรี่เป็นคนทำขึ้นมาเอง เพราะเนื้อสัมผัสของที่มีความสดใหม่ เท็กซ์เจอร์มันจะดีมาก เราจะใช้ของสดใหม่หมดเลย
“1 อันจะออกมาเท่ากันทุกครั้ง เพราะเขามีการตวงชั่งเป็นหลักสำคัญ มันเพี้ยนไม่ได้ แล้วทำขึ้นมาสดใหม่ทุกวัน อย่างสมมุติว่าวันนี้เขาจะเปิดร้าน เชฟก็จะเป็นคนเขียนรีเควสต์ไว้ว่าจะใช้วัตถุดิบกี่ชิ้นตั้งแต่เมื่อคืน มันอารมณ์ประมาณตอนที่เราหุงข้าว เราก็ไม่ชอบกินข้าวที่มันเหลือจากเมื่อคืน นอกจากซะว่าเราจะทำข้าวผัดกิน ฝรั่งก็เหมือนกัน เขาจะชอบขนมปังที่มันสด มีทั้งกลิ่นและเท็กซ์เจอร์ที่ดี ออกมาพร้อมกัน”
พอเราเลือกวัตถุดิบที่ดีแล้ว เบอร์เกอร์ของเราก็จะมีคุณภาพ เราก็เลยคิดว่าทั้งขนมปังที่เราอบสดใหม่ เนื้อที่เราคัดสรรมาเป็นอย่างดี เบอร์เกอร์มันก็จะออกมาอย่างดี ดังนั้น ถ้าใครได้ชิมแล้วเขาก็จะประทับใจจนบอกต่อ ซึ่งการที่ร้านค้าแถวนี้จะเป็นคู่แข่งมันเป็นเรื่องปกติ แต่แค่ว่าเราทำเบอร์เกอร์ของเราให้คงที่ เพื่อให้ลูกค้าได้กลับมากินอีก
โดยเฉพาะช่วงเวลาของครอบครัวที่มีหลากหลายช่วงวัย เราก็จะมีเบอร์เกอร์ที่หลากหลายพร้อมเสิร์ฟเช่นกัน ทั้งปลา ไก่ เนื้อ หรือ Kids Menu สำหรับเด็กขึ้นมาด้วย เราสามารถตอบโจทย์ได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ได้ และสามารถมารับประทานกันได้ทั้งแฟมิลี่” เชฟจ๋าชูจุดมัดใจทุกวัย
ร่วมเดินทางย้อนเวลา สัมผัสกลิ่นอายอเมริกันคลาสสิกกับเบอร์เกอร์ แบบต้นตำรับอเมริกันได้แล้วทุกวัน ตั้งแต่เวลา 17.00-22.00 น. ชั้น 1 โรงแรมคอร์ทยาร์ด บาย แมริออท กรุงเทพฯ สุวรรณภูมิ แอร์พอร์ท
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือสำรองที่นั่ง +66-2780-3588 หรืออีเมล์ [email protected]
ภูษิต ภูมีคำ
