| ผู้เขียน | นวลนิตย์ บัวด้วง |
|---|
ตามภารกิจ บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม หรือ บสย. ในฐานะหน่วยงานภาครัฐ ที่มีบทบาทสำคัญในการค้ำประกันสินเชื่อให้กับภาคธุรกิจ โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายย่อย ผู้ประกอบการหน้าใหม่ และผู้กำลังก้าวมาเป็นนักธุรกิจ ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรที่เป็นธนาคารรัฐด้วยกันหรือธนาคารพาณิชย์ ขึ้นอยู่ว่าผู้ประกอบการนั้นจะต้องการเงินแค่หลักแสนหรือหลักหลายล้านบาท
สำหรับปี 2560 ภารกิจสำคัญของ บสย. คือ ทำอย่างไรให้วงเงินค้ำประกันสินเชื่อที่ได้รับการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) วงเงิน 100,000 ล้านบาท กรอบงบประมาณปี 2559-2561 ให้บรรลุตามเป้าหมาย ที่จะช่วยผู้ประกอบการโดยเฉพาะรายย่อยที่มีทั้งที่อยู่ในระบบกว่า 4 แสนราย และที่ยังไม่อยู่ในระบบโดยตรงอีกน่าจะหลายแสนราย สามารถเข้าถึงแหล่งทุนหรือกู้ยืมเงินผ่านธนาคารพันธมิตร 19 ธนาคาร
โดย บสย.จะเป็นผู้ค้ำประกัน ผ่านผลิตภัณฑ์ค้ำประกันสินเชื่อ 4 แบบของ บสย. ที่จำแนกเป็นกลุ่มผู้ประกอบการและวงเงินที่คาดว่าจะเพียงพอในการดำเนินธุรกิจนั้น อาทิ ธุรกิจใหม่ ที่เรียกกลุ่มนี้ว่า กลุ่มสตาร์ตอัพ (Start up) ทำมาหากินแล้วไม่เกิน 3 ปี ที่ผ่านหรืออยู่ระหว่างการอบรมหลักสูตรการบริหารจัดการทางธุรกิจ รวมถึงการตลาด การบัญชี และการผลิต จากหน่วยงานภาครัฐต่างๆ ที่ บสย.เห็นควรแล้ว จะได้รับการพิจารณาค้ำไม่เกิน 1 ล้านบาท สำหรับบุคคลทั่วไป และไม่เกิน 5 ล้านบาท สำหรับจดตั้งเป็นนิติบุคคลแล้ว กลุ่มนี้จะค้ำประกันให้ไม่เกิน 10 ปี
อีกกลุ่มที่เรียกว่า อินโนเวชั่น (innovation) กำลังเป็นมาแรง และอีกเป้าหมายหลักที่รัฐบาลปัจจุบันวางตัวให้เป็นหนึ่งในการผลักดันและขับเคลื่อนประเทศสู่โมเดลไทยแลนด์ 4.0 คือธุรกิจที่มีนวัตกรรม ใช้เทคโนโลยีสร้างความแตกต่าง ถือว่าเป็นกลุ่มใหม่ที่รัฐเร่งผลักดันแม้ในตัวเนื้อผลงาน และเป็นหนึ่งในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายที่ถูกบรรจุในแผนพัฒนาประเทศในอีก 20 ปี ส่วนนี้ บสย.สามารถค้ำประกันให้บุคคลธรรมดาได้ถึง 1 ล้านบาทจากธนาคารให้รับรองการกู้ให้แล้ว ส่วนนิติบุคคลได้ถึง 20 ล้านบาท
ดังนั้น ถือได้ว่า บสย.เป็นหน่วยงานหลักแห่งหนึ่ง ที่จะทำให้นโยบายผลักดันประเทศไทยเข้ายุคไทยแลนด์ 4.0 ตามเป้าหมายของรัฐบาลชุดปัจจุบัน ได้เนื้องานอย่างเต็มที่ และการบริหารงานอยู่ในมือของ “นิธิศ มนุญพร” กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บสย.
– ปีนี้บสย.ได้รับภารกิจหนักต่อการช่วยเหลือเอสเอ็มอี?
โจทย์ใหญ่ของเราว่าจะทำอย่างไรให้ผู้ประกอบการรู้ว่า บสย.สามารถค้ำประกันเงินกู้ให้คุณได้ สำหรับผู้ที่มีอาชีพและเข้าถึงแหล่งทุนได้ยาก ในภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ดีนัก ปีนี้จึงเน้นช่วยเหลือรายย่อยมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มที่ต้องการเงินทุนไม่เกิน 2 แสนบาท สำหรับการค้าขายทั่วไป อีกกลุ่มคืออินโนเวชั่น เราได้อนุมัติวงเงินค้ำประกันหมื่นล้านบาท ให้การผลักดันช่วยเหลือรายย่อยและผู้ต่อยอดนวัตกรรมเชิงการค้า ในระยะ 3 ปีผ่านมา ครึ่งปีแล้ว ยังได้แค่ร้อยกว่าราย วงเงินแค่ร้อยกว่าบาท คิดเป็น 10% เท่านั้น แม้จะเหลือเวลาอีก 2 ปีครึ่ง คงต้องดูว่าจะทำอย่างไรให้กลุ่มเป้าหมายได้เข้าถึงสินเชื่อโดยเราเป็นผู้ค้ำประกัน ซึ่งวงเงินที่มอบให้มาบริหารสามารถช่วยเหลือได้กว่า 3 พันราย
– ทำไมที่ผ่านมาปล่อยค้ำประกันได้น้อย?
ที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าการรับรู้ในชื่อ บสย.ยังน้อยไป จากสำรวจประมาณ 40-50% ปีนี้จะเพิ่มเคพีไอการรับรู้ให้ถึง 70% ก็ต้องขยายช่องทางการรับรู้ ทั้งเพิ่มการประชาสัมพันธ์ เข้าไปร่วมกิจกรรมกับพันธมิตรทุกด้าน การเข้าร่วมเวทีต่างๆ อย่างการเข้าร่วมสัมมนา 40 ปี มติชนก้าวที่ 40 ก้าวคู่ประเทศไทย 4.0 ในวันที่ 12 กุมภาพันธ์นี้ ที่โรงแรมพูลแมน รางน้ำ ก็เป็นอีกช่องทางหนึ่ง เชื่อว่าจะช่วยการรับรู้ บสย.ให้มากขึ้น
– เตรียมเพิ่มแผนการทำประชาสัมพันธ์อย่างไร?
เราคงไม่เน้นประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อแบบหนังโฆษณา แต่เน้นกิจกรรมถึงกลุ่มเป้าหมายโดยตรง ในต่างจังหวัด บสย.มี 10 สาขาหลัก ก็กำชับการเข้าร่วมกิจกรรมตามชุมชน ธนาคารใดมีกิจกรรมอะไรก็จะจับมือกับเขาเข้าไปให้ความรู้ บางรายผ่านเราก็จะแนะนำให้ธนาคารพิจารณาปล่อยกู้ก็ทำมาตลอด คนจะทำธุรกิจหรือขยายธุรกิจถ้าไม่มีอะไรค้ำประกันไปแบงก์ก็กลับบ้านมือเปล่า ถ้ามาปรึกษาเราถ้าอยู่ในหลักเกณฑ์ก็จะช่วยได้ เร็วๆ นี้ ก็จะมีความร่วมมือกับ 2 ธนาคารหลักที่มีฐานผู้มีรายได้น้อยจำนวนมาก ช่วยเหลือในเรื่องหนี้นอก
ระบบ ในหลายเวที ท่านรองนายกรัฐมนตรี (สมคิด จาตุศรีพิทักษ์) ก็พูดถึง บสย.มาตลอด ถือเป็นการประชาสัมพันธ์ให้กับ บสย. ซึ่งคนได้รับรู้มากขึ้น และคนได้คิดถึง บสย. มีความตั้งใจว่าต่อไปคนคิดเรื่องค้ำประกันให้นึกถึง บสย. เหมือนเป็นสโลแกนสินค้า อย่างสินค้าชนิดหนึ่งมีสโลแกน…ใช้ดีจึงบอกเพื่อน
วิธีการก็ใช่จะย้ำแค่ บสย.เป็นผู้ค้ำประกันสินเชื่อ แต่จะให้ผู้ประกอบการเห็นความสำคัญในเรื่องการทำบัญชี การทำตลาดด้วย แต่ไม่ได้สอนเรื่องทำธุรกิจ แต่ให้รู้องค์ประกอบการทำธุรกิจเพราะเป็นพื้นฐานที่จะทำให้การเสนอแผนขอกู้เงินจากธนาคารง่ายขึ้น เราก็ให้การค้ำได้เร็วด้วย
– ค้ำประกันล้างหนี้นอกระบบงานน่าจะล้นมือ?
ไม่ต้องห่วงเรื่องงานล้นมือ เราสามารถออกหนังสือค้ำประกัน (แอลจี) ให้กับธนาคารที่ปล่อยกู้ได้ภายใน 3 วัน วงเงินก็เช่นกัน ถ้าไม่พอก็ยื่นขออนุมัติวงเงินใหม่ได้ เป็นเรื่องที่รัฐบาลให้ความสำคัญอยู่แล้ว และไม่ต้องห่วงเรื่องหนี้เสีย เพราะขึ้นลงตามธนาคารที่ปล่อยกู้อยู่แล้ว ปีนี้ก็น่าจะใกล้เคียงกันระดับ 10%
– บสย.จะเพิ่มการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างไร?
ผู้ประกอบการที่จดตั้งเป็นนิติบุคคลแล้วและมีการรับรองจากสถาบันเฉพาะทางรับรองแล้ว ว่าสิ่งประดิษฐ์นั้นสามารถต่อยอดเชิงพาณิชย์หรือเป็นสินค้าที่มีความต้องการ ทำเงินได้ เราไม่ค่อยห่วง เพราะอย่างไรธนาคารก็ปล่อยกู้เพียงเราค้ำประกันตามหลักเกณฑ์ อย่างกลุ่มอินโนเวชั่น ล่าสุดได้ค้ำประกันให้ผู้ผลิตแผงวงจรไฟฟ้า วงเงิน 10 ล้านบาท อายุเพียง 30 ปีเอง ถือเป็นตัวอย่างของกลุ่มสตาร์ตอัพและอินโนเวชั่น แต่รายย่อยยากหน่อย ดังนั้น เป็นเรื่องที่ดีที่ผ่านกฎหมายนิติบุคคลเดียว คือ ต่อไปเพียงคนเดียวก็ตั้งบริษัทได้ ทำให้ธุรกิจเข้าระบบ มีความชัดเจนในเรื่องการทำบัญชีรายรับรายจ่าย มีการเสียภาษีตามระบบ จึงเป็นเรื่องง่ายขึ้นที่จะเข้าถึงแหล่งกู้และ บสย. ค้ำประกันให้ นิติบุคคลเดียวจึงเป็นการเติมเต็มธุรกิจ
– กลุ่มที่ต้องการแปลงสินทรัพย์ทางปัญญาเป็นทุนจะช่วยอย่างไร?
บสย.เคยทำเมื่อ 2 ปีก่อนหลังจากรัฐบาลต้องการให้ผลักดันเจ้าของทรัพย์สินทางปัญญา แต่ในไทยถือว่าเป็นเรื่องใหม่ และติดปัญหาการไม่มีหน่วยงานกลางตีมูลค่าทรัพย์สินทางปัญญาว่าจะเท่าไหร่ อย่างไร ตอนนั้น บสย.ได้ศึกษาร่วมกับหน่วยงานของเกาหลีใต้ ทำการศึกษา แต่ก็ยังพบว่าธนาคารในไทยยังเน้นในเรื่องนี้ เราเป็นเพียงไม้ค้ำยัน ไม่ได้เป็นคนปล่อยกู้เมื่อไม่มีการปล่อยกู้ เราก็ทำอะไรไม่ได้มากนัก
– ต้องแบกรับภารกิจมากมาย คงเหนื่อยมาก?
ผมเข้ามาบริหารงานใน บสย.ก็น่าจะปีหนึ่งแล้ว เหนื่อยก็เหนื่อยนะ เพราะต้องเข้ามาเรียนรู้งานหลายอย่างที่ไม่เคยทำเคยรู้มาก่อน แต่ก็สนุก แม้จะแตกต่างกับงานที่เคยทำมา ซึ่งช่วงชีวิตของการทำงาน 35 ปี ใน 11 องค์กร เริ่มจากทำงานในธนาคารกรุงเทพ 3 ปี มาอยู่ธนาคารแห่งประเทศไทย 6 ปี ที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) อีก 3 ปี ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย อีก 5 ปี ในองค์กรธุรกิจกองทุนรวมอีก 2 แห่งรวมถึงผ่านงานในองค์กรรัฐวิสาหกิจ ก่อนมาอยู่ที่ บสย. ซึ่งแต่ละองค์กรเราต้องเรียนรู้ต้องรู้ว่าจะทำงานเพื่ออะไร อย่าง บสย. คือทำอย่างไรให้คนรู้ว่า บสย.ค้ำประกันสินเชื่อให้คุณได้ เป็นโจทย์ใหญ่การทำงาน แต่อย่าให้เกิดหนี้เสียแยะ
– ตารางในแต่ละวันเป็นอย่างไร?
ก็ไม่มีอะไรมาก หลังจากทำงานถ้ามีวันหยุด ก็อยู่บ้านทำอาหารเองบ้าง อีกอย่างคือปลูกต้นไม้ อะไรที่เขานิยม ต้นไม้ชนิดใดกำลังเป็นที่นิยม ก็จะซื้อมาปลูกภายในบริเวณบ้าน บ้านผมมีพื้นที่ 1 ไร่ ก็จะแบ่งเป็นบ้านพัก 200 ตารางวา อีก 200 ตารางวา ก็จะปลูกต้นไม้ ชอบทุเรียนก็จะซื้อต้นทุเรียนมาปลูก ต้นกล้วยพันธุ์ใหม่ หรือต้นมะนาว ก็ซื้อมาปลูก กะว่าหน้ามะนาวแพง เมื่อออกลูกก็จะเก็บน้ำไว้แช่แข็งในตู้เย็นจะได้มีใช้ตลอด ราคาก็ไม่แพงด้วย แต่หลังๆ นี้งานนอกบ้านแยะ ไม่ค่อยได้ดูแล ดูจะรกๆ ไปหน่อย ถ้าเห็นผมแต่งตัวอยู่บ้านคนละแบบจากที่เห็นที่ทำงานเลย เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เราผ่อนคลายได้
– ของรักของสะสมมีอะไรบ้าง?
ผมไม่ได้สะสมอะไรเป็นพิเศษ เรียกได้ว่าเป็นคนไม่ค่อยมีของสะสมเหมือนคนอื่นๆ แม้แต่วิธีการคลายเครียด ที่จะนิยมไปวัดไปเที่ยวก็ไม่ได้นิยมตามนั้น ปีนี้ผมอายุครบ 56 ปีเมื่อปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา วาระทำงานใน บสย.ก็ 4 ปี เมื่อครบวาระ เหลืออีก 1 ปี ครบ 60 ปี ก็กำลังเตรียมว่าจะทำอะไรดีในช่วงหลังเกษียณ
– ดูเหมือนทุกช่วงชีวิตมีการวางแผนมาตลอด?
ผมวางโรดแมปชีวิตมาตลอด ตั้งแต่ว่าจะเรียนอะไรดี จบมาต้องทำงานดีๆ การเปลี่ยนงานไม่แค่เรียนรู้เพิ่ม แต่เป็นการสะสมประสบการณ์ และต่อยอดความมั่นคงในการดำรงชีวิต ซึ่งครอบครัวผมไม่ได้ร่ำรวยอะไร วัยเด็กจะเหมือนเด็กต่างจังหวัด จนมัธยมปลายก็คิดว่าต้องเข้ามาเรียนในกรุงเทพฯจึงจะสู้เขาได้ จึงเข้ามาใช้ชีวิตในกรุงเทพฯ และศึกษาในวิชาชีพที่ตั้งใจ ดังนั้นชีวิตการทำงาน 35 ปี ผ่าน 11 องค์กร จึงเป็นสิ่งที่สะสมประสบการณ์ได้เป็นอย่างดี โชคดีที่ชีวิตเดินได้ตามแผนที่วางไว้
– วางแผนกับชีวิตลูกทั้งสองอย่างไร?
ผมให้อิสระไม่ได้วางแผนอย่างไร ขึ้นอยู่กับเขาเองว่าจะเดินทางไปทางใด ลูกคนโตเป็นผู้หญิง เขาเรียนนิเทศศาสตร์ ตอนนี้ก็ทำงานในบริษัทโฆษณาแห่งหนึ่ง คนเล็กเป็นผู้ชายเรียน มศว คนนี้เขาอยากทำธุรกิจเอง ก็ตามใจเขาให้ไปดูว่าอยากทำอะไร เรามี บสย.ค้ำประกันได้ (หัวเราะ)
– มีเคล็ดลับอะไรจะแนะนำเพื่อคลายเครียด?
นอกจากออกกำลังก็มีบ้าง ปลูกต้นไม้ ทำกับข้าวแล้ว ก็อยากแนะนำผู้ที่นอนไม่ค่อยหลับ นำคูลแพค (แผ่นเจลเก็บความเย็น) นำไปแช่ในตู้เย็นจนเย็นพอดี แล้วนำมาวางใต้ลำคอเวลานอน ถ้าเย็นเกินไปก็คุมด้วยผ้าก่อน ผมทำแล้วนอนหลับลึกหลับยาวจนถึงเช้าเลย ที่เครียดที่ตึงๆ คอไหล่ หรือสมองมีอะไรค้าง ช่วยผ่อนคลายได้เป็นอย่างดี ก็อยากแนะนำให้ลองทำกันดู ผมทำแล้วสบายจริงๆ
อีกอย่างที่เอ็มดี บสย.คนนี้แนะนำไว้ตอนท้าย คือ อย่านำเรื่องต่างๆ มาเป็นกังวลขณะอยู่กับครอบครัว จึงไม่แปลกใจว่าผู้ชายวัย 56 ปีคนนี้ หน้าตาจึงอ่อนกว่าวัยมาก
วิธีคลายเครียดสไตล์ บิ๊ก บสย.
“ผมชอบทำกับข้าว ผมทำอาหารได้หลายชาติเลยนะ ไม่ว่าจะอาหารไทย เมนูเด็ดคือแกงเขียวหวานเนื้อ อาหารฝรั่งอย่างสตูลิ้นวัว แม้กระทั่งของหวานอย่างเค้กสมัยที่อยู่กับคุณอา ผมก็ทำได้
“ผมเริ่มทำอาหารเป็นตั้งแต่ปี 2513 ตอนนั้นก็น่าจะอายุ 9 ปี ด้วยครอบครัวสมัยก่อนจะทำอาหารทานกันเอง ก็เข้าไปช่วยคุณแม่คุณพ่อ อย่างจะแกงเขียวหวานผมก็ขูดมะพร้าวจากกระต่ายขูดมะพร้าว เด็กรุ่นใหม่นึกไม่ออกไม่นึกถึงนางเอกแม่เบี้ย มะพร้าวคั้นเองสดๆ จะหอมอร่อย เตาก็ใช้ขี้ไต้จุด สมัยก่อนจะกินผัดเผ็ดปลาไหล จะเอาเมือกออกก็เอาแกลบคุมน้ำแข็งมาถูลอกเมือกปลาไหล ซึ่งเด็กสมัยนี้คงไม่รู้จักแล้ว
“ประกอบกับการทำงานของคุณพ่อย้ายจังหวัดหลายครั้ง อยู่หนองคายบ้าง สิงห์บุรีบ้าง ชัยนาทบ้าง ทำให้รู้วัฒนธรรมอาหารและทำอาหารทานกันเองมาตลอด
“ยิ่งวันนี้ พอไปทานอาหารนอกบ้านไม่แค่รสชาติอาจไม่ถูกปาก แต่ราคายังสูงเกินไป อย่างไปทานสตูลิ้นวัวจานถึงหลายร้อยบาทไม่ได้อร่อยมาก ก็ไปซื้อลิ้นวัวมาทำเอง จ่ายพันหนึ่ง ทำได้หลายจาน ทานกันได้ทั้งครอบครัว
“อย่างครอบครัวผม ผม ภรรยา และลูกชายหญิงอีก 2 คน หรือไปสั่งกุ้งกินนอกบ้านจ่ายเป็นพัน ยังไม่อิ่มเท่าซื้อมาทำเองภายในบ้าน ยังมีคนในครอบครัวช่วยกันทำด้วย”
