ผู้เขียน | กันยา เกิดแก้ว |
---|
‘โลกใบนี้ไม่มีใครขายตัว’
Sex worker
อาชีพสุจริตที่กฎหมายไทยยังไม่ยอมรับ
‘Sex worker’ อยู่ร่วมโลกใบนี้มาอย่างยาวนาน รวมถึงสังคมไทย แม้ครั้งหนึ่งเคยเป็นเรื่องถูกกฎหมายดังปรากฏหลักฐานใน พระราชบัญญัติป้องกันสัญจรโรค ร.ศ.127 สมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งอนุญาตให้ค้าประเวณีได้ แต่โสเภณีทุกคนทุกสำนักต้องจดทะเบียนให้ถูกต้อง
แต่สุดท้ายในยุคจอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ มีการออกพระราชบัญญัติปรามการค้าประเวณีขึ้นใช้แทนใน พ.ศ.2503 ก่อนเกิด พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ.2539 ซึ่งภาคประชาชน นำโดย มูลนิธิเพื่อนพนักงานบริการ หรือ Service Workers in Group Foundation-SWING เดินหน้าใช้สิทธิเข้าชื่อเสนอกฎหมาย เสนอร่างยกเลิก พ.ร.บ.ดังกล่าว
เมื่อปลายปี 2566 ก่อนยกขบวนเข้ายื่นที่รัฐสภา เมื่อ 18 กรกฎาคมที่ผ่านมา เพื่อให้การค้าบริการทางเพศโดยสมัครใจไม่เป็นความผิดอาญา (Decriminalization)
หวังให้ผู้ให้บริการทางเพศซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเศรษฐกิจในฐานะแรงงานสามารถเข้าถึงสิทธิและได้รับการเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เช่นเดียวกับอาชีพ อื่นๆ ในสังคม
หาใช่ต้องถูกผู้คนก่นด่า เหยียดหยาม และตีตรา ปานเป็นอาชญากรรมเลวร้าย
“คนที่รู้สึกว่ากิจกรรมแบบนี้ (การซื้อขายบริการทางเพศ) มันไม่ใช่ ไม่ถูก คุณก็ไม่ต้องทำ คุณไม่ควรจะบอกคนอื่นว่าควรทำหรือไม่ทำ เลิกตั้งตัวเองเป็นผู้ตัดสินลงโทษ”
คือมุมมองของ ศ.ดร.ชลิดาภรณ์ ส่งสัมพันธ์ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และประธานมูลนิธิเพื่อนพนักงานบริการ (SWING) ซึ่งอยู่เคียงข้าง Sex worker มานานถึง 20 ปี
ชวนให้เปิดตา เปิดใจ หันมามองภาพกว้างในโครงสร้างสังคมและปัจจัยการมีอยู่ของ Sex worker สู่การผลักดันกฎหมายและนโยบายสาธารณะ
⦁ขาย ‘บริการ’ ไม่ใช่ ‘ขายตัว’ เซ็กซ์นอกสมรส กรอบกติกาสู่การตีตรา
ก่อนอื่น ศ.ดร.ชลิดาภรณ์ ได้แก้ไขความเข้าใจผิดกับความหมายของคำว่า Sex worker ซึ่งตรงกับชื่อมูลนิธิ SWING ในภาษาไทย คือ ‘พนักงานบริการทางเพศ’ ในอีกทางหนึ่งภาษาไทย เรียกว่า การขายประเวณี แต่แท้จริงแล้ว มันคือการขายบริการ หรือ service
“โลกใบนี้ไม่มีใครที่ขายตัว แต่เขาขาย service ถ้าเขาขายตัวแปลว่าผู้ซื้อทำอะไรก็ได้ ทำอะไรกับร่างกายก็ได้ ทำร้ายก็ได้ ฆ่าก็ยังได้ แต่มันคือการขาย Service ซึ่งต้องอาศัยทักษะการเรียนรู้มาก มันคือเรื่องของการขายบริการ และคนที่ขายก็เป็นแรงงานประเภทหนึ่ง” ประธานมูลนิธิ SWING อธิบาย
สำหรับบทบาทของ SWING แบ่งได้หลายส่วน ตั้งแต่ผู้ป่วยโรคเอดส์ (AIDS) ซึ่งถือเป็นกิจกรรมหลัก โดยทางมูลนิธิมีคลินิกที่พัทยาและสีลม นอกจากนี้ ยังให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับความเดือดร้อน ทั้งยังพยายามผลักดันกฎหมายและนโยบายสาธารณะ ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องง่าย เมื่อการซื้อขายบริการทางเพศยังถูกมองว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ถูกตีตราด้วยทัศนคติแง่ลบ
“ถ้าคุณเอากรอบกติกาว่าด้วยเรื่องเพศที่ถูกต้องเป็นตัวตั้ง การซื้อขายบริการทางเพศมันหลุดออกจากกรอบที่ถูกต้อง เพราะมันเป็น sex นอกสมรส sex ที่ถูกต้องมันต้องอยู่ในสถาบันการแต่งงานแบบผัวเดียวเมียเดียวอย่างเคร่งครัด
สิ่งที่น่าสนใจคือการประณาม การตีตรา ซึ่งมันรุนแรงมาก การตีตรากะหรี่ มันลงที่ฝั่งผู้ขาย มันไม่ได้แตะผู้ซื้อ
ในขณะเดียวกัน ก็มีคนหลายกลุ่มพยายามทำความเข้าใจ เห็นการขายซื้อขายบริการเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตทางเพศของคนในสังคม การซื้อบริการทางเพศมีความแตกต่างหลากหลายด้วยเหตุผลแต่ละคนไม่เหมือนกัน ตัวผู้ขายก็เช่นกัน
เราจะเห็นความพยายามของคนหลายกลุ่มที่เข้าใจ คนไทยที่เห็นพนักงานบริการทางเพศเป็นมนุษย์ และยินดีที่จะเข้าใจและช่วยเหลือ มีอยู่ไม่น้อย มันมีทั้งความต่อเนื่องและความต่างในการเปลี่ยนแปลง” ศ.ดร.ชลิดาภรณ์ เล่า
⦁กฎหมาย ‘อิหลักอิเหลื่อ’ ต้องยกเลิก ขายบริการ คือ แรงงาน ไม่ใช่อาชญากร
เมื่อถามถึงวาทกรรม ‘เมืองไทยเมืองพุทธ’ ที่ถูกหยิบยกมาใช้บ่อยครั้ง ศ.ดร.ชลิดาภรณ์มองว่า เวลาที่ไม่อยากให้เกิดการเปลี่ยนแปลง หรืออยากจะมีกฎหมาย จะชอบอ้างว่าประเทศไทยเป็นเมืองพุทธ
“ในเรื่องเพศ พระพุทธศาสนา เป็นศาสนาที่มหัศจรรย์ เพราะว่ามองเรื่องเพศ ทิศทางของเซ็กซ์ทั้งบวกและลบ คือ ถ้าคุณไม่ได้เดินสายภิกษุ เดินสายตรงพระนิพพาน คุณยังใช้ชีวิตเป็นเพศฆราวาส เซ็กซ์คือส่วนหนึ่งของชีวิต
กฎหมายปัจจุบันที่ใช้อยู่ไม่ได้มีวัตถุประสงค์กำจัดการค้าประเวณี แต่เป็นการปราม กฎหมายไทยก็เป็นเช่นนั้น คุณปราม แต่คุณไม่ได้ห้าม คือซื้อขายกันได้ มันไม่ได้บอกว่าการขายบริการทางเพศเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายทุกลักษณะ ถ้าดูดีๆ ในมาตรา 5 และ 6 อันนั้นคือลักษณะที่ทำแล้วผิด รวมถึงการกำหนดอายุ การจัดหาบางประเภท
คือมันประหลาด มันคือกฎหมายอิหลักอิเหลื่อ คุณไม่ได้จะกำจัด ถ้าการขายบริการทางเพศมันเลวมากนัก ทนไม่ได้ คุณต้องกำจัดมัน แต่คุณไม่ได้พยายามจำกัดมัน ดังนั้นคุณพยายามจะตีเส้น กฎหมายจะถูกก็ไม่ถูก จะผิดก็ไม่ผิด” ศ.ดร.ชลิดาภรณ์ วิพากษ์
ส่วนเหตุผลที่นำทัพเข้ายื่นรายชื่อสนับสนุน พ.ร.บ.ยกเลิกพรบ.ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ.2539 นักวิชาการท่านนี้ เอ่ยวัตถุประสงค์ว่า มันเป็นการทำให้สถานะของการขายบริการทางเพศไม่ใช่ อาชญากรรม ที่ลงโทษโดยรัฐ หรือการลดทอนโทษทางอาญา (Decriminalization)
“ข้อเสนอยกเลิกกฎหมายเป็นข้อเสนอแนวทาง Decriminalization ทำให้การขายบริการทางเพศเป็นอาชญากรรม เราทำให้การค้าบริการทางเพศมีสถานะเป็นแรงงานประเภทหนี่ง ที่ต้องได้รับการคุ้มครอง ดูแล โดยกฎหมายแรงงาน และก็ต้องมีเรื่องกฎกระทรวง ที่ต้องรองรับแรงงานชนิดนี้ แรงงานในประเทศไทยมีหลายประเภท มีมาตรการของรัฐที่รองรับอยู่ ไม่ได้แปลว่ายกเลิกแล้วไม่มีอะไรเลย” ศ.ดร.ชลิดาภรณ์ อธิบาย
⦁แนะรัฐไทย อย่าทำ ‘ผู้คน’ หล่นหาย เศรษฐกิจเหลื่อมล้ำ สู่เส้นทางที่ต้องเลือก
ศ.ดร.ชลิดาภรณ์ ขยายประเด็นด้วยว่า เรื่องเพศและชีวิตทางเพศของผู้คน มันเป็นอาณาบริเวณที่สังคมบอกว่าเป็นเรื่องที่ไม่ดี คุณต้องจำกัดเอาไว้ อย่าคิดมาก อย่าหมกมุ่น ลด ละ เลิก ในเรื่อง Sex
“ประเด็นของดิฉันคือต้องการให้ขยายเพิ่ม การได้สำรวจในเรื่อง Sex ของตัวเราแต่ละคน การนำเสนอควรเป็นอย่างไร การขายบริการทางเพศนั้นมีเหตุผลของมัน และเหตุจำนวนมากของคนหลายคน มันเป็นเรื่องของความเหลื่อมล้ำในเศรษฐกิจในสังคมของไทย Sex worker จำนวนมากก็เป็นผลจากการเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ
ในสังคมไทย และรัฐไทยมองเห็นพลเมืองของตัวเองอย่างไร เพื่อนร่วมสังคมตัวเองอย่างไร เราน่าจะเปิดให้ผู้คนไม่ว่าจะเลือกอยู่ตรงไหน อย่างไร มนุษย์ก็มีเหตุผล เรื่องราวที่ทำให้เขาเลือกอาชีพ หารายได้ที่ไม่เหมือนกัน
เวลาที่คุณมองไม่เห็นเขา หรือบางทีไปตีตรา ประณามเขาในเรื่องการขับเคลื่อนสังคมให้ดีขึ้น การแก้ไขปัญหา คนเหล่านี้ก็จะตกหายไปด้วย เราเห็นเพื่อนร่วมสังคมของเราเป็นใครบ้าง เราหลงลืมใครไปบ้าง แล้วการหลงลืมมันส่งผลต่อความทุกข์ยากของคนอย่างไร
ประเด็นการซื้อขายบริการทางเพศ ทั้งฝั่งผู้ขายและผู้ซื้อเป็นเรื่องที่ซับซ้อนมาก อยากชวนให้ทำความเข้าใจ เปิดตาและเปิดใจ ในการถกเถียง ดิฉันเข้าใจว่าจะมีคนไม่เห็นด้วย หรือไม่ชอบ แต่ลองเปิดตามองคนที่ขายบริการทางเพศ เห็นความหลากหลาย ลองทำความเข้าใจก่อน ไม่ใช่การตีตราอย่างเดียว” ศ.ดร.ชลิดาภรณ์แนะ ก่อนทิ้งท้ายถึงคลินิกของ SWING ซึ่งปัจจุบันขยายไปหลายแห่ง ส่วนหนึ่งได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากหลายหน่วยงานของภาครัฐ
“จริงๆ อยากเห็นการขยายมากกว่านี้ จะให้บริการสาธารณสุขภาพทางเพศด้วย ที่รัฐไทยน่าจะทำ” ศ.ดร.ชลิดาภรณ์แนะ
⦁2 ชุดคิดต่าง ความยาก 2 ระดับ งานท้าทายฝ่ายนิติบัญญัติ
ขณะที่ ธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ หรือ ‘ครูธัญ’ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ผู้รับเอกสารรายชื่อหนุน พ.ร.บ.ยกเลิก พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ.2539 จากมือ ศ.ดร.ชลิดาภรณ์ เมื่อ 18 กรกฎาคมที่ผ่านมา เปิดใจถึงอุปสรรค และความยากง่าย และประเด็นท้าทาย
“เรื่องนี้มีความยาก 2 ระดับ ระดับที่ 1 คือเรื่องศีลธรรมอันดี มองว่าการค้าประเวณีไปกระทบความมั่นคงของครอบครัว ทำให้วัฒนธรรมเสื่อมเสีย เราเป็นเมืองพุทธ ในระดับที่ 2 แบ่งเป็น 2 ฝ่าย คือฝ่ายที่ 1 มองว่าการค้าประเวณีต้องมีการทำให้ถูกกฎหมาย ต้องมีการรับรองด้านสุขภาพ การคุ้มครองไม่ให้มีเรื่องผิดกฎหมายตามมา และเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ ส่วนฝ่ายที่ 2 คือการ Normalize ทำให้เป็นเรื่องปกติ ไม่ผิดกฎหมาย
สองชุดความคิดนี้ไม่เป็นไปทางเดียวเสียทีเดียว ซึ่งหมายถึงปัญหาที่ตามมาคือ ฝ่ายนิติบัญญัติจะออกแบบกฎหมายอย่างไร มีประสิทธิภาพในการคุ้มครองจริงหรือไม่ เป็นประเด็นที่ยาก” ธัญวัจน์เผย ก่อนเอ่ยย้ำว่า เห็นด้วยกับการทำให้อาชีพบริการทางเพศได้รับการคุ้มครอง ที่สำคัญ ‘ความสมัครใจ’ เป็นใจความสำคัญ คือถ้าไม่สมัครใจ หรือไม่ได้ทำให้การบริการมีอำนาจการต่อรองกับนายจ้าง จะเท่ากับการค้ามนุษย์ทันที มันจะเกิดบุคคลที่ 3 คือ บุคคลที่หาประโยชน์โดยมิชอบ
“คนที่ทำงาน Sex worker อยู่ในโครงสร้างเศรษฐกิจที่ไม่เป็นธรรม คือวันนี้มี Sex worker หลายคนที่ต้องดูแลครอบครัว เพราะฉะนั้นมันเป็นเรื่องของโครงสร้างสังคมที่ไม่เป็นธรรมอยู่แล้ว ทั้งค่าครองชีพ โอกาสทางการศึกษา ด้านเศรษฐกิจ เป็นต้น คนที่ไม่มีทางเลือกหรือมีโอกาสในชีวิตที่ไม่มากนะ Sex worker ควรถูกกฎหมายเพราะมันสิทธิเสรี แต่ในมุมมองอีกอย่าง Sex worker ก็เป็นอาชีพทางเลือกของคนที่อยากทำด้วยเช่นกัน
ขอให้กำลังใจ sex worker จริงๆ พวกเราทำงานสุจริต แต่กฎหมายยังไม่รองรับ มันเป็นเสรีภาพบนเนื้อตัวของทุกๆ ท่าน ที่ตัดสินใจดำเนินชีวิต ทุกคนมีศักดิ์ศรีเท่าเทียมกัน ส่วนคนที่มองว่าสิ่งนี้มันต่ำต้อย บาป เป็นคนไม่ดีในสังคม อยากให้มองกลับกันว่าจริงๆ นั่นคือร่างกายและการตัดสินใจของเขา ซึ่งเราทุกคนควรจะเคารพซึ่งกันและกัน” ครูธัญทิ้งท้าย
⦁Sex worker ไม่จำกัดเพศ กระบวนการ ‘คุ้มครอง’ ต้องเข้าถึง
ปิดท้ายด้วยมุมมองของ แพรวไพลิน กสิวัฒนา หรือ ‘ครูแพรว’ เจ้าของมงกุฎ Miss Trans Thailand 2022 และ Miss Universe Trans Thailand 2023 ที่เชื่อว่า งานบริการทางเพศ ไม่จำกัด แค่เพศใดเพศหนึ่ง และควรมีกระบวนการคุ้มครองอาชีพ
“ตอนเด็กมองว่ามันคืออาชีพของผู้หญิง พอโตในสังคมที่กว้างขึ้น จริงๆแล้ว sex worker ไม่ใช่อาชีพของเพศใดเพศหนึ่ง ในมุมมองของเรา มันคืองานๆ หนึ่ง มันคืออาชีพทางเลือก ไม่ใช่บังคับขู่เข็ญ สิ่งที่ควรมีคือการนำอาชีพนี้เข้าสู่กระบวนการการคุ้มครองทางด้านสุขภาพ การดูแลตัวเอง เพื่อให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น” ครูแพรวกล่าว
เมื่อถามถึงเส้นทางที่ร่วมต่อสู้กับกลุ่ม Sex worker ทั้งในฐานะ ‘นางงาม’ และ Sex creator ครูแพรว เล่าว่า เริ่มต้นตั้งแต่อายุเพียง 15 ปี
“ตอนนั้นเข้าสมาคมฟ้าสีรุ้งแห่งประเทศไทย และเป็นแกนนำเยาวชนก่อน โดยรณรงค์เรื่อง HIV จนสุดท้ายเป็นกลุ่มแกนนำประชาชน และเป็นภาคีเครือข่ายของกรมควบคุมโรค ช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมา เราเห็นการเปลี่ยนแปลงของเด็กที่เคยช่วย หรือคนที่เป็นผู้ที่ติดเชื้อ พบว่าคุณภาพชีวิตของเขาดีขึ้น
สำหรับตำแหน่ง Miss Universe Trans Thailand มันขับเคลื่อนในวันที่เราออกมาพูดเรื่อง sex worker และ sex creator ตอนนั้นดีใจแค่ได้มงกุฎ
แต่วันนี้เราดีใจที่ Sex worker กล้าที่จะฝัน กล้าที่จะเป็น มีหลายคนกล้าออกมาพูดว่าตัวเองทำงานด้านนี้ อยากให้เขารู้ว่ามีเราซัพพอร์ตในทุกๆ เรื่อง” แพรวไพลินตอบสมมง