อีสาน “ไม่ไทย” ต้นทาง “ไทย” จากอีสาน

อีสาน “ไม่ไทย” ต้นทาง “ไทย” จากอีสาน

อีสานไม่ไทย
ต้นทางไทยจากอีสาน

อีสานกันดาร โดยเฉพาะกันดารน้ำอันเป็นที่รู้กันทั่วไปนานมากแล้ว

ส่วนแวดวงนักคิดนักเขียนและนักเคลื่อนไหวทางสังคมการเมือง ส่วนมากรู้จากกาพย์กลอนบทกวีอีศานของนายผีที่ขึ้นต้นว่าในฟ้าบ่มีน้ำ ในดินซ้ำมีแต่ทราย” (พิมพ์ครั้งแรก 73 ปีที่แล้ว เมื่อ พ.. 2495)

กันดารคือสินทรัพย์คุณทักษิณ ชินวัตร บอกไว้ในการบรรยายพิเศษเรื่องอนาคตอีสาน โอกาสประเทศไทยในงานสัมมนา “ISAN NEXT : พลิกเศรษฐกิจไทย ฝ่าวิกฤตโลกโดยมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา กับเครือมติชน ร่วมจัดที่ จ. นครราชสีมา เมื่อวันศุกร์ที่ 20 ธันวาคม พ.. 2567

ADVERTISMENT

คุณทักษิณ ชินวัตร ย้ำอีกว่าดินแดนอีสานมีทรัพยากรคับคั่ง เหมาะแก่การผลักดันซอฟต์เพาเวอร์ และชาวอีสานมีพลังสร้างสรรค์ทางเศรษฐกิจสูงมาก

ในความจริงแล้วกันดารจากธรรมชาติแก้ไขได้ด้วยปัญญาและการเมืองประชาธิปไตยกระจายอำนาจพร้อมเทคโนโลยีก้าวหน้า ซึ่งเหมือนกับท้องที่อื่นๆ ในภาคอื่นๆ ที่บางส่วนกันดารแบบเดียวกับอีสาน

ADVERTISMENT

แต่อีสานกันดารซ้ำซ้อน เนื่องเพราะถูกทอดทิ้งให้กันดารซ้ำซาก จากรัฐบาลของชนชั้นนำไทยที่มีอคติต่ออีสาน ซึ่งเป็นผลจากประวัติศาสตร์ไทย กระแสหลัก

อีสานไม่ไทย

อีสานถูกด้อยค่าแล้วสร้างปมด้อยว่าไม่ไทยเนื่องจากประวัติความเป็นมาของคนไทยหรือชนชาติไทยไม่เกี่ยวข้องกับอีสาน ดังพบในหนังสือเรียนชั้นมัธยมมากกว่า 50 ปีมาแล้ว ที่ใช้ในการเรียนการสอนทั่วประเทศ ให้เชื่อตามข้อความดังนี้

อีสานมีพัฒนาการทางประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม แยกออกจากเรื่องของชนชาติไทยในแถบลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนบน, ตอนกลาง, และแถบภาคใต้ของประเทศ

[หลังจากนั้นอีกหลายปี หนังสือเรียนได้แก้ไขตัดข้อความตรงนี้ออกไป แต่ไม่ได้ผล เพราะประวัติศาสตร์กระแสหลัก ยังไม่แก้ไข]

ต้นตอการด้อยค่าอีสานไม่ไทยมาจากประวัติศาสตร์ของคนไทยชนชาติไทย เชื้อชาติไทย สายเลือดบริสุทธิ์ ซึ่งเป็นประวัติศาสตร์แนวตั้งจากเหนือลงใต้ หรือจากบนลงล่างโดยไม่ผ่านดินแดนอีสาน ดังต่อไปนี้

(1.) เริ่มจากถิ่นกำเนิดของชนชาติไทย เชื้อชาติไทย อยู่ในจีนอัลไตน่านเจ้า

(2.) ถูกจีนรุกรานต้องหนีลงทางใต้ด้วยการอพยพยกโขยง ถอนรากถอนโคนผ่านภาคเหนือลงสู่ภาคกลางของดินแดนไทยปัจจุบัน จึงไม่ผ่านภาคอีสาน

(3.) สร้างกรุงสุโขทัยเป็นราชธานีแห่งแรกของคนไทยชนชาติไทย เชื้อชาติไทย สายเลือดบริสุทธิ์

ตามที่สรุปมานี้ จะพบว่าพล็อตประวัติศาสตร์ไทย กระแสหลัก กำหนดเส้นทางอพยพยกโขยงของคนไทย เชื้อชาติไทย สายเลือดบริสุทธิ์ ไม่ผ่านอีสาน ซึ่งเท่ากับอีสานไม่ไทยส่งผลให้ชนชั้นนำไทยทอดทิ้งอีสานแบบตัดหางปล่อยวัดด้วยอคติว่าอีสานเป็นบ้านป่าเมืองเถื่อนของพวกลาวขี้ข้าขี้ข้อย”, ส่วย, ข่า, ขมุ, และเป็นเขมรเต๋นเต้กินตะเข้ต้มยำ

[แม้ปัจจุบันความคิดเปลี่ยนไป แต่อคติต่ออีสานยังตกตะกอนในสำนึกของคนไม่น้อย ซึ่งดูจากตลาดท่องเที่ยวอีสานโปรโมตไม่ขึ้น]

แต่แล้วกลับตาลปัตร เมื่อมีการตรวจสอบทางวิชาการ ไม่พบหลักฐานประวัติศาสตร์โบราณคดีและมานุษยวิทยาสนับสนุนเนื้อหาของประวัติศาสตร์ไทย กระแสหลัก ดังนี้

1. เชื้อชาติไม่มีจริงในโลก เชื้อชาติไทยก็ไม่มี จึงไม่มีถิ่นกำเนิดในจีน

2. จีนไม่เคยรุกรานชนชาติไทย เพราะชนชาติไทยไม่เคยมีในจีน

3. สุโขทัยไม่ใช่ราชธานีแห่งแรกของไทย และไม่มีระบุในศิลาจารึกสมัยสุโขทัย

หลักฐานประวัติศาสตร์โบราณคดีและมานุษยวิทยาสนับสนุนว่าต้นทางความเป็นไทยได้จากชาวสยามในอีสานบริเวณโขงชีมูล

ประวัติศาสตร์ไทย มาจากประวัติศาสตร์สยาม

ประเทศไทยมาจากประเทศสยาม และคนไทยมาจากชาวสยาม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่แยกไม่ได้จากความเป็นมาของดินแดนและผู้คนในอุษาคเนย์ (เอเชียตะวันออกเฉียงใต้) ตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์หลายพันปีมาแล้ว สืบเนื่องถึงปัจจุบัน 

โดยมีหลักฐานทั้งที่จับต้องได้ และจับต้องไม่ได้  ตั้งแต่วัฒนธรรมบ้านเก่า (กาญจนบุรี), วัฒนธรรมบ้านเชียง (อุดรธานี), ถึงวัฒนธรรมโขงชีมูล (ที่ราบสูงโคราช) ที่หลอมรวมเป็นวัฒนธรรมสยาม (ลุ่มน้ำเจ้าพระยา) แล้วกลายเป็นไทย ดังต่อไปนี้

(1.) คนไทย มาจากชาวสยาม ซึ่งเป็นลูกผสมหลายชาติพันธุ์ หมายถึงคนในประเทศไทยมีบรรพชนเป็นคนหลายชาติพันธุ์ ที่ถูกเรียกชาวสยามในอุษาคเนย์ หรือคนหลายชาติพันธุ์ที่ถูกเรียกชาวสยามในอุษาคเนย์ ล้วนเป็นบรรพชนคนไทยและคนในประเทศไทย (เหนือ, อีสาน, กลาง, ใต้)

(2.) สยาม มาจากคำว่าซำ, ซัม (กลายเป็นคำเช่น บ้านหนองนาคำ) แปลว่าดินดำน้ำชุ่มอุดมสมบูรณ์ พบทั่วไปในบริเวณโซเมีย (หมายถึงที่สูงแห่งเอเชีย) มอญเขมร เรียก เซียม จีน เรียก เสียน, เสียม (รายละเอียดมีมากในหนังสือความเป็นมาของคำ  สยามฯ ของ จิตร ภูมิศักดิ์ พิมพ์ครั้งแรก พ.. 2519)

(3.) ชาวสยาม หมายถึงคนลูกผสมหลายชาติพันธุ์ร้อยพ่อพันแม่นับไม่ถ้วน มีกระจัดกระจายตั้งแต่จีน, พม่า, ลาว, อินเดีย (อัสสัม), ลุ่มน้ำโขง, สาละวิน, เจ้าพระยา, ลงไปคาบสมุทร โดยมีภาษากลางเป็นภาษาไทไตไทยลาว               

(4.) สยามดั้งเดิม อยู่ลุ่มน้ำมูล มีความหมายดังต่อไปนี้

(หนึ่ง) ชาวสยามเก่าสุด ที่รวมตัวเป็นเมืองใหญ่ มีระบบการเมืองการปกครองแข็งแรง (ด้วยวัฒนธรรมไม่เขมร”) 

(สอง) มีศูนย์กลางอยู่เมืองเสมา (. สูงเนิน จ. นครราชสีมา) 

(สาม) พบหลักฐานจากภาพสลักปราสาทนครวัด มีจารึกภาษาเขมรว่าเสียมกุกอ่านเป็นไทยว่าสยามกกแปลว่า สยามดั้งเดิม มีการเมืองระบบเครือญาติทางการแต่งงานโดยผู้หญิงเป็นพลังเชื่อมโยงอำนาจรัฐต่อรัฐ

(สี่) เครือข่ายใหญ่ ซึ่งเป็นเครือญาติของสยาม มี 3 แห่ง ก. ลุ่มน้ำโขง คือ เวียงจันท์ (ลาว) . ลุ่มน้ำป่าสัก เมืองศรีเทพ (เพชรบูรณ์) และละโว้ (ลพบุรี) . ลุ่มน้ำท่าจีน เมืองสุพรรณภูมิ (สุพรรณบุรี) มีเครือข่ายถึงโยนก (ลุ่มน้ำกก, อิง), หลวงพระบาง (ลุ่มน้ำโขง)

(ห้า) สยามลุ่มน้ำมูล สถาปนาอโยธยา โดยร่วมกับเมืองเครือญาติและเครือข่าย  รับศาสนาพุทธเถรวาท แบบลังกา (นับถือรามเกียรติ์) ประชาชนกลุ่มหนึ่งเริ่มเรียกตัวเองว่าไทย, คนไทย ซึ่งเป็นบรรพชนคนไทยปัจจุบัน

 ท่าโขนละครมีต้นแบบอยู่ในอีสาน

ท่ากบ คือคนทำท่าเหมือนกบในพิธีขอฝนราว 3,000 ปีมาแล้ว (ในอีสานมีท่ารำมวยอีสาน) ต้นแบบท่าโขนละคร

คนเต้นท่ากบ เป็นต้นแบบท่าโขนละคร (รวบรวมจากภาพเขียนราว 3,000 ปีมาแล้ว พบในอีสาน ภาพคัดลอกของกรมศิลปากร)

 ท่าฟ้อนเต้นพบมากในอีสานบริเวณลุ่มน้ำมูล ได้แก่ ภาพสลักศิวนาฏราช บนหน้าบันปราสาทพนมรุ้ง (. บุรีรัมย์) และภาพสลักพระกฤษณะ, พระราม บนทับหลังปราสาทพิมาย (. นครราชสีมา)

ฟ้อนเต้นแบบนี้ไม่มีในอินเดีย แต่มีมากในอีสาน

โนราตั้งเหลี่ยมเหมือนท่ากบ แม่ท่ายักษ์, แม่ท่าลิง มีต้นแบบจากท่ากบ 

 [ภาพจากหนังสือลักษณะไทย เล่ม 3 ศิลปะการแสดง จัดพิมพ์โดย ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) .. 2551 หน้า 50]


 โกศมีต้นแบบเก่าสุดในอีสาน (1.) ใส่ศพ และ (2.) เก็บกระดูกคนตาย 

ต้นแบบสำคัญจากภาชนะดินเผา พบฝังดินที่ทุ่งกุลา ใส่ศพอายุราว 2,500 ปีมาแล้ว

นักโบราณคดีกรมศิลปากร สมมุติเรียกแค็ปซูลโดยเฉพาะที่พบบริเวณบ้านเมืองบัว . เมืองบัว . เกษตรวิสัย . ร้อยเอ็ด 

[คำว่า โกศ ยืมจากภาษาบาลีสันสกฤต เพื่อเพิ่มความศักดิ์สิทธิ์ ในอินเดียไม่มีประเพณีบรรจุศพใส่โกศ]

                      

โกศใส่ศพ มีต้นแบบจากภาชนะดินเผาทุ่งกุลา อายุราว 2,500 ปีมาแล้ว

(จากซ้ายสุด) ภาชนะดินเผาแค็ปซูลและหม้อใส่กระดูกคนตาย (จัดแสดงในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สุรินทร์) ภาชนะดินเผาบรรจุกระดูกแบบต่างๆ ขุดพบที่ทุ่งกุลาร้องไห้ (ภาพลายเส้นของกรมศิลปากร) พระปิ่นเกล้าฯ พระศพงอเข่าอยู่ในพระโกศหลังเสด็จสวรรคต พ.. 2409 (ลายเส้นจำลองฝีมือชาวฝรั่งเศส) โกศยุคปัจจุบัน (อยู่ข้างในพระลองหุ้มประกอบ) และพระลองหุ้มประกอบพระโกศ (อยู่ข้างใน) 

ต้นทางไทยจากชาวสยามในอีสาน

คนไทยมีต้นตอรากเหง้าจากชาวสยามในอีสาน บริเวณโขงชีมูล 

ชาวสยาม หมายถึง (1.) ประชาชนหลายชาติพันธุ์ (ไม่จำกัด) (2.) พูดภาษาไทไตไทยลาว เป็นภาษากลางทางการค้า (3.) ถิ่นฐาน สมัยแรก อยู่ดินแดนภายใน โขงชีมูล, สาละวิน สมัยหลัง ดินแดนลุ่มน้ำเจ้าพระยา ลงไปคาบสมุทรตอนบน (เพชรบุรีนครศรีธรรมราช)

เสียมกุกภาพสลักขบวนแห่เกียรติยศของสยามดั้งเดิม (จากลำตะคอง ลุ่มน้ำมูล) ทั้งเจ้านายและไพร่พลนุ่งผ้าผืนเดียวเหมือนโสร่ง (ไม่นุ่งถลกแบบเขมร) เป็นเครื่องแต่งตัวตามประเพณีในพิธีกรรมสำคัญ (ไม่แต่งในชีวิตประจำวัน) เมื่อราว พ.. 1650 ที่ระเบียงทิศใต้ ปีกตะวันตกของปราสาทนครวัด ประเทศกัมพูชา 

1. ชาวสยามดั้งเดิมเริ่มแรกอยู่บนเส้นทางการค้าโลก แล้วสืบเนื่องถึงการค้าจีน พบหลักฐานตรงไปตรงมาที่จารึกเสียมกุกปราสาทนครวัด ในกัมพูชา

เสียมกุก (ภาษาเขมร) ตรงกับ สยามกก (ภาษาไทย) เป็นชื่อขบวนแห่เกียรติยศของชาวสยามดั้งเดิม (ซึ่งเป็นเครือญาติใกล้ชิดของกษัตริย์กัมพูชา) อยู่นำหน้าขบวนแห่ในพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ของเมืองพระนคร (มากกว่า 900 ปีมาแล้ว) เรือน พ.. 1650 

[คำว่ากก แปลว่าต้นตระกูล, รากเหง้า, ดั้งเดิม, เริ่มแรก (เช่น ลูกผู้เกิดทีแรกเรียกลูกกก”)]

สยามกก คือชาวสยามดั้งเดิมเริ่มแรกที่รวมตัวเป็นบ้านเมืองใหญ่ระดับรัฐ มีศูนย์กลางอำนาจอยู่เมืองเสมา (ศรีจนาศะ) . สูงเนิน . นครราชสีมา บริเวณลำตะคอง ลุ่มน้ำมูล และมีเครือญาติเครือข่ายการค้าถึงลุ่มน้ำชีและลุ่มน้ำโขง (เวียงจันท์)

2. เมืองราดของพ่อขุนผาเมือง สืบจากความเป็นสยามกก มีศูนย์กลางอยู่เมืองเสมา (. สูงเนิน จ. นครรราชสีมา)

3. เมืองราด ชาวสยามลุ่มน้ำโขงชีมูล มีเครือญาติและเครือข่ายการค้าแผ่ไปลุ่มน้ำป่าสักลพบุรี ถึงลุ่มน้ำท่าจีนแม่กลอง จากนั้นร่วมกันสถาปนาเมืองอโยธยา ลุ่มน้ำเจ้าพระยา แล้วเริ่มเรียกตนเองว่าไทย เป็นบรรพชนคนไทยปัจจุบัน

ด้วยเหตุนี้เอง ประเพณีวัฒนธรรมหลายอย่างบริเวณลุ่มน้ำเจ้าพระยา ได้แก่ สำเนียงภาษา, โคลงกลอน, ขับลำด้วยลูกคอและเสียงโหยหวนในเทศน์มหาชาติกับขับเสภา ฯลฯ ล้วนมีต้นตอจากชาวสยามโขงชีมูลในอีสาน 

ปลดล็อกประวัติศาสตร์เชื้อชาตินิยมแล้วชำระประวัติศาสตร์ไทยมาจากชาวสยาม เพื่อความเป็นพลเมืองโลก

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image